นับตั้งแต่มหากาพย์ซีรีส์ขวัญใจมหาชน Game of Thrones ได้เปิดฉากเกมส์ล่าบัลลังก์แห่งแดนเวสเทอรอส ไพร่ฟ้าหน้าใสต่างได้ประสบพบเจอกับความร้ายกาจของตระกูลแลนนิสเตอร์กันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ซี, เจมี และโดยเฉพาะ จอฟฟรีย์ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลกได้พร้อมใจด่าทอสาปแช่งกันอย่างเมามันส์ แต่หลังจากการปรากฏตัวของ "แรมซีย์" ที่มาพร้อมกับความเหี้ยมเกรียมอันไร้ขอบเขต ทำให้ชายคนนี้กลายเป็น "ขวัญใจคนใหม่" ไปโดยปริยาย
(Spoil Alert!) ใครที่ยังไม่ได้ดู Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” เชิญไปดูก่อน แล้วค่อยมาอ่านครัช
ณ เพลานี้ คงไม่มีใครที่ไม่ล่วงรู้ หรือ ตระหนักรับรู้ ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของ บักแหลมศรี แรมซีย์ โบลตัน (รับบทโดย Iwan Rheon) ที่ได้ฝากวีรกรรมเอาไว้มากมาย และดูเหมือนว่าความโหดโฉดชั่วของชายคนนี้ นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่กระทำทารุณกรรม ธีออน เกรย์จอย จนเกือบเป็นบ้า, กระทำชำเรา ทุบตี และข่มขืน ซานซา สตาร์ค ในคืนวิวาห์อัปมงคล, ปลิดชีพคนรับใช้ที่แอบส่งข่าวให้ซานซา แล้วฆ่าถลกหนังขึงประจานกลางปราสาทวินเทอร์เฟล แถมยังจัดการศพมิแรนด้า กิ๊กรักเมียเก็บ ด้วยการสั่งให้เอาศพไปโยนให้หมากิน
จนกระทั่งถึงตอนล่าสุดใน Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” เกิดเหตุหน้ามืด ไอ้เหี้ยมแหลมศรี แรมซีย์ โบลตัน ก็โชว์ความขั้นสุด (รึยัง? หรือมียิ่งกว่านี้อีก?) ด้วยการฆ่าล้างโคตรเหง้าของตัวเอง #โหดฝัดสลัดผักรัสเซีย๕๕๕ เท้าความเหตุการณ์นี้มีปมหลังจากที่ ซานซา สตาร์ค หลบหนีออกไปกับ ธีออน เกรย์จอย ทำให้ตระกูลโบลตันไม่มีตัวประกันไว้อ้างสิทธิอันชอบธรรมในการปกครองแคว้นเหนือ รูส โบลตัน พ่อบังเกิดเกล้า จึงขู่ว่าถ้าตามหา ซานซา ไม่เจอ ก็จะไม่ให้ แรมซีย์ ได้เป็นทายาทสืบทอดบัลลังก์ราชาแดนเหนือ แต่จะมอบตำแหน่งทายาทให้ลูกชายของตนอีกคนที่เกิดจากครรภ์ วัลดา เฟรย์ แม่เลี้ยงของแรมซีย์ ได้สืบทอดแทน
และช่างประจวบเหมาะพอดี ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใจดั่งสวรรค์แกล้ง แรมซีย์ เนื่องจากเพียงไม่นาน ลูกชายตัวน้อยของ รูส โบลตัน กับ วัลดา เฟรย์ ก็ถือกำเนิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ทำให้ แรมซีย์ โบลตัน ที่มีปมน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งรู้สึกกดดันตัวเองมากขึ้นไปอีก ในที่สุดก็นำไปสู่ "การก่อวีรกรรมความของลูกทรพี" ระหว่างการเข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับคุณพ่อรูส โบลตัน ที่ได้ทายาทลูกชายคนใหม่ บักแหลมศรี แรมซีย์ ก็จัดการใช้มีดกระซวกแทงพ่อตัวเองในระยะประชิดจนลงไปนอนตายคาที่ พร้อมกับสถาปนาตนเป็นเจ้าผู้ปกครองแคว้นเหนือโดยปริยาย
จากนั้นก็สั่งให้คนไปตามตัว วัลดา เฟรย์ กับลูกน้อย ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของแรมซีย์ ไปพบกับตนที่คอกหมา โดยหลอกว่า รูส โบลตัน นัดให้มาเจอ ต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็พอจะนึกออกกัน แรมซีย์ พาเดินเข้าไปในคอกหมา แล้วก็ปล่อยฝูงหมาล่าเนื้อออกมารุมขย้ำ วัลดา เฟรย์ และเด็กทารกน้อย จบชีวิตแบบโหดร้ายทารุน #แรมซีย์มาถึงจุดนี้ได้ยังไง
นอกจากจะได้เถลิงตำแหน่งลอร์ดผู้ปกครองแดนเหนือ (แบบชั่วคราว) ความครั้งนี้ยังส่งผลให้ แรมซีย์ โบลตัน ขึ้นแท่นครองแชมป์กลายเป็น "คนพาลสันดานหยาบใจทรามที่สุดใน 3 โลก" พร้อมกับกลายเป็นตัวละครที่แฟนๆซีรีส์เกลียดเข้ากระดูกดำไปโดยชอบธรรมเช่นกัน และถ้าหากเทียบกันแล้ว ความเลวของพระราชาจอฟฟรีย์ กลายเป็นเพียงแค่ความวุ่นวายของเด็กเกรียนปากดีที่ทำได้แค่สร้างความรำคาญใจเท่านั้น เอาจริงๆพอ จอฟฟรีย์ ตายไปก็แทบจะลืมกันไปแล้วด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันความเหี้ยมของแรมซีย์ ก็สะท้อนและตอกย้ำถึงเอกลักษณ์จุดเด่นของซีรีส์ Game of Thrones ที่ขายความรุนแรง ความสมจริง ที่บางครั้งก็แยกแทบไม่ออกจากชีวิตจริงที่มีให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ! ... #โลกเวสเทอรอสมันอยู่ยาก #ชีวิตจริงก็เช่นกัน
แต่!!!... จะด่ากราดสาดความชั่วให้ แรมซีย์ เพียงฝ่ายเดียว เห็นทีจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าใดนัก เนื่องจากทุกเรื่องราวล้วนมีเหตุมีผลในตัวของมัน อันที่จริงกว่าจะพัฒนาความ
มาถึงจุดนี้ได้ บักแหลมศรี แรมซีย์ มีปมชีวิตที่น่าสงสารไม่น้อย (ลองติดตามกันดูแล้วคุณอาจจะสงสารเขาก็ได้ อิอิ) ประมาณว่าเป็น... เด็กมีปัญหา หา หา ใครๆก็ไม่รักซีย์... ชีวิตนี้อาภัพยิ่งนัก ตอนลืมตาดูโลกก็ไม่ได้เป็นความตั้งใจของพ่อแม่ เนื่องจากย้อนไปสมัยตอนโน้น เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เจ้าของโรงสีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเขตภายใต้การปกครองของตระกูลโบลตัน แต่งงานโดยไม่บอกกล่าว รูส โบลตัน จึงบุกไปจับเจ้าของโรงสีแขวนคอให้ตายอย่างช้าๆ เพื่อให้ดูตนข่มขืนภรรยาเจ้าของโรงสีต่อหน้า
หลังจากนั้น แหลมศรี แรมซีย์ ก็ถือกำเนิดขึ้นในท้องของภรรยาเจ้าของโรงสี ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ รูส โบลตัน เกือบฆ่าแรมซีย์น้อยตายเสียด้วยซ้ำ !.. แต่ยังดีที่มีจิตสำนึกขึ้นมาได้ จึงรับอุปการะไว้เป็นลูกนอกสมรสตระกูลโบลตัน (The Bastard of Bolton) ใช้ชื่อ-นามสกุลว่า "แรมซีย์ สโนว์" ก่อนที่ต่อมา แรมซีย์ จะทำความดีความชอบโดยการฉวยโอกาสบุกยึดปราสาทวินเทอร์เฟลได้ (ก็แน่ละ ตระกูลสตาร์ค
บ้านแตกไปแล้วนิ) ทำให้ รูส โบลตัน มอบสถานะใหม่เป็น แรมซีย์ โบลตัน พร้อมกับความหวังในการเป็นทายาทโดยชอบธรรมของตระกูลโบลตันที่กลายเป็นเจ้าแห่งแดนเหนือ เนื่องจากตอนนั้น รูส โบลตัน ยังไม่มีลูกชายกับ วัลดา เฟรย์...
แต่ก็นะ คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ แต่มันเลือกที่จะเป็นได้ ในกรณีของ แรมซีย์ ได้เลือกเส้นทางของเขาไว้แล้ว เส้นทางนี้หล่อหลอมมาจากคนรอบข้างของเขา นั่นก็คือ พ่อของเขาเอง รูส โบลตัน ที่มีส่วนสำคัญและมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อความคิดชีวิตจิตใจของ แรมซีย์ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา แรมซีย์ พยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของพ่อมาโดยตลอด สังเกตจากซีซั่น 4 ตอนที่ได้รับการมอบสถานะให้เป็นคนในตระกูลโบลตัน แรมซีย์ ดูภูมิใจไม่น้อย และต่อมา รูส โบลตัน ก็ยังให้ความหวังด้วยการหยิบยื่นโอกาสการเป็นทายาทสืบบัลลังก์แดนเหนือ แต่พอทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการกำลังจะสลายไปต่อหน้า แรมซีย์ ที่มีเชื้อพ่อแรงกล้า มีความทะยานอยากไม่น้อยกว่ากัน ก็สามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งการฆ่าพ่อตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของตน เข้าตำราลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ มองอีกมุมก็เหมือนกรรมตามสนอง รูส โบลตัน เหมือนกัน ตอนแรกคิดจะฆ่าลูกตัวเอง คราวนี้เลยโดนลูกตัวเองฆ่าซะเลย
Dave Hill ผู้เขียนบทของ Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของแรมซีย์ไว้ว่า "แรมซีย์ ไม่ได้เป็นคนบ้าโรคจิตโดยสมบูรณ์ หากดูดีๆ เขาโศกเศร้าที่ต้องฆ่าพ่อตัวเองตาย อันที่จริงแล้ว แรมซีย์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวเขา และพยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นคนในแบบที่พ่อของเขาอยากจะให้เป็น แต่ทำไปตามแนวทางที่ดูอำมหิตของเขา"
ท้ายที่สุดนี้ เมื่อพิจารณาจากสิ่งต่างๆแล้ว แม้จะได้ข้อสรุปว่า แรมซีย์ โบลตัน เป็นปีศาจชั่วช้าสามานย์ แต่เขาก็เป็นคนที่น่าสงสารด้วย เนื่องจากหากวิเคราะห์ดู แรมซีย์ ก็ถือเป็นผลผลิตที่ผิดพลาดของสถาบันครอบครัวอันเปราะบางที่มีส่วนอย่างยิ่งในการหลอมรวมความเป็น "ตัวตน" ที่กลายเป็น "ปีศาจ" นามว่า แรมซีย์ โบลตัน ... และแน่นอนว่านี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้สะท้อนภาพปัญหาครอบครัวออกมาจากชีวิตจริงที่มีให้เห็นอยู่... ดังคำกล่าวที่ว่า ดูหนัง ดูละคร ต้องย้อนกลับมาดูสังคม ดูตัวเอง ด้วยนะครัช #โลกคือละคร #ละครก็คือโลก #แตกต่างเหมือนกัน #พ่อแม่พึงรำลึกไว้ #ถ้าไม่อยากมีลูกเป็นแหลมศรี #ดูแลอบรมลูกให้ดีดี
บทสสรุปชะตากรรม แรมซีย์ โบลตัน จะไปจบที่ตรงไหน? ต้องรอติดตามกันในซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 6 ออกอากาศทุกวันจันทร์ เฟิร์สรัน 8.00 น. รีรัน 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223)
Cr.By Pele
http://script.today/script2/newsDetail?id=21600
‘แรมซีย์ โบลตัน’ ปีศาจแห่งเวสเทอรอส จอมโฉดผู้น่าสงสารใน Game of Thrones
นับตั้งแต่มหากาพย์ซีรีส์ขวัญใจมหาชน Game of Thrones ได้เปิดฉากเกมส์ล่าบัลลังก์แห่งแดนเวสเทอรอส ไพร่ฟ้าหน้าใสต่างได้ประสบพบเจอกับความร้ายกาจของตระกูลแลนนิสเตอร์กันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เซอร์ซี, เจมี และโดยเฉพาะ จอฟฟรีย์ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลกได้พร้อมใจด่าทอสาปแช่งกันอย่างเมามันส์ แต่หลังจากการปรากฏตัวของ "แรมซีย์" ที่มาพร้อมกับความเหี้ยมเกรียมอันไร้ขอบเขต ทำให้ชายคนนี้กลายเป็น "ขวัญใจคนใหม่" ไปโดยปริยาย
(Spoil Alert!) ใครที่ยังไม่ได้ดู Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” เชิญไปดูก่อน แล้วค่อยมาอ่านครัช
ณ เพลานี้ คงไม่มีใครที่ไม่ล่วงรู้ หรือ ตระหนักรับรู้ ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของ บักแหลมศรี แรมซีย์ โบลตัน (รับบทโดย Iwan Rheon) ที่ได้ฝากวีรกรรมเอาไว้มากมาย และดูเหมือนว่าความโหดโฉดชั่วของชายคนนี้ นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่กระทำทารุณกรรม ธีออน เกรย์จอย จนเกือบเป็นบ้า, กระทำชำเรา ทุบตี และข่มขืน ซานซา สตาร์ค ในคืนวิวาห์อัปมงคล, ปลิดชีพคนรับใช้ที่แอบส่งข่าวให้ซานซา แล้วฆ่าถลกหนังขึงประจานกลางปราสาทวินเทอร์เฟล แถมยังจัดการศพมิแรนด้า กิ๊กรักเมียเก็บ ด้วยการสั่งให้เอาศพไปโยนให้หมากิน
จนกระทั่งถึงตอนล่าสุดใน Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” เกิดเหตุหน้ามืด ไอ้เหี้ยมแหลมศรี แรมซีย์ โบลตัน ก็โชว์ความขั้นสุด (รึยัง? หรือมียิ่งกว่านี้อีก?) ด้วยการฆ่าล้างโคตรเหง้าของตัวเอง #โหดฝัดสลัดผักรัสเซีย๕๕๕ เท้าความเหตุการณ์นี้มีปมหลังจากที่ ซานซา สตาร์ค หลบหนีออกไปกับ ธีออน เกรย์จอย ทำให้ตระกูลโบลตันไม่มีตัวประกันไว้อ้างสิทธิอันชอบธรรมในการปกครองแคว้นเหนือ รูส โบลตัน พ่อบังเกิดเกล้า จึงขู่ว่าถ้าตามหา ซานซา ไม่เจอ ก็จะไม่ให้ แรมซีย์ ได้เป็นทายาทสืบทอดบัลลังก์ราชาแดนเหนือ แต่จะมอบตำแหน่งทายาทให้ลูกชายของตนอีกคนที่เกิดจากครรภ์ วัลดา เฟรย์ แม่เลี้ยงของแรมซีย์ ได้สืบทอดแทน
และช่างประจวบเหมาะพอดี ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใจดั่งสวรรค์แกล้ง แรมซีย์ เนื่องจากเพียงไม่นาน ลูกชายตัวน้อยของ รูส โบลตัน กับ วัลดา เฟรย์ ก็ถือกำเนิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ทำให้ แรมซีย์ โบลตัน ที่มีปมน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งรู้สึกกดดันตัวเองมากขึ้นไปอีก ในที่สุดก็นำไปสู่ "การก่อวีรกรรมความของลูกทรพี" ระหว่างการเข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับคุณพ่อรูส โบลตัน ที่ได้ทายาทลูกชายคนใหม่ บักแหลมศรี แรมซีย์ ก็จัดการใช้มีดกระซวกแทงพ่อตัวเองในระยะประชิดจนลงไปนอนตายคาที่ พร้อมกับสถาปนาตนเป็นเจ้าผู้ปกครองแคว้นเหนือโดยปริยาย
จากนั้นก็สั่งให้คนไปตามตัว วัลดา เฟรย์ กับลูกน้อย ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของแรมซีย์ ไปพบกับตนที่คอกหมา โดยหลอกว่า รูส โบลตัน นัดให้มาเจอ ต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็พอจะนึกออกกัน แรมซีย์ พาเดินเข้าไปในคอกหมา แล้วก็ปล่อยฝูงหมาล่าเนื้อออกมารุมขย้ำ วัลดา เฟรย์ และเด็กทารกน้อย จบชีวิตแบบโหดร้ายทารุน #แรมซีย์มาถึงจุดนี้ได้ยังไง
นอกจากจะได้เถลิงตำแหน่งลอร์ดผู้ปกครองแดนเหนือ (แบบชั่วคราว) ความครั้งนี้ยังส่งผลให้ แรมซีย์ โบลตัน ขึ้นแท่นครองแชมป์กลายเป็น "คนพาลสันดานหยาบใจทรามที่สุดใน 3 โลก" พร้อมกับกลายเป็นตัวละครที่แฟนๆซีรีส์เกลียดเข้ากระดูกดำไปโดยชอบธรรมเช่นกัน และถ้าหากเทียบกันแล้ว ความเลวของพระราชาจอฟฟรีย์ กลายเป็นเพียงแค่ความวุ่นวายของเด็กเกรียนปากดีที่ทำได้แค่สร้างความรำคาญใจเท่านั้น เอาจริงๆพอ จอฟฟรีย์ ตายไปก็แทบจะลืมกันไปแล้วด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันความเหี้ยมของแรมซีย์ ก็สะท้อนและตอกย้ำถึงเอกลักษณ์จุดเด่นของซีรีส์ Game of Thrones ที่ขายความรุนแรง ความสมจริง ที่บางครั้งก็แยกแทบไม่ออกจากชีวิตจริงที่มีให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ! ... #โลกเวสเทอรอสมันอยู่ยาก #ชีวิตจริงก็เช่นกัน
แต่!!!... จะด่ากราดสาดความชั่วให้ แรมซีย์ เพียงฝ่ายเดียว เห็นทีจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าใดนัก เนื่องจากทุกเรื่องราวล้วนมีเหตุมีผลในตัวของมัน อันที่จริงกว่าจะพัฒนาความ
หลังจากนั้น แหลมศรี แรมซีย์ ก็ถือกำเนิดขึ้นในท้องของภรรยาเจ้าของโรงสี ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ รูส โบลตัน เกือบฆ่าแรมซีย์น้อยตายเสียด้วยซ้ำ !.. แต่ยังดีที่มีจิตสำนึกขึ้นมาได้ จึงรับอุปการะไว้เป็นลูกนอกสมรสตระกูลโบลตัน (The Bastard of Bolton) ใช้ชื่อ-นามสกุลว่า "แรมซีย์ สโนว์" ก่อนที่ต่อมา แรมซีย์ จะทำความดีความชอบโดยการฉวยโอกาสบุกยึดปราสาทวินเทอร์เฟลได้ (ก็แน่ละ ตระกูลสตาร์ค
บ้านแตกไปแล้วนิ) ทำให้ รูส โบลตัน มอบสถานะใหม่เป็น แรมซีย์ โบลตัน พร้อมกับความหวังในการเป็นทายาทโดยชอบธรรมของตระกูลโบลตันที่กลายเป็นเจ้าแห่งแดนเหนือ เนื่องจากตอนนั้น รูส โบลตัน ยังไม่มีลูกชายกับ วัลดา เฟรย์...
แต่ก็นะ คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ แต่มันเลือกที่จะเป็นได้ ในกรณีของ แรมซีย์ ได้เลือกเส้นทางของเขาไว้แล้ว เส้นทางนี้หล่อหลอมมาจากคนรอบข้างของเขา นั่นก็คือ พ่อของเขาเอง รูส โบลตัน ที่มีส่วนสำคัญและมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อความคิดชีวิตจิตใจของ แรมซีย์ เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา แรมซีย์ พยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของพ่อมาโดยตลอด สังเกตจากซีซั่น 4 ตอนที่ได้รับการมอบสถานะให้เป็นคนในตระกูลโบลตัน แรมซีย์ ดูภูมิใจไม่น้อย และต่อมา รูส โบลตัน ก็ยังให้ความหวังด้วยการหยิบยื่นโอกาสการเป็นทายาทสืบบัลลังก์แดนเหนือ แต่พอทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการกำลังจะสลายไปต่อหน้า แรมซีย์ ที่มีเชื้อพ่อแรงกล้า มีความทะยานอยากไม่น้อยกว่ากัน ก็สามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งการฆ่าพ่อตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของตน เข้าตำราลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ มองอีกมุมก็เหมือนกรรมตามสนอง รูส โบลตัน เหมือนกัน ตอนแรกคิดจะฆ่าลูกตัวเอง คราวนี้เลยโดนลูกตัวเองฆ่าซะเลย
Dave Hill ผู้เขียนบทของ Game of Thrones ซีซั่น 6 ตอนที่ 2 “Home” ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของแรมซีย์ไว้ว่า "แรมซีย์ ไม่ได้เป็นคนบ้าโรคจิตโดยสมบูรณ์ หากดูดีๆ เขาโศกเศร้าที่ต้องฆ่าพ่อตัวเองตาย อันที่จริงแล้ว แรมซีย์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวเขา และพยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นคนในแบบที่พ่อของเขาอยากจะให้เป็น แต่ทำไปตามแนวทางที่ดูอำมหิตของเขา"
ท้ายที่สุดนี้ เมื่อพิจารณาจากสิ่งต่างๆแล้ว แม้จะได้ข้อสรุปว่า แรมซีย์ โบลตัน เป็นปีศาจชั่วช้าสามานย์ แต่เขาก็เป็นคนที่น่าสงสารด้วย เนื่องจากหากวิเคราะห์ดู แรมซีย์ ก็ถือเป็นผลผลิตที่ผิดพลาดของสถาบันครอบครัวอันเปราะบางที่มีส่วนอย่างยิ่งในการหลอมรวมความเป็น "ตัวตน" ที่กลายเป็น "ปีศาจ" นามว่า แรมซีย์ โบลตัน ... และแน่นอนว่านี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้สะท้อนภาพปัญหาครอบครัวออกมาจากชีวิตจริงที่มีให้เห็นอยู่... ดังคำกล่าวที่ว่า ดูหนัง ดูละคร ต้องย้อนกลับมาดูสังคม ดูตัวเอง ด้วยนะครัช #โลกคือละคร #ละครก็คือโลก #แตกต่างเหมือนกัน #พ่อแม่พึงรำลึกไว้ #ถ้าไม่อยากมีลูกเป็นแหลมศรี #ดูแลอบรมลูกให้ดีดี
บทสสรุปชะตากรรม แรมซีย์ โบลตัน จะไปจบที่ตรงไหน? ต้องรอติดตามกันในซีรีส์ Game of Thrones ซีซั่น 6 ออกอากาศทุกวันจันทร์ เฟิร์สรัน 8.00 น. รีรัน 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง HBO HD (ทรูวิชั่นส์ 223)
Cr.By Pele http://script.today/script2/newsDetail?id=21600