เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 พ.ค. ร.ต.ท.กานต์พงศ์ มีสายมงคล รอง สว.(สอบสวน) สน.บางชัน รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ที่บริเวณถนนรามอินทรา ขาออก กม. 9 ช่วงใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก (มอเตอร์เวย์) ก่อนถึงห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ แขวงและเขตคันนายาว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์ นิติเวชฯรพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า รุ่น อัลติส สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌต-9706 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ช่องทางด้านซ้าย ภายในรถบริเวณเบาะที่นั่งด้านหลังคนขับพบศพ นายเกรียงไกร นิราราช อายุ 24 ปี นอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำสภาพขาดหลุดลุ่ย กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่ถุงมือสำหรับขี่จยย. ทั้ง 2 ข้าง รองเท้าผ้าใบสีส้ม มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ไหล่ซ้าย แขนซ้าย และรอยถลอกตามร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีขาวลายกราฟฟิกสีดำวางอยู่ที่พื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังชันสูตเบื้องต้นได้มอบศพเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ้งนำศพส่งนิติเวชฯรพ.ตร.เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน นายอำนาจ แจ่มใส อายุ 34 ปี อาชีพรับออกแบบตกแต่งภายใน บ.กู๊ดเวิร์ค-ดีไซด์.ดอทคอม คนขับรถยนต์โตโยต้า ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากจ.พระนครศรีอยุธยา หลังลงพื้นที่เตรียมงานตกแต่งภายในร่วมกับนาย ณรงค์ศักดิ์ พิกุล เพื่อนร่วมงาน เพื่อกลับบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ใน ซ.ลาดพร้าว 71 โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ขาเข้า เมื่อขับรถมาถึง หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รังสิต พบเห็นมีกลุ่มผู้ขับขี่รถจยย.บิ๊กไบก์ โบกรถเรียกขอความช่วยเหลือ บอกมีเพื่อนในกลุ่มประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บขอให้ช่วยเหลือนำตัวคนเจ็บส่ง รพ. ด้วยความเป็นจิตอาสา จึงได้ช่วยเหลือนำคนเจ็บขึ้นรถนั่งที่เบาะหลัง เบื้องต้นทราบจากเพื่อนกลุ่มบิ๊กไบก์ว่าคนเจ็บมีประกันอุบัติเหตุที่ รพ.นวมินทร์ จึงขับรถใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าวงเวียนบางเขน เลี้ยวซ้ายออกถนนรามอินทรา มุ่งหน้ามีนบุรี กระทั่งขับมาถึงที่เกิดเหตุน้ำมันหมด ทำให้ต้องจอดรถเรียกให้คนช่วย แต่เมื่อไปตรวจสอบคนเจ็บก็พบว่าคนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวนอนเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น นายอำนาจ ได้กล่าวตัดพ้อน้อยใจ ที่ถูกมองเหมือนว่าเป็นคนผิด เป็นผู้ที่ก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนจยย.ของผู้ตายก่อนจะอุ้มคนเจ็บขึ้นรถขับรถหลบหนี ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางกลุ่มเพื่อนคนเจ็บก็ไม่ยอมเดินทางมา ทั้งที่ติดต่อไป ทำให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นคนผิด โดยกล่าวว่า "สังคมไทยเป็นแบบนี้ ผมอุตส่ามีจิตอาสาจอดรถช่วยเหลือคนเจ็บที่กำลังเดือดร้อน แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ต้องเสียเวลารอตำรวจมาสอบปากคำ กลุ่มเพื่อนคนตายก็ไม่ยอมมาดูแล พรุ่งนี้ผมก็ต้องทำงาน รถก็เป็นของบริษัท ไม่รู้จะถูกไล่ออกจากงานหรือเปล่า แล้วแบบนี้ต่อไปใครจะกล้าอาสาอยากที่จะช่วยคนอื่นอีก" นายอำนาจ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
ด้านเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้รวมกลุ่มกันขับขี่รถ จยย.แบบ บิ๊กไบก์ จำนวน 5 คัน โดยผู้ตายขี่รถจยย. ยี่ห้อดูคาติ สีแดง หมายเลขทะเบียน 4กต 6789 กรุงเทพมหานคร ไปเที่ยวกันที่จ.พรนครศรีอยุธยา ก่อนแวะกินอาหารที่ร้านแมคโดนัล ภายในปั๊ม ปตท. อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็พากันขี่รถกลับ กทม. โดยผู้ตายขี่นำ เนื่องจากรถมีสมรรถนะเร็วและแรงสุด จึงขี่นำหน้าก๊วนเพื่อนที่มาด้วยกัน กระทั่งมาถึงหน้าห้างเมเจอร์ รังสิต เกิดอุบัติเหตุไปเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกสิบล้อจนรถล้มได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนรถคู่กรณีได้ขับรถหลบหนี เมื่อกลุ่มเพื่อน ๆ ขับรถถึงก้ได้ช่วยกันประคองผู้ตายหลบเข้าข้างทาง ก่อนช่วยกันโบกรถเพื่อช่วยพาร่างคนเจ็บส่งรักษาตัวที่ รพ. แต่ไม่มีใครจอดรถช่วย กระทั่งมีรถโตโยต้า อัลติส ที่มีนายอำนาจและนายณรงค์ศักดิ์ พลเมืองดีทั้งสองคน ยอมจอดรับพาคนเจ็บขึ้นรถเพื่อพาส่งรักษาตัวที่ รพ. แต่กลับต้องมาเสียชีวิตกลางทางเสียก่อน
ขณะที่ ร.ต.ท.กานต์พงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถโตโยต้าและเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงเรียกญาติผู้ตายและกลุ่มเพื่อนที่ขี่รถจยย.มาด้วยกันมาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ตายประสบอุบัติเหตุ และรอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
พลเมืองดีเซ็ง ช่วยหนุ่มบิ๊กไบก์เฉี่ยวสิบล้อแต่ตายระหว่างทาง โดนสอบหาว่าพาศพหนี
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 พ.ค. ร.ต.ท.กานต์พงศ์ มีสายมงคล รอง สว.(สอบสวน) สน.บางชัน รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ ที่บริเวณถนนรามอินทรา ขาออก กม. 9 ช่วงใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก (มอเตอร์เวย์) ก่อนถึงห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ แขวงและเขตคันนายาว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์ นิติเวชฯรพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า รุ่น อัลติส สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌต-9706 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ช่องทางด้านซ้าย ภายในรถบริเวณเบาะที่นั่งด้านหลังคนขับพบศพ นายเกรียงไกร นิราราช อายุ 24 ปี นอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำสภาพขาดหลุดลุ่ย กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่ถุงมือสำหรับขี่จยย. ทั้ง 2 ข้าง รองเท้าผ้าใบสีส้ม มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ไหล่ซ้าย แขนซ้าย และรอยถลอกตามร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีขาวลายกราฟฟิกสีดำวางอยู่ที่พื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังชันสูตเบื้องต้นได้มอบศพเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ้งนำศพส่งนิติเวชฯรพ.ตร.เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน นายอำนาจ แจ่มใส อายุ 34 ปี อาชีพรับออกแบบตกแต่งภายใน บ.กู๊ดเวิร์ค-ดีไซด์.ดอทคอม คนขับรถยนต์โตโยต้า ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากจ.พระนครศรีอยุธยา หลังลงพื้นที่เตรียมงานตกแต่งภายในร่วมกับนาย ณรงค์ศักดิ์ พิกุล เพื่อนร่วมงาน เพื่อกลับบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ใน ซ.ลาดพร้าว 71 โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ขาเข้า เมื่อขับรถมาถึง หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รังสิต พบเห็นมีกลุ่มผู้ขับขี่รถจยย.บิ๊กไบก์ โบกรถเรียกขอความช่วยเหลือ บอกมีเพื่อนในกลุ่มประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บขอให้ช่วยเหลือนำตัวคนเจ็บส่ง รพ. ด้วยความเป็นจิตอาสา จึงได้ช่วยเหลือนำคนเจ็บขึ้นรถนั่งที่เบาะหลัง เบื้องต้นทราบจากเพื่อนกลุ่มบิ๊กไบก์ว่าคนเจ็บมีประกันอุบัติเหตุที่ รพ.นวมินทร์ จึงขับรถใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าวงเวียนบางเขน เลี้ยวซ้ายออกถนนรามอินทรา มุ่งหน้ามีนบุรี กระทั่งขับมาถึงที่เกิดเหตุน้ำมันหมด ทำให้ต้องจอดรถเรียกให้คนช่วย แต่เมื่อไปตรวจสอบคนเจ็บก็พบว่าคนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวนอนเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น นายอำนาจ ได้กล่าวตัดพ้อน้อยใจ ที่ถูกมองเหมือนว่าเป็นคนผิด เป็นผู้ที่ก่อเหตุขับรถเฉี่ยวชนจยย.ของผู้ตายก่อนจะอุ้มคนเจ็บขึ้นรถขับรถหลบหนี ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทางกลุ่มเพื่อนคนเจ็บก็ไม่ยอมเดินทางมา ทั้งที่ติดต่อไป ทำให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นคนผิด โดยกล่าวว่า "สังคมไทยเป็นแบบนี้ ผมอุตส่ามีจิตอาสาจอดรถช่วยเหลือคนเจ็บที่กำลังเดือดร้อน แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ต้องเสียเวลารอตำรวจมาสอบปากคำ กลุ่มเพื่อนคนตายก็ไม่ยอมมาดูแล พรุ่งนี้ผมก็ต้องทำงาน รถก็เป็นของบริษัท ไม่รู้จะถูกไล่ออกจากงานหรือเปล่า แล้วแบบนี้ต่อไปใครจะกล้าอาสาอยากที่จะช่วยคนอื่นอีก" นายอำนาจ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
ด้านเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้รวมกลุ่มกันขับขี่รถ จยย.แบบ บิ๊กไบก์ จำนวน 5 คัน โดยผู้ตายขี่รถจยย. ยี่ห้อดูคาติ สีแดง หมายเลขทะเบียน 4กต 6789 กรุงเทพมหานคร ไปเที่ยวกันที่จ.พรนครศรีอยุธยา ก่อนแวะกินอาหารที่ร้านแมคโดนัล ภายในปั๊ม ปตท. อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็พากันขี่รถกลับ กทม. โดยผู้ตายขี่นำ เนื่องจากรถมีสมรรถนะเร็วและแรงสุด จึงขี่นำหน้าก๊วนเพื่อนที่มาด้วยกัน กระทั่งมาถึงหน้าห้างเมเจอร์ รังสิต เกิดอุบัติเหตุไปเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกสิบล้อจนรถล้มได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนรถคู่กรณีได้ขับรถหลบหนี เมื่อกลุ่มเพื่อน ๆ ขับรถถึงก้ได้ช่วยกันประคองผู้ตายหลบเข้าข้างทาง ก่อนช่วยกันโบกรถเพื่อช่วยพาร่างคนเจ็บส่งรักษาตัวที่ รพ. แต่ไม่มีใครจอดรถช่วย กระทั่งมีรถโตโยต้า อัลติส ที่มีนายอำนาจและนายณรงค์ศักดิ์ พลเมืองดีทั้งสองคน ยอมจอดรับพาคนเจ็บขึ้นรถเพื่อพาส่งรักษาตัวที่ รพ. แต่กลับต้องมาเสียชีวิตกลางทางเสียก่อน
ขณะที่ ร.ต.ท.กานต์พงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถโตโยต้าและเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงเรียกญาติผู้ตายและกลุ่มเพื่อนที่ขี่รถจยย.มาด้วยกันมาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ตายประสบอุบัติเหตุ และรอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป