"ถนนทุกสายมุ่งสู่โรม" เป็นจริงตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน โรมก็ยังคงเป็นเมืองหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุด ใครที่มาโรมก็คงจะอดแวะมาเยือนนครวาติกันเสียไม่ได้ เพราะเป็นนครที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีความเป็นศิลปะและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของคริสตศาสนา

กล้อง : Nikon D3200, GoPro Hero 4 Silver, iPhone 6S
เลนส์ : Nikkor 18-105, Tokina 11-16 f 2.8
https://www.breathemyworld.com
https://www.facebook.com/BreathemyworldBMW
-------------------------------------
โปรแกรมเดิมคร่าวๆ
Lake Como (วันที่ 1 และ 2) >>>
http://pantip.com/topic/35143757

Venice (วันที่ 2 และ 3) >>>
http://pantip.com/topic/35161615

Florence (วันที่ 3 และ 4) >>>
http://pantip.com/topic/35155732

Rome และ Vatican (วันที่ 4 ถึง 6) >>> ตามได้จากกระทู้นี้ครับ
Milan (วันที่ 6 และ 7) >>>
http://pantip.com/topic/35172957

Pisa (วันที่ 8) >>>
http://pantip.com/topic/35172957
-------------------------------------------
โรม (Rome)
เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทางประวัติศาสตร์ มีประวัติยาวนานมากว่า 2,800 ปี และเป็นจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้มานานแล้วว่าต้องมาให้ได้ซักครั้ง โรมเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเป็นที่ตั้งของนครวาติกันซึ่งเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโรม
การเดินทาง
- สถานีรถไฟหลัก คือ Rome Termini
- เดินทางภายในเมืองตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ สามารถเดินถึงกันได้ หรือจะใช้รถไฟใต้ดิน (metro) ก็มีให้ใช้ได้ 2 สายหลักๆ ตามแผนที่ด้านล่างครับ แต่ข้อเสียคือ เส้นทางไม่ได้ทั่วทั้งเมือง ดังนั้นคงยังต้องพึ่งรถเมล์อยู่บ้าง (ซึ่งมักมาไม่ค่อยตรงเวลาต้องเผื่อเวลาดีๆ แต่ metro นี่ตรงเวลาและมาบ่อยครับ) สำหรับตั๋วรถเมล์ก็เหมือนเมืองอื่นครับ ซื้อที่ร้านหนังสือพิมพ์แล้วค่อยขึ้นไป validate บนรถ

ผมเลือกใช้ Roma pass 48-hour ราคา 28 ยูโร ซึ่งสามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ที่แรกได้ฟรี 1 ที่ (ไม่รวม Vatican museum นะครับ) และขึ้นรถสาธารณะได้ฟรีไม่จำกัด รายละเอียด pass อื่นๆ ดูตามเวบเลยครับ --->
http://www.romapass.it/p.aspx?l=en&tid=2
ข้อดีของการมี pass คือ ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเข้าที่ต่างๆ ขึ้นได้ทั้งรถเมล์และ metro ไม่ต้องหาที่ซื้อตั๋วรถเมล์ ไม่ต้องกลัวลืม validate ตั๋ว แต่ถ้าขึ้นรถน้อย ไม่เข้าสถานที่ใดเลย (คือ ชมแต่ด้านนอก) ก็ไม่คุ้มที่จะซื้อครับ
อีกทางเลือกหนึ่งถ้าอยู่โรมน้อยกว่า 48 ชม. หรือไม่เข้าพิพิธภัณฑ์เลยแต่จะขึ้นรถเมล์หลายเที่ยว เขาก็มีตั๋วรถเหมา 24, 48 ชม. ฯลฯ ให้ด้วย (ราคาประมาณ 7, 12 ยูโร ตามลำดับ)
ที่พัก
มีให้เลือกมากมายหลายราคาทั้งโรงแรม, airbnb, bed and breakfast
Marcantonio Hotel

หลังจากถึงโรมในช่วงบ่ายแก่ๆ เราก็เริ่มออกสัมผัสโรมที่ Spanish steps โดยนั่งรถ metro จากโรงแรมมาลงที่สถานี Spagna และเดินเที่ยวกันต่อตามแผนที่ด้านล่าง จะเลี้ยวตรอกซอกซอยไหนก็ได้ครับ ร้านค้าให้ช้อปปิ้งเยอะแยะไปหมด (จาก spanish steps กว่าจะโผล่ไปถึง Trevis fountain เล่นเอาเกือบมืด 555 เพราะกว่าจะแคะคุณภรรยาออกจากร้าน Zara ได้...)
Spanish Steps
เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป มีทั้งหมด 138 ขั้น เป็นแหล่งรวมร้านค้าสินค้าแฟชั่นมากมาย ที่มีชื่อสเปนอยู่เพราะตั้งชื่อตามสถานทูตสเปนซึ่งตั้งอยู่แถวนั้น
น้ำพุรูปเรือหน้าบันได (ย้อนแสงเต็มๆ)

ปกติจะมีคนนั่งเต็มบันได แต่ช่วงนี้ปิดซ่อมครับ
Fontana di Trevi
เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตรงกลางจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าเนปจูนยืนอยู่บนรถม้า ลากโดยม้า 2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งมีลักษณะสงบเสงี่ยม ส่วนอีกตัวดูพยศ ซึ่งเขาบอกว่าหมายถึงธรรมชาติของทะเลที่มีทั้งยามสงบและแปรปรวน

นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญลงไปในน้ำพุโดยหันหลังและโยนด้วยมือขวาให้เหรียญข้ามไหล่ซ้ายไป เชื่อว่าจะทำให้ได้กลับมากรุงโรมอีก
ตรงนี้คนเยอะมากๆๆๆๆ ครับ กว่าจะแซะตัวให้เข้าไปอยู่หน้าสุดเพื่อถ่ายรูปและโยนเหรียญได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ ในแต่ละวันเขาว่ามีผู้โยนเหรียญลงไปในน้ำพุกว่า 3,000 ยูโร ทางการเอาเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือคนยากจนในกรุงโรม
Pantheon
ที่นี่เข้าฟรี แต่ไม่ได้เข้าครับ เพราะมาเย็น เขาปิดแล้ว
มหาวิหาร Pantheon มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นวิหารทรงกระบอก กว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุต ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักทั้งที่มีขนาดใหญ่โต มีหลังคาเป็นโดมโค้งมนมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องนี้ว่า “โอคูลุส” (Oculus) -- เสียดายไม่ได้เข้าไปดู (T..T) นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่ฝังศพกษัตริย์ บุคคลในราชวงศ์และบุคคลสำคัญหลายคน
Piazza Navona
เป็นที่ตั้งของน้ำพุที่สวยงามหลายอัน คือ
Fountain of the Four Rivers เป็นผลงานของ Gian Lorenzo มีวิวด้านหลังคือ Church of Sant'Agnese in Agone ตรงกลางเป็นเสาโอบิริสที่นำมาจากอียิปต์

และมีรูปสลักโดยรอบแทนแม่น้ำสายสำคัญจาก 4 ทวีป ได้แก่
Ganges (เอเชีย)

Rio de la Plata (อเมริกา)

Nile (แอฟริกา)

Danube (ยุโรป)
Fountain of Neptune

สวยงามมีรายละเอียดทุกมุมมอง

เสร็จจากจตุรัสนี้ ก็หาอะไรกินกัน เพราะที่นี่มีร้านอาหาร มีการเล่นดนตรี มีขายภาพวาดมากมาย เดินแล้วเพลินมากครับ เขาว่าจตุรัสนี้เป็นจตุรัสที่สวยที่สุดในโรม แล้วเราก็ไปกันต่อที่ Castle Sant' Angelo ครับ เพื่อเก็บแสงเย็น
Castle Sant' Angelo
เป็นปราสาททรงกลมริมแม่น้ำไทเบอร์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนครรัฐวาติกันตามสนธิสัญญาของมุสโสลินี ใช้เป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์เฮเดรียนและสมาชิกในครอบครัว ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นที่ตั้งของกองทหาร และใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Museo Nazionale di Castel Sant' Angelo ผมได้เดินดูแต่วิวด้านนอกเพราะมาถึงก็มืดแล้ว และวันต่อมาก็โปรแกรมแน่น เลยไม่ได้แวะเข้าไปข้างใน เสียดายเหมือนกัน

วิวของโดมมหาวิหาร Saint Peter's ถ่ายจากสะพานหน้า Castle Sant' Angelo

จบวันแรกครับ ขาจะหลุด 555 กลับโรงแรมพักผ่อน
[CR] [CR]Ciao! อิตาลี ตอน 4 : ส่อง Rome แดนโรมัน และ Vatican นครแห่งคริสต์ศาสนา
กล้อง : Nikon D3200, GoPro Hero 4 Silver, iPhone 6S
เลนส์ : Nikkor 18-105, Tokina 11-16 f 2.8
https://www.breathemyworld.com
https://www.facebook.com/BreathemyworldBMW
-------------------------------------
โปรแกรมเดิมคร่าวๆ
Lake Como (วันที่ 1 และ 2) >>> http://pantip.com/topic/35143757
Venice (วันที่ 2 และ 3) >>> http://pantip.com/topic/35161615
Florence (วันที่ 3 และ 4) >>> http://pantip.com/topic/35155732
Rome และ Vatican (วันที่ 4 ถึง 6) >>> ตามได้จากกระทู้นี้ครับ
Milan (วันที่ 6 และ 7) >>> http://pantip.com/topic/35172957
Pisa (วันที่ 8) >>> http://pantip.com/topic/35172957
-------------------------------------------
โรม (Rome)
เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทางประวัติศาสตร์ มีประวัติยาวนานมากว่า 2,800 ปี และเป็นจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้มานานแล้วว่าต้องมาให้ได้ซักครั้ง โรมเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเป็นที่ตั้งของนครวาติกันซึ่งเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโรม
การเดินทาง
- สถานีรถไฟหลัก คือ Rome Termini
- เดินทางภายในเมืองตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ สามารถเดินถึงกันได้ หรือจะใช้รถไฟใต้ดิน (metro) ก็มีให้ใช้ได้ 2 สายหลักๆ ตามแผนที่ด้านล่างครับ แต่ข้อเสียคือ เส้นทางไม่ได้ทั่วทั้งเมือง ดังนั้นคงยังต้องพึ่งรถเมล์อยู่บ้าง (ซึ่งมักมาไม่ค่อยตรงเวลาต้องเผื่อเวลาดีๆ แต่ metro นี่ตรงเวลาและมาบ่อยครับ) สำหรับตั๋วรถเมล์ก็เหมือนเมืองอื่นครับ ซื้อที่ร้านหนังสือพิมพ์แล้วค่อยขึ้นไป validate บนรถ
ผมเลือกใช้ Roma pass 48-hour ราคา 28 ยูโร ซึ่งสามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ที่แรกได้ฟรี 1 ที่ (ไม่รวม Vatican museum นะครับ) และขึ้นรถสาธารณะได้ฟรีไม่จำกัด รายละเอียด pass อื่นๆ ดูตามเวบเลยครับ ---> http://www.romapass.it/p.aspx?l=en&tid=2
ข้อดีของการมี pass คือ ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเข้าที่ต่างๆ ขึ้นได้ทั้งรถเมล์และ metro ไม่ต้องหาที่ซื้อตั๋วรถเมล์ ไม่ต้องกลัวลืม validate ตั๋ว แต่ถ้าขึ้นรถน้อย ไม่เข้าสถานที่ใดเลย (คือ ชมแต่ด้านนอก) ก็ไม่คุ้มที่จะซื้อครับ
อีกทางเลือกหนึ่งถ้าอยู่โรมน้อยกว่า 48 ชม. หรือไม่เข้าพิพิธภัณฑ์เลยแต่จะขึ้นรถเมล์หลายเที่ยว เขาก็มีตั๋วรถเหมา 24, 48 ชม. ฯลฯ ให้ด้วย (ราคาประมาณ 7, 12 ยูโร ตามลำดับ)
ที่พัก
มีให้เลือกมากมายหลายราคาทั้งโรงแรม, airbnb, bed and breakfast
Marcantonio Hotel
หลังจากถึงโรมในช่วงบ่ายแก่ๆ เราก็เริ่มออกสัมผัสโรมที่ Spanish steps โดยนั่งรถ metro จากโรงแรมมาลงที่สถานี Spagna และเดินเที่ยวกันต่อตามแผนที่ด้านล่าง จะเลี้ยวตรอกซอกซอยไหนก็ได้ครับ ร้านค้าให้ช้อปปิ้งเยอะแยะไปหมด (จาก spanish steps กว่าจะโผล่ไปถึง Trevis fountain เล่นเอาเกือบมืด 555 เพราะกว่าจะแคะคุณภรรยาออกจากร้าน Zara ได้...)
Spanish Steps
เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป มีทั้งหมด 138 ขั้น เป็นแหล่งรวมร้านค้าสินค้าแฟชั่นมากมาย ที่มีชื่อสเปนอยู่เพราะตั้งชื่อตามสถานทูตสเปนซึ่งตั้งอยู่แถวนั้น
น้ำพุรูปเรือหน้าบันได (ย้อนแสงเต็มๆ)
ปกติจะมีคนนั่งเต็มบันได แต่ช่วงนี้ปิดซ่อมครับ
Fontana di Trevi
เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตรงกลางจะเป็นรูปปั้นเทพเจ้าเนปจูนยืนอยู่บนรถม้า ลากโดยม้า 2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งมีลักษณะสงบเสงี่ยม ส่วนอีกตัวดูพยศ ซึ่งเขาบอกว่าหมายถึงธรรมชาติของทะเลที่มีทั้งยามสงบและแปรปรวน
นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญลงไปในน้ำพุโดยหันหลังและโยนด้วยมือขวาให้เหรียญข้ามไหล่ซ้ายไป เชื่อว่าจะทำให้ได้กลับมากรุงโรมอีก
ตรงนี้คนเยอะมากๆๆๆๆ ครับ กว่าจะแซะตัวให้เข้าไปอยู่หน้าสุดเพื่อถ่ายรูปและโยนเหรียญได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ ในแต่ละวันเขาว่ามีผู้โยนเหรียญลงไปในน้ำพุกว่า 3,000 ยูโร ทางการเอาเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือคนยากจนในกรุงโรม
Pantheon
ที่นี่เข้าฟรี แต่ไม่ได้เข้าครับ เพราะมาเย็น เขาปิดแล้ว
มหาวิหาร Pantheon มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นวิหารทรงกระบอก กว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุต ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักทั้งที่มีขนาดใหญ่โต มีหลังคาเป็นโดมโค้งมนมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องนี้ว่า “โอคูลุส” (Oculus) -- เสียดายไม่ได้เข้าไปดู (T..T) นอกจากนี้ยังใช้เป็นที่ฝังศพกษัตริย์ บุคคลในราชวงศ์และบุคคลสำคัญหลายคน
Piazza Navona
เป็นที่ตั้งของน้ำพุที่สวยงามหลายอัน คือ
Fountain of the Four Rivers เป็นผลงานของ Gian Lorenzo มีวิวด้านหลังคือ Church of Sant'Agnese in Agone ตรงกลางเป็นเสาโอบิริสที่นำมาจากอียิปต์
และมีรูปสลักโดยรอบแทนแม่น้ำสายสำคัญจาก 4 ทวีป ได้แก่
Ganges (เอเชีย)
Rio de la Plata (อเมริกา)
Nile (แอฟริกา)
Danube (ยุโรป)
Fountain of Neptune
สวยงามมีรายละเอียดทุกมุมมอง
เสร็จจากจตุรัสนี้ ก็หาอะไรกินกัน เพราะที่นี่มีร้านอาหาร มีการเล่นดนตรี มีขายภาพวาดมากมาย เดินแล้วเพลินมากครับ เขาว่าจตุรัสนี้เป็นจตุรัสที่สวยที่สุดในโรม แล้วเราก็ไปกันต่อที่ Castle Sant' Angelo ครับ เพื่อเก็บแสงเย็น
Castle Sant' Angelo
เป็นปราสาททรงกลมริมแม่น้ำไทเบอร์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนครรัฐวาติกันตามสนธิสัญญาของมุสโสลินี ใช้เป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์เฮเดรียนและสมาชิกในครอบครัว ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นที่ตั้งของกองทหาร และใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Museo Nazionale di Castel Sant' Angelo ผมได้เดินดูแต่วิวด้านนอกเพราะมาถึงก็มืดแล้ว และวันต่อมาก็โปรแกรมแน่น เลยไม่ได้แวะเข้าไปข้างใน เสียดายเหมือนกัน
วิวของโดมมหาวิหาร Saint Peter's ถ่ายจากสะพานหน้า Castle Sant' Angelo
จบวันแรกครับ ขาจะหลุด 555 กลับโรงแรมพักผ่อน