สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เพิ่มเติมจากเนื้อหากระทู้ ในกรณี ศาล รธน.
ในกรณีใช้อำนาจทางศาลรัฐธรรมนูญในการล้มรัฐบาลประชาชน หรือเกิดกรณี 2 มาตรฐานอีกครั้ง (ไม่ไม่จำกัดนะครับว่าจะมาจากทางขั้วการเมืองไหน จะเป็นเพื่อไทยก็ได้ หรือประชาธิปัตย์ก็ได้) หรือแม้กระทั่งการรอการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคนนอกจึงจำเป็นที่จะต้องเอาผิดรัฐบาลประชาชนให้ได้เสียก่อน ก็สามารถทำได้โดยใช้ มาตรา ๘๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓)(๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) หรือ (๑๒) หรือมาตรา ๑๑๑ (๓) (๔) (๕) หรือ (๗) แล้วแต่กรณี และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้อง ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่

จากมาตรา 82 มีสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อเพื่อเอาผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตามมาตรา 101 ข้อที่ 7 กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๑๘๔ หรือมาตรา ๑๘๕
ภาพแสดงมาตรา 101 ข้อที่ 7

ภาพแสดงมาตรา 185

มาตรา ๑๘๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) กระทำการในลักษณะที่ทำให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ หรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดำเนินการในกิจการของรัฐสภา
(๓) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
จากทั้ง 3 ข้อในมาตรา 185 นี้ หากเกิดกรณี 2 มาตรฐานขึ้นมาในการตัดสินความของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็สามารถกระทำการได้โดยง่ายเช่นในอดีตที่ผ่านมา เพราะสามารถตีความออกไปได้กว้างและออกได้ทุกทางว่าผิดจริงหรือไม่ผิด ฉะนั้นแล้วเราจะมีความเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น การตีความเพื่อเอาผิดจากกรณีทางการเมืองต่างๆก็มีให้เห็นดังเช่นอดีต เช่นทำกับข้าวออกทีวียังผิด สั่งย้ายข้าราชการที่ทำหน้าที่ไม่ได้ก็ยังผิด เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทำอะไรแล้วจะไม่ผิด ในเมื่อทำหน้าที่รัฐบาลก็คงหลีกเลี่ยงที่จะมีภาระกิจต่างๆมากมายที่จะทำ หากจะตีความเอาผิดโดยคณะ ตลก ที่ถูกแต่งตั้งมาจาก สว. สรรหา ที่ถูกแต่งตั้งมาจากบุคคลคณะเดียว ก็สามารถดำเนินการได้ทุกเมื่อ
ในกรณีใช้อำนาจทางศาลรัฐธรรมนูญในการล้มรัฐบาลประชาชน หรือเกิดกรณี 2 มาตรฐานอีกครั้ง (ไม่ไม่จำกัดนะครับว่าจะมาจากทางขั้วการเมืองไหน จะเป็นเพื่อไทยก็ได้ หรือประชาธิปัตย์ก็ได้) หรือแม้กระทั่งการรอการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคนนอกจึงจำเป็นที่จะต้องเอาผิดรัฐบาลประชาชนให้ได้เสียก่อน ก็สามารถทำได้โดยใช้ มาตรา ๘๒ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓)(๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) หรือ (๑๒) หรือมาตรา ๑๑๑ (๓) (๔) (๕) หรือ (๗) แล้วแต่กรณี และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้อง ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่

จากมาตรา 82 มีสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อเพื่อเอาผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตามมาตรา 101 ข้อที่ 7 กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๑๘๔ หรือมาตรา ๑๘๕
ภาพแสดงมาตรา 101 ข้อที่ 7

ภาพแสดงมาตรา 185

มาตรา ๑๘๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) กระทำการในลักษณะที่ทำให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ หรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นการดำเนินการในกิจการของรัฐสภา
(๓) การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
จากทั้ง 3 ข้อในมาตรา 185 นี้ หากเกิดกรณี 2 มาตรฐานขึ้นมาในการตัดสินความของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็สามารถกระทำการได้โดยง่ายเช่นในอดีตที่ผ่านมา เพราะสามารถตีความออกไปได้กว้างและออกได้ทุกทางว่าผิดจริงหรือไม่ผิด ฉะนั้นแล้วเราจะมีความเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้น การตีความเพื่อเอาผิดจากกรณีทางการเมืองต่างๆก็มีให้เห็นดังเช่นอดีต เช่นทำกับข้าวออกทีวียังผิด สั่งย้ายข้าราชการที่ทำหน้าที่ไม่ได้ก็ยังผิด เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทำอะไรแล้วจะไม่ผิด ในเมื่อทำหน้าที่รัฐบาลก็คงหลีกเลี่ยงที่จะมีภาระกิจต่างๆมากมายที่จะทำ หากจะตีความเอาผิดโดยคณะ ตลก ที่ถูกแต่งตั้งมาจาก สว. สรรหา ที่ถูกแต่งตั้งมาจากบุคคลคณะเดียว ก็สามารถดำเนินการได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณคุณมาริโอ้มากที่นำมาลงและวิเคราะห์อย่างละเอียด
ผมยังไม่ไ้ดฟังเลย แต่อ่านดูจากที่ได้คัดมานั้น เห็นว่าคลิปนี้
ก็ต้องระวังว่าคลิปจะพูดแต่ด้านเดียว คลิปตีความไปเองฝ่าย
เดียวหรือเปล่า
เช่น กรณีที่บอกว่า "ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะตลอดมาพรรคการเมือง
ที่ได้รับคะแนนเสียงเยอะสามารถออกกฏหมายในสิ่งที่ไม่ชอบได้"
ข้อแย้งคือ- ที่ว่า"ไม่ชอบ"นั้น ไม่ชอบในสายตาของใคร ในสาย
ตาของคนทำคลิปนี้ใช่ไหม ในสายตาของกปปส.ใช่ไหม ในสายตาของ
คนส่วนน้อยหรือเปล่า
ไม่ควรอ้างลอยๆไปว่าคนอื่นเขา เพราะที่ว่า"ไม่ชอบ"นั้น อาจจะไม่
ไม่ชอบ ของคนส่วนน้อย ดังนั้นผิดถูกอย่างไรก็ให้ประชาชนตัดสิน
ใจ ผ่านการเลือกตั้ง อย่างที่รัฐบาลก่อนยุบสภาและหวังให้ประชาชน
ตัดสินร่วมกันนะถูกแล้ว
ส่วนกรณี สว. คลิปนี้ก็พูดความจริงครึ่งเดียวหรือเปล่า เพราะประเด็น
สำคัญที่ห่วงกันคือ ช่วง 5 ปีแรกจะให้สว.มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งเท่า
กับที่เรียกกันโดยปริยายว่า ลากตั้ง นั้นเอง
กรณีศาลรธน.คลิปก็ตกไป ไม่พูดถึงอำนาจในการถอดถอนนักการ
เมือง โดยอาศัยเหตุโน่นี่นั่น ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรนี้ก็สร้างความน่า
ฉงนใจมามากมาย จึงน่าจะให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลย์องค์กรนี้ให้
มากขึ้นแต่ยังไม่มีปรากฎในร่างนี้
ผมยังไม่ไ้ดฟังเลย แต่อ่านดูจากที่ได้คัดมานั้น เห็นว่าคลิปนี้
ก็ต้องระวังว่าคลิปจะพูดแต่ด้านเดียว คลิปตีความไปเองฝ่าย
เดียวหรือเปล่า
เช่น กรณีที่บอกว่า "ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะตลอดมาพรรคการเมือง
ที่ได้รับคะแนนเสียงเยอะสามารถออกกฏหมายในสิ่งที่ไม่ชอบได้"
ข้อแย้งคือ- ที่ว่า"ไม่ชอบ"นั้น ไม่ชอบในสายตาของใคร ในสาย
ตาของคนทำคลิปนี้ใช่ไหม ในสายตาของกปปส.ใช่ไหม ในสายตาของ
คนส่วนน้อยหรือเปล่า
ไม่ควรอ้างลอยๆไปว่าคนอื่นเขา เพราะที่ว่า"ไม่ชอบ"นั้น อาจจะไม่
ไม่ชอบ ของคนส่วนน้อย ดังนั้นผิดถูกอย่างไรก็ให้ประชาชนตัดสิน
ใจ ผ่านการเลือกตั้ง อย่างที่รัฐบาลก่อนยุบสภาและหวังให้ประชาชน
ตัดสินร่วมกันนะถูกแล้ว
ส่วนกรณี สว. คลิปนี้ก็พูดความจริงครึ่งเดียวหรือเปล่า เพราะประเด็น
สำคัญที่ห่วงกันคือ ช่วง 5 ปีแรกจะให้สว.มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งเท่า
กับที่เรียกกันโดยปริยายว่า ลากตั้ง นั้นเอง
กรณีศาลรธน.คลิปก็ตกไป ไม่พูดถึงอำนาจในการถอดถอนนักการ
เมือง โดยอาศัยเหตุโน่นี่นั่น ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรนี้ก็สร้างความน่า
ฉงนใจมามากมาย จึงน่าจะให้มีการตรวจสอบถ่วงดุลย์องค์กรนี้ให้
มากขึ้นแต่ยังไม่มีปรากฎในร่างนี้
ความคิดเห็นที่ 14
+1 ขอบคุณค่ะพี่โอ้ กระทู้ดีมากๆ
เพิ่งได้ดูคลิปนั้น ก็ยังคงใช้คำพูดนามธรรม ฟังดูดี แต่เนื้อหาสำคัญไม่ครบ และเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ใช่
ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเลย เน้นที่ให้สิทธิกับประชาชนในการเลือกผู้แทนอย่างบริสุทธิ์ใจ
ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ระบบโปร่งใสไม่วางยา
มองไม่เห็นว่าระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จะดีสำหรับประชาชนอย่างไร เพราะดูแล้วเป้าหมายหลักคือการตัดคะแนนบางพรรค
ทำให้จำนวน สส.ต้องไปอิงกัน คะแนนไปผูกพันโยงมั่วกันไปหมด
ในขณะที่แบบเดิมประชาชนจะเลือกคนที่รัก พรรคที่ชอบ ให้สส.พื้นที่ต้องมีผลงานและพรรคการเมืองต้องสร้างนโยบายดีๆ
ซึ่งหากเสียงส่วนมากของประชาชนที่ไว้วางใจและพอใจกับนโยบายพรรคหนึ่ง แต่พรรคการเมืองนั้นกลับไม่สามารถรับใช้ประชาชนได้
เสียงของประชาชนจะไม่มีความหมาย
หากไม่เคลียร์ข้อสงสัยให้ชัดเจน เกรงว่าจะมีปัญหาวันหน้า ทำให้ระบบการเมืองไม่เข้มแข็ง เกิดความวุ่นวายไม่จบสิ้น
...............................
น่าแปลกที่ฝ่ายที่เชียร์กลับไม่สามารถบอกเล่าออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม ในขณะที่ฝ่ายที่เป็นห่วงต่างก็บอกได้ละเอียด
ขอเล่าประสบการณ์ที่เจอมานิดหน่อย
วันก่อนพี่ชายมาบ้าน คงได้รับข้อมูลมาจากสำนักเดียวกัน มาถึงก็ท่องมาเลย
"รธน.นี้ นักการเมืองต่อต้านกันมาก เพราะมันจะปราบคนโกง ดังนั้นต้องดีกับประชาชนแน่นอน"
ปกติจะไม่คุยการเมืองกับคนใกล้ตัว แต่วันนั้นรำคาญมากเพราะเขาใส่มาชุดใหญ่ ก็เลยสวนกลับไปบ้าง
ไม่น่าเชื่อ เขาไม่รู้เลยว่า...
- กฎ กติกา สัดส่วน สส. ครั้งนี้เป็นอย่างไร
- ไม่ใช่นักการเมืองที่ต่อต้าน ประชาชนทั่วไป สื่อต่างชาติ ที่รู้เรื่องจริงๆ ต่างก็มีความเป็นห่วงในหลายเรื่อง
- ไม่รู้เรื่อง สว. ไม่รู้เรื่อง 5 ปี
- ไม่รู้เรื่ององค์กรอิสระ ที่จะมีอำนาจล้นฟ้า
- ไม่รู้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาล คือ องค์กรอิสระ ไม่ใช่ฝ่ายตุลาการ
และไม่รู้อะไรเลย รู้อย่างเดียว รธน.ฉบับนี้ นักการเมืองต่อต้าน มันต้องดี
เป็นอันว่าวันนั้นเขาก็ต้องม้วนเสื่อกลับไปเพราะไม่นำข้อมูลมาพูดคุยกัน
เพิ่งได้ดูคลิปนั้น ก็ยังคงใช้คำพูดนามธรรม ฟังดูดี แต่เนื้อหาสำคัญไม่ครบ และเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ใช่
ในความเห็นส่วนตัวแล้ว ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเลย เน้นที่ให้สิทธิกับประชาชนในการเลือกผู้แทนอย่างบริสุทธิ์ใจ
ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ระบบโปร่งใสไม่วางยา
มองไม่เห็นว่าระบบการเลือกตั้งแบบใหม่จะดีสำหรับประชาชนอย่างไร เพราะดูแล้วเป้าหมายหลักคือการตัดคะแนนบางพรรค
ทำให้จำนวน สส.ต้องไปอิงกัน คะแนนไปผูกพันโยงมั่วกันไปหมด
ในขณะที่แบบเดิมประชาชนจะเลือกคนที่รัก พรรคที่ชอบ ให้สส.พื้นที่ต้องมีผลงานและพรรคการเมืองต้องสร้างนโยบายดีๆ
ซึ่งหากเสียงส่วนมากของประชาชนที่ไว้วางใจและพอใจกับนโยบายพรรคหนึ่ง แต่พรรคการเมืองนั้นกลับไม่สามารถรับใช้ประชาชนได้
เสียงของประชาชนจะไม่มีความหมาย
หากไม่เคลียร์ข้อสงสัยให้ชัดเจน เกรงว่าจะมีปัญหาวันหน้า ทำให้ระบบการเมืองไม่เข้มแข็ง เกิดความวุ่นวายไม่จบสิ้น
...............................
น่าแปลกที่ฝ่ายที่เชียร์กลับไม่สามารถบอกเล่าออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม ในขณะที่ฝ่ายที่เป็นห่วงต่างก็บอกได้ละเอียด
ขอเล่าประสบการณ์ที่เจอมานิดหน่อย
วันก่อนพี่ชายมาบ้าน คงได้รับข้อมูลมาจากสำนักเดียวกัน มาถึงก็ท่องมาเลย
"รธน.นี้ นักการเมืองต่อต้านกันมาก เพราะมันจะปราบคนโกง ดังนั้นต้องดีกับประชาชนแน่นอน"
ปกติจะไม่คุยการเมืองกับคนใกล้ตัว แต่วันนั้นรำคาญมากเพราะเขาใส่มาชุดใหญ่ ก็เลยสวนกลับไปบ้าง
ไม่น่าเชื่อ เขาไม่รู้เลยว่า...
- กฎ กติกา สัดส่วน สส. ครั้งนี้เป็นอย่างไร
- ไม่ใช่นักการเมืองที่ต่อต้าน ประชาชนทั่วไป สื่อต่างชาติ ที่รู้เรื่องจริงๆ ต่างก็มีความเป็นห่วงในหลายเรื่อง
- ไม่รู้เรื่อง สว. ไม่รู้เรื่อง 5 ปี
- ไม่รู้เรื่ององค์กรอิสระ ที่จะมีอำนาจล้นฟ้า
- ไม่รู้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาล คือ องค์กรอิสระ ไม่ใช่ฝ่ายตุลาการ
และไม่รู้อะไรเลย รู้อย่างเดียว รธน.ฉบับนี้ นักการเมืองต่อต้าน มันต้องดี
เป็นอันว่าวันนั้นเขาก็ต้องม้วนเสื่อกลับไปเพราะไม่นำข้อมูลมาพูดคุยกัน
ความคิดเห็นที่ 8
สมมุติว่า ผมสมัครเป็น สว. และได้รับเลือกเข้าไปเป็นสว. ผมจะทำหน้าที่แบบไหน อย่างไรฮะ
ทำเพื่อประโยชของประชาชนอย่างแท้จริง หรือทำอะไรตามใบสั่งฮะ
และ สมมุติว่า ผมลงสมัคร สส.พรรคโนเนม แต่บังเอินได้เป็น สส.กลุ่มย่อย หยิบมือเดียว แล้วพรรคใหญ่ๆได้ สส.กันเยอะๆ แต่ก็ยังไม่พอจัดตั้งรัฐบาล ต้องดึง สส.โลโซอย่างผมเข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าค่าตัวผมจะแพงไหมฮะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทำเพื่อประโยชของประชาชนอย่างแท้จริง หรือทำอะไรตามใบสั่งฮะ
และ สมมุติว่า ผมลงสมัคร สส.พรรคโนเนม แต่บังเอินได้เป็น สส.กลุ่มย่อย หยิบมือเดียว แล้วพรรคใหญ่ๆได้ สส.กันเยอะๆ แต่ก็ยังไม่พอจัดตั้งรัฐบาล ต้องดึง สส.โลโซอย่างผมเข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าค่าตัวผมจะแพงไหมฮะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 21
ผมมองว่าฝ่ายที่กุมอำนาจขณะนี้ตัดสินใจเร็วไปที่จะพูดว่า รัฐธรรมนูญเก่าๆไม่ดี เพราะพึ่งจะใช้ได้ไม่เท่าไร ผมเชื่อว่าประชาธิปไตยมันจะปรับตัวมันเองจนคงที่ได้ในที่สุด ส่วนตัวผมคิดว่าฉบับปี40น่าจะดีที่สุด เพราะผ่านการเขียนและคัดกรองอย่างละเอียด มีการวิพากษ์กันอย่างกว้างขวาง แค่ได้พรรคที่ไม่ชอบใจเข้ามาแค่ไม่กี่สมัย ก็ด่วนสรุป ผมว่าไม่ควร แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประชาชนไม่เคยมีอำนาจบริหารอย่างแท้จริงเลย ต่อให้เขียนใหม่อีกกี่รอบ ประเทศไทยก็จะวนลูปกลับมาที่เดิม ขอร้องเถอะครับเลิกใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ แบบพ่อปกครองลูกเสียที คนไทยจะได้ไม่ติดนิสัยเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต คิดเองไม่เป็น รอแต่จะให้คนมีบารมีมาแก้ไขปัญหาอยู่ร่ำไป
แสดงความคิดเห็น
จากคลิป "รู้ก่อนด่า รัฐธรรมนูญ 59 " ที่ท่านมีชัยแนะนำให้ดู ท่านบอกดูแล้วเข้าใจง่าย แต่ผมโคตรสงสัยเลยครับ (The Mario)
1. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติมให้เข้าใจอย่างครบถ้วน จากเว็บไซต์หรือสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแสดงความคิดเห็นของตน
2. แสดงความเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
3. แสดงความเห็นด้วยข้อมูลที่มีความชัดเจนไม่กำกวม อันอาจทำให้บุคคลอื่นเห็นว่าเป็นการบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง
4. การนำเสนอหรืออ้างอิงงานวิจัยตามหลักวิชาการ เพื่อประกอบการแสดงความคิดเห็นให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงบุคคลนั้น ควรตรวจสอบความถูกต้องและแสดงที่มาของงานวิจัยนั้นด้วย
5. การสัมภาษณ์ผ่านสื่อเพื่อแสดงความคิดเห็นพร้อมเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน
6. การนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นพร้อมแสดงเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งของตน ในเว็บไซต์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือการส่งต่อข้อมูลดังกล่าว โดยไม่มีการแสดงความเห็นเพิ่มเติม
จากที่มาของคลิปนี้
"มีชัย" แนะดูคลิป" รู้ก่อนด่า รัฐธรรมนูญ 59"
- มีจิตอาสาจัดทำคลิปใช้ชื่อว่า"รู้ก่อนด่า รธน.59" เผยแพร่ในยูทูป เพื่ออธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ขณะที่ประธาน กรธ.แนะให้ดูคลิปนี้ ระบุสั้น กระชับ เข้าใจง่าย เชื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงประชามติ
คลิปดังกล่าวไม่ได้ระบุผู้ผลิต และ ผู้เผยแพร่ว่าเป็นบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่เนื้อหาในคลิปได้อธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แบบเข้าใจได้ภายใน 3 นาที ในรูปแบบของกราฟฟิก การ์ตูน พร้อมคำอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กัน ทั้งในเรื่องของระบบการเลือกตั้ง ส.ส.การได้มาซึ่ง ส.ว. และ ศาลรัฐธรรมนูญ (ขอบคุณภาพจาก www.youtube.com)
ซึ่งล่าสุดคลิปนี้ แจ้งเพียงว่าเป็นเรื่องของผู้ที่มีจิตอาสาจัดทำขึ้นมาเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.ยอมรับว่าได้ดูคลิปดังกล่าวแล้วเช่นกัน และเห็นว่าเนื้อหาสั้น กระชับ เข้าใจง่ายดี น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงประชามติของประชาชน และ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเผยแพร่
ที่มาข้อมูล [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คลิปวีดิโอตามคำแนะนำของท่านมีชัย
ผมดูจนจบแล้วครับ และลิ้งค์เข้าไปดูในยูทูบ มีคนเข้าไปกดดูหลายหมื่นคน และมีอัตราส่วนคนกดไลค์มากกว่าคนกดดิสไลค์ แต่เนื่องจากผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้อ่านร่าง รธนมาเหมือนกัน มีข้อคิดเห็นที่ขัดแย้งกับคลิปดังกล่าวตั้งแต่ต้นจนเกือบจบ ดังนี้
ตั้งแต่วินาทีแรก - 1.08
"หลังจากที่มีการเปิดเผยร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดก็มีเสียงโจมตีอย่างมากโดยเฉพาะจากฝ่ายนักการเมืองต่างๆนานา ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจว่าร่างนี้ดีหรือแย่ ขอให้ลองฟังข้อเท็จจริงกันก่อน เรื่องเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วน ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เมื่อถูกกล่าวหาว่าไม่มีความเป็น ปชต. นั้น จริงๆแล้วมีความเป็น ปชต. มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะว่าได้รับฟังเสียงข้างน้อยด้วย สำหรับ ส.ส. แบบแบ่งเขตนั้นใครชนะก็ยังได้เป็นเหมือนเดิม แต่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อนั้น นำคะแนนเลือกตั้งจากทุกเขตไม่ว่าจะแพ้หรือชนะมารวมกันเพื่อหาว่าโควต้าแต่ละพรรคจะได้ ส.ส. รวมจำนวนกี่คน และหากพรรคได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตน้อยกว่าโควต้า ก็ให้เพิ่ม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อให้เท่ากับโควต้าที่ได้รับ แต่พรรคที่ได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตมากกว่าหรือเท่ากับจำนวนโควต้าที่ได้รับก็จะไม่ได้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะตลอดมาพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงเยอะสามารถออกกฏหมายในสิ่งที่ไม่ชอบได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงออกแบบให้มีอีกฝ่ายเข้ามาถ่วงดุลซึ่งอีกฝ่ายนั้นก็คือตัวแทนของประชาชนเช่นเดียวกัน"
- คงไม่ต้องไปเน้นหนักเพ่งเล็งไปที่นักการเมือง เสียงโจมตีผมว่ามีพอๆกันนะครับจากหลายๆฝ่ายทั้งฝ่ายนักวิชาการ นักศึกษา ประชาชน และกลุ่มบุคคลที่รักประชาธิปไตยจริงๆโดยไม่อิงกับฝ่ายการเมืองใดๆ คุณคิดว่าพลังเงียบที่เค้ารักและผูกพันกับรอบอบประชาธิปไตยฯมีน้อยงั้นหรือ ผมคิดว่าคือคนส่วนใหญ่ของประเทศจริงๆเสียด้วยซ้ำ สำหรับกติกาการเลือกตั้งที่คุณพยายามบอกว่าเป็นประชาธิปไตยมากกว่าเดิม ผมกลับมองว่าไม่ใช่ครับ มันจะมากไปกว่าการที่บุคคลหนึ่งมีสิทธิเลือกคนที่รักในเขตของตัวเอง และเลือกพรรคที่ตัวเองชื่นชอบได้อย่างไร นี่คือการบีบให้คนเลือกทั้งคนเลือกทั้งพรรคในคราวเดียวกัน คุณบอกเองว่าจริงๆแล้วมีความเป็น ปชต. มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะว่าได้รับฟังเสียงข้างน้อยด้วย ในความเป็นจริงคือเสียงข้างน้อยนั้นยังมีผู้คนที่เขาไม่ได้เลือกทั้งคนเลือกทั้งพรรคด้วย นี่สิคือเสียงข้างน้อยของประชาชนที่คุณต้องคำนึงให้มาก สมมุติว่าคนสุพรรณมีความผูกพันกับท่านบรรหารเลยเลือกเขต ส.ส. ชพน. แต่อยากให้ทางเพื่อไทย หรือ ปชป. ได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ หรือคนบุรีรัมย์เลือก ส.ส. เขต จาก ภท. แต่อยากได้ฝ่ายค้านที่ถึงลูกถึงคนสไตล์คุณชูวิทย์ คุณเอาสิทธิเหล่านั้นของพวกเขาไปทิ้งไว้ที่ไหน คุณจะมาอ้างเรื่องถ่วงดุลอะไรของคุณครับ ในเมื่อประชาชนอยากได้ตรงๆมันมีค่าน้อยกว่าสิ่งที่ประชาชนได้มาแบบอ้อมๆงั้นหรือ ผมว่าไม่ใช่ครับ หากมองเจาะในเชิงลึกจริงๆผมเคยมีการคำนวนเล่นๆไว้แล้วด้วยว่าใครได้ประโยชน์-เสียประโยชน์ ใครได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/35022794 ยังคงสงสัยต่อเนื่องว่านี่คือการออกแบบกติกามาเพื่อช่วยพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ โดยการเอาคำว่าถ่วงดุลมาทำให้ดูดีเท่านั้น
นาทีที่ 1.09 - 1.39 "นายกคนนอกที่ว่ากันว่าใครจะมาเป็นก็ได้ซึ่งไม่จริง ก่อนหน้านี้ใครจะมาเป็นนายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. จะระบุเสนอชื่อในสภา ซึ่งอาจจะเป็น ส.ส. คนที่เคยหาเสียงไว้หรือจะเป็นคนที่ไม่เคยบอกเลยก็ได้ รธน. ฉบับนี้จึงให้ระบุล่วงหน้าไว้อย่างมาก 3 คน เพื่อให้ประชาชนทราบล่วงหน้าว่าหากพรรคการเมืองนี้ชนะใครจะได้เป็นนายกฯไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ยังไงประชาชนก็ได้ทราบล่วงหน้าและมีสิทธิ์ในการตัดสินใจที่ดีกว่าเดิม"
- ไม่ใช่แล้วแบบนี้ สิ่งที่คุณนำเสนอมันดูดีและโลกสวยเกินไปแล้วครับ ผมกังวลว่าคนที่เข้ามาดูคลิปคุณแบบง่ายๆแล้วจะเข้าใจผิด นายกฯคนนอกจริงๆแล้วที่มาก็คือตามมาตรา 272 ตามภาพนี้
นายกฯคนนอกไม่ได้มาจากที่คุณระบุครับเขาระบุมาชัดเจนว่า หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ ที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธาน รัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกัน ของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามมาตรา ๑๕๙ ต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา ๘๘ หรือไม่ก็ได้ และนี่คือที่มาในภายหลังของคำถามพ่วงที่ให้ สว. 250 คนในวาระเริ่มแรกโหวตเลือกนายกฯได้ครับ
นาทีที่ 140 - 2.20 "สว.ลากตั้ง? ไม่ได้มาจากประชาชน สมัยก่อน สว. ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบกฏหมายนั้นมาจากการเลือกตั้งทำให้กลุ่มที่มาเป็น สว. มาจากนักการเมืองที่เป็นพวกเดียวกับ ส.ส. แทนที่จะถ่วงดุลแต่กลับกลายเป็นพวกเดียวกัน แต่ สว. ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นเปิดให้อำนาจประชาชนสามารถสมัครได้และป้องกันไม่ให้ตระกูลนักการเมืองเข้ามาเป็น สว. คือห้ามพ่อ แม่ ลูก และคู่สมรส ทั้งห้ามคนที่เล่นการเมืองภายในระยะเวลา 10 ปีด้วย ประชาชนทุกคนสามารถสมัครมาเป็น สว.ได้ ไม่จำเป็นต้องสังกัดสาขาอาชีพเฉพาะ ขอแค่ไม่มีลักษณะต้องห้ามที่กล่าวมาข้างต้นก็พอ"
- เป็นการกล่าวอ้างเกินจริงหรือไม่ว่าเป็นพวกเดียวกับ ส.ส. คุณกำลังสื่อให้เห็นว่าที่มาของ สว. เมื่อก่อนนี้มาจากพรรคการเมืองหนุนหลังทั้งหมดและมาเพื่อสนองความต้องการของนักการเมือง ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่ ที่ผ่านมาทำอะไรได้ง่ายงั้นหรือหาก สว.เลือกตั้งมารับใช้จริง และการมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพื่อมาทำหน้าที่นิติบัญญัติ มันไม่ดีงั้นหรือ และที่ผ่านมาประชาชนที่มีคุณสมบัติครบก็สามารถสมัคร สว. ได้เช่นกันกับที่คุณกล่าวอ้าง คุณมาลองเปรัยบเทียบกับที่มา สว. ของร่างฉบับใหม่ดูนะครับว่ามายังไงจากมาตรา 269
ผมจะสรุปให้ฟังง่ายๆคือที่มาของ สว. ทั้งหมดมาจาก คสช. เป็นผู้แต่งตั้งทั้งหมดครับ แล้วถ้ามีบุคคลเก่งๆเป็นประชาชนที่ไม่มีลักษณะต้องห้ามไปสมัคร แต่มีแนวโน้มว่าจะทำหน้าที่ขัดแย้งกับ คสช. เขาจะเลือกไปทำหน้าที่ไหม ในทางกลับกันหากประชาชนต้องการบุคลนั้นมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้กับประเทศชาติ ประชาชนคือไม่มีสิทธิ์ครับ
นาทีที่ 2.20 - 3.06 "องค์กรอิสระมีอำนาจมหาศาล สามารถควบคุมรัฐบาลและไม่มีใครตรวจสอบได้ซึ่งไม่จริง ศาล รธน. ไม่มีอำนาจสั่งให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้ ทำได้เพียงอย่างเดียวคือวินิจฉัยและตัดสินปัญหาเวลามีวิกฤตการเมือง และยังถูกตรวจสอบได้ด้วย ปปช. ที่เป็นเช่นนี้เพราะเวลาเกิดสุญญากาศทางการเมืองเช่นนายกฯถูกถอดถอน รักษาการณ์นายกฯไม่มีอำนาจในการบริหารเช่นอนุมัติงบประมาณหรือประชุมอะไรได้จึงไม่สามารถจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นได้ ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ ศาล รธน. จะมีอำนาจตัดสินใจได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้อนุมัติงบประมาณหรือตัดสินใจแทนนายกฯทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้"
- ผมไม่เชื่อในจุดประสงค์ครับ ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ 2 มาตรฐานมามากพอแล้วมันคือบทเรียนที่ประชาชนแม้จะไม่พูดแต่ก็จดจำครับ คุณบอกว่า ทำได้เพียงอย่างเดียวคือวินิจฉัยและตัดสินปัญหาเวลามีวิกฤตการเมือง แล้ววิกฤตทางการเมืองในความหมายของคุณคืออะไร คือเวลามีม็อบมาล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนซ้ำๆซากๆงั้นหรือ พอม็อบเริ่มกระแสตกก็ค่อยออกมาตัดสินความแก้วิกฤติเอาใจม็อบอย่างที่เคย ผมว่ามันจะทำร้ายจิตใจประชาชนที่เขาต้องการเลือกผู้บริหารประเทศของตัวเองแบบซ้ำๆซากๆมากเกินไปไหม ยืนยันว่าคำว่าอำนาจมหาศาลตามร่าง รธน. ฉบับนี้ไม่ไกลเกินความเป็นจริงครับ สามารถล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ทุกเมื่อโดยใช้มาตรา 82
ไทม์ไลน์ของการใช้ศาล รธน. ล้มรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชน เคยไล่ดูคร่าวๆตามกระทู้นี้ครับ http://pantip.com/topic/35063555 แล้วผมจะนำมาลงไว้ในช่องคอมเม้นต์เพราะเนื้อที่การพิมพ์ไม่พอ แถมจู่ๆจะมาทำหน้าที่แทนนายกฯรักษาการณ์อีกด้วยมันก็แปลกๆไหมละครับ
- นาทีที่ 3.07-จบคลิป ผมเห็นด้วยครับ
The Mario 21-5-2559