ผมเชื่อว่าคนส่วนมากกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่ครับ (เกือบทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
การแชร์ข่าวแย่ๆหรือเม้นด่าตามข่าว Facebook ไม่ได้รับว่าเป็นการทำความดีนะครับ
เพราะงั้นมันไม่ได้แปลว่าวันนี้คุณทำอะไรให้สังคมแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนดี
มันแค่แสดงให้เห็นว่าถึงความตื้นเขินทางความคิด และความขาดความเข้าใจในเรื่องศีลธรรมอย่างรุนแรง
การที่คุณอยากเห็นคนที่คุณตัดสินว่า"เลว"เจ็บปวด ผมไม่คิดว่ามันแปลกหรือผิดตรงไหนที่คนเหล่านั้นจะอยากให้คุณเจ็บปวดเหมือนกัน
ความจริงคือคุณไม่สามารถประเมิณคนๆหนึ่งจากการกระทำเดียวได้ และส่วนตัวผมเชื่อว่าการกระทำใดๆไม่สามารถที่จะถูกตัดสินว่าดีหรือเลวได้ เพราะคนทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง
เพราะงั้นการกระทำของคุณไม่มีประโยชน์ครับ มันแค่สร้างมลภาวะทางจิตใจให้คนอื่น ทำลายชีวิตคนบางคนที่คุณไม่รู้จักมาก่อน และสร้างรายได้ให้พวกสื่อที่ต่ำลงๆทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจนะครับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะรู้สึกไม่ดีเวลารับรู้เรื่องที่เป็นโศกนาฏกรรม แต่สิ่งที่คุณทำไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมานอกจากความรู้สึกของคุณเอง
คือต้องเข้าใจก่อนว่าข่าวพวกนี้มันเขียนขึ้นโดยคนที่หารายได้จากviewนะครับ เค้าไม่ได้สนใจว่าอะไรจะเป็นยังไง เดือดร้อนใครมั้ย เค้าสนแค่คนเข้ามาอ่านเยอะมั้ย
ผมว่ามันทุเรศครับ คนพวกนี้ไม่ได้สนใจจะทำให้อะไรมันดีขึ้น ไม่สนใจว่ามันจะมีผลกระทบกับชีวิตใคร ไม่ได้สนใจว่ามีความเข้าใจในเรื่องนั้นๆดีขนาดไหน สนแต่ว่าช่วงนี้เรื่องไหนกำลังเป็นที่สนใจ และเขียนยังไงให้มันน่าสนใจ
ถ้าลองสังเกตดูจะรู้ครับ ว่าปีหลังๆมามีข่าวตำรวจกับเด็กโดนข่มขืนเยอะเป็นพิเศษ
ที่ผมเขียนนี่เพราะหลังๆรู้สึกทนไม่ไหวจริงๆครับ ทั้งสื่อแย่ๆ ทั้งคนที่ตามน้ำไปกับสื่อแย่ๆมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจะล้ำเส้นขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่างง่ายๆ คนบางคนยังตามถ่ายรูปเด็กผู้หญิงที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วมีคนตายหลายคนเมื่อหลายปีก่อน ตอนเขาอายุแค่14-15 แล้วเอามาลงเป็นข่าวว่าเข้าเรียนในมหาลัย ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือยังมีคนตามด่าโดยไม่คิดให้ดีอยู่อีก
หรือต้องให้เค้าเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่เรียนไม่ทำห่าอะไร หรือฆ่าตัวตายไปเลยจากการกระทำที่ไม่คิดให้ดีและไม่ได้ตั้งใจตอนเป็นเด็ก? แบบนี้หรอครับถึงจะเรียกว่าความยุติธรรม?
มันไม่ง่ายหรอกครับที่ต้องใช้ชีวิตโดยแบกรับความรู้สึกผิดและตอนนั้นก็โดนสังคมด่าไปขนาดนั้นแล้วเพราะงั้นผมกลับชื่นชมที่เค้าสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
ต้องอาศัยความเข้มแข็งมากเลยนะครับ การที่จะออกไปเผชิญกับโลกโดยที่รู้ว่าจะต้องมีคนเอาเรื่องแย่ๆที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตกลับมาพูดอีก
อีกตัวอย่างหนึ่ง ตอนนี้ที่สื่อกับสังคมกำลังโจมตีตำรวจอย่างรุนแรง ขอไม่ออกความเห็นใดๆกับส่วนอื่นนะครับ ผมไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรผิดตรงไหน
อย่าหาว่าผมเข้าข้างตำรวจนะครับ ผมว่าผมเกลียดตำรวจมากกว่าใครหลายๆคนเยอะ
เค้าเชื่อว่าความถูกต้องคือการทำตามกฎหมาย แต่ผมไม่เห็นด้วยกับที่เค้าบอก เพราะงั้นผมว่าผมมีเหตุผลมากกว่าใครๆที่จะเกลียดตำรวจ
แต่ที่ต่างกันคือ ผมไม่ได้เกลียดคนที่เป็นตำรวจ แต่เกลียดตำรวจ มันต่างกันเยอะนะครับ
ถ้าโดนจับบ่อยๆจะรู้ครับ ว่าตำรวจเขียนสำนวนอ่อนให้เกือบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน ถ้าพูดกับเค้าดีๆ เค้าก็จะดีตอบครับ เพราะเค้าก็เป็นคนเหมือนเรา เค้ารู้สึกสงสารคนอื่นเป็นเหมือนกัน
และอันนี้เป็นแค่ความคิดของผมนะ น่าจะเป็นเพราะอาชีพของเค้าต้องเจอคนที่ทำผิดกฎหมายทุกวัน เค้าเลยรู้ว่าคนที่ทำผิดกฎหมายไม่ได้เป็นคนเลวทุกคน
คนที่บอกว่าตำรวจขี้โกงรับสินบน คนนั้นก็ขี้โกงจ่ายสินบนเหมือนกัน เพราะเอาจริงๆมันเป็นทางออกที่ง่ายและไวที่สุดแล้ว
หลายคนคิดว่าออกสื่อจะทำให้เกิดความยุติธรรม สุดท้ายลองให้ดีๆว่าผลกระทบจะเป็นยังไง ในระยะยาว การทำให้ภาพภจน์ของตำรวจดูขี้โกง สุดท้ายก็จะมีแต่คนขี้โกงที่อยากใช้ประโยชน์จากอำนาจไปเป็นตำรวจ คนดีๆเค้าก็ไปทำอย่างอื่น
สุดท้างอาชีพนี้จะกลายเป็นอาชีพที่มีแต่คนขี้โกงจริงๆครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอาชีพนักการเมืองแล้วนะครับ ถ้าเกิดขึ้นกับอาชีพตำรวจประเทศนี้คงถึงคราวล่มสลายครับ
ที่สำคัญคือครั้งนี้มีหลายคนใช้เป็นโอกาศในการสร้างชื่อเสียงหรือภาพพจน์ให้ตัวเอง อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจผมไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้แต่สุดท้ายมันคือผลลัพท์ เพราะถ้าบอกว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อย่างที่ชี้แจงไปครับ ผมว่าคุณไม่มองให้กว้างพอ มันสร้างผลเสียมากกว่าผลดี
และสุดท้ายไม่ว่าครั้งนี้ผลลัพท์จะเป็นยังไง มันไม่เปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี คุณไม่สามารถติดตามได้ตลอด อย่าลืมว่าการใช้ประโยชน์จากอำนาจพวกนี้ส่วนมากที่เกิดขึ้นมันไม่ออกข่าวนะครับ เพราะเค้าก็ต้องพยายามปิดไว้ให้เงียบที่สุดอยู่แล้ว
และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกหรือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดของความล้มเหลวของระบบยุติธรรม เพราะครั้งนี้ผมว่าตำรวจเค้าทำหน้าที่ของเค้าแล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะโจมตีระบบยุติธรรมปัจจุบันว่ามันไม่ยุติธรรม ไปรณรงค์ให้เค้ารื้อคดีจ่ายิ้มขึ้นมาอีกรอบเลยครับ รับรองว่าจะเห็นความเน่าเฟะของระบบนี้ต่อผู้มีอำนาจจริงๆ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ครับ เพราะงั้นผมว่าคุณแค่พวกดิ้นตามกระแสที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองมากกว่า
(ความเห็นส่วนตัว สโลแกนก็ฟังดูติดหูแบบโง่ๆมากกว่า ลูกตำรวจแล้วไง คำตอบควรจะเป็นอะไรครับ 555 พ่อแม่ทุกคนไม่เหมือนเฉลิมนะครับ ที่จะทำทุกทางให้ลูกตัวเองรอด)
เราต้องพัฒนาทางความคิดและจิตใจ มองให้กว้าง ไม่ใช่เยิ้วๆ ตามอารมไปหมด มันถึงจะทำประโยชน์จริงๆได้ ทางยุโรปเค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เรากลับถอยลงต่ำกว่าเดิม เช่นคุกที่นอร์เวย์เค้าปฏิบัติกับนักโทษเหมือนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ขังรวมกันไว้เฉยๆ แค่กักตัว ให้ที่พักที่เป็นที่พักไม่ใช่กรงสัตว์ ดูแลและพยายามเอาใจใส่เพื่อให้นักโทษไม่ต้องกลับไปทำแบบเดิมอีก เค้าได้รับการยกย่องจากนักสิทธิมนุษยชนมากมาย และมันเป็นการแก้ปัญหาจริงๆ
สรุปแล้วที่ผมเขียนมาทั้งหมด แค่อยากจะให้คนหลายๆคนเข้าใจถึงความตื้นเขินของมุมมองของตัวเองในการมองเรื่องใดเรื่องนึง และการรุมโจมตีใครซักคนในอินเตอร์เน็ตมันส่งผลกระทบกับชีวิตของคนบางคน ไม่ต่างกับการล่าแม่มดที่ทางยุโรปเค้าทำกันในศตวรรษที่17เท่าไหร่ แล้วดูเค้าเทียบกับเราตอนนี้ครับ ต่างกันขนาดไหน
บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่ยังไงนี่ก็เป็นมุมมองของผม ณ ตอนนี้ครับ ผมไม่คิดว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว และมันอาจจะเปลี่ยนแปลงถ้ามีคนอธิบายให้ผมเข้าใจ เพราะผมอาจจะลืมนึกถึงบางอย่างไป ต้องขออภัยล่วงหน้าครับ
ถ้าไม่เห็นด้วยตรงไหนช่วยแนะนำด้วยนะครับ ยินดีจะชี้แจง
อ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนบอกนะครับ ได้อธิบาย พยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆแต่พอดีผมเขียนไม่ค่อยเก่ง ต้องขอโทษด้วยครับ
ความเห็นของผมต่อคนที่ชอบแชร์/คอมเม้นด่าตามข่าวในเฟสบุ๊ค และความตกต่ำของคนที่เรียกตัวเองว่าสื่อต่างๆ
การแชร์ข่าวแย่ๆหรือเม้นด่าตามข่าว Facebook ไม่ได้รับว่าเป็นการทำความดีนะครับ
เพราะงั้นมันไม่ได้แปลว่าวันนี้คุณทำอะไรให้สังคมแล้ว ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนดี
มันแค่แสดงให้เห็นว่าถึงความตื้นเขินทางความคิด และความขาดความเข้าใจในเรื่องศีลธรรมอย่างรุนแรง
การที่คุณอยากเห็นคนที่คุณตัดสินว่า"เลว"เจ็บปวด ผมไม่คิดว่ามันแปลกหรือผิดตรงไหนที่คนเหล่านั้นจะอยากให้คุณเจ็บปวดเหมือนกัน
ความจริงคือคุณไม่สามารถประเมิณคนๆหนึ่งจากการกระทำเดียวได้ และส่วนตัวผมเชื่อว่าการกระทำใดๆไม่สามารถที่จะถูกตัดสินว่าดีหรือเลวได้ เพราะคนทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง
เพราะงั้นการกระทำของคุณไม่มีประโยชน์ครับ มันแค่สร้างมลภาวะทางจิตใจให้คนอื่น ทำลายชีวิตคนบางคนที่คุณไม่รู้จักมาก่อน และสร้างรายได้ให้พวกสื่อที่ต่ำลงๆทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจนะครับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะรู้สึกไม่ดีเวลารับรู้เรื่องที่เป็นโศกนาฏกรรม แต่สิ่งที่คุณทำไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมานอกจากความรู้สึกของคุณเอง
คือต้องเข้าใจก่อนว่าข่าวพวกนี้มันเขียนขึ้นโดยคนที่หารายได้จากviewนะครับ เค้าไม่ได้สนใจว่าอะไรจะเป็นยังไง เดือดร้อนใครมั้ย เค้าสนแค่คนเข้ามาอ่านเยอะมั้ย
ผมว่ามันทุเรศครับ คนพวกนี้ไม่ได้สนใจจะทำให้อะไรมันดีขึ้น ไม่สนใจว่ามันจะมีผลกระทบกับชีวิตใคร ไม่ได้สนใจว่ามีความเข้าใจในเรื่องนั้นๆดีขนาดไหน สนแต่ว่าช่วงนี้เรื่องไหนกำลังเป็นที่สนใจ และเขียนยังไงให้มันน่าสนใจ
ถ้าลองสังเกตดูจะรู้ครับ ว่าปีหลังๆมามีข่าวตำรวจกับเด็กโดนข่มขืนเยอะเป็นพิเศษ
ที่ผมเขียนนี่เพราะหลังๆรู้สึกทนไม่ไหวจริงๆครับ ทั้งสื่อแย่ๆ ทั้งคนที่ตามน้ำไปกับสื่อแย่ๆมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจะล้ำเส้นขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่างง่ายๆ คนบางคนยังตามถ่ายรูปเด็กผู้หญิงที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วมีคนตายหลายคนเมื่อหลายปีก่อน ตอนเขาอายุแค่14-15 แล้วเอามาลงเป็นข่าวว่าเข้าเรียนในมหาลัย ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือยังมีคนตามด่าโดยไม่คิดให้ดีอยู่อีก
หรือต้องให้เค้าเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่เรียนไม่ทำห่าอะไร หรือฆ่าตัวตายไปเลยจากการกระทำที่ไม่คิดให้ดีและไม่ได้ตั้งใจตอนเป็นเด็ก? แบบนี้หรอครับถึงจะเรียกว่าความยุติธรรม?
มันไม่ง่ายหรอกครับที่ต้องใช้ชีวิตโดยแบกรับความรู้สึกผิดและตอนนั้นก็โดนสังคมด่าไปขนาดนั้นแล้วเพราะงั้นผมกลับชื่นชมที่เค้าสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
ต้องอาศัยความเข้มแข็งมากเลยนะครับ การที่จะออกไปเผชิญกับโลกโดยที่รู้ว่าจะต้องมีคนเอาเรื่องแย่ๆที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตกลับมาพูดอีก
อีกตัวอย่างหนึ่ง ตอนนี้ที่สื่อกับสังคมกำลังโจมตีตำรวจอย่างรุนแรง ขอไม่ออกความเห็นใดๆกับส่วนอื่นนะครับ ผมไม่เข้าใจว่าเค้าทำอะไรผิดตรงไหน
อย่าหาว่าผมเข้าข้างตำรวจนะครับ ผมว่าผมเกลียดตำรวจมากกว่าใครหลายๆคนเยอะ
เค้าเชื่อว่าความถูกต้องคือการทำตามกฎหมาย แต่ผมไม่เห็นด้วยกับที่เค้าบอก เพราะงั้นผมว่าผมมีเหตุผลมากกว่าใครๆที่จะเกลียดตำรวจ
แต่ที่ต่างกันคือ ผมไม่ได้เกลียดคนที่เป็นตำรวจ แต่เกลียดตำรวจ มันต่างกันเยอะนะครับ
ถ้าโดนจับบ่อยๆจะรู้ครับ ว่าตำรวจเขียนสำนวนอ่อนให้เกือบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน ถ้าพูดกับเค้าดีๆ เค้าก็จะดีตอบครับ เพราะเค้าก็เป็นคนเหมือนเรา เค้ารู้สึกสงสารคนอื่นเป็นเหมือนกัน
และอันนี้เป็นแค่ความคิดของผมนะ น่าจะเป็นเพราะอาชีพของเค้าต้องเจอคนที่ทำผิดกฎหมายทุกวัน เค้าเลยรู้ว่าคนที่ทำผิดกฎหมายไม่ได้เป็นคนเลวทุกคน
คนที่บอกว่าตำรวจขี้โกงรับสินบน คนนั้นก็ขี้โกงจ่ายสินบนเหมือนกัน เพราะเอาจริงๆมันเป็นทางออกที่ง่ายและไวที่สุดแล้ว
หลายคนคิดว่าออกสื่อจะทำให้เกิดความยุติธรรม สุดท้ายลองให้ดีๆว่าผลกระทบจะเป็นยังไง ในระยะยาว การทำให้ภาพภจน์ของตำรวจดูขี้โกง สุดท้ายก็จะมีแต่คนขี้โกงที่อยากใช้ประโยชน์จากอำนาจไปเป็นตำรวจ คนดีๆเค้าก็ไปทำอย่างอื่น
สุดท้างอาชีพนี้จะกลายเป็นอาชีพที่มีแต่คนขี้โกงจริงๆครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอาชีพนักการเมืองแล้วนะครับ ถ้าเกิดขึ้นกับอาชีพตำรวจประเทศนี้คงถึงคราวล่มสลายครับ
ที่สำคัญคือครั้งนี้มีหลายคนใช้เป็นโอกาศในการสร้างชื่อเสียงหรือภาพพจน์ให้ตัวเอง อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจผมไม่รู้ พิสูจน์ไม่ได้แต่สุดท้ายมันคือผลลัพท์ เพราะถ้าบอกว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อย่างที่ชี้แจงไปครับ ผมว่าคุณไม่มองให้กว้างพอ มันสร้างผลเสียมากกว่าผลดี
และสุดท้ายไม่ว่าครั้งนี้ผลลัพท์จะเป็นยังไง มันไม่เปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี คุณไม่สามารถติดตามได้ตลอด อย่าลืมว่าการใช้ประโยชน์จากอำนาจพวกนี้ส่วนมากที่เกิดขึ้นมันไม่ออกข่าวนะครับ เพราะเค้าก็ต้องพยายามปิดไว้ให้เงียบที่สุดอยู่แล้ว
และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกหรือเรื่องที่เลวร้ายที่สุดของความล้มเหลวของระบบยุติธรรม เพราะครั้งนี้ผมว่าตำรวจเค้าทำหน้าที่ของเค้าแล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะโจมตีระบบยุติธรรมปัจจุบันว่ามันไม่ยุติธรรม ไปรณรงค์ให้เค้ารื้อคดีจ่ายิ้มขึ้นมาอีกรอบเลยครับ รับรองว่าจะเห็นความเน่าเฟะของระบบนี้ต่อผู้มีอำนาจจริงๆ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ครับ เพราะงั้นผมว่าคุณแค่พวกดิ้นตามกระแสที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองมากกว่า
(ความเห็นส่วนตัว สโลแกนก็ฟังดูติดหูแบบโง่ๆมากกว่า ลูกตำรวจแล้วไง คำตอบควรจะเป็นอะไรครับ 555 พ่อแม่ทุกคนไม่เหมือนเฉลิมนะครับ ที่จะทำทุกทางให้ลูกตัวเองรอด)
เราต้องพัฒนาทางความคิดและจิตใจ มองให้กว้าง ไม่ใช่เยิ้วๆ ตามอารมไปหมด มันถึงจะทำประโยชน์จริงๆได้ ทางยุโรปเค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เรากลับถอยลงต่ำกว่าเดิม เช่นคุกที่นอร์เวย์เค้าปฏิบัติกับนักโทษเหมือนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ขังรวมกันไว้เฉยๆ แค่กักตัว ให้ที่พักที่เป็นที่พักไม่ใช่กรงสัตว์ ดูแลและพยายามเอาใจใส่เพื่อให้นักโทษไม่ต้องกลับไปทำแบบเดิมอีก เค้าได้รับการยกย่องจากนักสิทธิมนุษยชนมากมาย และมันเป็นการแก้ปัญหาจริงๆ
สรุปแล้วที่ผมเขียนมาทั้งหมด แค่อยากจะให้คนหลายๆคนเข้าใจถึงความตื้นเขินของมุมมองของตัวเองในการมองเรื่องใดเรื่องนึง และการรุมโจมตีใครซักคนในอินเตอร์เน็ตมันส่งผลกระทบกับชีวิตของคนบางคน ไม่ต่างกับการล่าแม่มดที่ทางยุโรปเค้าทำกันในศตวรรษที่17เท่าไหร่ แล้วดูเค้าเทียบกับเราตอนนี้ครับ ต่างกันขนาดไหน
บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่ยังไงนี่ก็เป็นมุมมองของผม ณ ตอนนี้ครับ ผมไม่คิดว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว และมันอาจจะเปลี่ยนแปลงถ้ามีคนอธิบายให้ผมเข้าใจ เพราะผมอาจจะลืมนึกถึงบางอย่างไป ต้องขออภัยล่วงหน้าครับ
ถ้าไม่เห็นด้วยตรงไหนช่วยแนะนำด้วยนะครับ ยินดีจะชี้แจง
อ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหนบอกนะครับ ได้อธิบาย พยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆแต่พอดีผมเขียนไม่ค่อยเก่ง ต้องขอโทษด้วยครับ