กสทช.มั่นใจประมูล 3จี-4จี เกิดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจปีละ 1.5 แสนล้าน

ที่โรงแรมเอเชีย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยในงานสัมมนาเชิงวิชาการ “การประมูลคลื่นความถี่กับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับภาครัฐ ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม” ว่า ภายหลังที่ กสทช.ได้จัดสรรใบอนุญาตในกิจการโทรคมนาคมบนคลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อรวมกับการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ กสทช.จะจัดประมูลวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ โดยเบื้องต้นคาดผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีการลงทุนต่อปีประมาณ 25,000 ล้านบาทต่อใบอนุญาตในทุกคลื่นความถี่ จะก่อให้เกิดการจ้างงาน และเงินหมุนเวียนในระบบประเทศไทยในระยะ 3 ปีต่อจากนี้ประมาณ 150,000 ล้านบาทต่อปี
          พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า การมาของเทคโนโลยี 3จี และ 4จี จะส่งผลให้อุตสาหกรรมไอทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล คาดคนใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) และใช้แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดสดหรือแอพพลิชั่นที่สามารถตอบสนองได้ในเวลานั้นทันที และส่งผลให้มีผู้ประกอบการหน้าใหม่ (สตาร์ตอัพ) นำเรื่องไอทีมาผนวกในด้านต่างๆ มากมาย ทำให้อุตสาหกรรมด้านต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด คาดอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วใน 1-2 ปี คือ หนังสือพิมพ์ฉบับเล็กๆ นิตยสาร บริษัททัวร์ และธนาคาร มีแนวโน้มลดสาขาและการจ้างงานลง เนื่องจากคนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร รวมถึงสามารถใช้งานธุรกรรมการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-แบงก์กิ้ง) ได้ด้วยตนเอง
          พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า ยอมรับว่าการที่เทคโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ข้อกฎหมายบางประการไม่สามารถไล่ตามเทคโนโลยีทัน จนหลายครั้งเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคในประเด็นต่างๆ ในเวลานี้ทาง กสทช.จึงได้เร่งการดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในมุมของเทคโนโลยีและกฎหมายมากขึ้น เช่น การบังคับคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาทีที่มีการบังคับใช้กันไปแล้ว และกำหนดเพดานราคาค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เป็นมาตรฐานราคากลางแบบเดียวกันทุกคลื่นความถี่ คาดสามารถวิจัยราคากลางและประกาศใช้ได้ไตรมาส 3-4 ปีนี้

          ที่มา : http://www.matichon.co.th/news/141588