::: มองโกเลีย มีอะไร :::

บังเอิญผมได้มีโอกาสไปมองโกเลียช่วงสั้นๆมา ผมเลยคิดว่าคงต้องเขียนเรื่องมองโกเลีย อย่างน้อยคือเก็บเอาไว้อ่านเอง และอีกอย่างคืออยากให้คนที่ไม่เคยไปมองโกเลีย หรือไม่เคยคิดจะไปมองโกเลียได้ลองอ่านดู เผื่ออาจจะมีคนอยากไป หรือไม่คิดจะไปอีกเลยก็ได้ ฮ่าๆๆๆ **กระทู้ยาวนะครับ**



คำแนะนำ :
ประเทศนี้ไม่เหมาะกับคนรักสะอาด
ประเทศนี้ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบนั่งรถและเมารถ
ประเทศนี้ไม่เหมาะกับคนทานอาหารแปลกๆยาก
กระทู้นี้คือการเล่าประสบการณ์ครับผม ไม่มีการเรียงลำดับเวลาก่อนหลังเพื่อความเข้าใจง่ายแต่อย่างใด แต่หวังว่าจะอ่านสนุกนะครับ ยิ้ม

ตอนแรกผมตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่าอยากไปที่ที่โหดซักนิด อย่างแรกคือกลัวไม่มีแรงจะไปในอนาคต กลัวหมดไฟเที่ยว และคิดว่ามันเจ๋งดี (ฮ่าๆๆ) ผมวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าถ้าลาออกจากงานก็อยากจะไปกรีนแลนด์ มันไกล มันโหด มันดิบ และคนไปน้อย ติดอยู่สองอย่างคือค่าทัวร์ที่นู่นมันแพงมาก และการนั่งเครื่องบินไปกรีนแลนด์สำหรับคนกลัวการนั่งเครื่องบินแบบผมไม่สนุกเท่าไหร่ จนในที่สุด ก็ได้ลาออกจากงานจริงๆจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายก็ว่างยาวๆ ลองมานั่งคิดๆดูอีกครั้ง มีอีกที่นึงที่ผมคิดมานานว่าน่าไปดีเหมือนกัน แต่ไม่เคยไปซักที มองโกเลีย ที่บ้านผมค่อนข้างสงสัยว่าไปทำอะไรที่นี่ (จริงๆคือถามทุกคนที่รู้ว่าผมจะไปที่นี่ว่าจะไปทำอะไร)



เพราะความที่ไม่รู้ว่ามันมีอะไร เลยยิ่งทำให้อยากไปมากยิ่งขึ้น สุดท้าย ลองอ่านในเนตจากหลายที่มากว่าไปยังไง มีอะไรให้เที่ยวบ้าง สุดท้าย เลยได้รู้ว่าเป็นที่ที่โอกาสเที่ยวเองแทบจะเป็นศูนย์ และส่วนมากจะพึ่งเกสต์เฮาส์ให้จัดทัวร์ให้ จะเป็นแบบ Join Tour หรือแบบส่วนตัวไปเลยก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ ผมเลยลองอีเมลล์หว่านไปหาเกสต์เฮาส์หลายๆที่ในอูลันบาตาร์ (ที่นู่นเรียกกันสั้นๆว่า UB) จนมีที่นึงตอบมาว่าจัดให้ได้ มีเวลาเท่าไหร่ เลยตอบไป เค้าก็ตอบมาอย่างรวดเร็ว สรุปคือ แพกเกจที่เค้าเสนอมา ทัวร์ 12 วัน เที่ยวไปในเขตโกบีกลาง โกบีใต้ แล้ววกขึ้นตะวันตกนิดหน่อย แล้ววกกลับเข้าเมืองอูลันบาตาร์ ระยะทางประมาณสองพันกว่าๆกิโลเมตรแต่ด้วยเวลาเพียงเท่านี้ทำให้ไม่มีเวลาพอจะไปทางด้านตะวันตกสุดของประเทศในเทือกเขาอัลไต หรือทางตอนเหนือแถบทะเลสาปคุสคุฟ (จนกลับมายังออกเสียงยังไม่ถูกเลย)

ก่อนเดินทาง ผมหาอ่านเกี่ยวกับการไปทัวร์ในประเทศนี้จากในเนตทำให้ผมทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง การไม่ได้อาบน้ำ การไม่มีไฟฟ้าใช้ การไม่มีห้องน้ำ การนั่งรถวันละหลายชั่วโมง ถนนที่อย่าเรียกว่าถนน และการที่รถจะต้องเสียทุกคัน อย่างน้อยคันละครั้งในหนึ่งทริป



เอาวะ ไปก็ไป

โอเค ผมตกลงไป โอนเงินมัดจำ จองตั๋วเครื่องบินเสร็จสรรพ ประเทศนี้ดีอย่างนึงตรงที่ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทย
ถึงวันเดินทาง ผมไปเช็คอินที่สนามบิน คนเข้าคิวเยอะมากกก ขนาดผมเผื่อเวลาไปพอสมควร ไม่นึกว่าคนจะเยอะขนาดนี้ เข้าคิวซักพัก เห็นป้ายตัวสีแดงขึ้น Delayed บนหน้าจอเช็คอินของสายการบิน ผมได้ยินกิตติศัพท์มาเยอะเกี่ยวกับสายการบินนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องมาเจอกับตัว ผมเข้าคิวเรื่อยๆจนถึงหน้าเค้าเตอร์ ถามหนักงานว่าเครื่องดีเลย์นานเท่าไหร่ครับ ผมมีเครื่องที่จะต้องต่อไปมองโกเลียตอนแปดโมงเช้าที่ปักกิ่ง (ตามตารางเครื่องผมต้องถึงปักกิ่งหกโมง มีเวลาสองชั่วโมงนิดๆ กำลังสบายๆสำหรับเปลี่ยนเครื่อง) พนักงานตอบ ตอนนี้เครื่องยังไม่ออกจากปักกิ่ง ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะออกจากไทยกี่โมง เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ที่ปักกิ่งจะช่วยดูแลให้ ... เป็นคำตอบที่เหมือนเค้าจะต้องตอบมาบ่อยครั้งมากจนเป็นความเคยชินในการตอบคำถามนี้

เอ่อ... ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบสี่ทุ่ม ถ้าเครื่องออกจากปักกิ่งได้ตอนนี้เลย ใช้เวลาสี่ชั่วโมงมาถึงไทย ก็จะตีหนึ่งไทย ได้ออกตีสอง ถึงปักกิ่งอย่างช้าน่าจะเจ็ดโมง ยังวิ่งทันนะ ผมเช็คอิน เข้าไปรอข้างใน ซักสองชั่วโมงต่อมา ความจริงก็ปรากฏว่า เครื่องบินไฟลท์ไปปักกิ่งของผม จะออกจากไทยเวลาเจ็ดโมงเช้า ตามเวลาประเทศไทย ... ผมคงไม่มีทางเลือก แล้วทัวร์ที่มองโกเลียหล่ะ ? ทำยังไงดี ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเผื่อวันที่จะออกทัวร์ไว้หนึ่งวัน ผมควรจะถึงมองโกเลียเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม และออกทัวร์วันที่ 19 คราวนี้ทางสายการบินจัดการเปลี่ยนตารางชีวิตผมให้เสร็จสรรพ (ถามใจผมด้วย) อีเมลล์บอกทางเกสเฮ้าส์ เค้าบอกไม่เป็นไร คอยอัพเดทเค้าหน่อยแล้วกันถ้ามาถึง จะเอารถรับด้วยไหม ถ้าเอา 30,000 ตูกริต (15USD) ผมเลยตกลงไป นอนรอในสนามบินถึงเช้า หลับๆตื่นๆ จนประมาณตีห้ากว่าๆ 777-200 ก็มาถึงสนามบิน

จะว่าเป็นเรื่องดีหรือเปล่าที่เครื่องดีเลย์ผมก็ตอบได้ไม่เต็มปาก แต่ผมเชื่อว่าอย่างน้อยการที่คนทั้งเครื่องสลบตลอดสี่ชั่วโมงครึ่ง เป็นเรื่องดีเล็กๆในชีวิตการเดินทางของผม อากาศตลอดการเดินทาง แย่มากที่สุดที่ผมเคยเจอมา แอร์ที่กำลังเสริ์ฟอาหารต้องนั่งลงกับพื้น แรง G ทั้งบวกทั้งลบมากันหมด โยกซ้ายขวาไปมาทั้งลำจนผู้โดยสารจีนที่นั่งติดตรงทางเดินต้องขยับให้แอร์ได้นั่งรัดเจ็มขัดและจับรถเข็นอาหารเอาไว้ ยังดีที่ผมเหนื่อยมากกับการดีเลย์ พอกินยาแก้เมาเลยมึนและไม่รู้สึกอะไรมากจนหลับไป ตื่นมาอีกที่ตอนลดระดับพอดี ถึงปักกิ่งอย่างทุลักทุเล เหนื่อยอ่อน และไม่รู้จะต้องทำยังไงกับไฟลท์ไปอุลันบาร์ตอ
วีรกรรมสต๊าฟจีนที่สนามบินสามารถหาอ่านได้ตามกระทู้ทั่วไปนะครับ ชะตากรรมแบบเดียวกัน ได้นอนโรงแรมในสนามบินฟรี สายการบินเลี้ยงมื้อเย็นฟรีมื้อนึง และจองที่นั่งให้ไฟลท์ถัดไปในวันรุ่งขึ้น เดินเล่นในสนามบินจนทั่วทุกร้านจนพนักงานเริ่มงงว่านี่มันมาต่อไฟลท์รึมาอาศัยที่นี่กันแน่



สุดท้าย วันที่ 19 ตอนเช้าตรู่ผมก็ได้ขึ้นเครื่องต่อไปอุลันบาร์ตอจนได้ สังเกตได้ว่าคนในไฟลท์นี้มีคนจีนไม่ถึงสิบคน ส่วนมากเป็นชาวตะวันตก และมีคนมองโกเลียประปราย บินตรงสองชั่วโมงไปยังมองโกเลีย อากาศดีกว่าเมื่อวานมาก นั่งคุยกับคนฟินแลนด์ข้างๆที่มาทำงานที่นี่ เค้าคุยสนุกดีครับ คุยกันเป็นชั่วโมง คุยเรื่องมาไทย เค้ามามองโกเลียครั้งแรกเหมือนกัน



ผมมองทะเลทรายข้างล่างบ้างเป็นครั้งคราว อืม... หิมะยังละลายไม่หมดนะ น้ำแข็งยังเยอะ โชคดีมากที่ติดเสื้อโค้ทมาตัวนึง เห็นเมืองอุลันบาร์ตออยู่ข้างล่าง เมืองใหญ่มากนะครับ ใหญ่กว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก เจริญพอสมควรทีเดียว
หลังจากผ่านตม. ออกมาข้างนอก เจอกับคนที่มารับผมจากเกสต์เฮาส์ แลกเงินนิดหน่อย (แลกไว้เจ็ดพักบาท ได้ประมาณสี่แสนตูกริต ซึ่งเยอะไปมาก ใครจะมาไม่ต้องแลกเยอะขนาดนี้นะครับ ลำบากแลกกลับอีก) แล้วผมก็ขึ้นรถ(ส่วนตัว)ตรงเข้าเมือง ซักที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่