[CR] [ MOVIE REVIEW ] THE MAN WHO KNEW INFINITY



THE MAN WHO KNEW INFINITY
(Matthew Brown, 2016)


สารภาพตรงๆก่อนนะฮะ ว่าไม่เคยรู้จักว่า รามานุจัน เปนใคร จนได้ดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็ทำให้ตัวเองเกิดความสว่าง หลุดพ้นจากความมืดมนโง่งมไปหน่อยหนึ่ง ตรงที่ได้รู้ว่ารามานุจันเปนนักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทว่าจะเปนคณิตศาสตร์แบบไหน อะไรยังไง นำความเปลี่ยนแปลงหรือสร้างคุณูปการใดๆแก่โลกบ้างนั้น ยังคงเปนความมืดมนสำหรับน้องมอดอยู่ดี เพราะเอ่ยคำว่า ‘คณิตศาสตร์’ เมื่อใด อะไรที่นอกเหนือจากการบวกลบคูณหารแล้วล่ะก็ น้องมอดจะเริ่มมึนงง ตาพร่า น้ำลายฟูมปากขึ้นทันที ‪#‎เด๋วนะนั่นมันโรคกลัวน้ำแล้วววว‬ ^_^

ดีที่หนังเรื่องนี้เน้นเล่าชีวประวัติ รามานุจัน ในฐานะนักคณิตศาสตร์ผู้ถูกขนานนามว่า ‘อัจฉริยะโลกไม่รัก’#‎ชื่อภาษาไทยของหนัง(เพราะกล้าพูดได้ว่า ถ้าไม่มีการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา คนส่วนใหญ่ในโลกจะยังคงไม่รู้จักว่ารามานุจันเปนใครอยู่ดี) เปนหลัก น้องมอดก็เลยดูหนังไปได้เรื่อยๆด้วยความสบายใจ มั่นใจว่าคนทำหนังคงจะไม่บ้าบอถึงขนาดเอาสูตรคณิตศาสตร์มาใส่ไว้ในหนัง เพื่อแสดงความอัจฉริยะของเขาอย่างเด็ดขาด

หนังเล่าเรื่องราวชีวิตของ รามานุจัน (เดฟ พาเทล) ผ่านมุมมองของ จี.เอช. ฮาร์ดี้ (เจเรมี่ ไอร์ออนส์) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษซึ่งเปนผู้สนับสนุนส่งเสริมให้ผลงานของรามานุจันได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชน ทั้งยังเปน ‘ป๋าดัน’ ให้เขาได้รับการยอมรับในแวดวงนักวิชาการแห่งอังกฤษ ได้เข้าเปนสมาชิกในสมาคมคณิตศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งอังกฤษ รวมถึงได้เปนนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ถือเปนเกียรติยศสูงสุดในชีวิตของเขาโดยแท้ เพราะลำพังแค่เปนคนอังกฤษ กว่าจะได้ถึงขั้นนั้นก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว แต่สำหรับรามานุจันซึ่งเปนคนอินเดียที่ถูกมองว่าต่ำต้อยกว่า ย่อมยิ่งยากเย็นจนกระอักออกมาเปนเลือดเลยทีเดียว ‪#‎ไอออกมาเปนเลือดจริงๆมิได้เล่นสำนวน‬ ^o^ เพราะเขาต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย ทั้งความยากจน การดูถูกเหยียดหยาม ไม่ยอมรับจากเหล่าพวกเหยียดสีผิวและเชื้อชาติซึ่งมองว่า คนอินเดียที่มีการศึกษาต่ำอย่างรามานุจัน ไม่น่าจะมีความปราดเปรื่องทางคณิตศาสตร์สูงส่งกว่าตนเด็ดขาด

ทว่า อุปสรรคใดก็ดูจะไม่ร้ายแรงเท่ากับการที่เขาต้องต่อสู้กับสิ่งที่อลวนขัดแย้งอยู่ภายในจิตใจ เริ่มตั้งแต่การตัดใจอำลาจากแม่และเมีย เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูต่างบ้านต่างเมืองเพียงลำพัง ต้องเผชิญกับความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยน ไร้คนเหลียวแลในท่ามกลางคนแปลกหน้า ซึ่งส่วนใหญ่มองดูเขาด้วยสายตาเคลือบแคลงและไม่เชื่อถือ แม้กระทั่งฮาร์ดี้ ที่แม้จะมองเห็นพรสวรรค์และความเก่งกาจที่มีพร้อมในตัวรามานุจันเพียงใด หากก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ผลงานแต่ละชิ้นออกมาโดยปราศจากข้อพิสูจน์ที่ถูกต้องแม่นยำ ‪#‎พวกนักวิชาการก็เงี่ยแหละ‬ จึงต้องเคี่ยวเข็ญเขาอย่างหนักเพื่อให้งานที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด มีข้อโต้แย้งน้อยที่สุด ซึ่งกลายเปนการสร้างแรงกดดันแก่เขาอย่างมหาศาล

ไม่แน่ใจว่าตัวจริงของ จี.เอช. ฮาร์ดี้ นักคณิตศาสตร์ ผู้ถูกนำมาเปน ‘คนเล่าเรื่อง’ ของหนังเรื่องนี้ จะเปนที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการคณิตศาสตร์อยู่แล้วอะป่าวนะฮะ บอกตรงๆว่าน้องมอดเพิ่งรู้จักจากเรื่องนี้แหละ (ก่อนหน้านี้รู้จักแต่ ฮาร์ดี้ ที่เปนคนแต่ง “เทสส์ ผู้บริสุทธิ์” ง่ะ) แต่ก็รู้จักแบบผิวเผินเท่านั้น เพราะหนังให้ข้อมูลเกี่ยวกับเขาน้อยมาก นั่งๆดูไปก็นึกถึงเรื่อง “รีเบ็คก้า” ขึ้นมาซะงั้น เพราะคนดูรู้จัก ‘ดิฉัน’ ซึ่งเปนคนเล่าเรื่องน้อยมากๆ แต่รู้จักรีเบ็คก้าแทบจะทุกแง่ทุกมุมเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่คนดูไม่ค่อยรู้จักฮาร์ดี้เท่าไหร่ นอกจากรู้ว่าเขาเปนนักคณิตศาสตร์ผู้โด่งดังแล้ว ก็รู้แค่เขาเปนคนไม่เชื่อถือในพระเจ้า พูดอีกแบบคือไม่เชื่อในสิ่งที่ไม่อาจพิสูจน์ได้แน่ชัด แถมเวลาพูดกับใครยังไม่ค่อยมองหน้าอีกด้วย ทำให้รู้สึกว่าเปนคนเนิร์ดแตกมาก! พานให้เชื่อว่าน่าจะเปนคนมีปัญหาครอบครัวแน่ๆ (ดังที่รามานุจันตั้งข้อสังเกตว่าไม่เคยเห็นรูปถ่ายของเขากับครอบครัวในห้องทำงานเลย)

ดูหนังเรื่องนี้แทนที่จะชอบ เดฟ พาร์เทล ซึ่งเล่นเปนตัวละครเอกของหนัง น้องมอดกลับชอบ ลุงเจเรมี่ ไอร์ออนส์ มากสุด!! มีความรู้สึกว่าลุงเล่นเรื่องนี้ได้เยี่ยมยอด ถือเปนบทบาทที่ดีที่สุดในยุคหลังของลุงเค้า เท่าที่น้องมอดได้ดูเลยแหละ คือเดาว่าตัวจริงของจี.เอช. ฮาร์ดี้ น่าจะดูซีเรียส เครียดๆ เคร่งขรึม เอาเปนเอาตายกับคณิตศาสตร์ ใครก็ตามถ้าไม่มีความเนิร์ดพอกันก็คงจะไม่อยากเข้าใกล้ เพราะคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เหมือนอยู่กันคนละกาแล็กซี่ อะไรทำนองนั้น แต่การแสดงของลุงเจเรมี่กลับทำให้รู้สึกว่า ฮาร์ดี้เปนคนอ่อนโยน ใจดี มีเมตตา และน่าเข้าใกล้สุดๆ (คือคนอ่อนโยน ใจดี มีเมตตา แต่ ‘ไม่น่าเข้าใกล้’ ก็มีถมเถเยอะแยะนะฮะ ‪#‎ต้องบอกมั้ยว่าใคร‬ ‪#‎พูดแล้วสมเพชตัวเองจุง‬ T____T)

อีกคนที่ชอบรองลงมาคือ ลุงโทบี้ โจนส์ ที่รับบท จอห์น ลิตเติ้ลวู้ด นักคณิตศาสตร์ชื่อดังอีกคนที่เปรียบเสมือนคู่หูของฮาร์ดี้ และมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ฮาร์ดี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อผลักดันให้ผลงานของรามานุจันเปนที่ยอมรับของชาวโลก (ซึ่งเปนอีกคนที่น้องมอดยังคงไม่รู้จักอยู่ดี น่าจะเปลี่ยนชื่อเปน ‘อัจฉริยะน้องมอดไม่รู้จัก’ มากกว่าเนอะ อิอิ) แม้ว่าลุงโทบี้จะโผล่ออกมาไม่กี่ฉาก แต่ทุกฉากที่ออกคือคือ ‘ปัง’ มาก จนคิดว่าน่าจะเอาเรื่องของฮาร์ดี้กับลิตเติ้ลวู้ดมาสร้างเปนหนังแทน แถม ‘เคมี’ ของลุงเจเรมี่กับลุงโทบี้ก็แลดูเข้ากั๊น..เข้ากันเปนที่สุด ขณะที่เดฟ พาร์เทล น้องมอดกลับรู้สึกเฉยๆ คือเขาก็เล่นได้โอเคแหละ แต่ไม่มีอะไรให้ประทับใจเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะบทที่ได้รับค่อนข้างยากเกินความสามารถ หรือว่าเพราะโดนรัศมีของลุงทั้งสองข่มจนไม่มีชิ้นดีกันแน่ ถถถถถ…

ส่วนที่ดูแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คือการที่หนังไม่ให้รายละเอียดด้านการศึกษาของรามานุจันเท่าไหร่ ดูแล้วงงๆ ว่าเหตุใดเขาจึงมีความหลงใหลในคณิตศาสตร์ถึงขนาดคิดสูตร คิดสมการโน่นนี่นั่นลงในสมุดเล่มเบ้อเริ่มได้มากมายขนาดนั้น แถมพอมีคนถามว่าคิดออกมาได้ไง เขากลับตอบว่าไม่รู้ แถมยังบอกว่าพระแม่ลักษมีทางมาเข้าฝัน แล้วป้อนตัวเลขใส่ปากเขา ซึ่งเท่ากับผลักให้กลายเปนเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติไปโน่น #‎ฟังแล้วก็เงิบกันไป‬ -_- (บอกไว้หน่อยละกัน เผื่อใครไม่ทราบว่า พระแม่ลักษมี คือเทวีแห่งความงดงาม ความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ พระองค์มักประทานความสำเร็จในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทอง สมบัติ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ ‪#‎ข้อมูลจากเว็บไซต์http://www.siamganesh.com/laksmi.html)

เอาเปนว่าหนังพอดูได้เรื่อยๆ เพลินๆฮะ ไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่ก็ไม่มีดราม่าเร้าอารมณ์มากมาย โดยส่วนตัวน้องมอดมองว่า การได้ดูหนังเรื่องนี้มีข้อดีตรงที่ทำให้ได้ความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้นในชีวิต นอกจากได้รู้ว่ารามานุจันเปนใครแล้ว ยังได้เห็นว่า คนเรานั้นต่อให้เก่งแสนเก่งเพียงใด ก็อาจไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ หากว่าไม่มีใครเห็นคุณค่า เห็นความสามารถ และช่วยสนับสนุนให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างงดงาม (เช่นในกรณีของรามานุจันกับฮาร์ดี้) รวมถึงได้ข้อคิดว่า ช่วงเวลามีชีวิตอยู่ของคนเรานั้น ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวแค่ไหน ไม่สำคัญเท่ากับตอนที่ยังมีลมหายใจ เราได้คิด ได้ลงมือทำอะไรที่เปนประโยชน์สืบทอดสู่คนรุ่นหลังหรือเปล่า… :’-P

อ่านรีวิวอื่นๆได้ที่เพจ --> https://www.facebook.com/Movies-Light-Up-NONGMODs-Life-1455715884652777/
ชื่อสินค้า:   The Man Who Knew Infinity อัจฉริยะโลกไม่รัก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่