ชีวิตการทำงานในอเมริกาจากจุดสูงสุด...สู่การโดนlayoff มีเพียง45วันโอกาสสุดท้ายในการหางานใหม่ (ไม่ง่ายอีกแล้ว.)

สวัสดีน้องน้องและเพื่อนๆชาวพันทิป อีกครั้งค่ะ จอม กลับมาเล่าต่อตอนที่ 2 แล้วค่ะ จากตอนที่ 1 ที่หลายคนคงเคยอ่านกันแล้วที่ "จากเด็กเรียนไม่เก่ง บ้านไม่รวย จนมาเป็นสถาปนิกที่อเมริกา (ไม่ง่ายเลย...)”  http://pantip.com/topic/35134343



จากที่เล่ามาตอนที่แล้วว่าต้องพยายามหลายปี ตั้งแต่เรียนสถาปัตย์ได้ห่วยเหลือเกิน ทั้งที่ใจรัก เลยพยายามไปดิ้นรนหาที่ฝึกงานตั้งแต่ปี 2 รับงานเพิ่ม ฝึกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เราพัฒนาและหลุดพ้นจากความห่วยให้ได้ จนสุดท้ายสมัครงาน และได้งานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่เคยโดนที่นั้นปฏิเสธมาก่อนหน้านี้แล้ว กว่าจะผ่านสเตป ขั้นตอนเหล่านั้นมาได้ ไม่มีทางลัดอะไรทั้งนั้น นอกจากทำทุกอย่างที่ทำได้อย่างช้าๆ เรื่อยๆ ไม่หยุด และไม่รอคนมาช่วย ที่ว่าเหนื่อยมาหลายปี พอสุดท้าย เราก็มาถึงที่นี่สักที ... ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จอมได้มาประเทศสหรัฐอเมริกา การได้เดินทางมาต่างประเทศ สำหรับจอมไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นเรื่องยากมากสำหรับจอมเอง ใครอ่านตอนที่ 1 คงพอรู้ว่าทำไม ..“จน”ไง โอเค๊?!  เข้าใจตรงกันนะ  


การเดินทางครั้งใหม่ ที่รอคอยมาแสนนาน มันเริ่มแล้ววววว 

มาถึงอเมริกาวันแรก บินมาเลยที่ Salt Lake City, Utah จอมได้งานที่นี่ บริษัทชื่อ Design Workshop ตำแหน่งแรกที่ได้คือ Landscape Architecture Intern(ภูมิสถาปนิกฝึกงาน) แต่พอมาถึงได้เดือนเดียวเค้าก็ทำเรื่องเปลี่ยนใหม่ เพื่อปรับให้เป็น Project Landscape Architect(คนดูแลโปรเจคท์ภูมิสถาปัตย์) ที่ในออฟฟิศ เค้าเรียกว่า PLA 



พอมาเริ่มงานที่ทำงาน พบว่า นี่แหละ...ที่ที่เราพร้อมจะลงแรง ลงพลัง ทำงานเต็มที่ อยากทุ่มเทให้กับงานนี้หมดตัวหมดใจเลย เพราะทั้งตัวงานที่ได้มันสนุก เจ้านายและเพื่อนร่วมงานดี ระบบมีเรื่องให้เรียนรู้เยอะไปหมด ทุกอย่างใหม่ และมีอะไรให้เราเรียนอย่างที่ไม่เคยเรียนมาก่อน จอมโชคดี..ที่ได้ทำงานกับเจ้านายที่ดี เจ้านายจอมชื่อ เทอรอล(Terrall) เค้าเป็นนักออกแบบที่เก่งมากๆ แบบ1ใน100คน หรืออาจจะมากกว่า และเป็นคนดี ใจดี สุภาพ และให้โอกาส 

อาทิตย์ที่เริ่มทำงาน นอกจากปฐมนิเทศที่ต้องทำหนักๆ เค้าให้จอมเริ่มทำการออกแบบสวนในหมู่บ้านชื่อ Daybreak เลย เค้าก็อธิบาย เล่าถึงโครงการว่ามันคืออะไร และ พาไปดูไซต์ที่เริ่มก่อสร้างไปแล้ว และส่วนที่เราทำเป็นส่วนต่อมาที่จะสร้างต่อไป เหยยยย มาถึงก็ไว้ใจชั้นเลยเหรอ โอ้ยย เต็มที่สิ..รออะไร.. เราจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง!!! คือ…จอมมีอะไร จอมใส่หมด  ตอนนั้นได้พัฒนาแบบร่วมกับเจ้านาย และได้เดินทางไปประชุมกับเจ้านาย ได้เจอลูกค้า แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่เค้าก็ให้เราเสริมได้ 



การทำงานตามปกติที่เขียนไว้ในระบบ คือ อาทิตย์ละ 40 ชั่วโมง วันละ 8 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงๆสายนี้ ไม่ต้องหวังมากว่าจะเป็น 40 ได้จริง ไม่ใช่แค่งานเยอะ งานเร่ง แต่เพราะสุดท้ายเราก็อยากทำงานออกมาให้ดี ให้เราภูมิใจ แต่บางทีเวลามันไม่ได้มีเยอะ แบบว่ามีเวลา 3 วันแต่ต้องทำให้ออกมาดี มันไม่มีทางเลือกนอกจากเราต้องทุ่มให้มันเกิน 8 ชั่วโมงที่เค้าให้ไว้ เพื่อให้ผลออกมาดี เพราะถ้าไม่ดี เราก็จะเสียใจเอง ไปนอนก็ใช่จะนอนหลับ กลับบ้านไปนอนสบายแต่ไม่ได้ผลงานอะไรดีดีไว้ให้จดจำ นอนน้อยลงสักนิดแล้วมีความสุขใจกว่าจอมเลือกแบบนั้น

กว่าจะมาได้ถึงนี้ลำบากและเหนื่อยขนาดไหน เราต้องทำทุกวันให้มันคุ้มค่า ให้แน่ใจว่าเราไม่ได้พลาดโอกาสอะไรที่วันนี้ทำได้ ต้องเต็มที่ และพัฒนาตัวเองทุกวัน วันละนิดก็ยังดี ที่ว่าทำงานหนัก ทำยาวจริงขนาดเจ้านายไล่กลับบ้านก็ไม่กลับ จอมไปย้อนเชิงตลกอีกว่า “คุณมาไล่เรา ทำไมคุณไม่กลับล่ะ คุณก็เหมือนกัน!!” ยิ้ม คือ เราไม่ทำ เค้าก็ทำป่ะ แล้วคือ เจ้านายลงมือทำเอง ทุ่มเต็มที่เหมือนกัน แล้วเราจะปล่อยให้นายทำคนเดียวได้ไงวะ เค้าไม่ได้เอาเปรียบเราเลยนะ เค้าไล่เรายังไม่ไปเลย เพราะเจ้านายที่ทำงานหนัก เค้าก็สุขภาพไม่ดี แต่ก็ยังทำงานหนัก เค้าก็กลัวคนอื่นจะเป็นเหมือนเค้าน่ะแหละ 



จอมเคยพกถุงนอนไว้ใต้โต๊ะ แล้วปูนอนข้างโต๊ะทำงานตอนตีสาม ตื่น 6 โมงมาทำงานต่อ ก็ทำมาแล้ว แต่ตอนทำไม่กล้าเล่าให้คนอื่นฟังมาก เพราะกลัวเค้ารู้สึกผิด ที่ทำให้เราต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพราะจริงๆเราเลือกเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเค้า พอคนมาบอกว่า โอ ยูน่าสงสารจัง เราก็รำคาญอีก น่าสงสารไรวะ ก็เราอยากทำเอง .... จอมคิดว่า… ทำอะไรก็ได้ที่เราจะไม่มานั่งเสียใจทีหลังว่า...เสียดายที่ไม่ได้ทำมัน เพราะต่อให้ทำพลาด ก็ดีกว่าไม่เคยได้ทำแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรดีดีใหม่ๆเกิดขึ้น !



จอมรู้ว่าจอมชอบออกแบบมาก เวลาที่เริ่มทำ มันจะใจเต้นแรง มันตื่นเต้น เพราะมันไม่รุ้ว่าเราจะไปจบที่ไหน  แบบสุดท้ายจะหน้าตาเป็นยังไง เราจะสร้างมันยังไง แต่…กระบวนการที่เราไม่รู้และพยายามสร้างงานออกแบบดีดีออกมานี่แหละ... โคตรตื่นเต้น จอมว่า นี่แหละ .. Passion มันคือความสุขในการได้ทำสิ่งๆนั้น อยากทำมาก นอนดึกก็ไม่ว่า แต่ไม่เคยรู้หรอกว่า การได้มาทำงานกับคนที่เค้ามี Passion พุ่งทะลุเพดานและมีพรสวรรค์แบบท่วมท้น มันเหมือนเคมีตรงกัน ทำให้ทุกส่วนของการทำงาน มันสนุกและเหมือนจะมีอะไรใหม่ๆให้เรารอลุ้นตลอดเวลา ไม่ใช่แค่จากเรา แต่จากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานด้วย

งานแรกที่อเมริกานี้ เป็นเหมือนเค้าจ่ายตังให้เรามาเรียนพร้อมกับสร้างสรรค์งานดีดีไปด้วย มันเลยเหมือนเป็นการเรียนรู้ที่มีความสุข และตื่นขึ้นมาทุกวัน อยากไปทำงาน อยากเจอเพื่อนร่วมงาน อยากทำงานกับคนกลุ่มนี้ อยากสร้างงานดีๆใหม่ๆ


มาเล่าเรื่องงานบ้าง งานที่ได้ทำจากตอนอยู่ที่นี่ก็มีงานเป็นออกแบบสวน และทำพวกกราฟฟิคให้ทั้งโครงการใหม่หมด ทั้งในสวนที่จอมไม่ได้ร่วมออกแบบเอง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมายังเพิ่งไปบรรยายเรื่องงานนี้อยู่ในงานประชุม CELA   
ลองดูเพิ่มได้ http://landscapeperformance.org/case-study-briefs/daybreak-community



นอกจากนั้นยังมีงานที่ร่วมกับสถาปนิกในนิวยอรกที่ชื่อ Ennead Architects โครงการนี้คือ Natural History Museum of Utah หรือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาของรัฐ Utah ที่เป็นงานที่ภูมิสถาปัตยกรรม และ สถาปัตยกรรม  และพื้นดิน เหมือนเป็นส่วนนึงของกันและกัน และสะท้อนความเป็นยูทาห์ได้อย่างลึกซึ้ง (หลังจากอยู่รัฐนี้นาน 3 ปี คือ….มันใช่อ่ะ..)



สองปีแรกในอเมริกาเป็นการเปิดตัวที่ต้องยอมรับว่า ดีจริงๆ แต่ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยนะ แต่อยากเหนื่อย อยากอดนอน อยากทำงานดีดี อยากเก่ง ไม่ได้มี Goal ใหม่ แต่กำลังทำมันทุกวันให้ดี ออกแบบสิ่งดีดี ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เหมือนคนหิว และมีอาหารอร่อยอยู่ตรงหน้า กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ 2-3 ปีแรกนั้น เลยใช้ไปกับการทุ่มเท ฝึกตนฝึกวิชา พัฒนาตัว อย่างไม่กลัวเหนื่อย ถ้าเป็นไปได้ ยังอยากอยู่ตรงนี้ไปอีกนานๆ อยากพาแม่มาเที่ยว อยากเตรียมให้พร้อมให้แม่มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน คือ..มันใช่

.
.
.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่