สวัสดีครับ ไม่รู้จำกันได้ไหม ความจริงเรื่องของเรื่องก็คือตั้งใจจะกลับมาขอบคุณพี่น้องที่นี่และตั้งใจจะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางทำตามฝันของผมกับแฟนตลอด2ปี เพื่อเป็นกำลังใจและแนวทางให้พี่ๆน้องๆ ชาวPantip ที่กำลังตัดสินใจว่าจะทำสิ่งที่ตัวเองฝันแต่ยังลังเลอยู่ ให้ลองตัดสินใจและลงมือทำดูครับ รวมถึงแจ้งผลสรุปทีไ่ด้จากการที่ทุกท่านได้ร่วมบุญ เพื่อขออนุโมทนาบุญที่พวกเราได้ทำบุญร่วมกันครับ กระทู้นี้ผมจึงขออนุญาตเป็นเหมือนไดอารี่เล่มเล็กๆของผมและแฟนที่จะเป็นบันทึกไว้เป็นอนุสรณ์สำหรับเราด้วยว่า “คนเรา…หากกล้าที่จะลงมือทำ เป้าหมายไม่ไกลเกินเอื้อมครับ”
เกริ่นกันนิดนึงเนอะ เผื่อบางท่านพอจำได้ บ้านPantip แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้โครงการสอนขายของออนไลน์เพื่อการกุศลของผมและแฟน ที่ผมตั้งชื่อว่า “สร้างฝันสู่ความสำเร็จด้วยการเปิดเวปขายของออนไลน์” ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นจนจบโครงการรวมแล้ว16รุ่น มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า2,000ท่าน สามารถนำค่าเข้าอบรมหลังหักค่าใช้จ่ายของพี่ๆน้องๆที่ร่วมสมัครเข้ารับฟังโครงการไปถวายทำบุญในด้านสาธารณะประโยชน์ต่างๆ เช่น การเลี้ยงอาหารและน้ำปาณะสำหรับผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้ปฏิบัติธรรม และ สมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อหิน วัดสมุทร อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้รวมแล้วกว่า300,000บาท และตลอด2ปีที่ผ่านมาทำให้ผมและแฟนได้กล้าที่ที่จะทำงานอบรมในด้านการเป็นวิทยากรอบรม ทั้งบริษัทห้างร้าน สถานศึกษา และหน่วยงานราชการมากมาย ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบในด้านการสอน E-Commerce ,สร้างเวปไซต์ด้วยตนเอง ทำการตลาดออนไลน์ (แต่ไม่ใช่MLM หรือขายตรงนะครับ) โดยผมและแฟนจะสอนให้สร้างธุรกิจจากไอเดียและความถนัดของแต่ละท่านโดยที่จะไม่มีการบังคับหรือชี้นำให้ขายสิ่งใด ให้ได้เกิดจากสิ่งที่แต่ละท่านค้นหาจริงๆครับ ซึ่งตลอดมา ผมได้เห็นหลายท่านสามารถมีอาชีพเสริม อีกหลายท่านสามารถพัฒนาเป็นอาชีพหลัก น้องๆหลายท่านพัฒนาเป็น เถ้าแก้น้อยออนไลน์ เถ้าแก่เนี้ยออนไลน์ เพื่อนๆพี่ๆหลายๆท่านมีรายได้เสริมดูแลครอบครัว หรือได้ทำตามฝันมาเป็นธุรกิจหลัก และพี่ๆหลายท่านมีอาชีพทำที่บ้านพร้อมดูแลลูกหลานหลังเกษียณ “รู้สึกดี และภูมิใจจริงๆครับ”
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อประมาณ3-4 ปีก่อน ด้วยความที่ผมและแฟนขายของออนไลน์อยู่แล้ว และแฟนผมจบมาทางสาย International Business Management จากต่างประเทศรวมทั้งยังเคยมีประสบการณ์ทำงานสายออนไลน์ตรงจากบริษัทใหญ่ในต่างประเทศหลายแห่ง เช่น Ago…a ,Goo..e,และ Ope.. Ta… หลังจากเธอจบมาก็ช่วยกันสร้างธุรกิจ มีอยู่ช่วงหนึ่งก็คุยกัน เนื่องจากผมได้ทำงานในสายImprovement สมัยทำงานประจำ ซึ่งเนื้องานนั้นมีส่วนที่จะต้อง ทำการ Training เพื่อพัฒนาศักยภาพ พนักงานในการขอรับรองระบบบริหารต่างๆอยู่บ่อยๆ รวมถึงได้ใกล้ชิดกับวิทยากรจากหลากหลายสถาบัน ทำให้รู้สึกชอบ และอยากลองเป็นวิทยากรแชร์ประสบการณ์ความรู้และไอเดียต่างๆด้านE-Commerce และ การตลาดออนไลน์ (สมัยทำงานประจำช่วงท้ายๆผมเริ่มทำธุรกิจควบคู่ไปด้วยโดยที่แบ่งกันคือแฟนดูธุรกิจE-Commerceเต็มตัวผมควบสองงาน) ซึ่งผมก็เคยปรึกษาและเล่าความฝันให้หัวหน้า และผู้บังคับบัญชาฟังปรากฏว่าสมัยนั้นมีแต่คนหัวเราะครับ และบอกว่าไม่มีชื่อเสียง ไม่ได้จบสายตรงมาบางท่านก็ว่าเราฝันไป ทำไม่ได้หรอก ตอนนั้นก็ได้แต่เก็บงำความคิดนั้นไว้ แต่อย่างน้อยช่วงนั้นก็มีเพียงท่านเดียวคือ ท่านGM(ผู้จัดการทั่วไป) ของบริษัทที่ให้ความสนใจและต้องการจะเข้าร่วมรับฟังหากผมลงมือทำจริงจัง
หลังจากนั้น1ปีผมก็ลาออกมาทำธุรกิจเต็มตัว ชีวิตมีความสุขสนุก เร้าใจตลอด งานหนักกว่าทำงานประจำเยอะครับ ใครที่คิดว่าเป็นเจ้าของธุรกิจสบาย เป็นอิสระ ขอบอกเลยว่าคิดผิดครับผม ธุรกิจส่วนตัวแม้จะไม่มีกรอบ แต่เวลาทุกนาทีของคุณคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ตัวคุณ และครอบครัวแล้ว แต่จะมีความรับผิดชอบต่อลูกน้องครอบครัวลูกน้อง รวมถึงลูกค้า ที่เป็นลูกค้าของคุณจริงๆ สมัยทำงานประจำยังมีวันหยุด แต่พอทำธุรกิจแล้ว ผมไม่เคยมีวันหยุดเต็มวันสักที ทุกวันคือความรับผิดชอบ และทุกนาทีมีค่าจริงๆครับ แต่ถามว่าทำไมผมถึงรู้สึกสนุกมีความสุข เวลาพักผ่อนจะน้อยลง และแถมยังมีความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย คำตอบก็คือ “ผมมีอิสระในการคิดและทำในสิ่งสร้างสรรค์ต่างๆ” ที่ผมอยากจะทำแต่สมัยทำงานประจำแต่ผมไม่ได้ทำครับ เพราะมีคนรอบกายต่างคิดว่า “ทำไม่ได้” ติดปัญหาโน่นนี่นั่นมากมาย ในProjectต่างๆที่ผมคิดและอยากจะทำเพื่อพัฒนาองค์กร ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานประจำ และมุ่งหน้าสร้างอาณาจักรของผมเอง

ไปไกลแล้วเรา ^_^ ย้อนกลับมา พอผมทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งกิจการก็ไปได้ดีครับ เติบโตขึ้นตลอด (แม้ในช่วงเศรษฐกิจแย่) แต่ด้วยความที่ความฝันและคำพูดดูแคลนเล็กๆสมัยทำงานประจำยังคงติดอยู่ในใจเลยเกิดเป็นกำลังที่อยากจะลองChallenge ทำ Training ดูสักนิด เพราะเราคิดว่า เราน่าจะพอทำได้ ประกอบกับตอนนั้นอยากจะทำโครงการอะไรสักอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่จะพอช่วย พี่น้องโดยภาพรวมด้วย อีกทั้งท่านGM(ที่ผมเล่าให้ฟังช่วงต้น) ก็ยังคอยถามเรื่อยๆว่าเมื่อไรจะสอน แล้วก็มีอีก1เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันเท่าไร คือ ญาติทางฝ่ายแฟนผมมีโครงการจะสร้างวิหารให้หลวงพ่อหิน วัดสมุทร อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท (เป็นวัดเล็กๆ มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่2-3รูป) แต่เป็นวัดเก่าแก่และเป็นที่นับถือของชาวบ้านในละแวกนั้น ซึ่งผมก็รับปากไป ขยำเหตุและปัจจัยต่างๆรวมกันไปมา จึงปิ๊งไอเดียโครงการบรรยายเพื่อการกุศล หลักสูตร “สร้างฝันสู่ความสำเร็จด้วยการเปิดเวปขายของออนไลน์ ”ขึ้นมา โดยตั้งใจว่าจะนำค่าอบรมที่ได้หลังหักค่าใช้จ่ายหรือเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเนี่ยแหละ ไปถวายสมทบทุนสร้างวิหาร และนำไปช่วยเหลือสาธารณะประโยชน์ต่างๆ พอตัดสินใจร่างรายละเอียดโครงการเสร็จแล้ว ก็ยังมิวายลังเลอยู่นิดๆครับ ว่าเราทำแล้วจะมีใครมาฟังไหมหนออออ??? เลยตัดสินใจตั้งกระทู้สอบถามพี่น้องใน Pantip นี่แหละว่าทำดีไหม ปรากฏว่าพี่น้องชาว Pantip ได้เข้ามาให้กำลังใจและให้ความสนใจสอบถามและต้องการเข้าร่วมมากมาย ก็ตัดสินใจกับแฟน เอาน่ะ!! ลองดูกันสักตั้ง จุดนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “สร้างฝันสู่ความสำเร็จด้วยการเปิดเวปขายของออนไลน์ รุ่นที่1” ขึ้นมาครับ

พอตัดสินใจเริ่ม ตอนนั้นใหม่มากกก จะทำอย่างไรดี ทั้งเนื้อหา ,สถานที่ ,การดูแล ,การประชาสัมพันธ์ซึ่งตอนนั้นกังวลที่สุดครับแต่กลับกลายเป็นว่าพอเปิดโครงการเต็มภายใน2วันกันเลยทีเดียว(ครั้งแรกรับ60ท่าน ก็เป็นพี่น้องชาวPantip ห้องสีลมนี่แหละที่เข้าไปร่วมรับฟังและให้กำลังใจกัน) ส่วนอื่นก็ค่อยๆคิดค่อยๆทำ ส่วนของเนื้อหา ใช้เวลากันเป็นเดือน นั่งร่างกับคุณแฟน สถานที่หาทางเน็ท (ตอนนั้นตัดสินใจเช่าห้องประชุมแห่งหนึ่งที่เป็นของแมนชั่นย่านอ่อนนุช) ก็ผ่านไปด้วยดีครับ ตอนนั้นดีใจและภูมิใจมากๆ (ทาง GM ผมได้ให้เกียรติไปกล่าวเปิดงานในการบรรยายครั้งแรกของผมด้วย)

หลังจากผ่านไปครั้งแรก พอทำได้ ก็ทำไปเรื่อยๆ ผู้คนสนใจเริ่มมีมากขึ้นๆ ต้องเริ่มขยับหาที่ใหม่ ย้ายไป สถานีโทรทัศน์ไทยพีบี..ส ต้องเช่า Convention Hall กันเลยทีเดียว สอนและบรรยาย อยู่ทุกเดือน หลังจากนั้นทางสถานีปิดบริการสำหรับบุคคลภายนอกย้ายไปสมาคมธรรมศ...ร์ ก็ต้องเช่าห้องใหญ่ขึ้นไปอีก ทำไปทำมาผ่านไป2ปี มีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้น16รุ่น มีผู้เข้าฟังอบรมร่วมโครงการกว่าสองพันท่าน ได้เงินไปใช้ในสาธารณะประโยชน์ถึงกว่า300,000บาท (ซึ่งไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพบริจาคเงินทำบุญในจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อน) และเป็นการบริจาคเงินที่ไม่ได้มาจากการเรี่ยไรขอเงินเปล่าๆ แต่เป็นสิ่งที่เราแลกมาด้วยพละกำลัง ความพยายาม และความรู้ที่เรามีความจริงใจ และตั้งใจจะทำให้ส่วนรวมจริงๆครับ

ประสบการณ์2ปีที่ผ่านมา ผมและแฟนได้สร้างหลักสูตรเฉพาะทางทั้งทฤษฏีและปฏิบัติเกี่ยวกับ E-Commerce และการบริหาร Social Media สำหรับองค์การขนาดต่างๆ บริษัทห้างร้าน สถานศึกษา และหน่วยงานราชการหลายแห่ง ได้มีโอกาสเดินทางไปทั่ว และได้Connection จาก ผู้คนมากมายหลากหลายสาขาอาชีพ ได้มิตรภาพที่ดี ได้พี่น้องผองเพื่อนมากมาย สิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยครับ หากผมไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพี่ๆน้องๆ ชาว Pantip นี้ ผมและแฟนต้องขอขอบพระคุณ พี่ๆน้องๆจากใจจริงครับ และกราบอนุโมทนาบุญสำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ได้เคยเข้ารับฟังและร่วมทำบุญ จนกระทั่งโครงการสำเร็จเสร็จสิ้นไปได้ในครั้งนี้
ได้มีโอกาสสอนE-Commerce ตั้งแต่หาสินค้า ,สอนทำเวปไซต์ ,การทำSEO และการตลาดออนไลน์แก่บุคคลทั่วไป
สอนผู้ประกอบการระดับพรีเมี่ยม ที่ผ่านการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศ ณ ประเทศ ญี่ปุ่น
ได้สอนน้องๆ ตามสถานศึกษา ให้แสดงความสามารถ และเตรียมตัวเป็นเถ่าน้อยออนไลน์ในอนาคต ^_^
ท้ายนี้ผมจึงอยากจะขอฝาก เพื่อน พ้อง น้อง พี่ ในบ้าน Pantip ที่แสนอบอุ่นนี้ว่า หากเรามีความฝันใด ขอเพียง “มั่นใจ ตั้งใจ วางแผน และลงมือทำ” โอกาสแห่งความสำเร็จนั้นมีเสมอ อย่าปล่อยให้คำพูดหรือประสบการณ์ของคนอื่นมาเป็นตัวฉุดรั้ง “ความฝัน และความสำเร็จ” ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเรา ตรงกันข้าม แม้เราจะมีไอเดียที่ดีหรือความฝันที่สุดยอดแค่ไหนก็ตาม แต่หากปล่อยให้คำพูดแย่ๆและปัญหาต่างๆมามีอิทธิพล เหนือเรา จนทำให้เราไม่ได้ลองทำตามฝัน สิ่งนั้น มีค่าเท่ากับศูนย์นะครับ
ผมและแฟนได้ลองลงมือทำแล้ว แม้จะไม่ได้ให้ผลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดเหมือนคนดังท่านอื่นๆ แต่เราสองคนก็ภูมิใจที่ได้มีส่วนทำประโยชน์ต่อสังคม และที่สำคัญ ได้พัฒนาตัวเอง ก้าวข้ามปัญหา ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งโดยส่วนตัวตั้งแต่ผมได้สอนและพบผู้คนมากมาย หลายพันคนพบว่า ทุกๆคนที่ผมได้มีโอกาสคุย ทุกคนมีศักยภาพในตนเอง ทุกคนมีความฝันในตัว แต่สิ่งที่ขาดคือ “มั่นใจ ตั้งใจ วางแผน และลงมือทำ” ครับ ลองดูครับ ผมทำได้ทุกคนก็ทำได้เช่นเดียวกัน สู้ๆครับ ^_^
แชร์ประสบการณ์ทำโครงการสอนขายของออนไลน์ตามฝัน2ปี จุดเริ่มต้นจากPantipจึงได้กลับมาขอบคุณพี่น้องชาวPantip ขอบคุณจากใจ^_^
เกริ่นกันนิดนึงเนอะ เผื่อบางท่านพอจำได้ บ้านPantip แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้โครงการสอนขายของออนไลน์เพื่อการกุศลของผมและแฟน ที่ผมตั้งชื่อว่า “สร้างฝันสู่ความสำเร็จด้วยการเปิดเวปขายของออนไลน์” ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นจนจบโครงการรวมแล้ว16รุ่น มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า2,000ท่าน สามารถนำค่าเข้าอบรมหลังหักค่าใช้จ่ายของพี่ๆน้องๆที่ร่วมสมัครเข้ารับฟังโครงการไปถวายทำบุญในด้านสาธารณะประโยชน์ต่างๆ เช่น การเลี้ยงอาหารและน้ำปาณะสำหรับผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้ปฏิบัติธรรม และ สมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อหิน วัดสมุทร อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้รวมแล้วกว่า300,000บาท และตลอด2ปีที่ผ่านมาทำให้ผมและแฟนได้กล้าที่ที่จะทำงานอบรมในด้านการเป็นวิทยากรอบรม ทั้งบริษัทห้างร้าน สถานศึกษา และหน่วยงานราชการมากมาย ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบในด้านการสอน E-Commerce ,สร้างเวปไซต์ด้วยตนเอง ทำการตลาดออนไลน์ (แต่ไม่ใช่MLM หรือขายตรงนะครับ) โดยผมและแฟนจะสอนให้สร้างธุรกิจจากไอเดียและความถนัดของแต่ละท่านโดยที่จะไม่มีการบังคับหรือชี้นำให้ขายสิ่งใด ให้ได้เกิดจากสิ่งที่แต่ละท่านค้นหาจริงๆครับ ซึ่งตลอดมา ผมได้เห็นหลายท่านสามารถมีอาชีพเสริม อีกหลายท่านสามารถพัฒนาเป็นอาชีพหลัก น้องๆหลายท่านพัฒนาเป็น เถ้าแก้น้อยออนไลน์ เถ้าแก่เนี้ยออนไลน์ เพื่อนๆพี่ๆหลายๆท่านมีรายได้เสริมดูแลครอบครัว หรือได้ทำตามฝันมาเป็นธุรกิจหลัก และพี่ๆหลายท่านมีอาชีพทำที่บ้านพร้อมดูแลลูกหลานหลังเกษียณ “รู้สึกดี และภูมิใจจริงๆครับ”
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อประมาณ3-4 ปีก่อน ด้วยความที่ผมและแฟนขายของออนไลน์อยู่แล้ว และแฟนผมจบมาทางสาย International Business Management จากต่างประเทศรวมทั้งยังเคยมีประสบการณ์ทำงานสายออนไลน์ตรงจากบริษัทใหญ่ในต่างประเทศหลายแห่ง เช่น Ago…a ,Goo..e,และ Ope.. Ta… หลังจากเธอจบมาก็ช่วยกันสร้างธุรกิจ มีอยู่ช่วงหนึ่งก็คุยกัน เนื่องจากผมได้ทำงานในสายImprovement สมัยทำงานประจำ ซึ่งเนื้องานนั้นมีส่วนที่จะต้อง ทำการ Training เพื่อพัฒนาศักยภาพ พนักงานในการขอรับรองระบบบริหารต่างๆอยู่บ่อยๆ รวมถึงได้ใกล้ชิดกับวิทยากรจากหลากหลายสถาบัน ทำให้รู้สึกชอบ และอยากลองเป็นวิทยากรแชร์ประสบการณ์ความรู้และไอเดียต่างๆด้านE-Commerce และ การตลาดออนไลน์ (สมัยทำงานประจำช่วงท้ายๆผมเริ่มทำธุรกิจควบคู่ไปด้วยโดยที่แบ่งกันคือแฟนดูธุรกิจE-Commerceเต็มตัวผมควบสองงาน) ซึ่งผมก็เคยปรึกษาและเล่าความฝันให้หัวหน้า และผู้บังคับบัญชาฟังปรากฏว่าสมัยนั้นมีแต่คนหัวเราะครับ และบอกว่าไม่มีชื่อเสียง ไม่ได้จบสายตรงมาบางท่านก็ว่าเราฝันไป ทำไม่ได้หรอก ตอนนั้นก็ได้แต่เก็บงำความคิดนั้นไว้ แต่อย่างน้อยช่วงนั้นก็มีเพียงท่านเดียวคือ ท่านGM(ผู้จัดการทั่วไป) ของบริษัทที่ให้ความสนใจและต้องการจะเข้าร่วมรับฟังหากผมลงมือทำจริงจัง
หลังจากนั้น1ปีผมก็ลาออกมาทำธุรกิจเต็มตัว ชีวิตมีความสุขสนุก เร้าใจตลอด งานหนักกว่าทำงานประจำเยอะครับ ใครที่คิดว่าเป็นเจ้าของธุรกิจสบาย เป็นอิสระ ขอบอกเลยว่าคิดผิดครับผม ธุรกิจส่วนตัวแม้จะไม่มีกรอบ แต่เวลาทุกนาทีของคุณคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ตัวคุณ และครอบครัวแล้ว แต่จะมีความรับผิดชอบต่อลูกน้องครอบครัวลูกน้อง รวมถึงลูกค้า ที่เป็นลูกค้าของคุณจริงๆ สมัยทำงานประจำยังมีวันหยุด แต่พอทำธุรกิจแล้ว ผมไม่เคยมีวันหยุดเต็มวันสักที ทุกวันคือความรับผิดชอบ และทุกนาทีมีค่าจริงๆครับ แต่ถามว่าทำไมผมถึงรู้สึกสนุกมีความสุข เวลาพักผ่อนจะน้อยลง และแถมยังมีความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นอีกมากมาย คำตอบก็คือ “ผมมีอิสระในการคิดและทำในสิ่งสร้างสรรค์ต่างๆ” ที่ผมอยากจะทำแต่สมัยทำงานประจำแต่ผมไม่ได้ทำครับ เพราะมีคนรอบกายต่างคิดว่า “ทำไม่ได้” ติดปัญหาโน่นนี่นั่นมากมาย ในProjectต่างๆที่ผมคิดและอยากจะทำเพื่อพัฒนาองค์กร ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานประจำ และมุ่งหน้าสร้างอาณาจักรของผมเอง