วิสาขบูชา ท่านใดไปทำบุญถวายเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารและยา พระอาพาธ รพ.จุฬาได้ย้ายที่ ไป อาคารใหม่ "ภูมิสิริมังคลานุสรณ์

สำหรับวันวิสาขบูชานี้...ท่านใดจะไปทำบุญหรือถวายน้ำปานะหรือถวายอุปโภคบริโภค "พระอาพาธ" เดิมที่ รพ.จุฬา ตึกวชิรญาน ขอแจ้งให้ทราบว่า...เฉพาะส่วนพระอาพาธ นั้นจะย้ายไป ตึกแพทย์"สร้างใหม่" อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ชั้น 28 C รพ.จุฬา เนื่องจากสถานที่เดิมคับแคบและรับผู้ป่วยได้น้อย จึงได้ย้ายไปที่ใหม่เพื่อความสะดวกและบริการต่อพระภิกษุที่อาพาธได้มากขึ้นและดีขึ้นสะอาดขึ้น และเป็นการย้าย ถาวร
..........อาคารภูมิสิริ อยู่ติดถนนราชดำริ... ข้างตึกอปร. ส่วนตึกวชิรญาน ...นั้นสถานที่บริจาคเงินถวายหรือจัดพิธีถวายเพลพระสงฆ์ยังดำเนินตามปกติ และมีโครงการทำเป็น พิพิธภัณท์รวบรวมเรื่องราวของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อท่านยังมีพระชนม์อยู่.... ท่านใดจะไปเยี่ยมพระอาพาธ ก็ไปตามที่ระบุไว้ครับ อนุโมทนาครับ (บางรูปขอเขาถ่ายรูปมาเพื่อเป็นแผนที่สำหรับคนไม่เคยไปเท่านั้น... ปกติไม่อนุญาติให้ถ่ายครับเด็ดขาดนะครับ)


ส่วนที่ทำการบริจาคปัจจัยเงินรักษาอาการพาธ แบบมีใบเสร็จ สามารถทำที่ตึกวชิรญาน ได้เหมือนเดิม

"โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย" ... ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้เถิด ...



อาคารใหม่ ติดถนนราชดำริ ข้างตึก อปร.และสก.



ตึกตรงกลางที่มีสีเขียวๆแซมๆ คือตึก อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์.... เข้าลิฟท์ด้านหน้าถึงชั้น 28 สะดวกที่สุด ถ้าเข้าด้านหลังอาคาร ต้องต่อลิฟท์ด้านหน้าอีกชั้น





แล้วตรงขึ้นลิฟท์ไปชั้น 28 C



ข้างในมีตู้บริจาคสำหรับถวายปัจจัย(แต่ถ้าออกใบเสร็จต้องไปที่ ตึกวชิญานเดิมครับ)







ในส่วนที่ติดต่อ ดูแลพระภิกษุอาพาธใหม่



ส่วนห้องที่ดูแลภิกษุอาพาธ สะอาดและสะดวกกว่าเดิมมาก (ปกติไม่อนุญาติให้ถ่ายรุปเด็ดขาดครับ)





มาแจ้งข่าวให้ทราบครับถ้าจะถวายเครื่องอุปโภค บริโภค น้ำปานะ(พี่บุรุษพยาบาลขอเน้นว่า ถ้าเป็นน้ำผลไม้หรือน้ำที่มีรสหวานน้อยหรือน้ำตาลเทียมก็ได้ครับเพราะ ภิกษุบางท่านเป็นโรคความดันและเบาหวานแต่ไม่สามารถปฎิเสธผู้น้ำมาถวายได้) หรืออาหารเพลเสริม  จะได้ไม่เดินหลงตึกหรือหาไม่เจอกัน(ผมเดินหลงครั้งแรกยังหาลำบากเลย)


อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ


"โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย" ... ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้เถิด ...






พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า:
“โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย”
“ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้”

       การให้การพยาบาลหรือบำบัดโรคภัยไข้เจ็บของพระสงฆ์ เท่ากับการได้อุปัฏฐากพระพุทธองค์เลยทีเดียว ตามความเชื่อผู้คนส่วนมากแล้วมึความเชื่อและศรัทธาว่า ” ถ้าหากผู้ใดที่ได้ถวายอาหารหรือสิ่งของต่อพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุญที่เกิดจากการถวายทานนั้น มีอานิสงส์มากจริงๆ ถึงขนาดผู้นั้นตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ได้เป็นสาวก หรือ อัครสาวก หรือ ปราถนาพุทธภูมิ ก็ได้สมดังใจปรารถนาเลย”ตามพระพุทธดำรัสที่กล่าวมาข้างต้นนั้น การที่เราดูแลช่วยเหลือปรนิบัติต่อพระภิกษุผู้อาพาธ เท่ากับว่าเราได้สร้างกุศลต่อพระพุทธองค์โดยตรงเลยทีเดียว ดังนี้ ผลบุญมหาศาลจักบังเกิดขึ้นแก่เราผู้ได้ปรนนิบัติอุปัฏฐากพระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธ เปรียบเสมือนเราได้ถวายทานต่อพระพุทธเจ้านั่นเอง
ดังนั้น การที่เรามีโอกาสหรือตั้งใจที่จะปรนิบัติดูแลช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่ป่วยไข้ อาพาธ แล้วเราน้อมจิตของเราระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะส่งผลต่อจิตใจอันเป็นกุศลเป็นอย่างมาก และอานิสสงส์ดังกล่าวนั้น บุญจากการอุปัฏฐากพระพุทธองค์ย่อมมีกำลังกุศลมหาศาล หากตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้เราเจริญในธรรมในพระศาสนาของพระพุทธองค์แล้ว กำลังแห่งความตั้งใจนั้นก็ย่อมมีมากมาย และส่งผลให้เราก้าวหน้าในธรรม มีพละและอินทรีย์ เพื่อความหลุดพ้นในโอกาสภายหน้าได้เป็นแน่แท้ เหตุดังนั้น พวกเราอย่ามัวประมาทอยู่เลย พึงกระทำมหากุศลดังกล่าวให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง ครอบครัว และสหธรรมิกของเราโดยพลัน ฯ

อานิสงส์การบริจาคเงินบำรุงภิกษุสามเณรอาพาธ

๑. ชื่อว่าเสมือนอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นจงไปอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด”
๒. อกุศลกรรมในอดีตชาติ จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ ถือเป็นการสเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งได้
๓. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เมื่อได้รับส่วนบุญนี้จะเลิกจองเวรจองกรรม ช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรม
๔. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เทวดารักษา สรรพวิญญาณเมตตาปราณี
๕. เหล่าวิญญาณร้ายไม่อาจเบียดเบียนบีฑาได้
๖. จิตใจสงบร่มเย็น ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี มีสง่าราศีผ่องใส สุขภาพเเข็งเเรง กิจการงานเป็นมงคลแก่ ตัว อายุยืนยาว ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
๗. คุณธรรมเจริญมั่นคง ปฏิบัติธรรมก้าวหน้า ปัญญาเกิด
๘. ไม่พลัดพรากจากคนรัก ของรัก ก่อนเวลาอันควร
๙. ชื่อว่าได้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ยั่งยืน
๑๐. ถือเป็นการทำสังฆทานอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการถวายการอุปัฏฐากบำรุงแก่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก
๑๑. จะไม่ไร้ญาติขาดมิตร เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเล ไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว
๑๒. มีเดชบารมีมาก มียศวาสนา เป็นใหญ่เป็นโต ไม่มีใครข่มขี่เบียดเบียนได้
๑๓. จะเป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ไปที่ใดจะมีผู้คอยช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่ถูกปล่อยให้ขัดข้องในเรื่องทั้งปวง
๑๔. จะมีสมบัติมาก และสมบัติจะไม่ถูกทำลายโดยราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ฯลฯ
๑๕. จะได้พบพระอริยสงฆ์ ได้พบพระอรหันต์ ได้พบพระดี ได้พบพระเครื่องพระบูชาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เจอพระปลอม ไม่เจอพระเก๊ พระทุศีล
๑๖. จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า และเข้าถึงธรรมได้โดยง่ายดาย
๑๗. จะได้เจอครูบาอาจารย์และเพื่อนที่ทรงคุณธรรม
๑๘. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้จะเป็นปัจจัยแก่สวรรค์และนิพพาน
๑๙. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้ สามารถอธิษฐานให้เป็นปัจจัยแก่การบรรลุเป็นพระมหาสาวก พระอัครสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลได้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่