แรงงานเมียนมาไหลกลับประเทศกว่า 50,000 คน "สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม" เจอวิกฤตระลอกใหม่ ขาดแคลนแรงงานประมง-ก่อสร้าง-แม่บ้าน ผลพวงปัญหา IUU พ่นพิษ เรือหยุดเดิน ล้งปิด ลูกจ้างเผ่นกลับหางานทำบ้านเกิด รับการท่องเที่ยว อสังหาฯ โครงสร้างพื้นฐานเมียนมาโตเร็ว ผู้ประกอบการเรือประมงกุมขมับ วอนรัฐช่วยด่วน หวั่นปัญหาจัดระเบียบยืดเยื้อ กระทบราคาอาหารทะเลสูงขึ้นรอบใหม่
แรงงานครึ่งแสนไหลกลับเมียนมา
นายอาคม เครือวัลย์ ประธานชมรมแปรรูปอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ทำให้ล้งกุ้งที่เป็นสมาชิกชมรมปิดตัวไปแล้ว 389 ราย จากทั้งหมด 392 ราย ยังเหลืออีก 3 รายที่ยังปรับตัวสู้โดยการหาตลาดด้วยตนเอง ส่วนใหญ่จะเข้าไปเจาะลูกค้าโรงงานแปรรูปอาหารที่จำหน่ายในประเทศแทนโรงงานที่ส่งออก เช่น โรงงานลูกชิ้น เป็นต้น
ทั้งนี้หลังจากล้งกุ้งปิดตัวจำนวนมากก็จำเป็นต้องเลิกจ้างแรงงานเมียนมา ซึ่งแรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายไลน์การผลิตกว่า 50,000 คน ได้ไหลกลับประเทศ ผู้ประกอบการต่างกังวลว่า หากอุตสาหกรรมการประมงกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และแรงงานดังกล่าวไม่กลับมาทำงานอีก จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมประมงจังหวัดสมุทรสาครทั้งห่วงโซ่อุปทาน
"ปัจจัยที่ส่งผลให้แรงงานเมียนมาไหลคืนถิ่นนอกจากปัญหาล้งที่ปิดตัวแล้วยังมีปัจจัยภายในประเทศเมียนมา เช่น การเมืองที่มีเสถียรภาพ เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว การค้า การลงทุนใหม่คึกคัก เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้แรงงานกลับไปหางานทำที่บ้านเกิด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่กลับมาทำงานในจังหวัดสมุทรสาครอีก" นายอาคมกล่าว
ไร้คนจับปลาหวั่นราคาซีฟู้ดพุ่ง
ด้านนายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้แรงงานประมงเมียนมาที่ออกเดินเรือจับสัตว์น้ำขาดแคลนอย่างหนัก แม้ว่าเรือประมงเชิงพาณิชย์ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป จำนวน 70-80% จากทั้งหมด 400 ลำ จะออกทำการประมงได้แล้ว แต่ยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากเกิดปัญหา IUU ช่วงแรก ๆ ทำให้แรงงานเมียนมาเดินทางกลับประเทศหลายพันคนแล้วไม่กลับมา
ขณะนี้ผู้ประกอบการเรือประมงเชิงพาณิชย์ไม่สามารถออกเรือได้บางรายใช้เวลาช่วงนี้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมเรือ เพื่อรอแรงงานเมียนมากลับมา ซึ่งถ้าแรงงานไม่กลับมาจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงจังหวัดสมุทรสาครอีกระลอก ในฐานะแหล่งผลิตและแปรรูปสินค้าประมงแห่งใหญ่ของประเทศที่มีมูลค่าการตลาดมากถึง 100,000 ล้านบาท/ปี หากปัญหายืดเยื้อจะทำให้ราคาอาหารทะเลปรับตัวสูงขึ้นรอบใหม่
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหานั้น รัฐบาลต้องเร่งนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือ เพราะถ้าปล่อยปัญหานานเกินไป มีโอกาสทำให้ราคาอาหารทะเลขยับขึ้นได้ ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศ สำหรับกฎที่กรมประมงออกมาใหม่ให้เรือประมงพาณิชย์ตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไปออกจับสัตว์ได้ 220 วัน/ปี ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน และเรือประมงขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดระบบวีเอ็มเอสทั้งหมด พร้อมกับยกเลิกเรือประมงชักธงสองสัญชาติ และกำหนดให้ต้องชักธงประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่อป้องกันเรือประมงเถื่อนแอบมาเข้าท่าเรือไทย จะทำให้ต้องหยุดเดินเรือประมาณ 145 วัน/ปี
นายกำจรกล่าวอีกว่า หากหยุดเดินเรือ 145 วัน/ปี จะทำให้แรงงานตกงานจำนวนมาก หรืออาจทำให้แรงงานเมียนมาไหลไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือไหลกลับประเทศแล้วไม่กลับมาทำงานอีก และผู้ประกอบการเรือประมงจะต้องหาวิธีบริหารองค์กรช่วงที่หยุดเดินเรือให้สามารถมีรายได้หล่อเลี้ยงแรงงานที่ยังเหลืออยู่
ลงทุนในพม่าบูมดูดคนกลับถิ่น
นายอานนท์ ตันติดำรงกุล ประธานเครือดำรงกุล ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า หลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา แรงงานเมียนมาที่ทำงานในภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วไม่กลับมาทำงานอีกมากถึง 50% แนวโน้มแรงงานจะทยอยกลับบ้านเกิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างและแม่บ้าน เพราะเมียนมากำลังเปิดประเทศรับการค้าการลงทุน รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการจ้างงาน ส่งผลให้แรงงานกลับไปทำงานบ้านเกิด
"แรงงานเมียนมาไหลกลับไปทำงานภาคบริการ โรงแรม ร้านอาหาร ค้าปลีกค้าส่ง งานก่อสร้างตึก อาคาร บ้านเรือน ที่มีนักลงทุนเข้าไปลงทุนจำนวนมาก เกิดการจ้างงานขึ้นในพื้นที่ แม้ว่าอัตราค่าจ้างจะไม่สูงมากเหมือนไทย แต่หากเทียบกับค่าครองชีพในเมียนมายังต่ำกว่า อนาคตจะกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมประมง และก่อสร้างไทยจะขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก"
ขณะที่นางสาวิกา ศิริบุญญาวงศ์ ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด และผู้ประกอบการเรือประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหา IUU เรือประมงหยุดเดินเรือหลายร้อยลำ ปัจจุบันมีเรือราว 60 ลำ ได้รับใบอนุญาตถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกจับสัตว์น้ำได้ เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน เป็นผลมาจากแรงงานเมียนมาไหลกลับประเทศช่วงที่เรือหยุดเดินแล้วไม่กลับมา ปัญหาดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลไม่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
JJNY : เศรษฐกิจ ดี๊ ดี อีกแล้ว...แรงงานเมียนมาไหลกลับ 5หมื่นคน อุตฯประมง-ก่อสร้าง"มหาชัย-อัมพวา"วิกฤตใหม่พิษไอยูยู
แรงงานครึ่งแสนไหลกลับเมียนมา
นายอาคม เครือวัลย์ ประธานชมรมแปรรูปอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ทำให้ล้งกุ้งที่เป็นสมาชิกชมรมปิดตัวไปแล้ว 389 ราย จากทั้งหมด 392 ราย ยังเหลืออีก 3 รายที่ยังปรับตัวสู้โดยการหาตลาดด้วยตนเอง ส่วนใหญ่จะเข้าไปเจาะลูกค้าโรงงานแปรรูปอาหารที่จำหน่ายในประเทศแทนโรงงานที่ส่งออก เช่น โรงงานลูกชิ้น เป็นต้น
ทั้งนี้หลังจากล้งกุ้งปิดตัวจำนวนมากก็จำเป็นต้องเลิกจ้างแรงงานเมียนมา ซึ่งแรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายไลน์การผลิตกว่า 50,000 คน ได้ไหลกลับประเทศ ผู้ประกอบการต่างกังวลว่า หากอุตสาหกรรมการประมงกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และแรงงานดังกล่าวไม่กลับมาทำงานอีก จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมประมงจังหวัดสมุทรสาครทั้งห่วงโซ่อุปทาน
"ปัจจัยที่ส่งผลให้แรงงานเมียนมาไหลคืนถิ่นนอกจากปัญหาล้งที่ปิดตัวแล้วยังมีปัจจัยภายในประเทศเมียนมา เช่น การเมืองที่มีเสถียรภาพ เศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว การค้า การลงทุนใหม่คึกคัก เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้แรงงานกลับไปหางานทำที่บ้านเกิด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่กลับมาทำงานในจังหวัดสมุทรสาครอีก" นายอาคมกล่าว
ไร้คนจับปลาหวั่นราคาซีฟู้ดพุ่ง
ด้านนายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้แรงงานประมงเมียนมาที่ออกเดินเรือจับสัตว์น้ำขาดแคลนอย่างหนัก แม้ว่าเรือประมงเชิงพาณิชย์ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป จำนวน 70-80% จากทั้งหมด 400 ลำ จะออกทำการประมงได้แล้ว แต่ยังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานประมง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากเกิดปัญหา IUU ช่วงแรก ๆ ทำให้แรงงานเมียนมาเดินทางกลับประเทศหลายพันคนแล้วไม่กลับมา
ขณะนี้ผู้ประกอบการเรือประมงเชิงพาณิชย์ไม่สามารถออกเรือได้บางรายใช้เวลาช่วงนี้ทำการปรับปรุงซ่อมแซมเรือ เพื่อรอแรงงานเมียนมากลับมา ซึ่งถ้าแรงงานไม่กลับมาจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงจังหวัดสมุทรสาครอีกระลอก ในฐานะแหล่งผลิตและแปรรูปสินค้าประมงแห่งใหญ่ของประเทศที่มีมูลค่าการตลาดมากถึง 100,000 ล้านบาท/ปี หากปัญหายืดเยื้อจะทำให้ราคาอาหารทะเลปรับตัวสูงขึ้นรอบใหม่
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหานั้น รัฐบาลต้องเร่งนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือ เพราะถ้าปล่อยปัญหานานเกินไป มีโอกาสทำให้ราคาอาหารทะเลขยับขึ้นได้ ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศ สำหรับกฎที่กรมประมงออกมาใหม่ให้เรือประมงพาณิชย์ตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไปออกจับสัตว์ได้ 220 วัน/ปี ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน และเรือประมงขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดระบบวีเอ็มเอสทั้งหมด พร้อมกับยกเลิกเรือประมงชักธงสองสัญชาติ และกำหนดให้ต้องชักธงประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่อป้องกันเรือประมงเถื่อนแอบมาเข้าท่าเรือไทย จะทำให้ต้องหยุดเดินเรือประมาณ 145 วัน/ปี
นายกำจรกล่าวอีกว่า หากหยุดเดินเรือ 145 วัน/ปี จะทำให้แรงงานตกงานจำนวนมาก หรืออาจทำให้แรงงานเมียนมาไหลไปสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือไหลกลับประเทศแล้วไม่กลับมาทำงานอีก และผู้ประกอบการเรือประมงจะต้องหาวิธีบริหารองค์กรช่วงที่หยุดเดินเรือให้สามารถมีรายได้หล่อเลี้ยงแรงงานที่ยังเหลืออยู่
ลงทุนในพม่าบูมดูดคนกลับถิ่น
นายอานนท์ ตันติดำรงกุล ประธานเครือดำรงกุล ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า หลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา แรงงานเมียนมาที่ทำงานในภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วไม่กลับมาทำงานอีกมากถึง 50% แนวโน้มแรงงานจะทยอยกลับบ้านเกิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างและแม่บ้าน เพราะเมียนมากำลังเปิดประเทศรับการค้าการลงทุน รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการจ้างงาน ส่งผลให้แรงงานกลับไปทำงานบ้านเกิด
"แรงงานเมียนมาไหลกลับไปทำงานภาคบริการ โรงแรม ร้านอาหาร ค้าปลีกค้าส่ง งานก่อสร้างตึก อาคาร บ้านเรือน ที่มีนักลงทุนเข้าไปลงทุนจำนวนมาก เกิดการจ้างงานขึ้นในพื้นที่ แม้ว่าอัตราค่าจ้างจะไม่สูงมากเหมือนไทย แต่หากเทียบกับค่าครองชีพในเมียนมายังต่ำกว่า อนาคตจะกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมประมง และก่อสร้างไทยจะขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก"
ขณะที่นางสาวิกา ศิริบุญญาวงศ์ ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด และผู้ประกอบการเรือประมงในจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหา IUU เรือประมงหยุดเดินเรือหลายร้อยลำ ปัจจุบันมีเรือราว 60 ลำ ได้รับใบอนุญาตถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่สามารถออกจับสัตว์น้ำได้ เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน เป็นผลมาจากแรงงานเมียนมาไหลกลับประเทศช่วงที่เรือหยุดเดินแล้วไม่กลับมา ปัญหาดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลไม่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ