...เก๋าเอ้ย เก๋าเอ้ยยยยย... โม๊ะๆๆๆๆๆๆ



สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ และสมาชิกทุกๆท่านครับ
ช่วงนี้ ใกล้เดือนหงาย กุ้ง ปู ไม่ค่อยสมบรูณ์นัก ก็เปลื่ยนมา กินปลา กันนะครับ
ปลาที่จะนำเสนอให้ชม ก็ตามที่จั่วหัวไว้นั่นแหละครับ นึกอะไรไม่ออก ก็"เก๋า"เข้าไว้

บรรดา ปลาเก๋า ที่มีอยู่ในบ้านเรา แค่ลำดับวงศ์ ตามสกุลที่เรียก ก็แทบจะจำไม่ไหว ยิ่งเรียกชื่อเฉพาะ ยิ่งยากขึ้น
เพราะแต่ละที่ แต่ละถิ่น จะเรียกชื่อเฉพาะ ที่ต่างกันไปตามแม่ค้า หรือ ชาวประมง เรียกไว้

ปลาเก๋า มีตั้งแต่ชนิดราคาถูกๆ กก ละ50 บาท ไปจนถึง 3-4 พันบาท
ปลาเก๋า ชื่อตามราชการเรียก ปลากะรัง เป็นปลาที่อาศัยอยู่รวมกันในหลีบหิน ที่เป็นช่อง เป็นรู โพรงหินจะเป็นที่อาศัยอย่างดี
เก๋าบางชนิด อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย ปากแม่น้ำ ตามธรรมชาติ เมื่อโตเต็มที่ ก็จะออกสู่ทะเลลึก เพื่อผสมพันธ์  และวางไข่
ใกล้ๆทะเลชายฝั่ง หรือเกาะ  ไข่จะถูกพัดพา เข้าฝั่ง เพาะฟักเป็นตัว อาศัยอยู่แนวตลิ่งน้ำตื้น ป่าโกงกาง ป่าชายเลน
ทั้งนี้ เพื่อหลบหลีกจากศัตรู ในทะเลลึก อีกทั้งในชายฝั่งมีอาหารที่เหมาะสมกับปลาวัยอ่อน  เพื่อการเจริญเติบโต
อาหารของปลาเก๋า จะเป็นพวกสัตว์น้ำ เช่นลูกปู ลูกกุ้ง ลูกปลาบางชนิด เรียกได้ว่า เป็นปลาตะกละ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า
นักตกปลาทุกคนทราบดี ถึงความตะกละของปลาเก๋า

จากการที่ปลาเก๋าปรับสภาพของตัวเองให้อยู่ในน้ำกร่อยได้ ชาวประมงก็มีอาชีพเพิ่มขึ้น คือการเลี้ยงปลาในกระชัง
เมื่อออกวางลอบได้ลูกปลาเก๋า ขนาดใบมะขาม ก็จะนำมาอนุบาล เลี้ยงด้วยปลาบด จนมีขนาดตั้งแต่5-10 cm
ก็จะนำออกขาย ให้ผู้เลี้ยง ตามปริมาณคำสั่งซื้อ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับขนาด และชนิดของปลาเก๋านั้นๆ
ชาวบ้านใช้เวลาเลี้ยงราว9-12 เดือนก็จับขาย ตามความต้องการของผู้ซื้อ เช่น ปลาขนาด7-8 ขีด ราคาจะดีเพราะเป็นปลาไซร์จาน
ขนาด9-10 ขีด ใหญ่หน่อย เหมาะทำโต๊ะจีน  ขนาดโลขึ้นไป ก็มีการส่งออกไป ตปท  เช่นจีน ฮ่องกง มาเล สิงคโปร์
ทำรายได้ปีๆนึง หลายล้าน บางปี ปลาขาดตลาด ราคาขายสูง คนเลี้ยงก็ร่ำรวยขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่