เราแต่งงานมาเข้าปีที่7 แล้วค่ะ
แต่งเข้าบ้านสามี แล้วยังไม่มีลูก เพราะมีลูกยาก เราอายุ37 สามีอายุ38
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อเช้าพ่อแม่สามี จะไปไหว้สิ่งที่เคารพประจำจังหวัด คุยกันเมื่อวานว่า พวกลูกๆอยากไปด้วย จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน เพราะระยะหลังๆนี้ ไม่ค่อยได้ไปไหน พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย เพราะนั่งกันไปไม่หมด
ที่บ้านมี 1.พ่อแม่สามี(2คน)
2.เรากับสามี(2คน)
3.น้องสาวสามี+ลูก2คน(3คน)
ตอนนี้หลานคนโตไม่อยู่ ไปเที่ยวกับบ้านพ่อเขา(น้องเลิกกับสามี ตอนคนเล็กได้15 วัน เราช่วยน้องเลี้ยงลูก มาตั้งแต่ก่อนคลอด พอคลอดเราก็ไปช่วยที่ร.พ. เพราะแม่สามีอายุเยอะแล้ว มีโรคประจำตัวด้วย และเราก็รักหลานคนเล็กเหมือนลูกเลย ตอนนี้เธอ10เดือนแล้ว)
นี้คือปัญหาคือ รถไม่พอนั่ง เลยซื้อคันใหม่เป็น7ที่นั่ง(รถมือ2 บ้านสามีเป็นเต้นท์รถ)
คุยกันเมื่อวาน สรุปคือ ติดปัญหาเพราะพ่อแม่สามีอยากไปแต่เช้า(6โมง) แต่ไม่รู้ว่าไอ้ตัวเล็กจะตื่นไหวหรือเปล่า
เลยสรุปกันว่า ถ้าตัวเล็กตื่นทันก็ไป ถ้าตื่นไม่ทัน พ่อแม่ก็ไปกันเอง2คน เรากับสามีไม่ไป เพราะต้องคอยอยู่ช่วยดูแลหลาน เผื่อแม่เขาต้องเข้าห้องน้ำ กินข้าว อาบน้ำ
เราเลยบอกสามีไว้ว่า ถ้าตัวเล็กตื่น ให้ปลุกเราด้วย ปกติเราจะตื่นราว6-7โมง แต่ถ้าต้องไป6โมง เราต้องตื่นตี5
พอตอนเช้า เราเห็นไม่มีใครเรียก แล้วได้ยินเสียงรถวิ่งออกบ้านไป เลยเข้าใจว่า ตัวเล็กไม่ตื่น ตายายเลยไปกันเอง
แต่พอสักพัก ราว6โมงกว่าๆ สามีก็ตะโกนเรียก(เรานอนชั้น2) แล้วก็บ่นว่าเราตื่นสาย บอกว่าพ่อบ่นว่าเรา คือจริงๆเราก็ตื่นแล้วล่ะ แต่วันนี้เป็นวันหยุด น้องสามีก็หยุด และก็ไม่ได้ไปไหน เราก็เลยอยากนอนต่อสักพักนึง
แต่พอโดนบ่นว่านอนตื่นสาย เราก็ปรี๊ดเลย ว่าอะไรจะขนาดนั้น เพราะปกติเราจะลงมาเปลี่ยนกับน้องราวๆ6โมงนิดๆ เพราะน้องต้องไปทำงาน ก็ต้องมาดูหลานแทน ให้น้องอาบน้ำแต่งตัวกินข้าว จากนั้นเราก็จะสลับกับพ่อหรือแม่ ดูหลาน กว่าเราจะได้พัก ก็คือน้องกลับมาจากทำงาน และก่อนนอน เราก็ต้องผลัดให้น้องไปอาบน้ำกินข้าวก่อน
สามีเรา มีศักดิ์เป็นลุง เขาจะไม่ค่อยได้เลี้ยง เพราะไม่ค่อยว่าง ต้องไปนู้นนี้เสมอ แต่ถ้าตายาย ไม่อยู่ เขาก็ช่วยได้เป็นพักๆ คือเล่นได้ แต่เลี้ยงไม่ได้
ที่เราอึดอัดก็คือ ช่วงนี้เราเครียด รายได้ไม่ค่อยมี แต่รายจ่ายยังคงอยู่( ค่าประกันเรา2เล่ม ของแม่เราอีก รวมแล้วประมาณ70,000/ปี
เรามีรายได้จากการขายประกันชีวิต ประกันรถ(เพิ่งเสริมเข้ามา) และเงินเก็บเงินสะสมที่ทางบ้านเราให้มาบ้าง
บ้านสามีเป็นกงสี เดิมแม่สามีก็แบ่งเงินมาให้บ้าง แต่ช่วงนี้ซื้อขายไม่ค่อยดี รายได้น้อยลง คนอยู่มากขึ้น(น้องย้ายมาอยู่ด้วย) เราเลยไม่ได้ขออะไร ใช้แต่เงินตัวเอง เขาอาจจะมีให้บ้างค่าขนมหลักร้อย หลักพัน
รายได้ประกันเราดร็อปมา2-3ปีแล้ว เนื่องจากช่วงนั้น ยายของสามี(อายุ99ปี) เข้ามาอยู่ในความดูแลของบ้านสามี เพราะลูกหลานคนอื่น ไม่มีเวลา เราเลยดร็อปงานขาย มาช่วยแม่สามีดูแลยาย เพราะรู้ว่าเขาทำไม่ไหวแน่ๆ เราเลี้ยงยาย แบบนอนในห้องเราเลยนะ คือดูแลทุกอย่าง (เช่นเรื่องขับถ่าย ถ่ายไม่ออก ต้องล้วงก้น มีแผลกดทับ พาไปทำแผล ทำแผลเองจนหาย) จนแกจากไปอย่างสงบ
นึกว่าจะมาลุยงานต่อได้ น้องสามีดันมามีปัญหาครอบครัว ต้องเลิกกันไป แถมดูแลลูกเขาก็รักลูกเขา และพักงานมานาน เริ่มหมดไฟ เลยเริ่มมองหางานที่ทำที่บ้านได้ ไม่อยากไปตะลอนๆนอกบ้าน ช่วงนี้รายได้เลยหด เพราะเงินเก็บเริ่มหมด เงินเติมเริ่มไม่มีเพิ่ม ก็พอหมุนๆไปเดือนชนเดือน ก็ประหยัดๆไป
จากที่เคยซื้อของเล่น เสื้อผ้าให้หลาน ก็ลดๆลง ใช้ตัวเก่าๆไป ไม่มีการซื้อเพิ่ม แต่ช่วงแรกตุนไว้เยอะเหมือนกัน น่าจะใส่ไปได้ถึง2ขวบ(มั้ง)
พอโดนว่ามา มันเลยหมดกำลังใจ เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น เหมือนเราเอาชีวิตเรามาทิ้งไว้ที่นี้ เดิมก่อนแต่ง
1.เรามีรายได้ของเรา หาเองใช้เอง มีความสุขมาก มีพอใช้ซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หนังสืออ่านเล่น ของฟุ่มเฟือยต่างๆ แล้วยังมีเงินเหลือเก็บอีกตัว(ก่อนแต่งฯเราแยกร้านมาเปิดของตัวเอง พอแต่งงานแล้ว ก็เซ้งร้านต่อให้คนอื่นไป)
2.พอแต่งงานมา รายได้มาจากสามี มีเยอะขนาดไหนก็ไม่กล้าใช้ เหมือนเราไม่มีสิทธิ์ใช้ เพราะเราไม่ได้หามาเอง
3.มีลูกยาก แท้งมา3ครั้ง ร่างกายย่ำแย่ลง ปรึกษาแพทย์รักษากันไป เงินหมดไปกับตรงนี้เยอะมาก นี้ก็เป็นส่วนที่เครียด
4.สงสารแม่ตัวเอง อยากได้หลาน พยายามให้เราไปขอ ไปทำ หลายที่ หมดเงิน หมดแรงไปเยอะ ทำให้รู้สึกผิดที่มีหลานให้เขาไม่ได้(พี่น้อง3คน มีเราแต่งคนเดียว) คือบอกแกไม่ได้ ว่าหนูหมดเงินไปทำ แล้วแม่TT
(มีต่อ)
อึดอัดกับบ้านสามีTT
แต่งเข้าบ้านสามี แล้วยังไม่มีลูก เพราะมีลูกยาก เราอายุ37 สามีอายุ38
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อเช้าพ่อแม่สามี จะไปไหว้สิ่งที่เคารพประจำจังหวัด คุยกันเมื่อวานว่า พวกลูกๆอยากไปด้วย จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน เพราะระยะหลังๆนี้ ไม่ค่อยได้ไปไหน พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย เพราะนั่งกันไปไม่หมด
ที่บ้านมี 1.พ่อแม่สามี(2คน)
2.เรากับสามี(2คน)
3.น้องสาวสามี+ลูก2คน(3คน)
ตอนนี้หลานคนโตไม่อยู่ ไปเที่ยวกับบ้านพ่อเขา(น้องเลิกกับสามี ตอนคนเล็กได้15 วัน เราช่วยน้องเลี้ยงลูก มาตั้งแต่ก่อนคลอด พอคลอดเราก็ไปช่วยที่ร.พ. เพราะแม่สามีอายุเยอะแล้ว มีโรคประจำตัวด้วย และเราก็รักหลานคนเล็กเหมือนลูกเลย ตอนนี้เธอ10เดือนแล้ว)
นี้คือปัญหาคือ รถไม่พอนั่ง เลยซื้อคันใหม่เป็น7ที่นั่ง(รถมือ2 บ้านสามีเป็นเต้นท์รถ)
คุยกันเมื่อวาน สรุปคือ ติดปัญหาเพราะพ่อแม่สามีอยากไปแต่เช้า(6โมง) แต่ไม่รู้ว่าไอ้ตัวเล็กจะตื่นไหวหรือเปล่า
เลยสรุปกันว่า ถ้าตัวเล็กตื่นทันก็ไป ถ้าตื่นไม่ทัน พ่อแม่ก็ไปกันเอง2คน เรากับสามีไม่ไป เพราะต้องคอยอยู่ช่วยดูแลหลาน เผื่อแม่เขาต้องเข้าห้องน้ำ กินข้าว อาบน้ำ
เราเลยบอกสามีไว้ว่า ถ้าตัวเล็กตื่น ให้ปลุกเราด้วย ปกติเราจะตื่นราว6-7โมง แต่ถ้าต้องไป6โมง เราต้องตื่นตี5
พอตอนเช้า เราเห็นไม่มีใครเรียก แล้วได้ยินเสียงรถวิ่งออกบ้านไป เลยเข้าใจว่า ตัวเล็กไม่ตื่น ตายายเลยไปกันเอง
แต่พอสักพัก ราว6โมงกว่าๆ สามีก็ตะโกนเรียก(เรานอนชั้น2) แล้วก็บ่นว่าเราตื่นสาย บอกว่าพ่อบ่นว่าเรา คือจริงๆเราก็ตื่นแล้วล่ะ แต่วันนี้เป็นวันหยุด น้องสามีก็หยุด และก็ไม่ได้ไปไหน เราก็เลยอยากนอนต่อสักพักนึง
แต่พอโดนบ่นว่านอนตื่นสาย เราก็ปรี๊ดเลย ว่าอะไรจะขนาดนั้น เพราะปกติเราจะลงมาเปลี่ยนกับน้องราวๆ6โมงนิดๆ เพราะน้องต้องไปทำงาน ก็ต้องมาดูหลานแทน ให้น้องอาบน้ำแต่งตัวกินข้าว จากนั้นเราก็จะสลับกับพ่อหรือแม่ ดูหลาน กว่าเราจะได้พัก ก็คือน้องกลับมาจากทำงาน และก่อนนอน เราก็ต้องผลัดให้น้องไปอาบน้ำกินข้าวก่อน
สามีเรา มีศักดิ์เป็นลุง เขาจะไม่ค่อยได้เลี้ยง เพราะไม่ค่อยว่าง ต้องไปนู้นนี้เสมอ แต่ถ้าตายาย ไม่อยู่ เขาก็ช่วยได้เป็นพักๆ คือเล่นได้ แต่เลี้ยงไม่ได้
ที่เราอึดอัดก็คือ ช่วงนี้เราเครียด รายได้ไม่ค่อยมี แต่รายจ่ายยังคงอยู่( ค่าประกันเรา2เล่ม ของแม่เราอีก รวมแล้วประมาณ70,000/ปี
เรามีรายได้จากการขายประกันชีวิต ประกันรถ(เพิ่งเสริมเข้ามา) และเงินเก็บเงินสะสมที่ทางบ้านเราให้มาบ้าง
บ้านสามีเป็นกงสี เดิมแม่สามีก็แบ่งเงินมาให้บ้าง แต่ช่วงนี้ซื้อขายไม่ค่อยดี รายได้น้อยลง คนอยู่มากขึ้น(น้องย้ายมาอยู่ด้วย) เราเลยไม่ได้ขออะไร ใช้แต่เงินตัวเอง เขาอาจจะมีให้บ้างค่าขนมหลักร้อย หลักพัน
รายได้ประกันเราดร็อปมา2-3ปีแล้ว เนื่องจากช่วงนั้น ยายของสามี(อายุ99ปี) เข้ามาอยู่ในความดูแลของบ้านสามี เพราะลูกหลานคนอื่น ไม่มีเวลา เราเลยดร็อปงานขาย มาช่วยแม่สามีดูแลยาย เพราะรู้ว่าเขาทำไม่ไหวแน่ๆ เราเลี้ยงยาย แบบนอนในห้องเราเลยนะ คือดูแลทุกอย่าง (เช่นเรื่องขับถ่าย ถ่ายไม่ออก ต้องล้วงก้น มีแผลกดทับ พาไปทำแผล ทำแผลเองจนหาย) จนแกจากไปอย่างสงบ
นึกว่าจะมาลุยงานต่อได้ น้องสามีดันมามีปัญหาครอบครัว ต้องเลิกกันไป แถมดูแลลูกเขาก็รักลูกเขา และพักงานมานาน เริ่มหมดไฟ เลยเริ่มมองหางานที่ทำที่บ้านได้ ไม่อยากไปตะลอนๆนอกบ้าน ช่วงนี้รายได้เลยหด เพราะเงินเก็บเริ่มหมด เงินเติมเริ่มไม่มีเพิ่ม ก็พอหมุนๆไปเดือนชนเดือน ก็ประหยัดๆไป
จากที่เคยซื้อของเล่น เสื้อผ้าให้หลาน ก็ลดๆลง ใช้ตัวเก่าๆไป ไม่มีการซื้อเพิ่ม แต่ช่วงแรกตุนไว้เยอะเหมือนกัน น่าจะใส่ไปได้ถึง2ขวบ(มั้ง)
พอโดนว่ามา มันเลยหมดกำลังใจ เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น เหมือนเราเอาชีวิตเรามาทิ้งไว้ที่นี้ เดิมก่อนแต่ง
1.เรามีรายได้ของเรา หาเองใช้เอง มีความสุขมาก มีพอใช้ซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หนังสืออ่านเล่น ของฟุ่มเฟือยต่างๆ แล้วยังมีเงินเหลือเก็บอีกตัว(ก่อนแต่งฯเราแยกร้านมาเปิดของตัวเอง พอแต่งงานแล้ว ก็เซ้งร้านต่อให้คนอื่นไป)
2.พอแต่งงานมา รายได้มาจากสามี มีเยอะขนาดไหนก็ไม่กล้าใช้ เหมือนเราไม่มีสิทธิ์ใช้ เพราะเราไม่ได้หามาเอง
3.มีลูกยาก แท้งมา3ครั้ง ร่างกายย่ำแย่ลง ปรึกษาแพทย์รักษากันไป เงินหมดไปกับตรงนี้เยอะมาก นี้ก็เป็นส่วนที่เครียด
4.สงสารแม่ตัวเอง อยากได้หลาน พยายามให้เราไปขอ ไปทำ หลายที่ หมดเงิน หมดแรงไปเยอะ ทำให้รู้สึกผิดที่มีหลานให้เขาไม่ได้(พี่น้อง3คน มีเราแต่งคนเดียว) คือบอกแกไม่ได้ ว่าหนูหมดเงินไปทำ แล้วแม่TT
(มีต่อ)