จากกรณีข่าวของเด็กพิเศษถูกรังแก มาฟังมุมมองของคนที่เคยเรียนร่วมกับเด็กพิเศษกันครับ

สวัสดีครับ ผมเองได้เห็นข่าวดังกล่าวแล้ว แต่ไม่อยากกดเข้าไปดูตัววีดีโอต้นเรื่องหรอกครับ
แค่เห็นเขาด่ากัน ก็พอเดาเนื้อหาข้างในได้

เกริ่นก่อนนะครับ ผมเองเป็นเด็กที่เคยเรียนร่วมกับเด็กพิเศษมาก่อน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้ถึง 12 ปีครับ
คือผมเห็นอะไรมาค่อนข้างเยอะ และ เข้าใจเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นอย่างในข่าวระดับหนึ่งเลยละ
สมัยเรียนผมก็เป็นบัดดี้ ดูแลเด็กพิเศษไปด้วยครับ ก็ดูแลเหมือนเพื่อนคนหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้เรียกร้องเงินอะไร
ช่วยได้ก็ช่วย ถ้าทำเองได้ก็ให้ทำ และ มันก็จะมีไอพวกอย่างในคลิปแหละมาแกล้ง

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนั้น จริงๆแล้ว มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำนะครับ สำหรับโรงเรียน เรียนร่วมแบบนี้ แค่มันไม่มีคลิปออกมาแค่นั้น
หนักเบาต่างกันไป ตามความ ยิ้ม ของเด็ก ที่กระทำ แต่สาเหตุละมันเกิดจากอะไร? ทำไมต้องทำขนาดนั้น
ผมจะแบ่งเป็นประเด็นๆ นะครับ จากประสบการณ์ที่เคยเจอมา และ ต้นเหตุของการกระทำพวกนี้

1.นิสัยของตัวเด็กเอง เด็กขี้แกล้ง ชอบแหย่ มันมีทุกที่ ความรุนแรงแตกต่างกันไป
ที่น่าเศร้าคือ เด็กพิเศษบางคน ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำ ไม่สามารถพูดออกมาเป็นภาษาปกติได้
เด็กกลุ่มนี้ก็จะย่ามใจ เพราะคิดว่าแกล้งได้ ซึ่งบางครั้ง ก็เก็บกดจากเด็กพิเศษอีกคนหนึ่ง
ที่พวกเขาไม่สามารถแตะต้องได้เลย แต่พวกเขากลับได้แต่ถูกกระทำ

2.พ่อแม่ของเด็กพิเศษ จริงๆ อันนี้เป็นปัญหาหลักเลยละ ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า คำว่า"เด็กเรียนร่วม" หรือ เด็กพิเศษนั้น
ใช้ได้กับเฉพาะเด็กที่สามารถควบคุมตนเองได้ระดับหนึ่ง คือ สามารถเรียน และ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ตามนิยามของมันนั่นแหละ
ซึ่งจะมีพ่อแม่ของเด็กพิเศษบางกลุ่ม มาเฝ้าลูกตลอดเวลาที่โรงเรียน ทั้งเด็กที่เรียนร่วมได้ และ ไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะถูกแกล้ง
และแน่นอนครับ จุดประสงค์ที่พวกเขาอยู่ที่นี่คือ ปกป้องลูกจากการถูกรังแก และ เป็นจุดประสงค์เดียวเท่านั้น
เพราะเวลาลูกเขาอาละวาด ทำลายข้าวของ หรือ ที่หนักที่คือสุดทำร้ายร่างกายเด็กปกติในโรงเรียน
คุณพ่อ/แม่ พวกนี้ หายหมดครับ ปล่อยลูกอาละวาด บางทีพ่อแม่เองก็เอาไม่อยู่ พูดไม่ฟัง
ซึ่งต่างกับตอนลูกโดนแกล้ง หรือ ถูกล็อค ถูกจับกดกับพื้น ลิบลับเลยครับ โผล่มาอย่างไว
ถามว่าทำไมต้องจับกดกับพื้น โหดไปหรือเปล่า? อธิบายให้เห็นภาพนะครับ
สมัยผม ม.ปลาย เพื่อนนักบาส กับ นักบอลโรงเรียน ผู้ชาย 5-6คน ช่วยกัน ยังกดแทบไม่ลงเลยครับ

3 พ่อแม่ต้องเลิกมโนว่าลูกตัวเองอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ !
มันจะมีพ่อแม่บางประเภท ที่ "มโน" คิดว่าลูกตัวเองสามารถอยู่ร่วมกับเด็กปกติได้ และ ครูบางประเภท ก็ยินยอม
ทั้งๆ ที่ตัวเด็กนั้นมีพฤติกรรมรุนแรงมาก อันนี้ต้องเข้าใจก่อน คือเด็กพวกนี้ กินสารอาหารเข้าไป แต่ร่างกายจะไม่นำไปใช้กับสมอง
เพราะงั้นแทบจะ 100% จะมาลงที่ร่างกาย ซึ่งหลายคนร่างกายใหญ่โตมาก พละกำลังมหาศาล ถ้าเทียบกับเด็กอายุคราวเดียวกัน
ขนาดของร่างกายไม่สำคัญเท่าอารมณ์ และ อาการคุณเวลาของขึ้น มันลงง่ายแค่ไหน
คนอื่นสามารถควบคุม/ระงับได้ง่ายแค่ไหนดีกว่า ซึ่งมันจะโอเคกับทั้งสองฝ่ายมากกว่า

ผมจะแบ่งกลุ่มอาการเป็นขั้นๆ ตามนี้นะครับ
ซึ่งคนที่เคยเป็นบัดดี้ผม อาการไม่ถึงขั้นพวกนี้ด้วยซ้ำ แค่สมาธิสั้น กริ้ดๆ โวยวายๆ เรียนช้า เอ๋อๆ มีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ไม่ทำร้ายคนอื่น

3.1 ขั้นที่ "พอจะ" อยู่ร่วมได้คือ ทำร้ายตัวเองเล็กน้อย หรือแค่ชัก คือไม่ได้ชักแบบเป็นโรคอะ แต่แบบกระตุกๆ
เหมือนระบายอารมณ์ ไม่ได้อันตรายอะไร โหวกเหวก โวยวาย เหมือนลมบ้าหมูขึ้น สมาธิสั้น ส่งเสียงรบกวน หรือ ทำเสียงดังแค่นั้น

3.2 ขั้นหนักกว่าคือ ทำลายข้าวของ ยกทุ่ม กริ้ด เหมือน ดร.แบนเนอร์ ตอนเริ่มจะกลายร่าง

3.3 แต่ขั้นที่หนักที่สุดคือ วิ่ง แล้วหาเหยื่ออารมณ์ระบาย อันนี้แหละครับ ที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเจอ และ ก็ยังให้มาเรียนร่วมอยู่ในห้องเรียนปกติ

ซึ่งรายละเอียดเหตุการณ์ที่ผมเคยเจอเยอะมาก แต่บทสรุปมันจะเหมือนกันทุกครั้ง
ยกตัวอย่างก็ กับข้าวที่เด็กพิเศษอยากกินหมดต่อหน้าเขา
เขาก็วิ่งกริ้ดๆๆๆๆ ทั่วโรงอาหาร แล้วก็หยิบจานพลาสติก โบ้ะลงหัว เด็ก ป.6 คนหนึ่ง แตก แล้วก็วิ่งหนีไป
พ่อ/แม่ก็วิ่งมา อย่าถือสาเลยนะลูก "เขาเป็นเด็กพิเศษ" <-- เนี้ยครับ คำพูดนี้ละ
คือบทสรุปของเกือบจะทุกเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายร่างกายโดยเด็กพิเศษ
คือไอเด็กที่ถูกโบ้ะ มันยังนอนฟุบอยู่กับโต้ะอยู่เลย อีแม่เดินหนีแล้ว

4.ครู/พี่เลี้ยง ต้องมีมาตรฐานในการดูแลเด็กมากกว่านี้ !
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างความโกรธแค้น และ เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์อย่างในวีดีโอดังกล่าวนั้น ก็คือปัจจัยนี้แหละครับ
ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องการรับสินบน หรือ รับเงิน อะไรพวกนี้นะ ถึงจริงๆ มันจะมีก็เถอะ
ผมไม่ขอเรียกว่า "ครู" นะ คนแบบนี้ คำว่าครู มันยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ

ผู้สอนบางคน ไม่ยอมสอนตามปกติ ปล่อยให้เด็กอ่านกันเอง แล้วเอาเวลาสอนในคาบเรียน ไปประคบประหนม เด็กพิเศษ
ซึ่งก็ทำมันในห้องให้เด็กคนอื่นเห็นนั่นแหละ เด็กคนอื่นก็อ่านไป อ่าน ยิ้ม อยู่นั่นแหละ อ่าน ยิ้ม ทั้งเทอม
เวลาถาม เวลาท้วงอะไร ผู้สอนพวกนี้จะพูดว่า "ชั้นจะสอน หรือไม่สอนพวกแก ชั้นก็ได้เงินเดือนเท่าเดิมอยู่ดี"
แม่เจ้า คนแบบนี้หรอแม่พิมพ์ของชาติ? น่าแปลกใจที่ ไม่ได้มีแค่คนเดียว และ mind set เหมือนกันหมด อย่างกับ copy paste กันมา

ในทางตรงกันข้าม เด็กพิเศษด้วยกันเอง ถ้าพ่อแม่ไม่มีกะตังค์ นัก ก็ถูกเลือกปฏิบัติเหมือนกัน
ครูพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ ทางโรงเรียนจะจัดจ้างมาตั้งหาก ซึ่งได้รับเงินเดือนจากโรงเรียนอยู่แล้ว
ก็ควรดูแลเด็กตามความเป็นไป และ อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่ ผู้ปกครองเด็กคนนี้รวย ชั้นดูแลมากกว่า
เลือกปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัด "น่ารังเกียจ"

ผมกำลังจะบอกอะไรหน่ะหรอ? คนเราอะครับ ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งหลายๆครั้ง ก็จิตใจด้วย
ไม่มีใครชอบการเจ็บตัว เจ็บใจ แล้วยิ่งเราถูกกดหัวเอาไว้อย่างนั้น ไม่สามารถเงยหน้า ขึ้นมาพูด
หรือ ทำอะไรได้เลย มันก็แค่รอวันระเบิดครับ
พอจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นไหมครับ? แน่นอนครับ เราไม่จำเป็นต้องตอบโต้ หรือ แสดงออกอย่างในคลิปนั้น
แต่เราคาดเดาอะไรจากความรู้สึกด้านลบ และ พฤติกรรมด้านลบของคนเราไม่ได้หรอกครับ

ซึ่งผมไม่รู้นะ ไอเด็กในคลิปมันผ่านเหตุการณ์คร่าวๆ อย่างที่ผมว่ามาหรือเปล่า หรือมัน ยิ้ม ด้วยตัวเอง หรือ เอาสะใจอันนี้ก็ไม่รู้
ผมแค่บอกสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงจูงใจ ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมขนาดนั้นได้

ผมแค่จะบอกว่า ถ้าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ทั้งทางโรงเรียน ครู ครูพี่เลี้ยง พ่อแม่เด็กพิเศษ
พวกคุณต้องกลับมาทบทวนสิ่งที่ผมบอกนี่แหละครับ นี่คือความรู้สึก และ สิ่งที่เด็กปกติต้องเจอ ในโรงเรียน เรียนร่วม

สิ่งที่แย่กว่าคือ ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น พวกเราไม่เคยได้รับคำขอโทษที่จริงใจ การแก้ไข หรือ การชดเชย อะไรเลยแม้แต่น้อย
ครับ ผมเข้าใจดีครับ ว่าพวกเขาคือเด็กพิเศษ พวกเขาไม่รู้เรื่อง ไม่ได้อยากเรียกร้องเงินทองอะไรหรอกครับ
แค่อยากให้ "ยอมรับลูกตัวเอง ยอมรับสิ่งที่เขาเป็น"
ได้โปรด อย่าเข้าข้างตัวเอง คิดเอาเองว่า ลูกสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ ทั้งๆ ที่มีพฤติกรรมทำร้ายลูกคนอื่น
แต่ก็ยังดันทุรัง อยากให้ลูกตัวเองคิดว่า ตัวเองยังปกติสามารถอยู่ได้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่ !
อยากให้คนอื่น อยากให้สังคมยอมรับลูกคุณ แล้วคุณละ ยอมรับลูกตัวเองได้หรือยัง?


สิ่งที่ตามมา แน่นอนครับ มันคือความอัดอั้นใจ ความแค้น การเอาคืน หมุนตามกันเป็นวงล้อ

ถูกเด็กพิเศษทำร้าย --> ครู/พี่เลี้ยง ปกป้อง --> โกรธแค้นเอาคืน --> เด็กพิเศษถูกทำร้าย --> เกิดเป็นปมเกลียดเด็กพิเศษ
--> รังแกเด็กพิเศษทุกคน ทุกครั้งที่พบเจอ

อย่างที่บอกผมยังได้แต่อ่าน เนื้อหาคลิปดังกล่าว
สิ่งที่จะบอกคือ ในโรงเรียนที่ผมอยู่ มันเคยมีอะไรรุนแรงกว่านี้อีกเยอะ แค่สมัยนั้น กล้องมือถือมันยังไม่ดีนัก
สื่อโซเชี่ยล มันยังไม่แพร่หลาย ก็เท่านั้น ซึ่งแรงจูงใจที่ทำให้เกิด มันครบ ทั้ง 4 สาเหตุที่ผมเล่าให้ฟังนั่นแหละครับ

ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่เคยตอบโต้อะไร ผมเองก็เคยทำ แต่ผมแสดงออกทางคำพูด
"ตกลงพวกคุณคาดหวังอะไรกับการเรียนของลูกคุณ ทำไมไม่ดูความจริงบ้าง? ลูกคุณเรียนวันนี้พรุ่งนี้พวกเขาก็ลืมแล้ว
รุ่งขึ้นก็ต้องสอนกันใหม่เรื่องเดิม จุดประสงค์จริงๆ ของการมาเรียนร่วม
คือเพื่อให้ลูกคุณเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมไม่ใช่หรือ?
ทำไมต้องมาสร้างช่องว่าง ระหว่างชนชั้น ด้วย"เงิน" ทำไมต้องมาทำร้ายการเรียนของลูกคนอื่น?
เด็กปกตินับร้อย พวกเขาอาจโตไปเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้
แต่ลูกพวกคุณ เป็นอะไรได้นอกจากรอความตาย?" <-- เด็กพิเศษอายุจะไม่ค่อยยืนครับ เท่าที่ทราบ

ผมยังจำได้ทุกคำ วันนั้นที่ผมพูดในห้องประชุม จากเหตุการณ์เด็กพิเศษทำร้ายนักเรียน จนต้องส่ง รพ.
และ ไม่ได้รับการชดเชย ครูก็ช่วยปิด ผมโกรธมาก
แต่หลังจากพูดจบ สีหน้าของพ่อ/แม่ เด็กพิเศษตรงนั้น เหมือนผมไปทำลาย ความเชื่อในชีวิตเขาลงหมดเลย
ทุกวันนี้ผมก็ยังเสียใจกับเหตุการณ์วันนั้นอยู่ แล้วก็นึกขอบคุณชีวิตที่โรงเรียนนี้นะครับ ที่ได้เรียนร่วมกับเด็กพิเศษ
มันทำให้มุมมองที่เรามีต่อชีวิต ต่ออะไรหลายๆ อย่าง เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเยอะเลยครับ

ปล.ทั้งหมดนี่เป็นแค่การเล่าประสบการณ์ที่เคยประสบพบเจอมานะครับ ไม่ใช่การตัดสินความเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
แต่ถ้าหาก มีใครต้องการทราบเรื่องราวเพิ่มเติม ก็ยินดีเขียนเพิ่มให้นะครับ

แก้ไขคำผิดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่