เค้าว่าไปทะเลไม่หนีร้อนก็หนีรัก ภาค ทัวร์ตะลอนๆที่จ.ยามะกุจิ [yamaguchi]

เค้าว่ากันว่า(สรุปใครว่า?555) ไปทะเลไม่หนีร้อนก็หนีรัก แต่เราเปล่าเราหนีแผ่นดินไหว
เหตุเกิดจากแผนที่เราจะไปเยี่ยมดินแดนพี่หมีคุมาม่องต้องระงับไปชั่วคราวก่อนเนื่องจากถนนหลายสายปิดใช้ชั่วคราว
เราเลยต้องหนีกันมาไกลถึง จ.ยามะกุจิ แห่งนี้ มาดูกันว่าที่นี้มันมีอะไรดี

เราออกเดินทางจากเกาะคิวชูขึ้นมาจาก คิตะคิวชูข้ามอุโมงค์ คัมม่อน มาโผล่ที่ จ.ยามะกุจิ ที่จริงแล้วการเดินทางจากคิวชูมา ยามะกุจิสามารถมาได้ 4 เส้นทางค่ะ ทางเรือเฟอร์รี่ รถไฟเจอาร์ เดินลอดอุโมงค์ หรือจะข้ามสะพานมาก็ได้เช่นกัน ที่ส่วนนึงของจังหวัดเป็นท่าเรือสิ้นค้าและการประมง ที่นี้มีตลาดปลาที่มีคุณภาพที่นึงในญี่ปุ่นเชียวละ ส่วนอีกด้านนึงก็เป็นพื้นเกษตรกรรม มีชายหาดอันสวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวติดอันดับในญี่ปุ่นอีกด้วย  ไม่รอช้าเราไปชมภาพ ก๊อกแก๊กที่เราถ่ายมาฝากกันค่ะ^^

จาก Mekari park area เราสามารถเห็นสะพานใหญ่ที่เชื่อมระหว่างสองเกาะเข้าไว้ด้วยกัน

เมื่อข้ามมาถึง จุดแรกที่เราแวะฝากท้องคือที่ตลาดปลาตรงท่าเรือ บรรยากาศคล้ายๆ เอเชียทีคบ้านเรา

โครงสร้างภายในตลาดปลาแห่งนี้ เว่อร์วังอลังการมากทีเดียว สายวิศวกรอย่างเราชอบมาก

ภายในตลาดปลา ใครอยากมาลองชิมอาหารทะเลสดๆราคาคุ้มค่า ควรมาก่อนเที่ยงนะจ้ะ ที่นี้มีซูชิราคา100เยนที่ชิ้นใหญ่มาก ยังไม่รวมข้าวหน้าทะเลรวมต่างๆมากมาย เอาเป็นว่ามีโอกาสต้องไปโดนเอง

มองจากตรงนี้จะเห็นวิวรอบๆท่าเรือนี้เลย

ตรงจุดนี้มีตั้งรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวด้วยละคะ เราช่วงนั้นก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนเหมือนกัน เข้าใจสภาพดีเลยละว่ามันหวาดวิตกอย่างไง สู้ๆนะคะพี่หมีคุมาม่อง^^

จากนั้นเราก็ยิงยาวมาที่เขต nagato เพื่อจะมาศาลเจ้าแห่งนี้ ขับรถขึ้นเขาผ่านช่วงคอขวดมาเยอะมากทำเอาผู้ร่วมทริปบางคนใจหายใจคว่ำกันไปพอสมควร เราก็มาถึงทางเข้าที่มีนักท่องเที่ยวยืนออกันโยนเหรียญให้ลงในกล่องที่อยู่บนเสา

ถัดจากเสามา 3 ก้าวเดินเราก็พบกับวิวนี้ สวยจริงๆอย่างที่เค้าว่ากัน

เมื่อเราเดินผ่านเสามาเรื่อยๆคนญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่า ระหว่างที่เดินผ่านเสาให้อฐิธานขอพรจากเทพเจ้าแล้วจะสมหวังค่ะ สายไสยศาสตร์อย่างเราก็ไม่พลาดค่ะอธิฐานสิคะรออะไร^^

เดินไปครึ่งทางเราจะพบกับรูปสลักเอบิสึหันหน้าออกทะเล

ปิดท้ายสถานที่นี้ด้วยภสพโขคหินกับน้ำทะเลสีเข้ม แล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางกันต่อค่ะ