[SR] + + + Review + + + SO SOFITEL HUA HIN + + +

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมืองชะอำ – หัวหินนั้นเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของคนไทยมาช้านาน
ผมจำได้ว่าในสมัยที่ผมเป็นเด็ก  ถ้าครอบครัวไหนได้มาเที่ยวทะเลชะอำ – หัวหิน ครอบครัวนั้นก็จะดูโก้ไม่เบาเลยทีเดียว
แต่สำหรับผม  ชะอำ - หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ผมไม่ค่อยได้ไปเยือนบ่อยนัก  ส่วนใหญ่จะเป็นการไปเที่ยวกับที่ทำงาน
แบบไปเช้า – เย็นกลับ เสียเป็นส่วนใหญ่   ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 กลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม ใช้เวลานั่งรถนานกว่าได้เที่ยว
ครั้งนี้โชคดี ผมมีโอกาสได้เข้าพักเยี่ยมชมโรงแรม โซ โซฟิเทล หัวหิน เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน

ขอออกตัวก่อนว่า ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทางโรงแรมออกให้ทั้งหมด ยกเว้นค่าเดินทางแต่ไม่มีการจัดฉากอะไรให้เกินจริง
นักท่องเที่ยวที่มาพักหากเลือกที่จะทำในแบบที่ผมทำ  ก็จะได้รับในสิ่งเดียวกันกับผมนะครับ


ช่วงสาย ๆ  ของวันนี้ผมควบเจ้าความหวังของหมู่บ้านออกจากบ้านที่ จ.อ่างทองในราว 8.00 น.  ตั้งใจจะให้ถึงที่โรงแรมประมาณเที่ยง
เพราะผมขอพนักงานเขาเช็คอินก่อนกำหนดเอาไว้จากเดิมเวลาปกติคือ 14.00 น.


ขับรถติงนังมาเรื่อย ก่อนเที่ยงไม่กี่มากน้อย เจ้าการ์มิน ตัวนำทางในรถก็พาผมเลี้ยวซ้ายที่แยกชะอำ
ลัดเลาะมาตามทาง  ไม่นานนักผมก็มาถึงแล้วจ้า  โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน


เมื่อจอดรถที่ลานจอดรถด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว เดินเข้ามาในตัวโรงแรม จะพบกับวงเวียนเล็ก ๆ
มีเจ้ากระต่ายตัวโต ถือนาฬิกาเรือนใหญ่อยู่ เป็นนัยเพื่อบอกว่า ให้ทิ้งเวลา ทิ้งงานต่างๆ ทุกอย่างไว้ที่มัน


จากนั้นกลับหลังหันเดินขึ้นบันไดไปเช็คอินกันเลย


ล๊อบบี้ที่นี่เป็นแบบโอเพ่นแอร์  มีคุณพนักงานรับลงทะเบียน  ยืนรอให้บริการอยู่


ซักครู่ก็มีน้องพนักงานเดินถือถาดน้ำเย็นสมุนไพร มีตะไคร้ กระเจี๊ยบ ใบโหระพา
นำมาผสมกันในกาสีแดงสดใส  ชงให้ทาน  ทำให้ผมลืมเรื่องอากาศร้อนไปได้เสียสนิท


หลัก ๆ ก็คงจะช่วยในเรื่องสุขภาพช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี


โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังคือ คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ออกแบบร่วมสมัย
โดยเน้นโครงสร้างที่เป็นเชิงเส้น


ให้ความรู้สึกแข็งแรงมั่นคงและมีความดิบอยู่ในตัว แต่ใช้ไม้จากธรรมชาติมาผสมให้ดูมีอารมณ์ที่อ่อนโยนลง


ตัวโรงแรมออกแบบเป็นรูปตัว U ฝั่งซ้ายและขวาเป็นตึกห้องพักขนานกันไปทั้ง 2 ข้าง
โดยมีสระว่ายน้ำ 2 สระ ทอดยาวกั้นกลางเอาไว้


ฮูหยินของผมเห็นเจ้าเสือดาวที่ล๊อบบี้ตัวนี้  รีบวิ่งมาถ่ายรูปคู่เลย  ดูออกไหมครับ ใครแม่เสือและใครลูกเสือ


นั่งรออยู่ไม่นาน ผมก็ได้คีย์การ์ดมา เอาล่ะ ไปห้องพักกันเลย


ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบ โซ เนเจอร์  


การออกแบบห้องพักแบบ โซ เนเจอร์นี้  จะอิงกับธรรมชาติเน้นการใช้ไม้เป็นหลัก


แล้วนำความดิบของปูนเปลือยมาผสม


แฝงไว้ด้วยความขี้เล่น สดใส ด้วยรูปภาพติดผนัง และโซฟาลายผีเสื้อ ของนักออกแบบชาวฝรั่งเศส
ที่เข้ามาเติมเต็มผสมผสานให้ห้องพักดูลงตัวมากขึ้น


มุมทำงาน – อ่านหนังสือก็ยังมีการวาดภาพตกแต่งเป็นรูปกิ่งไม้เอาไว้


ไฮไลต์ที่อยากนำเสนอคือหลังม่านบังแดดบริเวณหัวเตียงนั้น  แอบมีเตียงน้อยๆของคุณหนูตัวเล็กซ่อนไว้ด้วย
สีสันสดใสสมวัยเจ้าตัวเล็กมาก  


ฮูหยินของผมเห็นแล้วกรี๊ดลั่นบอกว่าคืนนี้พี่จะนอนเตียงเด็ก  แล้วให้ผมนอนเตียงใหญ่คนเดียว
ดีเหมือนกัน  ผมจะได้กลิ้งให้เต็มเตียงเลย


มาชมห้องน้ำกันบ้าง  มีอ่างล้างหน้า แปรงฟัน ให้ 2 จุด พร้อมกระจกเงาบานใหญ่


จุดเด่นของห้องน้ำเลยก็คือ เรนชาวเวอร์ ที่มีขนาดใหญ่มาก ผมเองพักโรงแรมต่าง ๆ มาก็หลายที่
ก็เพิ่งมาเจอที่นี่แหละ บิ๊กบึ้มมาก  ยืนอาบแล้วให้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่กลางฝนเลย


อ่างอาบน้ำก็มีเกลือหอมใส่โหลเอาไว้  ให้ผสมกับน้ำเวลาแช่ตัว


ใต้อ่างล้างหน้าจะเป็นที่เก็บผ้าเช็ดตัว และกล่องใส่ของใช้ในห้องน้ำ


ห้องส่งแฟกซ์ 555 แยกออกมาเป็นห้องเล็กอีก 1 ห้อง  สามารถปิดประตูได้


ต่อมา ผมจะพาไปชมสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่กันครับ


เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึง 3 ทุ่ม


สระว่ายน้ำแห่งนี้  ไม่อนุญาตให้คุณหนูตัวน้อยมาใช้บริการนะครับ  


เห็นแดดร้อน ๆ แบบนี้ แต่แขกที่มาใช้บริการเป็นชาวต่างชาติก็สู้ไม่ถอย


ส่วนผมขอนั่งดูอยู่ในร่มก็แล้วกันนะครับ


ใกล้กับสระว่ายน้ำผู้ใหญ่นี้ จะมีแกลเลอรี่งานศิลปะให้ชม  โดยภาพวาดต่าง ๆ นี้จะถูกเปลี่ยนแบบใหม่ในทุก ๆ 3 เดือน


หากถูกใจก็สามารถซื้อกลับบ้านได้นะครับ


ชั้นบนของแกลเลอรี่จะเป็นบาร์นั่งชิลล์จิบเครื่องดื่มชื่อว่า ไฮโซ บาร์


สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้ด้วย


ตอนเย็นแดดร่มลมตก ขึ้นมานั่งชมวิวทะเลจากบาร์แห่งนี้ก็ดูเป็นกิจกรรมที่เข้าท่าเหมือนกันนะครับ


ด้านล่างติด ๆ กันกับไฮโซ บาร์นั้น เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำอีกแห่งของโรงแรม


ออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดยาวไปจนเกือบถึงชายหาด


คุณหนูตัวน้อยสามารถมาใช้บริการสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้นะครับ


เก้าอี้สีสันสดใสริมสระ มองแล้วสบายตา


ช่วงบ่ายแดดร้อน ๆ แบบนี้ ก็เห็นจะมีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นที่มาใช้บริการ


ส่วนเรา ๆ ก็คงจะลงมาใช้บริการกันในช่วงบ่ายจัด ๆ ที่ไม่ค่อยมีแดดแล้วนะครับ


ซุ้มเก้าอี้ที่ประดับด้วยผ้าม่านสวย ๆ เย็นนี้ผมขอจอง


เดินเลยสระว่ายน้ำมาอีกนิดเราจะพบกับชายหาดส่วนตัวของโรงแรม สามารถลงไปเล่นน้ำได้


มีมือยักษ์โผล่ขึ้นมาแต่ปลายนิ้วจากพื้นทรายด้วยนะครับ


วันที่ผมไปนั้น คลื่นแรง ลมแรงพอสมควร


เก้าอี้ชายหาดพร้อมหมอนอิงสีสันสดใสจำนวนมากจัดวางไว้บริการ


ใครร้อนแดด จะสมัครนอนในเต๊นท์โดมเล็ก ๆ  ก็ไม่ผิดกติกานะครับ


บาร์ริมชายหาดและห้องอาหารอีกแห่งชื่อว่า บีช โซไซตี้


บรรยากาศดี สามารถนั่งรับลมเย็น ๆ จากชายหาดได้ทั้งวัน


ช่วงที่ผมไปนั้นก็เห็นมีแขกของโรงแรมจับจองที่นั่ง  นั่งพักผ่อนกันตลอดทั้งช่วงบ่าย


หากใครหิวก็สามารถสั่งอาหารทานได้เลยนะครับ


ที่บีช โซไซตี้ นี้ก็ยังมีสระว่ายน้ำอีกแห่งซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากเท่าไรนัก


จุดประสงค์คงมีไว้ให้แช่ตัวแก้ร้อนมากกว่าให้ว่ายกันเป็นจริงเป็นจัง


นั่งพักแก้เหนื่อยสักครู่ก็แล้วกัน...วิวทะเลมองแล้วสบายใจจังครับ


น้ำมะม่วงปั่นที่เธอลองสั่งมาทานดับร้อน ก็อร่อยดี  


เย็นนี้ผมมาทานข้าวที่ห้องอาหารบีช โซไซตี้


เดินมาถึงก็พบว่าคุณพี่พนักงานนั้นได้ติดป้ายจองโต๊ะไว้ให้ผมแล้ว


บรรยากาศดี ๆ แบบนี้  นั่งทานอาหารชมวิวทะเล รับลมเย็น ๆ ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน


เมนูอย่างแรกของเราในวันนี้  Cuttle squid หรือปลาหมึกชุบแป้งทอด ทำเก๋เสิร์ฟมาในจานสังกะสี ให้บรรยากาศบ้าน ๆ พื้นถิ่น


Orzo tomkha  คุณเชฟนำเส้นพาสต้ามาดัดแปลงทำเป็นเมล็ดข้าว แล้วปรุงให้เป็นรสต้มข่า


Smoked fish tartine เนื้อปลารมควันสไลด์บาง ๆ วางมาบนหน้าขนมปังราดซอสสูตรพิเศษใส่ผักและลูกเคเปอร์


พิซซ่าแป้งบางอบร้อน ๆ สดใหม่มาจากเตาเป็นรูปทรงวงรี  
ชื่อสินค้า:   SO SOFITEL HUA HIN
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่