คือที่ทำงานของเราตั้งอยู่บนเกาะ จึงทำให้ค่าที่พักแพงขึ้นเป็นเท่าตัว แต่เนื่องด้วยมีพนักงานแค่สามคน มีพี่ผู้ช่วยผู้จัดการ(เบิกค่าที่พักได้ 4000) พี่พนักงานพึ่งได้บรรจุ(เบิกค่าที่พักยังไม่ได้) และตัวผมเองซึ่งเป็นลูกจ้าง ยังไม่ได้บรรจุ เราจึงหาที่พักที่เป็นบ้าน จะได้ช่วยกันออกค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และก็โชคดีได้เป็นบ้านพักซึ่งมีสามห้องนอน สองห้องน้ำพอดี ราคาค่าเช่าเดือนละ 5500 บาท พี่ผู้ช่วยเค้าก็เบิกได้เต็มจำนวน คือ 4000 ที่เหลือ 1500 ผมกับพี่พนักงานอีกคนนึงก็ช่วยกันออกคนละครึ่งกับค่าน้ำและค่าไฟ พี่ผู้ช่วยฯไม่ต้องจ่าย อยู่กันสามคนก็ไม่มีปัญหาอะไร ราบรื่นดี แต่พอเริ่มต้นปีใหม่ มีพี่พนักงานมาเพิ่มอีกหนึ่งคน พึ่งได้บรรจุและวุฒิที่บรรจุไม่ใช่ ป.ตรี เงินเดือนจึงต่ำกว่า 15,000 บาท ประจวบกับค่าที่พักแพงอย่างที่บอกไป และหาที่พักไม่ได้ พี่ผู้ช่วยฯ จึงให้มาพักด้วยที่บ้านพักก่อน คือปกติอยู่กันสามคนใครอยากกินอะไรก็จะซื้อมาไว้ทำกินตอนเช้าและตอนเย็น ซื้ออะไรก้อช่วยกันจ่าย ออกช่วยกัน แต่พอมีพี่พนักงานคนที่สี่มาอยู่ด้วย ข้าวเย็นก็กินด้วยกันทุกวัน แต่ไม่ยอมซื้อของมาไว้ทำกิน ซึ่งผมก็สังเกตมานานแล้วตั้งแต่เข้ามาอยู่ ผมรู้สึกไม่ชอบใจกับเรื่องนี้และไม่รู้จะบอกพี่เค้ายังไงดี ไม่รู้ว่าทำไมเค้าไม่ซื้อของกินเข้าบ้าน ทั้งที่กินข้าวด้วยกันทุกวัน ผมไม่ค่อยพอใจจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆครับ
***อ่อ ที่บ้านพักมีเครื่องครัวครบ ตอนเย็นจะทำกับข้าวกินเอง เครื่องครัวส่วนมากเป็นของพี่ผู้ช่วยฯ พี่ที่เค้าเข้ามาอยู่ทีหลังเอามาแค่เสื้อผ้าทำงาน กับจักรยาน และเค้าเบิกค่าเช่าบ้านได้ 2500 บาท พี่เค้ามีครอบครัวแล้ว มีลูกเล็กอายุ 4-5 ขวบหนึ่งคน แฟนทำงานคนละที่ ลูกก็ให้พ่อกับแม่เลี้ยงให้
เพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานเดียวกัน พักที่เดียวกัน นอนห้องเดียวกัน แต่ไม่ยอมซื้อของกินเข้าบ้าน กินแต่ของคนอื่น ผมควรทำไงดีคับ
***อ่อ ที่บ้านพักมีเครื่องครัวครบ ตอนเย็นจะทำกับข้าวกินเอง เครื่องครัวส่วนมากเป็นของพี่ผู้ช่วยฯ พี่ที่เค้าเข้ามาอยู่ทีหลังเอามาแค่เสื้อผ้าทำงาน กับจักรยาน และเค้าเบิกค่าเช่าบ้านได้ 2500 บาท พี่เค้ามีครอบครัวแล้ว มีลูกเล็กอายุ 4-5 ขวบหนึ่งคน แฟนทำงานคนละที่ ลูกก็ให้พ่อกับแม่เลี้ยงให้