แนวคิดที่สุดโต่งของ Apocalypse



มนุษย์เรามักกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้และไม่เข้าใจ ซึ่งบางครั้งมนุษย์ก็เลือกที่จะไม่ทำความเข้าใจอะไร แล้วเลือกที่จะหาข้ออ้างมาปลอบใจตัวเองเพื่อปกปิดความด้อยของตน ดังนั้นการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่ยาก ไม่ได้ยากที่ต้องพยายามทำความเข้าใจ แต่ยากที่จะต้องยอมรับว่าตัวตนของเรานั้นด้อยหรือว่าอ่อนแอ

วิวัฒนาการของมนุษย์คงมาจุดล่มสลายเมื่อถึงยุค social media เราปฏิสัมพันธุ์กันน้อยลง และย้ายบทบาทของตัวเองในสังคมมาไว้บนหน้าจอมือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น เราคิดว่าเราแข็งแกร่งเพียงเพราะว่าเรานั้นมีคีย์บอร์ด และเราคิดว่าเรานั้นเป็นคนดี เพียงเพราะว่าเรานั้นแสดงจุดยืนที่ดีผ่านทางคีย์บอร์ดด้วยเช่นกัน เราไม่ได้ออกไปทำความดีท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้าอีกต่อไปแล้ว เรากลายเป็นคนที่แชร์ แล้วแค่แสดงความคิดเห็นเท่ห์ๆอะไรบางอย่างลงไป แล้วก็คิดในใจว่านี่ล่ะ เราคือคนดีที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ เราทุกคนกลายเป็นนักเคลื่อนไหว ทั้งๆที่เราไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน ก้นของเราก็ยังคงนั่งอยู่กับที่ เท้าของเราไม่ได้ก้าวออกไปไหน เรายืนจ้องอยู่ตรงหน้าจอ หรือไม่ก็นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเราก็คิดว่าเรานี่ล่ะ คือพระเจ้าที่มีพลังอำนาจอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง

จากรีวิวที่แล้วของผม ทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากโลกอินเตอร์เน็ต หลายร้อยข้อความๆคิดเห็นที่หลังไหลกันเข้ามาวิพากย์วิจารณ์งานเขียนของผมด้วยวิธีการสื่อสารที่หลากหลาย สามารถบอกอะไรได้หลายอย่างเกี่ยวกับสังคมในปัจจุบัน งานเขียนของผม อาจไม่ใช่งานเขียนที่ดีซักเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งก็ได้กลั่นกรองความคิดให้เกิดรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่าง  ผ่านประสบการณ์และความรู้ที่มี ทำให้เกิดย่อหน้ายาวๆที่ท่านกำลังได้อ่านอยู่ ณ ปัจจุบัน ผมพยายามขัดเกลาและเรียนรู้จากเสียงวิจารณ์ของคนรอบด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก “เสียงวิจารณ์ที่มีประโยชน์” ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะยอมรับข้อด้อยของตัวเอง และสาเหตุก็ไม่ได้มาจากความอ่อนแอหรือความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่กลับมาจากตัวตนที่กร้าวร้าวที่อยากเก่งให้มากยิ่งขึ้นๆไป หลายข้อความที่อ่านแล้วเข้าใจ พร้อมกับแสดงความคิดเห็น และหลายข้อความที่ไม่ได้อ่าน หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่ก็อยากที่จะวิจารณ์เพียงเพราะเล็งเห็นว่านี่คือโอกาสที่จะได้แสดงออกถึงการได้กดขี่ใครบางคน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องตลกขบขันของสังคมในยุคปัจจุบัน

อุดมการณ์ในการกำจัดคนอ่อนแอให้เหลือเพียงผู้ที่แข็งแกร่งของ Apocalypse อาจเป็นแนวคิดที่สุดโต่ง แต่ก็อาจเป็นแนวทางที่ดีต่อการปรับโครงสร้างของสังคมในยุคปัจจุบันของเราที่ “คนโง่ที่อยากมีจุดยืนในสังคม” และ “คนโง่ที่คิดว่าตนจะเปล่งเสียงอะไรออกมาก็ได้” ผู้คนเหล่านี้คงลืมคิดไปว่าเสียงของตัวเองที่ไม่เคยมีความหมาย ไม่มีใครสนใจ ในโลกของความเป็นจริง ก็ย่อมเป็นเสียงที่ไม่มีความหมาย ผ่านการกดรัวๆบนแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยเช่นกัน คุณค่าของคำพูดและคุณค่าของความคิด ยังคงต้องมาจากน้ำหนักของการกระทำ การขัดเกลา การเติมเต็มความรู้ และการสร้างจุดยืนของตนเองในสังคม การที่คนทุกคนออกเสียงได้ ไม่ได้หมายความว่าเสียงของคนทุกคนจะเป็นเสียงที่มีความหมาย คนโง่ก็ยังคงเป็นคนโง่อยู่วันยังค่ำ หากว่ายังคิดน้อยก่อนจะพูดอะไร คนที่ไม่มีความกล้า ที่เอาแต่ตะโกนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คงไม่ได้ทำให้เป็นคนที่มีความกล้ามากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วคนๆนั้นก็ยังคงขี้ขลาด ไม่กล้าเผิชญหน้า ไม่กล้าสบตา และไม่กล้าให้ใครมาวัดคุณค่าของตัวตนที่ควรมาจากผลของการกระทำ

X-Men : Apocalypse เป็นภาคต่อของ X-Men ที่นำเอาเนื้อเรื่องส่วนใหญ่มาจากซีรี่ย์การ์ตูน Age of Apocalypse ที่ตัว Apocalypse นั้น เป็นตัวร้ายที่มาพร้อมกับอุดมการณ์อันสุดโต่ง แต่ก็ยังคงสามารถนำมาถ่ายทอดออกมาให้ดีได้ ด้วยการผสมผสานน้ำหนักจากตัวละครอื่นๆ ผ่านการกำกับของ Bryan Singer ที่อยู่กับการนำ X-Men มาทำเป็นหนังตั้งแต่ภาคแรก หนังเรื่องนี้มีการแนะนำตัวละครเดิมๆให้คนดูได้มาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง ด้วยฉาก และลำดับภาพที่ที่ดี รวมไปถึงการดีไซน์ฉากหลายฉาก ที่ทำให้ใจเต้นเมื่อได้ดู ความเท่ห์และความเป็นดราม่าที่นักแสดงและทีมงานทำออกมาได้ดีมากๆ ผสมผสานกับอารมณ์ขันที่มีมาให้อย่างน้อยๆและลงตัว ทั้งหมดนี้ทำให้ X-Men ยังคงเป็น X-Men และมีเอกลักษณ์การนำเสนอหนังที่แตกต่างจากทางฝั่งของ Marvel Studio อย่างชัดเจนอีกครั้ง

X-Men : Apocalypse อาจไม่ใช่หนัง Mutant Super Hero ที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ด้วยปริมาณเลือดและความรุณแรงที่มีมาก บวกกับอารมณ์ขันและโทนของเนื้อเรื่องสำหรับเด็กที่มีน้อย การดีไซน์ฉากต่อสู้ที่บางครั้งอาจทำออกมาได้ในระดับปานกลางแต่ก็มีความรุณแรงและสมจริง บวกกับความเป็น Apocalypse ที่เป็นตัวร้ายอย่างสุดโต่งแต่ก็สามารถเป็นตัวเชื่อมโยงสู่ตัวละครอื่นๆได้อย่างดี ทำให้หนังเรื่องนี้มีความสมดุลและมีภาพโดยรวมที่น่าประทับใจ แม้ว่ายังไม่มีการวางแผนว่า X-Men จะมีภาคต่อๆไป แต่ก็ได้มีการวางแผนถึงภาคต่อของตัวละครเดี่ยว และตัวละครกลุ่มใหม่ไว้บ้างแล้ว ทำให้ X-Men : Apocalypse เป็นตัวเลือกหนัง Super Hero ที่ดี ที่ทำให้เราอยากคาดหวังให้ทำภาคต่อๆไป



ฝากติดตาม blog รีวิวหนังด้วยนะครับ
เป็นการรีวิวโดยหยิบยกใจความที่ได้จากหนังมาเขียนเป็นบทความ
อาจไม่ใช่การบอกว่าหนังเรื่องนี้ดี หรือไม่ดีโดยตรง แต่เป็นการบอกถึงสิ่งที่ได้จากหนังโดยไม่สปอยล์หนังเลย
และเป็นการเขียนบทความขึ้นมา เพื่อเป็นบันทึกของความคิดของตัวผมเอง

ขอบคุณครับ

https://nospoil.wordpress.com/2016/05/19/x-men-apocalypse/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่