ดูเรื่องนี้มาหลายตอน จนมาถึงตรงนี้ เอาเป็นว่าตั้งใจดูกว่าทำรายงานเรียนจบอีกค่ะ 555555
ละครเรื่องนี้ทำให้เราเห็นแง่มุมความรักของตัวละครเยอะแยะไปหมดเลย ขออนุญาตวิเคราะห์ เอ๊ จะเรียกกว่าวิเคราะห์ได้มั้ย ก็ไม่แน่ใจค่ะ เป็นเพียงความเห็นเล็กๆ น้อยๆ จากการดูละครแล้วตกผลึกออกมาเท่านั้น มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ขอเริ่มที่ตัวละครตัวแรก คือ หมอวรรษ กันก่อน
ตัวละครตัวนี้ชัดเจนมาจากชื่อเรื่องแล้วค่ะ คือ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ถึงเขาจะเป็นคุณหมอหนุ่มที่มีพร้อมทั้งหน้าตา อาชีพ ความรู้
สำหรับเรา มุมมองความรักของหมอ หมอค่อนข้างซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ความรักของเขาจึงตรงไปตรงมา รักคือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก จะว่ากึ่งเรียลกึ่งอุดมคติก็ได้ คือหมอดูมี love at first sight กับนุศตั้งแต่อยู่บนเกาะ(นี่แหละความอุดมคติ) มีซีนที่ถึงแม้ตอนนั้นโสมจะเริ่มมาวอแวหมอแล้ว แต่หมอกลับนึกภาพย้อนไปถึงนุศ แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่างที่มันคลุมเครือ ทำให้หมอไม่สามารถเดินหน้าเรื่องความรักได้อย่างจริงจัง ทั้งที่บุคลิกหมอเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาก็ตาม ถึงอย่างนั้น แม้ว่าโสมจะพยายามทำทุกวิถีทางให้หมอสนใจ หมอกลับให้ความรู้สึกแค่เพื่อนกับโสมเท่านั้น แถมยังขีดเส้นไว้ชัดเจนเสียด้วย แต่กับนุศ หมอโดนด่าแล้วด่าอีก เขาก็ยังให้ความสนใจผู้หญิงคนนี้เสมอ เห็นได้จากหลายๆซีนที่เอะอะก็เข้าไปกวนนุศตลอดๆ แต่จริงๆ แล้วหมอเองก็ให้เกียรตินุศนะ (ถ้าไม่ตั้งใจแกล้ง555) เช่น ซีนที่นุศเพิ่งจะมีเรื่องกับอา แล้ววิ่งหน้าตื่นออกมา สภาพไม่ดี หมอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เหมือนเป็นห่วงลึกๆ มองดูห่างๆ ตรงนี้เองที่ทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจแล้วค่ะว่า ความรักของหมอคือความเป็นห่วงเป็นใยและซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง
ตัวละครต่อมา อนุศนิยา เธอเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ เย่อหยิ่ง มั่นใจ และเก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง ติดจะมากไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นความรักของนุศถึงได้ห่างไกลจากความเป็นจริงอยู่มาก นุศวาดฝันความรักในอุดมคติของเธอ ด้วยการตั้งต้นแบบผู้ชายคนนั้นไว้ และใครที่ดีได้ไม่เท่าอาชยาก็อย่าหวังว่าเธอจะมอบความรักให้ ผู้หญิงแบบนี้เสี่ยงขึ้นคานม๊ากมาก 55555 อ่ะ ด้วยความที่นุศมีความอุดมคติสูงมาก เธอจึงระแวดระวังเรื่องความรักอย่างเต็มเปี่ยมและอ่อนหัดในเรื่องความรักสุดๆ ถ้าย้อนไปตอนแรกเลย ซีนที่อยู่บนเกาะ แล้วเจอกับหมอ ลึกๆแล้วเธอกลับรู้สึกดีกับผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเธอ นี่แหละค่ะ จุดอ่อนผู้หญิงมักพ่ายแพ้ให้กับการดูแลเอาใส่ใจแบบนี้นี่เอง จนแล้วจนรอด ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังหรอก เพราะหมอดั๊นมาเป็นลูกหนี้ของเธอ แถมเรื่องราวก็มีแต่จะยุ่งเหยิง ผู้หญิงที่ตื่นกลัวความรักอย่างนุศจึงกลับมายืนในจุดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเอง ทุกการกระทำคือการป้องกันไม่ให้หัวใจได้รับความเจ็บปวด ความรักของนุศจึงเปรียบเสมือนยาขนานหนึ่ง มีรสขม หวาดกลัวจะรับยาในทีแรก แต่ยาตัวนี้เองที่จะช่วยทำให้เธอหายหวาดกลัวความรัก
มาถึง โสมมิกา บ้าง ตัวละครตัวนี้ที่สุดแล้วค่ะ ที่จะบรรยายความรักของเธอออกมาได้มันส์ โสมคือผู้หญิงประเภททำอะไรตรงไปตรงมา วีน เหวี่ยง แต่ก็มีมุมน่ารักๆ ให้คนดูได้แอบเคลิ้มซะอย่างนั้น แรกเริ่มเดิมทีพื้นฐานตัวละครตัวนี้น่าสงสารค่ะ ด้วยการที่ครอบครัว หรือป๋า (พ่อ) ไม่ใช่พ่อในแบบที่จะส่งเสริมให้ลูกสาวเติบโตไปในทิศทางที่ดีนัก แถมยังละเลยความสนใจลูกสาวคนเดียวของตัวเองไปให้บรรดาเมียน้อย ดังนั้นโสมจึงขวนขวายที่จะหาใครสักคนที่ต้องใส่ใจ และรักเธอ "แค่เพียงคนเดียว" เท่านั้น จนกระทั่งมาเจอหมอ โสมได้เห็นหมอในมุมความเป็นฮีโร่นิดๆ คนดูอย่างเราจึงไม่แปลกใจเลยที่โสมจะสนใจหมอมากขนาดนี้ เธอมองหมอเป็นเหมือนการ heal ตัวเองอ่ะค่ะ ในมุมมองเรา นางมองว่าถ้ามีหมอในชีวิต ชีวิตเธอจะได้รับการเติมเต็มแน่ๆ ความรักของโสมจึงเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกัน รักที่มากเกินไป มักไม่ใช่เรื่องดี มีหลายซีนมากๆ ที่โสมไปหาหมอถึงโรงพยาบาล เรามองว่านี่เป็นจุดเริ่มของการเข้าไปรุกรานชีวิตส่วนตัวและการทำงานของหมอ และการกระทำของโสมตรงนี้ทำให้ความคิดว่า "หมอต้องเป็นของโสมคนเดียว" มันชัดเจนยิ่งขึ้น เอาจริงๆ เราก็สงสารโสมนะ นางทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรักครั้งนี้จริงๆ แต่หมอก็ยังไม่รักและขีดเส้นคสพ.ชัดเจน และบอกคอยย้ำตลอดว่า "ผมต้องรักษาคนไข้ ผมเป็นของโสมคนเดียวไม่ได้" นั่นแหละค่ะ ดังนั้นนิยามความรักของสองคนนี้ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเลย แถมซีนเมื่อคืนที่นางพูดว่า "ถ้าโสมไม่ได้ ใครก็ไม่ได้หมอทั้งนั้น" จึงทำให้ความรักของโสมเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่ต้องการคนมารักแต่ตอนนี้ความรักของโสมตั้งอยู่บนความอยากเอาชนะเสียแล้ว
ส่วน อาชยากร เรามองว่าตัวละครตัวนี้น่าอึดอัดดีค่ะ โธ่... ทั้งที่ภายนอกดูชวนฝัน แต่จริงๆเป็นผู้ชายที่เหมือนเก็บกดทุกอย่างเอาไว้ในใจ ทั้งเรื่องชาติกำเนิดและความรู้สึกที่มีต่อหลานตัวเอง ความรักของอาชยาคล้ายกับโสมนิดหน่อยตรงต้องการคนรักและใส่ใจเขา และนุศก็ตอบโจทย์ตรงนี้ของอาชยา ด้วยการทำงานและชีวิตที่อยู่ด้วยกันตลอด ในขณะที่นุศเองไม่ได้คิดอะไรเกินเลยเพราะเธออ่อนหัดในเรื่องความรัก แต่กับอาที่โตกว่า มีวัยวุฒิมากกว่า อาจึงคิดไปไหนต่อไหนแล้ว ถถถถถถ แถมยังมโนต่อยอดจนคนดูแอบสะพรึงในบางฉาก และหลายๆ คำพูดที่อาสื่อออกมา บอกตรงๆว่าน่ากลัวมากกว่าน่าเคลิ้มฝันค่ะ ความรักของอาชยาจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนและยัดเยียดอย่างที่มิรันตรีปรามาสไว้ และการที่อาชยาพูดบ่อยๆ ว่าไม่อยากให้ใครเข้าใกล้นุศ ไม่อยากให้นุศเป็นของใคร มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่เห็นแก่ตัว ยอมไม่ได้ที่จะเห็นนุศได้แต่งงานกับหมอ ต้องการที่จะรั้งนุศไว้กับตนเองอย่างถึงที่สุด มีหลายๆ ซีนที่อาพูดจาพยายามโน้มน้าวนุศ อีกครั้งค่ะที่เรารู้สึกว่า ความรักของอามันน่ากลัวเกินไป มันคือการอยากครอบครอง เหมือนว่าถ้าเรายอมเดินเข้าไปในโลกของอาชยาแล้ว เราจะไม่สามารถหาอิสระได้เลย
ตัวละครสุดท้าย มิรันตรี ด้วยซีนของมิรันตรีกับอาชยาเพิ่งจะมาพีคเอาเมื่อคืน คือมิพูดเผยความในใจของตัวเองออกไปจนหมดแล้ว ความรักของมิ ดูจะเป็นความรักที่ส่วนใหญ่เกิดกับผู้หญิงทั่วๆไป คือ เราหวังดีกับเขา แต่เขาดันไม่เคยเห็นความหวังดีของเราเลย .... เราไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เขาชอบ เราจะไปสู้อะไรผู้หญิงที่เขาชอบได้ ... โหยยยย แม่คุณคนนี้น่าสงสารที่สุดแล้วค่ะ คงต้องให้กำลังใจมิเยอะๆ ถ้าเปรียบอาชยาเป็นด้านมืด เราว่ามินี่แหละค่ะคือด้านสว่างที่จะทำให้ผู้ชายคนนี้มีชีวิตและมุมมองความรักที่ดีขึ้น เพราะทุกครั้งที่มิอยู่กับอา คนดูจะได้เห็นมุมน่ารักๆของอาเสมอ และมุมนี้เองเรามองว่าใกล้เคียงตัวตนของอามากๆด้วย
+++ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของเรานะคะ ดูแล้วมันอินจนต้องระบายออกมาหน่อย 555555 สามารถแย้งได้ค่ะ แชร์ความรู้สึกจากการได้ดูละครเรื่องนี้กัน สุดท้ายนี้อยากบอกพี่แอน และคนเขียนบทมาก ว่ารู้สึกดีที่ทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติ มีมุมสีเทาๆ ให้น่าติดตาม คืนนี้จะดูละครอย่างตั้งใจเหมือนเดิมค่ะ 5555 +++
ความรักคืออะไร.. จาก #เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ
ละครเรื่องนี้ทำให้เราเห็นแง่มุมความรักของตัวละครเยอะแยะไปหมดเลย ขออนุญาตวิเคราะห์ เอ๊ จะเรียกกว่าวิเคราะห์ได้มั้ย ก็ไม่แน่ใจค่ะ เป็นเพียงความเห็นเล็กๆ น้อยๆ จากการดูละครแล้วตกผลึกออกมาเท่านั้น มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ขอเริ่มที่ตัวละครตัวแรก คือ หมอวรรษ กันก่อน
ตัวละครตัวนี้ชัดเจนมาจากชื่อเรื่องแล้วค่ะ คือ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ถึงเขาจะเป็นคุณหมอหนุ่มที่มีพร้อมทั้งหน้าตา อาชีพ ความรู้
สำหรับเรา มุมมองความรักของหมอ หมอค่อนข้างซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ความรักของเขาจึงตรงไปตรงมา รักคือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก จะว่ากึ่งเรียลกึ่งอุดมคติก็ได้ คือหมอดูมี love at first sight กับนุศตั้งแต่อยู่บนเกาะ(นี่แหละความอุดมคติ) มีซีนที่ถึงแม้ตอนนั้นโสมจะเริ่มมาวอแวหมอแล้ว แต่หมอกลับนึกภาพย้อนไปถึงนุศ แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่างที่มันคลุมเครือ ทำให้หมอไม่สามารถเดินหน้าเรื่องความรักได้อย่างจริงจัง ทั้งที่บุคลิกหมอเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาก็ตาม ถึงอย่างนั้น แม้ว่าโสมจะพยายามทำทุกวิถีทางให้หมอสนใจ หมอกลับให้ความรู้สึกแค่เพื่อนกับโสมเท่านั้น แถมยังขีดเส้นไว้ชัดเจนเสียด้วย แต่กับนุศ หมอโดนด่าแล้วด่าอีก เขาก็ยังให้ความสนใจผู้หญิงคนนี้เสมอ เห็นได้จากหลายๆซีนที่เอะอะก็เข้าไปกวนนุศตลอดๆ แต่จริงๆ แล้วหมอเองก็ให้เกียรตินุศนะ (ถ้าไม่ตั้งใจแกล้ง555) เช่น ซีนที่นุศเพิ่งจะมีเรื่องกับอา แล้ววิ่งหน้าตื่นออกมา สภาพไม่ดี หมอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เหมือนเป็นห่วงลึกๆ มองดูห่างๆ ตรงนี้เองที่ทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจแล้วค่ะว่า ความรักของหมอคือความเป็นห่วงเป็นใยและซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง
ตัวละครต่อมา อนุศนิยา เธอเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ เย่อหยิ่ง มั่นใจ และเก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง ติดจะมากไปด้วยซ้ำ ฉะนั้นความรักของนุศถึงได้ห่างไกลจากความเป็นจริงอยู่มาก นุศวาดฝันความรักในอุดมคติของเธอ ด้วยการตั้งต้นแบบผู้ชายคนนั้นไว้ และใครที่ดีได้ไม่เท่าอาชยาก็อย่าหวังว่าเธอจะมอบความรักให้ ผู้หญิงแบบนี้เสี่ยงขึ้นคานม๊ากมาก 55555 อ่ะ ด้วยความที่นุศมีความอุดมคติสูงมาก เธอจึงระแวดระวังเรื่องความรักอย่างเต็มเปี่ยมและอ่อนหัดในเรื่องความรักสุดๆ ถ้าย้อนไปตอนแรกเลย ซีนที่อยู่บนเกาะ แล้วเจอกับหมอ ลึกๆแล้วเธอกลับรู้สึกดีกับผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเธอ นี่แหละค่ะ จุดอ่อนผู้หญิงมักพ่ายแพ้ให้กับการดูแลเอาใส่ใจแบบนี้นี่เอง จนแล้วจนรอด ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังหรอก เพราะหมอดั๊นมาเป็นลูกหนี้ของเธอ แถมเรื่องราวก็มีแต่จะยุ่งเหยิง ผู้หญิงที่ตื่นกลัวความรักอย่างนุศจึงกลับมายืนในจุดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเอง ทุกการกระทำคือการป้องกันไม่ให้หัวใจได้รับความเจ็บปวด ความรักของนุศจึงเปรียบเสมือนยาขนานหนึ่ง มีรสขม หวาดกลัวจะรับยาในทีแรก แต่ยาตัวนี้เองที่จะช่วยทำให้เธอหายหวาดกลัวความรัก
มาถึง โสมมิกา บ้าง ตัวละครตัวนี้ที่สุดแล้วค่ะ ที่จะบรรยายความรักของเธอออกมาได้มันส์ โสมคือผู้หญิงประเภททำอะไรตรงไปตรงมา วีน เหวี่ยง แต่ก็มีมุมน่ารักๆ ให้คนดูได้แอบเคลิ้มซะอย่างนั้น แรกเริ่มเดิมทีพื้นฐานตัวละครตัวนี้น่าสงสารค่ะ ด้วยการที่ครอบครัว หรือป๋า (พ่อ) ไม่ใช่พ่อในแบบที่จะส่งเสริมให้ลูกสาวเติบโตไปในทิศทางที่ดีนัก แถมยังละเลยความสนใจลูกสาวคนเดียวของตัวเองไปให้บรรดาเมียน้อย ดังนั้นโสมจึงขวนขวายที่จะหาใครสักคนที่ต้องใส่ใจ และรักเธอ "แค่เพียงคนเดียว" เท่านั้น จนกระทั่งมาเจอหมอ โสมได้เห็นหมอในมุมความเป็นฮีโร่นิดๆ คนดูอย่างเราจึงไม่แปลกใจเลยที่โสมจะสนใจหมอมากขนาดนี้ เธอมองหมอเป็นเหมือนการ heal ตัวเองอ่ะค่ะ ในมุมมองเรา นางมองว่าถ้ามีหมอในชีวิต ชีวิตเธอจะได้รับการเติมเต็มแน่ๆ ความรักของโสมจึงเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกัน รักที่มากเกินไป มักไม่ใช่เรื่องดี มีหลายซีนมากๆ ที่โสมไปหาหมอถึงโรงพยาบาล เรามองว่านี่เป็นจุดเริ่มของการเข้าไปรุกรานชีวิตส่วนตัวและการทำงานของหมอ และการกระทำของโสมตรงนี้ทำให้ความคิดว่า "หมอต้องเป็นของโสมคนเดียว" มันชัดเจนยิ่งขึ้น เอาจริงๆ เราก็สงสารโสมนะ นางทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรักครั้งนี้จริงๆ แต่หมอก็ยังไม่รักและขีดเส้นคสพ.ชัดเจน และบอกคอยย้ำตลอดว่า "ผมต้องรักษาคนไข้ ผมเป็นของโสมคนเดียวไม่ได้" นั่นแหละค่ะ ดังนั้นนิยามความรักของสองคนนี้ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเลย แถมซีนเมื่อคืนที่นางพูดว่า "ถ้าโสมไม่ได้ ใครก็ไม่ได้หมอทั้งนั้น" จึงทำให้ความรักของโสมเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่ต้องการคนมารักแต่ตอนนี้ความรักของโสมตั้งอยู่บนความอยากเอาชนะเสียแล้ว
ส่วน อาชยากร เรามองว่าตัวละครตัวนี้น่าอึดอัดดีค่ะ โธ่... ทั้งที่ภายนอกดูชวนฝัน แต่จริงๆเป็นผู้ชายที่เหมือนเก็บกดทุกอย่างเอาไว้ในใจ ทั้งเรื่องชาติกำเนิดและความรู้สึกที่มีต่อหลานตัวเอง ความรักของอาชยาคล้ายกับโสมนิดหน่อยตรงต้องการคนรักและใส่ใจเขา และนุศก็ตอบโจทย์ตรงนี้ของอาชยา ด้วยการทำงานและชีวิตที่อยู่ด้วยกันตลอด ในขณะที่นุศเองไม่ได้คิดอะไรเกินเลยเพราะเธออ่อนหัดในเรื่องความรัก แต่กับอาที่โตกว่า มีวัยวุฒิมากกว่า อาจึงคิดไปไหนต่อไหนแล้ว ถถถถถถ แถมยังมโนต่อยอดจนคนดูแอบสะพรึงในบางฉาก และหลายๆ คำพูดที่อาสื่อออกมา บอกตรงๆว่าน่ากลัวมากกว่าน่าเคลิ้มฝันค่ะ ความรักของอาชยาจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนและยัดเยียดอย่างที่มิรันตรีปรามาสไว้ และการที่อาชยาพูดบ่อยๆ ว่าไม่อยากให้ใครเข้าใกล้นุศ ไม่อยากให้นุศเป็นของใคร มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่เห็นแก่ตัว ยอมไม่ได้ที่จะเห็นนุศได้แต่งงานกับหมอ ต้องการที่จะรั้งนุศไว้กับตนเองอย่างถึงที่สุด มีหลายๆ ซีนที่อาพูดจาพยายามโน้มน้าวนุศ อีกครั้งค่ะที่เรารู้สึกว่า ความรักของอามันน่ากลัวเกินไป มันคือการอยากครอบครอง เหมือนว่าถ้าเรายอมเดินเข้าไปในโลกของอาชยาแล้ว เราจะไม่สามารถหาอิสระได้เลย
ตัวละครสุดท้าย มิรันตรี ด้วยซีนของมิรันตรีกับอาชยาเพิ่งจะมาพีคเอาเมื่อคืน คือมิพูดเผยความในใจของตัวเองออกไปจนหมดแล้ว ความรักของมิ ดูจะเป็นความรักที่ส่วนใหญ่เกิดกับผู้หญิงทั่วๆไป คือ เราหวังดีกับเขา แต่เขาดันไม่เคยเห็นความหวังดีของเราเลย .... เราไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เขาชอบ เราจะไปสู้อะไรผู้หญิงที่เขาชอบได้ ... โหยยยย แม่คุณคนนี้น่าสงสารที่สุดแล้วค่ะ คงต้องให้กำลังใจมิเยอะๆ ถ้าเปรียบอาชยาเป็นด้านมืด เราว่ามินี่แหละค่ะคือด้านสว่างที่จะทำให้ผู้ชายคนนี้มีชีวิตและมุมมองความรักที่ดีขึ้น เพราะทุกครั้งที่มิอยู่กับอา คนดูจะได้เห็นมุมน่ารักๆของอาเสมอ และมุมนี้เองเรามองว่าใกล้เคียงตัวตนของอามากๆด้วย
+++ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของเรานะคะ ดูแล้วมันอินจนต้องระบายออกมาหน่อย 555555 สามารถแย้งได้ค่ะ แชร์ความรู้สึกจากการได้ดูละครเรื่องนี้กัน สุดท้ายนี้อยากบอกพี่แอน และคนเขียนบทมาก ว่ารู้สึกดีที่ทำให้ตัวละครทุกตัวมีมิติ มีมุมสีเทาๆ ให้น่าติดตาม คืนนี้จะดูละครอย่างตั้งใจเหมือนเดิมค่ะ 5555 +++