อย่างนี้เค้าเรียกว่า..ผี..มั่ยครับ..ประสบการณ์อยากเล่า

เริ่มเรื่อง..ความเชื่อ..เรื่องลี้ลับ ภูตผี ปีศาจ ผมมักชอบเอาวิทยาศาตร์
มาแย้งเสมอ..จนวันหนึ่ง..ได้สนทนาธรรมกับพระรูปหนึ่ง
(ช่วงที่บวช) ท่านได้ถามว่า..
เชื่อเรื่องบาปบุญผลแห่งกรรมมั่ย
เราตอบ:เชื่อ
ท่านถามอีกว่า..วิทยาศาตร์พิสูจน์ได้มั่ย
เราตอบ:ไม่ได้
ท่านได้กล่าวอีกว่า..ในเมื่อเชื่อเรื่องบาปบุญผลแห่งกรรมก้จงเชื่อเถอะว่า
วิญญาน ภูตผี ปีศาจ คุณไสย นั้นก้มีอยุ่จริงในสังคมปัจจุบัน
อย่าลบหลูและอย่าหลงเชื่อจนมอมเมา..จงมีสติกับสิ่งที่เจอ..อย่ากลัว
เพียงเท่านี้แหละกับสิ่งที่ท่านพูด..จนทำให้เกิดอาการอยากพิสูจแต่ไม่ได้ลบหลู
ณ. ช่วงเวชาที่บวช..
ขอเวลาแป้บนะครับ..นัดลูกค้าส่งเมลงาน..เดี่ยวมาเล่าต่อ
ปล.เรื่องอาจไม่น่ากลัวไม่ต้องรออ่านก้ได้นะครับที่เล่าสู่กันฟัง
เพราะอจากให้ทุกคนมีสติ..กับสิ่งที่เจอเท่านั้น..ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
มาต่อนะครับ...
เหตุการณืเกิดขึ้นตอนที่บวช..ผมบวชเป็นระยะเวลา 1 เดือน ที่วัดป่าแห่งหนึ่งตอนที่บวชนะครับแยกกุฎิจำวันคนเดี่ยวบรรยากาศได้การ อยู่ติดหลังเมรุ
บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ป่าช้าเก่าเค้าล้างป่าช้าแล้ว ยังเหลือหลุมฝังศพ 1 หลุม ยอมรับครับช่วงวันแรกๆต้องเปิดไฟนอนหลอนได้ที่เหมือนกัน
ทุกคืนที่จำวัดไม่มีอะไรผิดปกติ หลังจากบวชได้ 1 อาทิตย์ และได้สนทนาธรรมกับพระท่านที่กล่าวมาขั้นตน ในใจคิดอยากพิสูจว่า ผี วิญญาณมีจริงมั่ย
พอดีมีหลวงตาที่วัดเลี้ยงกุมารใว้ 2 องค์ องค์ที่ 1 เป็นเด็กจมน้ำตายอายุประมาณ 6 ขวบจมน้ำตาย องค์ที่ 2 เป็นเด็กอายุ 14 ขวบ รถล้มตาย (ตามที่หลวงตาเล่าให้ฟังนะครับ) ผมจึงขอบูชาต่อจากหลวงตา หลวงตาได้อธิบายวิธีเลี้ยงให้ฟังว่า ห้ามให้ของคาว ห้าวกราบไหว้ ห้ามดุ ห้ามพูดจาไม่ดี..เพราะเค้าจะไม่อยู่ด้วย...ผมก็โอเคเพราะความอยากรู้ว่ามีจริงหรือมั่ย..รวมถึงอยากปลดปล่อยเค้าให้หลุดพ้นจากการถูกกักวิญญาณถ้าได้รู้คำตอบแล้ว..เมื่อนำมาก็ปตฎิบัติตามที่ท่านบอก..เหตุการเกิดขึ้นคืนแรกเลยครับ..หลังจากทำวัดเสร็จ..ก็กลับมากุฎิอ่านหนังสือตามปกติพอง่วงประมาณห้าทุ่มก็ปิดไฟนอน..รู้สึกตัวว่าหลับได้สักพักแต่ไม่สนิทเท่าไหรก็ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะข้างหู ฮิ ฮิ  ฮิ ฮิ ๆ ดังเรื่อยๆอยู่ข้างหู..แต่ไม่สนใจคิดว่าคงใช่แล้ว..พอเราคิดไม่สนใจเท่านั้นแหละเสียงเริ่มถี่ขึ้นและดังมากขึ้น..จึงลืมตาตื่นขึ้นก็ไม่มีอะไร..และ...ได้คิดในใจบอกไปว่าอย่ากวนพี่จะนอนพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้าบิณฑบาตรพร้อมกับลุกขึ้นไปเปิดไฟนอน..หลังจากนั้นก็นอนต่อ..ช่วงเวลาไม่นานกึ่งหลับกึ่งตื่น..รู้สึกได้ยินเสียงหัวเราะเดิมอีกครั้งเพิ่มเติมคือเสียงเด็กหัวเราะหยอกกันแต่ครั้งนี้เสียงมาจากปลายเท้า..จึงได้คิดในใจบอกไปอีกครั้งว่าอย่ากวนจะนอนเดี่ยวเตื่นไม่ทัน(หลวงตาบอกห้ามด่าเค้า)พอบอกเสร็จเสียงกับดังขึ้นผมจึงลืมตาขึ้นดูทั้งที่ยังง่วง..อาการกึ่งหลับกึ่งตื่นแต่ลืมตาดู ..เจอเด็ก 2 คนยืนหยอกกันที่ปลายเท้าใจหนึ่งก็ตกใจ..อีกใจก็รู้แล้วว่ามาเล่นจึงเตือนไปอีกครั้งว่าอย่ากวนนะจะนอนแล้วจะตื่นไม่ทัน..แต่ยังไม่หยุดครับเอาอีก...ดังขึ้นเรื่อยๆคราวนี้ทนไม่ไหวแล้ว..ผมลุกขึ้นนั้งแล้วมองไปที่เสียงนั้นแต่ไม่เห็นเด็กแล้ว..พร้อมกับคำด่า..ด่ากราดเลยครับ..คำหยาบ../กู มาหมด..แล้วก็นอนต่อ..ตื่นเช้าออกบิณฑบาตรแล้วเล่าให้หลวงตาฟังว่าเมื่อคืนกุมาร 2 องค์มากวนไม่ยอมหยุดจึงด่าไป..ไม่รู้ว่าจะยังอยู่กับผมหรือป่าว..สุดท้ายแล้วก็เลี้ยงต่ออีก3-4 วันก็ไม่เจอไม่ได้ยินเสียงอีกหลวงตาว่าเค้าคงไม่อยู่ด้วยแล้วจึงคืนหลวงตากลับคืนไป...
เนี้ยเรื่องแรกไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหรครับ..แต่เชื่อแล้วว่าสิ่งพวกนี้มีจริง..เลยไม่ค่อยลบหลู่..
เดี่ยวมาต่ออีกเรื่องนะครับ...เสียงเดินรอบหลังคา..(ช่วงที่บวชเหมือนกัน)...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่