เล่าให้ฟังเผื่อเอาไว้เป็นประสบการณ์แก่ผู้ยังไม่เคยเจอกับตัว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ จขกท. ไปทานข้าวกับสามีและเพื่อนร่วมงานสามีอีกรวมกันแล้วประมาณ 9 คน ที่ร้านอาหารแห่งนี้
จขกท. กับสามีไปถึงก่อนก็ถามพนักงานที่ร้านว่ารับบัตรเครดิตหรือป่าว เพราะมากันเยอะเงินสดน่าจะไม่พอ. ทางร้านตอบมาว่ารับแต่เงินสดค่ะโอเคทางเราก็มีแผนสองว่าจะข้ามฝั่งไปกดเงินสดก็ได้. แต่ก็แอบคุยกันเองว่าร้านอาหารใหญ่ขนาดนี้ไม่รับบัตรเครดิตแปลกเนอะ. ก็ผ่านไปไม่ได้คิดอะไร
ถึงเวลาสั่งอาหารก็ดูเมนูสั่งไป. เมนูส่วนใหญ่ที่สั่งก็มีราคาติดไว้เช่น สลัดกุ้งทอด น้ำมะพร้าว 2 ลูก ขาหมูเยอรมัน แซลมอน ต้มยำไก่บ้าน กุ้งมะนาว. ทะเลผัดฉ่า เป็ดพะโล้ ส่วนเมนูที่ไม่ติดราคาชั่งตามนำ้หนักก็จำพวกปลา ซึ่งมีเมนูเดียวที่สั่งไป คือ ปลาทอดราดนำ้ปลา และมีเครื่องดื่มเป็นน้ำเปล่ากับเบียร์ไฮเนเก้นอีก 7 ขวดเบียร์ลีโออีก 1 ขวด และเบียร์อะไรไม่รู้อีก 1 ขวด พอตอนอาหารมาเสิร์ฟเราก็ตะลึงเล็กน้อยกับอาหารจานเล็กๆ แบบแปลกๆทุกๆจาน อย่างเช่นกุ้งมะนาวมีกุ้งตัวขนาดปรกติ 6 ตัววางรายล้อมด้วยมะระฝานบางๆบนจานเล็กๆ, ปลาทอดราดน้ำปลาแบบตัวเล็กๆและเกรียมๆ, ขาหมูเยอรมันแบบแปลก คือแล่หมูออกมาจากขาทั้งหมด รสชาติเค็มระดับสูงสุดเหนียวเหมือนอุ่นมาแล้วหลายรอบเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซอสอะไรไม่รู้แบบเค็มๆ ตักกันไปคนละชิ้นเล็กๆกินกันไม่หมดเลยซักคนเดียวเนื่องจากเหนียวและติดฟันมากๆขนาดสายแข็งของทีมที่กินได้ไม่หวั่นแม้จะแย่แค่ไหนยังอึ้ง. เพราะปรกติทีมเรากินขาหมูเยอรมันกันประจำที่ร้านอาหารเยอรมันหรือไม่ก็โรงเบียร์ซึ่งมันไม่ใช่แบบนี้เลยสิ้นเชิง หมูแบบนี้เอาไปผัดเป็นคะน้าหมูกรอบกินกับข้าวยังไม่อร่อยเลยอ่ะ, แซลมอนจานใหญ่ที่สั่งไปตกตะลึงไม่แพ้กันมีแซลมอนสดแล่บางๆๆๆๆๆๆใส่มาในจานวางห่างๆกันประมาณ10 ชิ้น ซึ่งจขกทไม่ได้กินเพราะกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้กินเสิร์ฟมาพร้อมกับหัวไชเท้ากับแครอทสับมาเหมือนเส้นมะละกอที่เอาไว้ตำส้มตำ สามีลองกินแล้วหันมาพูดว่านี่คืออะไรทำไมเค้าไม่ขูดเป็นฝอยบางๆเหมือนตามร้านอาหารที่เคยกินกินกันไปขำกันไปแต่ก็คิดว่าร้านนี้เค้าคงไม่ถนัดอาหารต่างชาติ
เอาล่ะมาถึงจุดพีคสุดของเรื่องนี้กันเถอะน้องๆคิดเงินด้วยค่ะ พนักงานเอาบิลมาให้ยอดเงิน 4660 บาท จขกทเป็น ผญคนเดียวซึ่งโดยปรกติแล้วก็ชอบตรวจบิลอาหารอยู่แล้วเปิดมาก็เจอราคาที่ต้องช็อคกับทุกๆๆรายการจริงๆ บวกเพิ่มจากราคาในเมนูอย่างน่าตกใจจน จขกท ซึ่งท้องแก่ต้องลุกขึ้นไปขอเมนูมาดูเปรียบเทียบ และเรียกถามพนักงานว่าทำไมราคาที่คิดมากับในเมนูไม่ตรงกันเลยซักเมนูเดียวเลยจริงๆยกเว้นไอ้ปลาทอดนั่นซึ่งไม่มีราคาบอกทางจขกทก็ถามเค้าไปแบบตกใจว่าปลาทอดราดน้ำปลาตัวละ 480- บาทเลยหรอ เค้าตอบมาว่าใช่ค่ะชั่งตามน้ำหนักโอเคอันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่ได้เห็นตอนเค้าชั่งแต่พอมาตรวจสอบรายการอื่นๆทุกรายการเลยโดนบวกเพิ่มไม่ต่ำกว่าสิบเปอร์เซน อย่างปลาแซลมอนจานละ600บาทซึ่งในเมนูระบุราคา400บาทพอเรียกพนักงานมาถามเค้าตอบมาว่านี่เป็นปลาแซลมอนนอกเลยแพงค่ะและเมนูเก่ายังไม่ได้เปลี่ยนราคาเลย สลัดกุ้งทอดในเมนู 120- คิดมา 150- ซึ่งอันนี้เค้าหาเหตุผลไม่ได้เลยไปแก้ราคาในบิลลดไป30บาทโดยไม่มีการขอโทษใดๆ จขกทเห็นว่าร้านนี้มาแนวแบบนี้แล้วก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้วจ่ายเงินไปแล้วคิดว่าคนที่กระทำเรื่องแบบนี้ไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแน่นอน พอเห็นว่ามีช่องทางจะเอาเปรียบลูกค้าได้ก็ทำแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย อนาคตถ้าร้านนี้ต้องเจ๊งไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ......
แชร์ประสบการณ์/เตือนภัย "ร้านอาหารบุหงา ปันหยี บ้านฉางระยอง "
จขกท. กับสามีไปถึงก่อนก็ถามพนักงานที่ร้านว่ารับบัตรเครดิตหรือป่าว เพราะมากันเยอะเงินสดน่าจะไม่พอ. ทางร้านตอบมาว่ารับแต่เงินสดค่ะโอเคทางเราก็มีแผนสองว่าจะข้ามฝั่งไปกดเงินสดก็ได้. แต่ก็แอบคุยกันเองว่าร้านอาหารใหญ่ขนาดนี้ไม่รับบัตรเครดิตแปลกเนอะ. ก็ผ่านไปไม่ได้คิดอะไร
ถึงเวลาสั่งอาหารก็ดูเมนูสั่งไป. เมนูส่วนใหญ่ที่สั่งก็มีราคาติดไว้เช่น สลัดกุ้งทอด น้ำมะพร้าว 2 ลูก ขาหมูเยอรมัน แซลมอน ต้มยำไก่บ้าน กุ้งมะนาว. ทะเลผัดฉ่า เป็ดพะโล้ ส่วนเมนูที่ไม่ติดราคาชั่งตามนำ้หนักก็จำพวกปลา ซึ่งมีเมนูเดียวที่สั่งไป คือ ปลาทอดราดนำ้ปลา และมีเครื่องดื่มเป็นน้ำเปล่ากับเบียร์ไฮเนเก้นอีก 7 ขวดเบียร์ลีโออีก 1 ขวด และเบียร์อะไรไม่รู้อีก 1 ขวด พอตอนอาหารมาเสิร์ฟเราก็ตะลึงเล็กน้อยกับอาหารจานเล็กๆ แบบแปลกๆทุกๆจาน อย่างเช่นกุ้งมะนาวมีกุ้งตัวขนาดปรกติ 6 ตัววางรายล้อมด้วยมะระฝานบางๆบนจานเล็กๆ, ปลาทอดราดน้ำปลาแบบตัวเล็กๆและเกรียมๆ, ขาหมูเยอรมันแบบแปลก คือแล่หมูออกมาจากขาทั้งหมด รสชาติเค็มระดับสูงสุดเหนียวเหมือนอุ่นมาแล้วหลายรอบเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซอสอะไรไม่รู้แบบเค็มๆ ตักกันไปคนละชิ้นเล็กๆกินกันไม่หมดเลยซักคนเดียวเนื่องจากเหนียวและติดฟันมากๆขนาดสายแข็งของทีมที่กินได้ไม่หวั่นแม้จะแย่แค่ไหนยังอึ้ง. เพราะปรกติทีมเรากินขาหมูเยอรมันกันประจำที่ร้านอาหารเยอรมันหรือไม่ก็โรงเบียร์ซึ่งมันไม่ใช่แบบนี้เลยสิ้นเชิง หมูแบบนี้เอาไปผัดเป็นคะน้าหมูกรอบกินกับข้าวยังไม่อร่อยเลยอ่ะ, แซลมอนจานใหญ่ที่สั่งไปตกตะลึงไม่แพ้กันมีแซลมอนสดแล่บางๆๆๆๆๆๆใส่มาในจานวางห่างๆกันประมาณ10 ชิ้น ซึ่งจขกทไม่ได้กินเพราะกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้กินเสิร์ฟมาพร้อมกับหัวไชเท้ากับแครอทสับมาเหมือนเส้นมะละกอที่เอาไว้ตำส้มตำ สามีลองกินแล้วหันมาพูดว่านี่คืออะไรทำไมเค้าไม่ขูดเป็นฝอยบางๆเหมือนตามร้านอาหารที่เคยกินกินกันไปขำกันไปแต่ก็คิดว่าร้านนี้เค้าคงไม่ถนัดอาหารต่างชาติ
เอาล่ะมาถึงจุดพีคสุดของเรื่องนี้กันเถอะน้องๆคิดเงินด้วยค่ะ พนักงานเอาบิลมาให้ยอดเงิน 4660 บาท จขกทเป็น ผญคนเดียวซึ่งโดยปรกติแล้วก็ชอบตรวจบิลอาหารอยู่แล้วเปิดมาก็เจอราคาที่ต้องช็อคกับทุกๆๆรายการจริงๆ บวกเพิ่มจากราคาในเมนูอย่างน่าตกใจจน จขกท ซึ่งท้องแก่ต้องลุกขึ้นไปขอเมนูมาดูเปรียบเทียบ และเรียกถามพนักงานว่าทำไมราคาที่คิดมากับในเมนูไม่ตรงกันเลยซักเมนูเดียวเลยจริงๆยกเว้นไอ้ปลาทอดนั่นซึ่งไม่มีราคาบอกทางจขกทก็ถามเค้าไปแบบตกใจว่าปลาทอดราดน้ำปลาตัวละ 480- บาทเลยหรอ เค้าตอบมาว่าใช่ค่ะชั่งตามน้ำหนักโอเคอันนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่ได้เห็นตอนเค้าชั่งแต่พอมาตรวจสอบรายการอื่นๆทุกรายการเลยโดนบวกเพิ่มไม่ต่ำกว่าสิบเปอร์เซน อย่างปลาแซลมอนจานละ600บาทซึ่งในเมนูระบุราคา400บาทพอเรียกพนักงานมาถามเค้าตอบมาว่านี่เป็นปลาแซลมอนนอกเลยแพงค่ะและเมนูเก่ายังไม่ได้เปลี่ยนราคาเลย สลัดกุ้งทอดในเมนู 120- คิดมา 150- ซึ่งอันนี้เค้าหาเหตุผลไม่ได้เลยไปแก้ราคาในบิลลดไป30บาทโดยไม่มีการขอโทษใดๆ จขกทเห็นว่าร้านนี้มาแนวแบบนี้แล้วก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้วจ่ายเงินไปแล้วคิดว่าคนที่กระทำเรื่องแบบนี้ไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแน่นอน พอเห็นว่ามีช่องทางจะเอาเปรียบลูกค้าได้ก็ทำแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย อนาคตถ้าร้านนี้ต้องเจ๊งไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ......