puppy love
มันเกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ ป.6 ตอนแรกผมยังเรียนอยู่ที่กรุงเทพตอนนั้นอยู่ป.5
ช่วงนั้นผมรูสึกว่าตัวเองงอแงและงี่เง่ามากๆ จึงร้องขอพ่อเพื่อที่จะย้ายไปอยู่กับแม่ที่นครปฐม (พ่อแม่ผมแยกทางกันตั่งแต่ยังเด็ก) ย้ายมาเพื่อเข้าเรียนป.6 ช่วงเวลานั้น
ผมรู้สึกว่าตัวเอง hot มาก(ร้อน) เนื่องจากเป็นเด็กใหม่และอยู่กรุงเทพ จึงมีเพื่อนเข้ามาคุยด้วยเยอะ และสาวๆก็มาชอบเยอะ เรื่องจริง! ไปไหนก็มีแต่คนแซวเด็กเทพๆ
จริงๆแล้วนครปฐมกับกรุงเทพใกล้กันนิดเดียวเอง ! ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหนเลย
จนวันหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผมว่า ชื่อ...หลอเราชื่อหนึ่งนะ เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าคล้ายๆเด็กลูกครึ่ง น่าตาน่ารักคนนึงที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง
เธอเป็นคนชั่งคุย คุยเก่งคุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เธอก้บอกว่า เราชอบเธอเป้นแฟนกันนะ ผมก้ตกใจด้วยความที่ยังเป็นเด็กสนุกอยู่เลยไม่คิดอะไรมากก็ตอบตกลงไป คือง่ายๆเลยนะ กูยังเด็กอยู่ ก็คบกันไปแบบเพื่อนๆสนุกสนาน จนถึงวันที่ต้องจากกัน เพราะผมไปเรียนได้แค่ปีเดียว ก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่ puppy love ของผมยังไม่ใช่คนนี้ครับ ^^
ในขณะที่ปิดเทอม ผมมักจะไปเล่นกับเพื่อนๆน้องๆที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ผมมักจะไปเล่นที่โรงเหล็ก เป็นประจำเพราะบ้านของผมกับโรงเหล็กสนิทกัน เพราะบ้านผมรับเหมาทาสีและต่อเติม เวลามีงานอะไรก็ช่วยเหลือกัน จนผมได้เจอกับเด้กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นหลานของเจ้าของโรงเหล็ก เธอชื่อนุ๊ก เธอก็เป็นเด้กผู้หญิงที่น่ารักอีกเช่นเคย ตัวเธอผอมสูงไล่ๆกับผมจมูกโด่งตาโต และที่สำคัญเราอายุเท่ากัน
เราเป็นเพื่อนกันเฉพาะช่วงปิดเทอม เธอจะเข้ามาปลุกผมที่บ้านทุกเช้า(เหมือนหนังเรื่องแฟนฉัน ^^)แล้วเราก็ไปขีจักรยานเล่นกันจนถึงเย็น เป็นแบบนี้เกื่อบทุกวันแล้วแต่ว่าเราจะมีอะไรเล่นอย่างอื่น เราไม่เคยคุยกันถึงเรื่องของความรัก หรือบอกว่าเราเป็นแฟนกัน ช่วงเวลานั้น มันมีแต่คำว่า สนุก กับ สุข และแล้วก็จะได้เวลาจากกันอีกครั้ง
เมื่อผมต้องขึ้นมาเรียน ม.1 ที่กรุงเทพ(เริ่มมองหาอนาคตของตัวเอง)
ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเธอผมบอกเธอไปว่าเราจะไปเรียนที่กรุงเทพแล้วนะเธอก็ไม่ได้พูดอะไรแต่เธอแกล้งแซวผมว่าบอกแฟนหรือยังที่โรงเรียนอะ ผมก็ตอบไปว่าจะบ้าหรอเธอก็หัวเราะ แต่จริงๆแล้วผมอยากจะบอกกับเธอมากกว่า ในเย็นวันนั้นเหมือนจะไม่มีอะไร ผมกินข้าวเสร็จ ก็ออกมานั่งเล่นหน้าบ้านประมาน 1 ทุ่มกว่าๆ เธอก็เดินมาหาผมที่หน้าบ้านและพูดกับผมว่า ไปขี่จักรยานเล่นกันเถอะ ผมก้ตอบตกลงแบบไม่คิดอะไร ผมเป็นคนทำหน้าที่ปั่นส่วนเธอก็เป็นผู้ซ้อน อย่างเช่นเคย 5555 เราขี่จักรยานรอบตึก ในหมู่บ้านจำไม่ได้ว่ากี่รอบลืม ขณะที่ปั่นจักรยานไปนั้นเธอก้ชวนนับจิ่งจกตามตึกตามเสาไฟ 555 ผมก็เออออนับตามเธอไป ได้กี่ตัวก็ไม่รู้ ผมก็เลยถามว่านับทำไม
เธอก็บอกว่าเหมือนเวลาที่เค้านับดาวกันไง แต่เรานับจิ่งจกไม่เหมือนใคร โรแมนติกดีออก ส่วนผม -////- เขิลและไม่พูดอะไร ได้แต่ปั่นจักรยานต่อไป และได้ส่งเธอที่หน้าบ้าน พอเปิดเทอมเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เวลาผมไปเยี่ยมแม่ทีนครปฐมผมก็ไปถามหาเธอบ่อยๆ น้าเค้าบอกว่าช่วงนี้เรียนหนัก เธอสอบติดจุฬาและเรียนหมอเลยไม่ค่อยว่างมาเที่ยว ป่านนี้เธอคงจะเรียนจบไปแล้วแน่ๆ ส่วนผมยังไม่ไปถึงไหนเลย ถ้าทำได้ผมอยากเจอเธออีกซักครั้ง เธอจะมีแฟนแล้วก็ไม่เป้นไร แค่ได้เจออีกครั้งก็พอ
และนี้คือความทรงจำครั้งสมัย ป.6 ที่ผมยังจำมันได้อยู่และไม่มีวันลืม ผมพูดได้เลยว่า เธอคือรักแรกของผม
puppy love สมัยป.6 อยากพบเธออีกซักครั้ง.
มันเกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่ ป.6 ตอนแรกผมยังเรียนอยู่ที่กรุงเทพตอนนั้นอยู่ป.5
ช่วงนั้นผมรูสึกว่าตัวเองงอแงและงี่เง่ามากๆ จึงร้องขอพ่อเพื่อที่จะย้ายไปอยู่กับแม่ที่นครปฐม (พ่อแม่ผมแยกทางกันตั่งแต่ยังเด็ก) ย้ายมาเพื่อเข้าเรียนป.6 ช่วงเวลานั้น
ผมรู้สึกว่าตัวเอง hot มาก(ร้อน) เนื่องจากเป็นเด็กใหม่และอยู่กรุงเทพ จึงมีเพื่อนเข้ามาคุยด้วยเยอะ และสาวๆก็มาชอบเยอะ เรื่องจริง! ไปไหนก็มีแต่คนแซวเด็กเทพๆ
จริงๆแล้วนครปฐมกับกรุงเทพใกล้กันนิดเดียวเอง ! ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหนเลย
จนวันหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผมว่า ชื่อ...หลอเราชื่อหนึ่งนะ เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าคล้ายๆเด็กลูกครึ่ง น่าตาน่ารักคนนึงที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง
เธอเป็นคนชั่งคุย คุยเก่งคุยกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เธอก้บอกว่า เราชอบเธอเป้นแฟนกันนะ ผมก้ตกใจด้วยความที่ยังเป็นเด็กสนุกอยู่เลยไม่คิดอะไรมากก็ตอบตกลงไป คือง่ายๆเลยนะ กูยังเด็กอยู่ ก็คบกันไปแบบเพื่อนๆสนุกสนาน จนถึงวันที่ต้องจากกัน เพราะผมไปเรียนได้แค่ปีเดียว ก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่ puppy love ของผมยังไม่ใช่คนนี้ครับ ^^
ในขณะที่ปิดเทอม ผมมักจะไปเล่นกับเพื่อนๆน้องๆที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ผมมักจะไปเล่นที่โรงเหล็ก เป็นประจำเพราะบ้านของผมกับโรงเหล็กสนิทกัน เพราะบ้านผมรับเหมาทาสีและต่อเติม เวลามีงานอะไรก็ช่วยเหลือกัน จนผมได้เจอกับเด้กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นหลานของเจ้าของโรงเหล็ก เธอชื่อนุ๊ก เธอก็เป็นเด้กผู้หญิงที่น่ารักอีกเช่นเคย ตัวเธอผอมสูงไล่ๆกับผมจมูกโด่งตาโต และที่สำคัญเราอายุเท่ากัน
เราเป็นเพื่อนกันเฉพาะช่วงปิดเทอม เธอจะเข้ามาปลุกผมที่บ้านทุกเช้า(เหมือนหนังเรื่องแฟนฉัน ^^)แล้วเราก็ไปขีจักรยานเล่นกันจนถึงเย็น เป็นแบบนี้เกื่อบทุกวันแล้วแต่ว่าเราจะมีอะไรเล่นอย่างอื่น เราไม่เคยคุยกันถึงเรื่องของความรัก หรือบอกว่าเราเป็นแฟนกัน ช่วงเวลานั้น มันมีแต่คำว่า สนุก กับ สุข และแล้วก็จะได้เวลาจากกันอีกครั้ง
เมื่อผมต้องขึ้นมาเรียน ม.1 ที่กรุงเทพ(เริ่มมองหาอนาคตของตัวเอง)
ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเธอผมบอกเธอไปว่าเราจะไปเรียนที่กรุงเทพแล้วนะเธอก็ไม่ได้พูดอะไรแต่เธอแกล้งแซวผมว่าบอกแฟนหรือยังที่โรงเรียนอะ ผมก็ตอบไปว่าจะบ้าหรอเธอก็หัวเราะ แต่จริงๆแล้วผมอยากจะบอกกับเธอมากกว่า ในเย็นวันนั้นเหมือนจะไม่มีอะไร ผมกินข้าวเสร็จ ก็ออกมานั่งเล่นหน้าบ้านประมาน 1 ทุ่มกว่าๆ เธอก็เดินมาหาผมที่หน้าบ้านและพูดกับผมว่า ไปขี่จักรยานเล่นกันเถอะ ผมก้ตอบตกลงแบบไม่คิดอะไร ผมเป็นคนทำหน้าที่ปั่นส่วนเธอก็เป็นผู้ซ้อน อย่างเช่นเคย 5555 เราขี่จักรยานรอบตึก ในหมู่บ้านจำไม่ได้ว่ากี่รอบลืม ขณะที่ปั่นจักรยานไปนั้นเธอก้ชวนนับจิ่งจกตามตึกตามเสาไฟ 555 ผมก็เออออนับตามเธอไป ได้กี่ตัวก็ไม่รู้ ผมก็เลยถามว่านับทำไม
เธอก็บอกว่าเหมือนเวลาที่เค้านับดาวกันไง แต่เรานับจิ่งจกไม่เหมือนใคร โรแมนติกดีออก ส่วนผม -////- เขิลและไม่พูดอะไร ได้แต่ปั่นจักรยานต่อไป และได้ส่งเธอที่หน้าบ้าน พอเปิดเทอมเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เวลาผมไปเยี่ยมแม่ทีนครปฐมผมก็ไปถามหาเธอบ่อยๆ น้าเค้าบอกว่าช่วงนี้เรียนหนัก เธอสอบติดจุฬาและเรียนหมอเลยไม่ค่อยว่างมาเที่ยว ป่านนี้เธอคงจะเรียนจบไปแล้วแน่ๆ ส่วนผมยังไม่ไปถึงไหนเลย ถ้าทำได้ผมอยากเจอเธออีกซักครั้ง เธอจะมีแฟนแล้วก็ไม่เป้นไร แค่ได้เจออีกครั้งก็พอ
และนี้คือความทรงจำครั้งสมัย ป.6 ที่ผมยังจำมันได้อยู่และไม่มีวันลืม ผมพูดได้เลยว่า เธอคือรักแรกของผม