ระบบอุปถัมภ์ กับ การศึกษาไทย

มันที่อะไรที่น่าเศร้ามาก กับระบบการศึกษาไทย ที่ไม่มีความเสมอภาคกัน ขึ้นชื่อว่าสถานศึกษาย่อมเป็นสถานที่ปลูกฝังแนวคิด ทัศนคติ คุณงามความดีที่ดีแก่ศิษย์ เพื่อศิษย์จะได้น้อมนำไปใช้ในยามเมื่อสำเร็จการศึกษาและดูแลเลี้ยงชีพตนเองได้ในที่สุด แต่ทุกๆ ปี ผมมักจะได้ยิน ได้อ่าน จากข่าวต่างๆ เกี่ยวกับเงิน แป๊ะเจี๊ยะ (เงินใต้โต๊ะ หรือเปล่า) เคยได้ยินว่า โรงเรียนเอกชนบริจาคมากมีโอกาสเรียนก่อน นี่เรากำลังปลูกฝังให้เด็กประพฤติที่ไม่ดีมาแต่ตอนนี้แล้ว อนาคตจะไปเหลืออะไร ในขณะที่สถานศึกษาบางแห่งยังมีพฤติกรรมของครู - อาจารย์พวกนี้อยู่ คือ เด็กใคร เด็กมัน ซึ่งฟังดูแล้ว เด็กที่เรียนดี จะได้รับการสนับสนุน มีโอกาสดีกว่าคนอื่นๆ แต่ในขณะที่เด็กที่เรียนด้อยกว่า แทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสโอกาสเหมือนเด็กที่เรียนเก่ง ดูเหมือนพวกเขาจะถูกทอดทิ้งเสียอีก

ก็เลยมองย้อนถามตัวเองว่า ถ้าหากเราเรียนไม่เก่ง แต่ความประพฤติดี แต่ทำไมเราไม่มีโอกาสเหมือนคนพวกนี้ ซึ่งแน่นอนละว่า กำลังใจมันย่อมหายแน่นอน ผมเห็นเด็ก หลายๆคน ขาดโอกาสในสิ่งนี้แม้แต่บางคนยากจน กำพร้า พ่อแม่ ก็ไม่มีโอกาสเหมือคนที่เป็นเด็กของครูคนนั้น อาจารย์คนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุนการศึกษา โอกาสทางกิจกรรมสังคม รางวัลต่างๆ  เป็นต้น

แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สิ่งที่จะอดพูดถึงไม่ได้ คือ ผลการเรียน ซึ่งแน่นอนละว่า เด็กที่ ครู - อาจารย์ ไม่ชอบ ไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดระเบียบ ก็ตามพวกเขาย่อมได้รับการพิจารณาคะแนนไม่เหมาะสม แม้จะส่งงานครบ เรียนทุกคาบ (เมื่อไม่กี่วัน ผมก็เพิ่งเจอ นศ. มาร้องเรียนที่ผม ) ต่างจากเด็กที่เสนอหน้า เป็นเด็กของครู อาจารย์ คนนั้นคนนี้

น่าเสียดาย ครู อาจารย์ สมัยก่อน ซึ่งเอาใจนักเรียน นักศึกษาทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดกฏก็ตาม ไม่เคยแบ่งแยก มีจิตวิญญาณความเป็นครูบาอาจารย์ไม่เคยทิ้งหน้าที่ อบรมสั่งสอนเด็กในทางที่ดีแม้บางคนเป็นหัวโจก สุดท้ายก็กลับเป็นคนดี รับใช้สังคมมีให้เห็นมากมาย พวกเขาโตมาด้วยไม้เรียว แต่ปัจจุบัน ครู อาจารย์ แทบจะไม่รู้จักคำว่า คุณธรรม และ จรรยาบรรณแล้ว ครู อาจารย์ที่กล่าวถึงปัจจบันเกษียณอายุหมดแล้ว เกิน 70 + ขึ้น เมื่อมองย้อนกลับมาปัจจุบัน มันช่างต่างกันเหลือเกิน ความศรัทธาที่คนสมัยก่อนมีให้กับครู อาจารย์ นับวันยิ่งน้อยลง ดูจากคะแนนการสอบเข้ามหาลัย (Entrace)สมัยก่อน คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ คะแนนอยู่อันดับต้นๆ แต่ปัจจุบัน อยู่อันดับท้ายๆ ของตาราง

กลับมาพูดถึงระบบอุปถัมภ์ กับ การศึกษาไทย (ต่อ) มันเป็นมะเร็งร้ายต่อระบบการศึกษาไทย อีกทั้งยังอาจเรียกได้ว่าค่านิยมของสังคมไทยไปแล้ว ในยุคที่มีการแข่งขันกันสูง ถ้าระบบนี้มันไม่หายไปจากสังคมไทย ประเทศไทยก็คงอยู่อย่างนี้ คนเก่งก็จะอยู่ส่วนเก่ง คนด้อยก็จะอยู่ส่วนด้อย รับเล็กกินน้อยก็ยังมองว่าเป็นเรื่องดีหาก โครงการนั้นๆ สำเร็จ และยากที่การทุจริต จะหมดสิ้นไปจากสังคมไทย เพราะ ครู อาจารย์ ผู้ซึ่งประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ ปลูกฝังให้เด็ก ให้ นักเรียน นักศึกษา ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แล้วเราจะไปโทษใคร ???

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่