ในอดีต ญี่ปุ่น เคยทำเลวไว้กับ จีน และเกาหลี อย่างมาก
แต่ในปัจจุบัน ญี่ปุ่น ต้องยอมรับ ในฐานะของ จีน และ เกาหลี ในศักดิ์ศรีที่ไม่ด้อยกว่ากัน
ส่วนประเทศไทย ซึ่งโดยความเป็นจริง ในปัจจุบันไทยน่าจะยกระดับตัวเอง ขึ้นไปในระดับ เที่ยบเคียงกับเอเซียตะวันออก ทั้งสี่ประเทศแล้ว
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น และญี่ปุ่นเองก็มองเห็นจุดนี้ และมองประเทศไทยในอีกระดับหนึ่ง และนี่เองที่หลายคนสงสัยว่าทำไมญี่ปุ่นจึงปฎิบัติกับเราแบบนั้น เพราะเค้าไม่ยอมรับทีมไทยที่จะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับเขา นั่นเอง
จะเห็นได้จากการควบคุมทุกอย่างเอาไว้ ด้วยเทคโนโลยี ญี่ปุ่นเป็นคนกำหนด และควบคุมไว้ทั้งหมด
กฎของการแข่งขันได้กำหนดเอาไว้ ว่าการเปลี่ยนตัว หรือ ขอชาเลนจ์ ต้องดำเนินการผ่านเครื่อง แทบเบล็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเป็นคนรับคำขอ และส่งต่อให้กรรมการอีกทีหนึ่ง หากเกิดขัดข้อง ให้ใช้วิธีชูป้ายขอเปลี่ยนตัวเป็นการแก้ไขสำรองเอาไว้ได้
ซึ่ง เมื่อทีมไทยขอเปลี่ยนตัว แล้วเกิดปัญหา เปลี่ยนตัวไม่ได้ เพราะ ไม่มีสัญญาณขอเปลี่ยนตัวส่งมาที่กรรมการ และเมื่อ โค้ขใช้วิธีสำรองในการขอเปลี่ยนตัว กรรมการก็ไม่รับทราบ และยืนยันไม่ให้เปลี่ยนตัว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามกฎที่กำกนดไว้แต่ต้น จึงเป็นธรรมดาที่โค้ช ต้องแสดงออกเพื่อให้คนภายนอกรู้ว่า เกิดปัญหากับระบบจัดการแข่งขัน และตามมาด้วยการถูกลงโทษด้วยใบแดง และเพิ่มคะแนนให้ฝั่งตรงข้าม และสรุปสุดท้ายด้วย การแสดงความเห็นหลังจบการแข่งขันว่า ทีมไทยเสียโอกาสไปเพราะ การกระทำที่ไม่เข้าท่าของโค้ข
ตรงนี้ ทีมงานคนญี่ปุ่นคงวางแผนกันมาอย่างดีแล้ว เพราะเค้าเลือกจะปฎิบัติกับเราเพียงทีมเดียว แน่นอนว่า ทีมชาติอื่นๆย่อมไม่รู้สึกแบบเดียวกับทีมไทย และคงไม่อย่ากมีศัตรูเป็นเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่น เสียอย่างเดียวที่ว่า ญี่ปุ่น ไม่สามารถทำลายขวัญกำลังใจ และ โค้ชทีมชาติไทยได้เลย แต่กลับทำให้ไทยยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ทำไม ญี่ปุ่นถึงกระทำกับไทยแบบนั้น
แต่ในปัจจุบัน ญี่ปุ่น ต้องยอมรับ ในฐานะของ จีน และ เกาหลี ในศักดิ์ศรีที่ไม่ด้อยกว่ากัน
ส่วนประเทศไทย ซึ่งโดยความเป็นจริง ในปัจจุบันไทยน่าจะยกระดับตัวเอง ขึ้นไปในระดับ เที่ยบเคียงกับเอเซียตะวันออก ทั้งสี่ประเทศแล้ว
แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น และญี่ปุ่นเองก็มองเห็นจุดนี้ และมองประเทศไทยในอีกระดับหนึ่ง และนี่เองที่หลายคนสงสัยว่าทำไมญี่ปุ่นจึงปฎิบัติกับเราแบบนั้น เพราะเค้าไม่ยอมรับทีมไทยที่จะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับเขา นั่นเอง
จะเห็นได้จากการควบคุมทุกอย่างเอาไว้ ด้วยเทคโนโลยี ญี่ปุ่นเป็นคนกำหนด และควบคุมไว้ทั้งหมด
กฎของการแข่งขันได้กำหนดเอาไว้ ว่าการเปลี่ยนตัว หรือ ขอชาเลนจ์ ต้องดำเนินการผ่านเครื่อง แทบเบล็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเป็นคนรับคำขอ และส่งต่อให้กรรมการอีกทีหนึ่ง หากเกิดขัดข้อง ให้ใช้วิธีชูป้ายขอเปลี่ยนตัวเป็นการแก้ไขสำรองเอาไว้ได้
ซึ่ง เมื่อทีมไทยขอเปลี่ยนตัว แล้วเกิดปัญหา เปลี่ยนตัวไม่ได้ เพราะ ไม่มีสัญญาณขอเปลี่ยนตัวส่งมาที่กรรมการ และเมื่อ โค้ขใช้วิธีสำรองในการขอเปลี่ยนตัว กรรมการก็ไม่รับทราบ และยืนยันไม่ให้เปลี่ยนตัว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามกฎที่กำกนดไว้แต่ต้น จึงเป็นธรรมดาที่โค้ช ต้องแสดงออกเพื่อให้คนภายนอกรู้ว่า เกิดปัญหากับระบบจัดการแข่งขัน และตามมาด้วยการถูกลงโทษด้วยใบแดง และเพิ่มคะแนนให้ฝั่งตรงข้าม และสรุปสุดท้ายด้วย การแสดงความเห็นหลังจบการแข่งขันว่า ทีมไทยเสียโอกาสไปเพราะ การกระทำที่ไม่เข้าท่าของโค้ข
ตรงนี้ ทีมงานคนญี่ปุ่นคงวางแผนกันมาอย่างดีแล้ว เพราะเค้าเลือกจะปฎิบัติกับเราเพียงทีมเดียว แน่นอนว่า ทีมชาติอื่นๆย่อมไม่รู้สึกแบบเดียวกับทีมไทย และคงไม่อย่ากมีศัตรูเป็นเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่น เสียอย่างเดียวที่ว่า ญี่ปุ่น ไม่สามารถทำลายขวัญกำลังใจ และ โค้ชทีมชาติไทยได้เลย แต่กลับทำให้ไทยยิ่งแข็งแกร่งขึ้น