เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาควรออกมาโวยหรือก้มหน้าย่อมรับผล


Cr.สยามรัฐ
การแข่งขันวอลเลย์บอลโอลิมปิค รอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติญี่ปุ่น
ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นก็เคยทำให้ไทย (ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬา) ต้องเจ็บแซบ
จนต้องนอนจมคราบน้ำตามาแล้ว
การกลับมาเจอกันอีกในนัดนี้ นักตบลูกยางทีมชาติไทยมาพร้อมกับความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างแน่นอน
เมื่อเริ่มการแข่งขันในเซ็ตแรก ฝ่ายเราสามารถชนะญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย พอแข่งไปแข่งมาจนถึงเซ็ตที่ 4 โค้ชทีมชาติไทยเห็นว่าควรเปลี่ยนตัวผู้เล่น จึงกดปุ่มขอเปลี่ยนตัวเพื่อส่งนักกีฬาตัวรุกเข้าไปทำเกมส์ แต่ว่าผู้ตัดสินไม่ให้สัญญาณในการเปลี่ยน จึงไม่อาจส่งผู้เล่นลงสนามได้ (โค้ชเริ่มเซ็ง)
ในเซ็ตตัดสิน ฝ่ายเรานำห่างมาก่อนถึงหนึ่งช่วงตัว แต่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อโค้ชกดปุ่มชาร์เลนจ์เพื่อขอทบทวนการตัดสิน (โค้ชมีสิทธิ์ทำ) แต่กรรมการมองว่าเป็นการถ่วงเวลา เลยแจกใบแดงให้โค้ชพร้อมกับเพิ่มคะแนนให้ทีมญี่ปุ่น เมื่อโค้ชรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงออกอาการโวยวายซึ่งอาจจะมากเกินไปในสายตาของคนทั่วไป แต่อาจดูไม่มากไปสำหรับการท้วงสิ่งที่ถูกต้อง หลังจากจบเกมส์โค้ชได้ออกมาบอกว่า
"นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตผม ผมเป็นโค้ชมาประมาณ 20 กว่าปี ผมไม่เคยได้ใบแดงเลย ... เราพยายามเล่นเต็มที่ไม่ได้คิดเอาเปรียบคู่แข่งขัน มันเป็นสิทธิ์ของเราที่จะถาม แต่ผลที่ได้กลับมาทำให้รู้สึกไม่ดี ญี่ปุ่นได้แต้มฟรี 2 แต้ม จนทำให้พวกเขาเอาชนะเราไปได้ในที่สุด" นี่คือความรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในวงการกีฬา
ในแวดวงศาสนาก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เมื่อดีเอสไอขออำนาจของศาลอาญาให้ออกหมายจับพระธัมมชโย เพราะไม่เชื่อว่าท่านป่วยจริง ฝ่ายลูกศิษย์ของพระธัมมชโยทั่วโลก เมื่อทราบข่าวก็ออกมาโวยเพื่อขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อ โดยล่าสุดโฆษกวัดได้ไปขอชี้แจงต่อสังคมผ่านช่องทางต่าง ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งมีประเด็นที่ศิษย์วัดรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมคือ การที่ดีเอสไอออกหมายเลขคดีพิเศษ  เพื่อตั้งข้อหาฟอกเงินและรับของโจร กับเจ้าอาวาสพระธรรมกาย โดยไม่มีมูลฐานความผิดเช่นนี้ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การออกหมายเรียกให้ท่านไปพบทั้งที่อาพาธหนัก  การร้องศาลเพื่อขอออกหมายจับทั้งที่คดีไม่มีมูล การออกสื่อชี้นำสังคมว่าท่านมีความผิดทั้งที่คดีไม่มีมูล การปฏิเสธความเห็นของคณะแพทย์โดยขาดการตรวจสอบ การกระทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าท่านแกล้งป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงคดี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักฐานการกระทำ ที่เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งสิ้น
ด้วยเหตุเหล่านี้ คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย จึงมีสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายที่จะปกป้องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
แต่ว่าคนในสังคมจะเข้าใจในนัยของการออกมาโวย เพื่อเรียกร้องหาความเป็นธรรมของทั้งสองกรณีนี้บ้างหรือเปล่านั้น ก็ต้องดูว่าใครจะเข้าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มากน้อยเพียงใด
ปล.ที่อุตสาห์เขียนมาซะยืดยาวต้องการชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมนิดเดียว
ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ'พุทธะอิสระ' ฐานขวางเลือกตั้ง '2 ก.พ.' แต่ปัจจุบันยังเห็นเดินลอยหน้าลอยตาอยู่แถวกระทรวงยุติธรรม
กับอีกรูปหนึ่งเจ้าทุกข์ออกมาประกาศว่าถ่อนฟ้องแล้ว แต่มีใครก็ไม่รู้มาเร่งให้รีบดำเนินคดี แล้วแบบนี้จะให้เชื่อในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่