http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000049850
เมืองไทย 360 องศา
จะเรียกว่าพิลึกกึกกือกันแบบหักมุมสามร้อยหกสิบองศากันเลยทีเดียวสำหรับ"พวกไพร่"ในยุคใหม่ ในยุค 2016 ที่ออกมาสนับสนุนเชิดชูและปกป้องประเทศมหาอำนาจอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป เพราะหากจำกันได้ย้อนหลังกลับไปแค่ไม่นานนัก เพราะยังอยู่ในช่วงอายุของหลายคน โดยเฉพาะใน"ยุค 5 ย."ที่พวกผมยาว ใส่รองเท้ายาง สะพายย่าม เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ในยุคแสวงหาความหมาย ที่ในยุคนั้นต้องต่อต้าน"จักรวรรดินิยมอเมริกา" ต่อต้านสงคราม ที่สำคัญก็คือต่อต้าน "กระฎุมพี"หรือพวกพ่อค้าวานิช หรือที่ในมุมมองของพวกมาร์กซิสต์บอกว่านี่คือพวก"ชนชั้นปกครอง"ที่เอาเปรียบ
ขณะเดียวกันคงจำกันได้ว่ากลุ่มการเมืองยุคใหม่ที่สถาปนาตัวเองว่า"ไพร่"นั้น เป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคนเสื้อแดง ซึ่งก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย เป็นคนในสังกัดของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร พวกเขาอ้างว่าเป็น"ฝ่ายประชาธิปไตย" เพราะอ้างว่าพวกเขามาจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงทุกเรื่องต้องตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง ตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก
มองฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวก"อำมาตย์และพวกอนุรักษ์นิยม" โดยฝ่ายแรกมองว่าฝ่ายหลังเป็นพวกล้าหลัง เป็นมีแนวคิดสนับสนุนเผด็จการ ซึ่งก็เป็นทัศนะที่แปลกประหลาด เพราะหากย้อนให้เห็นภาพ คนที่พวกไพร่กลุ่มนี้ คือ บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถวต่างเคารพบูชา ทักษิณ ชินวัตร กลับเป็น นายทุนใหญ่ และยังเป็น"ทุนผูกขาด"เสียอีก และตามแบ็กกราวด์ก็ชัดเจนว่า"ที่มีวันนี้เพราะเผด็จการรสช.เขาให้" ส่วนการที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยนั้นก็เป็นประชาธิปไตยด้วยเสียงส่วนใหญ่ "แต่ไม่ใช่เพื่อคนส่วนใหญ่" และการชนะเลือกตั้งก็ใช้วิธีซื้อตั้งแต่ซื้อ สส.ซื้อพรรคการเมือง แน่นอนว่านี่คือนิยามของประชาธิปไตยตะวันตกแบบสหรัฐอเมริกา ที่มักนำมาอ้างกับบางประเทศเพื่อหวังประโยชน์บางอย่าง ขณะที่ประเทศใดก็ตามที่ตัวเองได้ประโยชน์ก็ทำเป็นหลับตาไม่รู้ไม่เห็น เช่นแทบทุกประเทศในตะวันออกกลางมีประเทศไหนบ้างที่เป็นประชาธิปไตย นอกเหนือจากอิสราเอล แต่สหรัฐฯก็สนับสนุนแบบสุดลิ่ม ซึ่งก็ว่ากันไปไม่ติดใจ เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นว่านี่คือ"ผลประโยชน์ระหว่างประเทศ"ที่บางครั้งคำว่าประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน เป็นข้ออ้างเพื่อเป้าหมายที่ซ่อนเร้นบางอย่างเท่านั้น
ขณะเดียวกันหากพิจารณากันเฉพาะกรณีของ ทักษิณ ชินวัตร กับพวก แน่นอนว่าย่อมเข้าข่ายประชาธิปไตย เพราะมาจากการเลือกตั้ง แต่จะเป็นเพียงรูปแบบหรือไม่ ส่วนเนื้อหาแท้จริงเป็นแบบไหน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ย่อมรู้ดี เพราะทุกคนต่างมีประสบการณ์ตรงกันมานาน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องพิจารณากันในเวลานี้ก็คือ พวกไพร่ กลับไปญาติดีและเชิดชูยกย่อง สหรัฐอเมริกา ที่สมัยก่อนคนกลุ่มประณามแบบเกลียดชังว่าเป็น "จักรวรรดินิยม" เป็นซาตาน ขณะเดียวกันในความเป็นจริงเครือข่ายและคนที่สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร มีไม่น้อยที่มีบทบาทสำคัญในเวลานี้ก็ยังเป็น"พวกฝ่ายซ้าย"เคยเข้าป่ากับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) ทำสงครามลัทธิกันมาแล้ว และเคยถึงขั้นเดินขบวนขับไล่สหรัฐฯในประเทศไทยกันมาแล้ว
แต่มาวันนี้กลับเป็นหนังคนละม้วน กลับตาลปัตร เพราะคนพวกนี้กลับหันมายกย่องชื่นชมท่าทีและความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในทุกเรื่อง ล่าสุดบรรดา แกนนำคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ วรชัย เหมะ รวมไปถึง สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ต่างก็ออกมาชื่นชมยินดีสหรัฐฯที่ออกคำแถลงตำหนิไทยในเรื่องสิทธิมนุษยชน การจำกัดสิทธิเสรีภาพ และเรื่องสำคัญก็คือ สหรัฐฯได้...... จึงได้ออกมาประณามสหรัฐฯและเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เกล็น เดวีส์ อย่างรุนแรง ว่าแทรกแซงกิจการภายในและไร้มารยาททางการทูต
แต่บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงกลับออกมาปกป้องสหรัฐฯ และถึงขั้นขู่คนไทยด้วยกันที่แสดงท่าทีไม่พอใจทูตสหรัฐฯว่าทำผิดธรรมเนียมทูต และยังเตือนให้ระวังจะติดคุก หากคนไทยคนไหนก็ตามที่ไปแสดงท่าทีแบบนั้นต่อ เกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย
มีคนสำคัญและมีชื่อเสียงหลายคน ต่างออกมาประณาม และเรียกร้องให้มีการแสดงปฏิกิริยาต่อต้านสหรัฐฯกันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดีนั่นเป็นปฏิกิริยาของคนไทย ไม่ใช่ท่าทีของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกที่คนไทยมีท่าทีแบบนี้ในรอบหลายสิบปี
แน่นอนว่าหากใครได้ติดตามการเมืองมาแบบรู้ทันอย่างต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่สหรัฐฯมีท่าทีสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายของเขา เนื่องจากเชื่อมต่อด้วย"ทุนสามานย์" เป็นทุนใหญ่ข้ามชาติ ที่บทบาทของ ทักษิณ ในอดีตก็ไม่ต่างจาก"นายหน้า"แบบผลประโยชน์วินวิน แต่ในยุคปัจจุบันเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เปลี่ยนอำนาจรัฐใหม่ แม้จะยังไม่ชัดนักว่าผลประโยชน์สหรัฐฯจะได้รับความกระทบกระเทือน แต่เชื่อว่าคงไม่เหมือนเดิม จึงต้องมีท่าทีบางอย่างออกมาดังกล่าว
ขณะเดียวกันสำหรับการพิจารณาเฉพาะในมุมของ "ไพร่ยุคใหม่"กลับมีมุมมองที่น่าประหลาด เพราะพวกเขากลับยืนเคียงข้างและปกป้องพวกจักรวรรดินิยมอเมริกา ถึงขั้นขู่คนไทยด้วยกันในทำนองว่าห้ามไปต่อต้านหรือประณาม สหรัฐฯหรือทูตสหรัฐฯเป็นอันขาด เพราะอาจถึงขั้นติดคุก และกระทบกับความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศ ว่ากันถึงขั้นนั้นทีเดียว ซึ่งก็ได้แต่มองว่านี่คือเรื่องแปลกแบบพิลึกกึกกือมาก !!
โลกทุกวันนี้ มีแต่เรื่อง ฮา ๆ พิลึก ๆ นะ ว่ามั้ย
โลกหักมุมพิลึกเมื่อ"ไพร่-ทักษิณ"หันมาเชิดชูยกย่องทุนนิยมมะกัน !! (โจ ขิง)
เมืองไทย 360 องศา
จะเรียกว่าพิลึกกึกกือกันแบบหักมุมสามร้อยหกสิบองศากันเลยทีเดียวสำหรับ"พวกไพร่"ในยุคใหม่ ในยุค 2016 ที่ออกมาสนับสนุนเชิดชูและปกป้องประเทศมหาอำนาจอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป เพราะหากจำกันได้ย้อนหลังกลับไปแค่ไม่นานนัก เพราะยังอยู่ในช่วงอายุของหลายคน โดยเฉพาะใน"ยุค 5 ย."ที่พวกผมยาว ใส่รองเท้ายาง สะพายย่าม เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ในยุคแสวงหาความหมาย ที่ในยุคนั้นต้องต่อต้าน"จักรวรรดินิยมอเมริกา" ต่อต้านสงคราม ที่สำคัญก็คือต่อต้าน "กระฎุมพี"หรือพวกพ่อค้าวานิช หรือที่ในมุมมองของพวกมาร์กซิสต์บอกว่านี่คือพวก"ชนชั้นปกครอง"ที่เอาเปรียบ
ขณะเดียวกันคงจำกันได้ว่ากลุ่มการเมืองยุคใหม่ที่สถาปนาตัวเองว่า"ไพร่"นั้น เป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคนเสื้อแดง ซึ่งก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย เป็นคนในสังกัดของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร พวกเขาอ้างว่าเป็น"ฝ่ายประชาธิปไตย" เพราะอ้างว่าพวกเขามาจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงทุกเรื่องต้องตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง ตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก
มองฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวก"อำมาตย์และพวกอนุรักษ์นิยม" โดยฝ่ายแรกมองว่าฝ่ายหลังเป็นพวกล้าหลัง เป็นมีแนวคิดสนับสนุนเผด็จการ ซึ่งก็เป็นทัศนะที่แปลกประหลาด เพราะหากย้อนให้เห็นภาพ คนที่พวกไพร่กลุ่มนี้ คือ บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถวต่างเคารพบูชา ทักษิณ ชินวัตร กลับเป็น นายทุนใหญ่ และยังเป็น"ทุนผูกขาด"เสียอีก และตามแบ็กกราวด์ก็ชัดเจนว่า"ที่มีวันนี้เพราะเผด็จการรสช.เขาให้" ส่วนการที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยนั้นก็เป็นประชาธิปไตยด้วยเสียงส่วนใหญ่ "แต่ไม่ใช่เพื่อคนส่วนใหญ่" และการชนะเลือกตั้งก็ใช้วิธีซื้อตั้งแต่ซื้อ สส.ซื้อพรรคการเมือง แน่นอนว่านี่คือนิยามของประชาธิปไตยตะวันตกแบบสหรัฐอเมริกา ที่มักนำมาอ้างกับบางประเทศเพื่อหวังประโยชน์บางอย่าง ขณะที่ประเทศใดก็ตามที่ตัวเองได้ประโยชน์ก็ทำเป็นหลับตาไม่รู้ไม่เห็น เช่นแทบทุกประเทศในตะวันออกกลางมีประเทศไหนบ้างที่เป็นประชาธิปไตย นอกเหนือจากอิสราเอล แต่สหรัฐฯก็สนับสนุนแบบสุดลิ่ม ซึ่งก็ว่ากันไปไม่ติดใจ เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นว่านี่คือ"ผลประโยชน์ระหว่างประเทศ"ที่บางครั้งคำว่าประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน เป็นข้ออ้างเพื่อเป้าหมายที่ซ่อนเร้นบางอย่างเท่านั้น
ขณะเดียวกันหากพิจารณากันเฉพาะกรณีของ ทักษิณ ชินวัตร กับพวก แน่นอนว่าย่อมเข้าข่ายประชาธิปไตย เพราะมาจากการเลือกตั้ง แต่จะเป็นเพียงรูปแบบหรือไม่ ส่วนเนื้อหาแท้จริงเป็นแบบไหน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ย่อมรู้ดี เพราะทุกคนต่างมีประสบการณ์ตรงกันมานาน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องพิจารณากันในเวลานี้ก็คือ พวกไพร่ กลับไปญาติดีและเชิดชูยกย่อง สหรัฐอเมริกา ที่สมัยก่อนคนกลุ่มประณามแบบเกลียดชังว่าเป็น "จักรวรรดินิยม" เป็นซาตาน ขณะเดียวกันในความเป็นจริงเครือข่ายและคนที่สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร มีไม่น้อยที่มีบทบาทสำคัญในเวลานี้ก็ยังเป็น"พวกฝ่ายซ้าย"เคยเข้าป่ากับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) ทำสงครามลัทธิกันมาแล้ว และเคยถึงขั้นเดินขบวนขับไล่สหรัฐฯในประเทศไทยกันมาแล้ว
แต่มาวันนี้กลับเป็นหนังคนละม้วน กลับตาลปัตร เพราะคนพวกนี้กลับหันมายกย่องชื่นชมท่าทีและความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในทุกเรื่อง ล่าสุดบรรดา แกนนำคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ วรชัย เหมะ รวมไปถึง สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ต่างก็ออกมาชื่นชมยินดีสหรัฐฯที่ออกคำแถลงตำหนิไทยในเรื่องสิทธิมนุษยชน การจำกัดสิทธิเสรีภาพ และเรื่องสำคัญก็คือ สหรัฐฯได้...... จึงได้ออกมาประณามสหรัฐฯและเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เกล็น เดวีส์ อย่างรุนแรง ว่าแทรกแซงกิจการภายในและไร้มารยาททางการทูต
แต่บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงกลับออกมาปกป้องสหรัฐฯ และถึงขั้นขู่คนไทยด้วยกันที่แสดงท่าทีไม่พอใจทูตสหรัฐฯว่าทำผิดธรรมเนียมทูต และยังเตือนให้ระวังจะติดคุก หากคนไทยคนไหนก็ตามที่ไปแสดงท่าทีแบบนั้นต่อ เกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย
มีคนสำคัญและมีชื่อเสียงหลายคน ต่างออกมาประณาม และเรียกร้องให้มีการแสดงปฏิกิริยาต่อต้านสหรัฐฯกันอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดีนั่นเป็นปฏิกิริยาของคนไทย ไม่ใช่ท่าทีของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกที่คนไทยมีท่าทีแบบนี้ในรอบหลายสิบปี
แน่นอนว่าหากใครได้ติดตามการเมืองมาแบบรู้ทันอย่างต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่สหรัฐฯมีท่าทีสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายของเขา เนื่องจากเชื่อมต่อด้วย"ทุนสามานย์" เป็นทุนใหญ่ข้ามชาติ ที่บทบาทของ ทักษิณ ในอดีตก็ไม่ต่างจาก"นายหน้า"แบบผลประโยชน์วินวิน แต่ในยุคปัจจุบันเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เปลี่ยนอำนาจรัฐใหม่ แม้จะยังไม่ชัดนักว่าผลประโยชน์สหรัฐฯจะได้รับความกระทบกระเทือน แต่เชื่อว่าคงไม่เหมือนเดิม จึงต้องมีท่าทีบางอย่างออกมาดังกล่าว
ขณะเดียวกันสำหรับการพิจารณาเฉพาะในมุมของ "ไพร่ยุคใหม่"กลับมีมุมมองที่น่าประหลาด เพราะพวกเขากลับยืนเคียงข้างและปกป้องพวกจักรวรรดินิยมอเมริกา ถึงขั้นขู่คนไทยด้วยกันในทำนองว่าห้ามไปต่อต้านหรือประณาม สหรัฐฯหรือทูตสหรัฐฯเป็นอันขาด เพราะอาจถึงขั้นติดคุก และกระทบกับความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศ ว่ากันถึงขั้นนั้นทีเดียว ซึ่งก็ได้แต่มองว่านี่คือเรื่องแปลกแบบพิลึกกึกกือมาก !!
โลกทุกวันนี้ มีแต่เรื่อง ฮา ๆ พิลึก ๆ นะ ว่ามั้ย