วิญญาณลองวิชา.

เข้าเรื่องเลยน่ะ อันที่จริงเราตั้งใจพิมประสบการณ์นี้ของเรา4รอบแล้วแต่มันเด้งออกทุกที วันนี้เลยขอเวลามาพิมให้เสร้จแล้วกัน
เมื่อเดือนที่แล้วเวลาตก2ทุ่ม วันนั้นเราเพิ่งไปทะเลกับมา พอดึกๆเราจะหยิบโทรศัพท์เล่นเป็นประจำ ในคืนนั้นเรานอน5ทุ่มกว่าๆได้ ปกติทุกอย่างเราเริ่มง่วง และวางโทรศัพท์ไว้หัวนอนค่อยๆหลับตา สักพักนึงเราได้ยินเสียงหมาหอน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะมันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มันกลับไม่ปกติ เพราะหลังจากที่เราได้ยินแล้วหลับตาเคลิ้มหลับไปพักนึง เรานิมิตเห็นจระเข้ตัวใหญ่มากจ้องมองเราอยู่ตรงกลางทะเล เราคิดไว้แล้วว่าไม่ปกติแน่เพราะเราถ้ามีอะไรผิดปกติเราจะรู้สึกได้ทันที คืนนั้นขณะที่กึ่งความฝันเรามีอาการเหมือนวูบๆ ทั้งๆที่เรานอนในใจเราฝืนพยายามฝืนตัวเองเพราะคล้ายกับอาการที่ว่าโดนผีอำ และเหมือนมีบางอย่างจะเข้ามาแทนที่เรา พอมันวูบ ทีนี้เราขยับไม่ได้เลย ตอนนั้นเราไม่ฝันเพราะเราสะลึมสะลือมองเห็นทุกอย่างในห้อง แต่ไม่เห็นอะไรมากกว่านั้น. ซึ่งเราคิดแค่ว่าโดนผีอำแค่นั้น แต่จริงๆมันไม่ใช่แค่นั้น เรารู้สึกได้ว่ามีคนยึดแขน และเอามือมาบีบที่คอ มันคือความรู้สึกจริงซึ่งเราไม่ได้ฝันเลย เรารู้สึกหายใจไม่ออกและที่ทำให้อาการเราแย่กว่านั้นคือ เราเจ็บขั้วหัวใจมาก ซึ่งเราต้องพุดก่อนเลยว่าเราไม่ได้ฝันและรู้สึกตัวทุกอย่าง ตอนนั้นขั้วหัวใจเราจะขาดแล้วนั่นคือความรู้สึกที่เจ็บปวดและทรมานมาก เจ็บเหลือเกิน เราจึงสวดมนต์ ตั้งนะโม ขึ้นในใจ แต่ยิ่งสวดเหมือนยิ่งฆ่าตัวเอง อาการเราหนักขึ้น มือที่จับคอเริ่มรัดเราแน่นขึ้น จากเจ็บหัวใจขั้วหัวใจยิ่งจะขาดแล้วอ่ะในความรู้สึกนั้น มันไม่ไหวแล้วลมหายใจเราแผ่วเล้วจริงๆ อีกเฮือกเดียวเฮือกสุดท้าย เราแช่ง"ขอให้ชีวิตทรมาน ไม่ได้ผุดได้เกิดให้ตายซ้ำซาก ให้ชีวิตยิ้ม"แขนที่โดนยึดเริ่มคลายลง มือที่บีบคอเราเริ่มปล่อย และจากขั้วหัวใจลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ค่อยๆคลายและก็ปล่อยไป หัวใจเรากลับมาเต้นแรงอีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบแก้มเรา เรารีบลืมตานอนอยู่พักนึง จากนั้นก็เปิดไฟในห้องตอนนั้นประมาณ00.00กว่าๆได้ เราตัดสินใจเปิดไฟและเข้ามุ้งนอนบนเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ เปอดเฟสและบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. แต่ในเวลานั้นเรารู้สึกว่ามีคนคอยวนเวียนรอบตัวเรา โดยเฉพาะส่วนหัวและบริเวนไหล่ขวา เราไม่สนใจและแชทถามพี่ เค้าก้ไม่รู้จะช่วยเรายังไงจึงให้เราสวดมนต์ เราเลยบอกกลับไปว่า สวดไม่ได้ ยิ่งสวดยิ่งเป้นยิ่งหนัก เค้าบอกให้นึกถึงพ่อแม่ แต่อาการของเราไม่ใช่ผีอำ. มันเป้นการถูกกระทำ. และทันทีที่เราคุยก็คล้ายกับมีบางสิ่งจ้องมองเอาหน้ามาแนบไหล่มองดูว่าเราจะคุยอะไร ผ่านไปจนตี2เรากะว่าจะไม่นอนแต่เราไม่ไหว ง่วงมาก. เลยอปิดไฟในห้องทิ้งไว้ เอาพัดลมกับหมอนผ้าห่มออกมานอนกลางบ้าน. ปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้าไม่เข้าห้อง. คืนแรกผ่านไปด้วยความผวาทั้งน้ำตา.
.
.
.
คืนที่2 จากที่เรานอนแค่4ชั่วโมงเราตื่นเช้ามา ทุกวันเราจะส่องกระจกตอนเข้าห้องน้ำเป้นประจำ เราก้าวขาไปหันไปส่องกระจก เราถึงกับน้ำตาคลอเพราะที่เราเห็นในกระจกนั้นมันไม่ใช่เราเลย ใครก็ไม่รู้ทั้งๆที่คนส่องคือเรา. และมีเราคนเดียว เราข่มใจและทำธุระแปรงฟันล้างหน้าให้รีบเสร้จ แล้วรีบออกมาโดยเร็ว และเช่นเดิม เราเดินไปที่ห้องพอก้าวขาเข้าไปก็คล้ายกับมีบางอย่างรอเราอยู่ในนั้นวนเวียนอยู่ในนั้น เราจึงเปิดประตูห้องไว้และหยิบโทรศัพท์ คราวนี้บอกพี่ที่รู้จักกัน เขาตอบกลับมาว่าเรา เพ้อเจ้อ คิดมาก เรื่องส่องกระจก แต่เราก้ย้ำว่าเป็นเรื่องจริง. เค้าก็เหมือนจะไม่เชื่อเราเลยหยุดการสนทนา. ต่อมาตอนค่ำ. เราก็หยิบโทรศัพท์อีกเพื่อที่จะถามพี่ชายว่าแบบนี้จะทำไงแก้ยังไง. แต่ก็เหมือนเดิ.ม กลับกลายเป็นว่าพอเราถามคราวนี้เรามีอาการสั่นและขณะที่คุยก้ยังมีคนเอาหน้ามาแนบไหล่มาแนบข้างๆแก้มบ้างข้างหูบ้าง และเราจากที่มีอาการเริ่มสั่นขณะคุยเรามีอาการคลื่นไส้เวียนหัวมากจะอ้วกให้ได้ แต่เราฝืน เพราะคล้ายกับว่าบางสิ่งจะเข้ามาแทนที่เราให้ได้  เป็นแบบนี้20นาที เราจึงหยุดคุยอาการนั้นค่อยๆคลาย เราเลยลองคุยอีก  อาการนั้นก็กลับมาอีกเราจึงหยุดคุยและออกนอกห้อง สักพักเดินเข้ามา. เปรียบเสมือนมีคนต้อนรับและรออยู่ เราจากที่นอนบนเตียงเราจีงเอาผ้ามาปูนอนข้างล่างนอนและลองหลับตาพักนึงปรากฎว่านอนไม่ได้  พอจะนอนก็คล้ายกับคนมาจ้องหน้าคอยมองตลอดเวลาซึ่งเราไม่ฝันและนี่มันคือความรู้สึกจริฝเพียงแค่หลับตา. เราจึงออปมานอนข้างนอก กลางบ้านที่เดิม  เป็นแบบนี้มา5วัน เราจึงตัดสินใจบอกพี่สาวลูกพี่ลูกน้องกัน เราจึงบอกแม่อีกคนเพื่อที่ว่าถ้าเราเป็นอะไรท่านจะได้รับรุ้สาเหตุ  พอบอกพี่ เราจึงบอกให้พี่พาไปหาอาจารย์หน่อย เรานอนไม่ได้สังเกตุตัวเราจากกระจกที่รถว่าขอบตาช้ำมาก ไม่ใช่เพราะนอนดึกแน่นอนเพราะจากคืนที่2ถัดมาจนได้5วันเรานอนกลางบ้านตลอดและนอน3ทุ่มตื่นสายและนอนกลางวันอีกต่างหาก. ตาช้ำมากเศร้าโทรม เราขี่รถไปกับพี่ที่อาจารยื  เราจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
อ.ตอบ มีวิญญาณ2ตัวอยากลองของลองวิชาเราว่าจะมีใครช่วยเรามั้ย
เรา.ตอบ เขาต้องการอะไรแล้วหนูจะหายมั้ย?
อ.ตอบ เขามาลองวิชาเรา
เรา.ถาม แล้วต้องทำไงถึงจะหาย. ยิ่งสวดยิ่งเป็นแต่พอแช่งแล้วหายค่ะ แล้วหนูต้องทำไง
อ.ถามกลับมา ว่าติดสินบนอะไรไว้
เรา.ตอบ มีสินบนค่ะแต่ยังไม่ได้บนงานไว้แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ค่ะ
อ.ตอบ งานอ่ะเขาให้ได้แต่สิ่งที่อยู่กับเราเขาไม่ให้ทำไปทำที่ไหนเราก้อยู่ไม่ได้
เรา.ถาม แล้วหนูจะหายมั้ยค่ะ สินบนกับที่หนูเป็นตอนนี้เกี่ยวกัยมั้ย?
อ.ตอบ สินบนไม่เกี่ยวแต่อีกคนท้วงมา  วิญญานเขาต้องการลองวิชา เป็นแบบนี้ไปอีก8วัน
เรา.ถาม สินบนหนูยังไม่ได้เกี่ยวมั้ยค่ะที่พ่อแม่บนแล้วจะโดนที่หนู
อ.ตอบ เกี่ยว
เรา.กำลัฝกลับบ้านให้อาจารบืผูกข้อมือให้ ขากลับเลยถามอีกว่าหนุจะได้งานมั้ยคะ เค้าตอบว่าไม่ได้ เราเลยไหว้ปู่ฤๅษีไหว้อาจารย์แล้วก็กลับบ้าน. พอถึงเราเลยถามแม่ว่าบนอะไรไว้แม่บอกว่าบน. แต่ยังไม่ได้ให้เขา นั่นคือเรื่องสินบนไม่เกี่ยวกับเราน่ะของแม่เรามีคนเค้าทักท้วงฝากเราถาม ส่วนที่เราบนไว้ยังไม่ได้นั่นคืออีกเรื่องหนึ่ง. แต่เราแปลกใจตรงที่อาจารย์บอกว่า งานไม่ได้เพราะสิ่งที่อยู่กับเราเขาไม่ให้ทำ เรายังไม่เข้าใจอยู่ดี  แต่ช่างมันเหอะ หลังจากที่อาจารยืบอก8วันเราเลยออกมานอนกลางบ้านตลอดจนเราจะรุ้สึกได้ว่าไม่มีใครรออยุ่ในห้อง ผ่านไปได้ เรากลับมานอนที่เดิมในห้องโดยไม่มีความรุ้สึกว่ามีคนคอยเราอยุ่

แต่จากประสบการร์เราในตอนเด็ก มักจะโดนผีอำบ่อยมาก แต่เราไม่ติดใจอะไร และมีการเห็นสิ่งที่ไม่อยากมองไม่บ่อยมากแต่ก็ไม่ได้เจอแบบจังๆแค่แวบๆก็ไม่ค่อยบ่อย พอตอนอยู่มัธยม เราก็โดนพอเริ่มโตจะไม่ค่อยเป็นเป็นแต่ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน. ถ้าเป็นก็จะเป็นหนักแต่ก็ไม่เท่าปัจจับันนี้ เห็น เริ่มเห็นบางสิ่งเป็นรูปร่าง เลือนนลางๆ. ผ่านมา8ปีแล้วเรายังคงเป็นอยู่ แต่นานๆทีปีจะเป็นสักครั้ง. เราเคยเป็นครั้งนึง. คล้ายๆแบบนี้แหล่ะ มันวูบเข้ามาและก็ขยับไม่ได้เลย ตอนนั้นอาการคือ เหมือนร่างเราจะหลุด คอเหมือนจะถอด. เหมือนมันยืด มันจะหลุดทั้งร่างให้ได้แต่เราฝืน เราเลยลองปล่อยแป้ปนึง ปรากฎว่ายิ่งปล่อยยิ่งจะหลุด  แต่ยิ่งสุ้ยิ่งเหนื่อยฝืนแล้วเหนื่อยมาก. สุดท้ายเราก็แช่งนี่แหล่ะ. จึงคลายออกมาได้ นี่คือประสบการณี่เราเจอมาและทุกวันนี้ยังคงเป้นอยู่แต่ไม่บ่อย
แต่ถ้าเป็นทีจะหนักๆขึ้นแต่เราเริ่มชินและค่อยปล่อยวางยิ่งเรากลัวตกใจ. ยิ่งไปกันใหญ่  
เรื่องของเราก็มีเพียงเท่านี้มาแชร์ให้ทุกคนฟังและทุกสิ่งที่เราได้บอกเล่านั่นคือเรื่องจริงไม่มีการแต่ง.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่