X-men: Apocalypse
ไม่พูดถึงเนื้อเรื่องให้เสียเวลา มันก็แค่ผู้ร้ายตื่นขึ้นมาแล้วนึกขึ้นมาได้ว่าอยากทำลายโลก ก็เลยไปเกณฑ์ Mutant กาก ๆ มา 3 ตัว + เทพ Magneto อีก 1 องค์ แต่ดันเจอทีมโรงเรียนมัธยมสกัดดาวรุ่ง สุดท้ายก็แพ้ไปตามระเบียบ จบข่าว เห็นผมพูดอย่างนี้ถ้าใครคิดว่าหนังห่วยล่ะก็บอกเลยว่าผิดถนัด เพราะนี่คือหนัง Super Hero “ภาคต่อ” ที่ดีที่สุดเคยดูมา
ผมขอย้ำคำว่า ”ภาคต่อ” อีกครั้ง ลองมองย้อนกลับไปหนัง Super Hero ส่วนใหญ่มักจะจบในตอน ความเชื่อมโยงของแต่ละภาคแทบไม่มี แม้แต่ Civil Wars ที่ผมเคยบอกว่าชอบมากก็เหมือนกัน ส่วน X-men: Apocalypse นั้นเป็นข้อยกเว้น เพราะถ้าดูภาคนี้ตอนเดียวตัวหนังก็แค่สนุกแบบธรรมดา ๆ ครับ แถม CG ยังหลวม ๆ ชวนโดนด่าอีกต่างหาก แต่ถ้าคุณได้ดู First Class กับ Days of Future Past มาก่อนล่ะก็คุณจะอินกับหนังเรื่องนี้มาก รู้สึกเหมือนได้เติมโตไปพร้อมกับตัวละครที่คุณชอบ เช่น การได้เห็น Charles เป็นศาสตราจารย์หนุ่มอนาคตไกลในภาคแรก ต่อด้วยนั่งรถเข็นในภาค 2 ปิดภาคด้วยกลายเป็นไอ้โล้นในภาคนี้ 555 ไม่ใช่ล่ะ
หนังได้นำตัวละครเก่า ๆ กลับมารวมตัวกันมากมาย รวมถึงเหตุการณ์ที่ Mystique กระทำลงไปใน Days of Future Past ก็กลายเกิดเป็นผลกระทบลูกโซ่ในภาคนี้ แต่ที่ดีงามที่สุด คือการกลับมาของ Moira หรือ CIA สาวที่โดน Professor X ลบความทรงจำในภาคแรก ฮามากกับตอนที่ Charles ไปหา Moira ที่ทำงาน แล้วประหม่าพูดผิด ๆ ถูก ๆ น่ารักดี 555 แถมไม่ได้กลับมาเป็นตัวประกอบซะด้วย ชัดเจนว่า Charles ยังมีใจให้นางอยู่ ไม่คิดว่า Bryan Singer จะใส่ความโรแมนติกมุ้งมิ้ง ๆ เข้าไปในหนัง Super Hero แบบนี้ และตอนที่ Mystique เล่าเรื่อง Project X-Men ให้เด็ก ๆ ฟัง แม้จะไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรมาก แต่ผมรู้สึกเศร้าไปกับนางทีเดียว คงเจ็บปวดไม่น้อยทีเดียวที่ต้องเสียเพื่อนไป
Quicksilver ภาคนี้ก็ยังคงขโมยซีนและเทพมากเหมือนเดิม (ถึงหน้าจะแก่ขึ้นไปหน่อยก็เถอะ 555) เอาจริง ๆ นะ กาก 3 ตัวนั้นอ่ะ เจอ Quicksilver คนเดียวก็จะไม่รอดแล้วขนาด Apocalypse ยังเกือบเสียท่า // อีกคนที่ต้องพูดถึงคือ Logan แม้จะรับเชิญบทเล็ก ๆ ออกแค่ 5 นาที ให้แฟน ๆ หายคิดถึง แต่เป็นบทที่สำคัญมาก และน่าจะเชื่อมโยงไปกับหนังภาคใหม่ที่จะตามมา
อย่างว่าหนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน ถ้าคุณชอบหนังแนว Super Hero ที่มี Action + ปล่อยมุข กันเป็นระยะดูไปขำไปแบบค่าย Marvel ล่ะก็ คุณก็อาจจะไม่ชอบเรื่องนี้นัก เพราะจะจิงจังกว่าแต่โชคดีหน่อยที่ไม่ Dark มากไปแบบ BvS ยังมีมุขออกมาบ้างให้ขำก๊ากได้เหมือนกัน ผมฮาสุดคงเป็นมุข Starwars 555
สุดท้ายขอบอก 2 อย่างคือควรดู 2 ภาคแรกก่อนไปดู จะสนุกและเข้าใจเรื่องมากขึ้น และหนังมี End Credit นะครับ อย่าพึ่งรีบลุกไปไหม
เอาไป 9/10 หักเรื่องบทกับ CG นิดนึ่ง
X-men: Apocalypse หนัง Super Hero "ภาคต่อ" ที่ดีที่สุด...
ไม่พูดถึงเนื้อเรื่องให้เสียเวลา มันก็แค่ผู้ร้ายตื่นขึ้นมาแล้วนึกขึ้นมาได้ว่าอยากทำลายโลก ก็เลยไปเกณฑ์ Mutant กาก ๆ มา 3 ตัว + เทพ Magneto อีก 1 องค์ แต่ดันเจอทีมโรงเรียนมัธยมสกัดดาวรุ่ง สุดท้ายก็แพ้ไปตามระเบียบ จบข่าว เห็นผมพูดอย่างนี้ถ้าใครคิดว่าหนังห่วยล่ะก็บอกเลยว่าผิดถนัด เพราะนี่คือหนัง Super Hero “ภาคต่อ” ที่ดีที่สุดเคยดูมา
ผมขอย้ำคำว่า ”ภาคต่อ” อีกครั้ง ลองมองย้อนกลับไปหนัง Super Hero ส่วนใหญ่มักจะจบในตอน ความเชื่อมโยงของแต่ละภาคแทบไม่มี แม้แต่ Civil Wars ที่ผมเคยบอกว่าชอบมากก็เหมือนกัน ส่วน X-men: Apocalypse นั้นเป็นข้อยกเว้น เพราะถ้าดูภาคนี้ตอนเดียวตัวหนังก็แค่สนุกแบบธรรมดา ๆ ครับ แถม CG ยังหลวม ๆ ชวนโดนด่าอีกต่างหาก แต่ถ้าคุณได้ดู First Class กับ Days of Future Past มาก่อนล่ะก็คุณจะอินกับหนังเรื่องนี้มาก รู้สึกเหมือนได้เติมโตไปพร้อมกับตัวละครที่คุณชอบ เช่น การได้เห็น Charles เป็นศาสตราจารย์หนุ่มอนาคตไกลในภาคแรก ต่อด้วยนั่งรถเข็นในภาค 2 ปิดภาคด้วยกลายเป็นไอ้โล้นในภาคนี้ 555 ไม่ใช่ล่ะ
หนังได้นำตัวละครเก่า ๆ กลับมารวมตัวกันมากมาย รวมถึงเหตุการณ์ที่ Mystique กระทำลงไปใน Days of Future Past ก็กลายเกิดเป็นผลกระทบลูกโซ่ในภาคนี้ แต่ที่ดีงามที่สุด คือการกลับมาของ Moira หรือ CIA สาวที่โดน Professor X ลบความทรงจำในภาคแรก ฮามากกับตอนที่ Charles ไปหา Moira ที่ทำงาน แล้วประหม่าพูดผิด ๆ ถูก ๆ น่ารักดี 555 แถมไม่ได้กลับมาเป็นตัวประกอบซะด้วย ชัดเจนว่า Charles ยังมีใจให้นางอยู่ ไม่คิดว่า Bryan Singer จะใส่ความโรแมนติกมุ้งมิ้ง ๆ เข้าไปในหนัง Super Hero แบบนี้ และตอนที่ Mystique เล่าเรื่อง Project X-Men ให้เด็ก ๆ ฟัง แม้จะไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรมาก แต่ผมรู้สึกเศร้าไปกับนางทีเดียว คงเจ็บปวดไม่น้อยทีเดียวที่ต้องเสียเพื่อนไป
Quicksilver ภาคนี้ก็ยังคงขโมยซีนและเทพมากเหมือนเดิม (ถึงหน้าจะแก่ขึ้นไปหน่อยก็เถอะ 555) เอาจริง ๆ นะ กาก 3 ตัวนั้นอ่ะ เจอ Quicksilver คนเดียวก็จะไม่รอดแล้วขนาด Apocalypse ยังเกือบเสียท่า // อีกคนที่ต้องพูดถึงคือ Logan แม้จะรับเชิญบทเล็ก ๆ ออกแค่ 5 นาที ให้แฟน ๆ หายคิดถึง แต่เป็นบทที่สำคัญมาก และน่าจะเชื่อมโยงไปกับหนังภาคใหม่ที่จะตามมา
อย่างว่าหนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน ถ้าคุณชอบหนังแนว Super Hero ที่มี Action + ปล่อยมุข กันเป็นระยะดูไปขำไปแบบค่าย Marvel ล่ะก็ คุณก็อาจจะไม่ชอบเรื่องนี้นัก เพราะจะจิงจังกว่าแต่โชคดีหน่อยที่ไม่ Dark มากไปแบบ BvS ยังมีมุขออกมาบ้างให้ขำก๊ากได้เหมือนกัน ผมฮาสุดคงเป็นมุข Starwars 555
สุดท้ายขอบอก 2 อย่างคือควรดู 2 ภาคแรกก่อนไปดู จะสนุกและเข้าใจเรื่องมากขึ้น และหนังมี End Credit นะครับ อย่าพึ่งรีบลุกไปไหม
เอาไป 9/10 หักเรื่องบทกับ CG นิดนึ่ง