เมถุนจัง ๆ เป็นสังฆาทิเสส !

^
           คำว่า เอตทคํ ฯเป ฯ ปริจเรยฺย มีความว่า หญิงใดพึงบำเรอผู้ประพฤติพรหมจรรย์มีศีล มีกัลยาณธรรมเช่นเรา ด้วยธรรมนั่น  ขึ้นชื่อว่าการบำเรอใด ของหญิงนั้น ผู้บำเรอผู้พระพฤติพรหมจรรย์เช่นเราอย่างนั้น, การบำเรอเป็นยอดของการบำเรอทั้งหลาย.

           สองบทว่า เมถุนูปสํหิเตน สงฺฆาทิเสส มีความว่า ภิกษุใดเมื่อกล่าวคุณแห่งการบำเรอตนด้วยกามอย่างนั้น พึงกล่าวด้วยคำพาดพิงเมถุนจัง ๆ คือ หมายเฉพาะเมถุนจัง ๆ เป็นสังฆาทิเสสแก่ภิกษุนั้น.  บัดนี้ ท่านปรับสังฆาทิเสส แก่ภิกษุผู้กล่าวด้วยคำพาดพิงเมถุนเท่านั้น; เพราะเหตุนั้น จึงไม่เป็นสังฆาทิเสสแม้แก่ภิกษุผู้กล่าวคุณแห่งการบำเรอ ด้วยถ้อยคำมีอาทิอย่างนี้ว่า ฉันก็เป็นกษัตริย์ หล่อนก็เป็นกษัตริย์ นางกษัตริย์สมควรให้แก่กษัตริย์ เพราะมีชาติเสมอกัน แต่เป็นสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้กล่าวปริยายแม้มาก มีคำว่า ฉันก็เป็นกษัตริย์ หล่อนก็เป็นกษัตริย์ เป็นต้น แล้วกล่าวด้วยถ้อยคำพาดพิงเมถุนจัง ๆ อย่างนี้ว่าหล่อนสมควรให้เมถุนแก่ฉัน.

ฉบับ มมร. ๓/๒๔๐-๒๔๑/๑๔-๒๒,๑-๕


Debits : www.tripitaka91.com/3-240-0.htm
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่