[CR] พาลูกไปปล่อยเกาะ Teamlab

เพิ่งพาเด็กๆ ไปเที่ยวมาครับ เลยขอมารีวิวกันสักหน่อย สวนสนุก TeamLab Island ที่จัดใน Central world ครับ



ตอนแรกเด็กๆถามว่าจะพาไปเที่ยวไหน พอผมบอกชื่อเด็กๆก็งงและถามว่ามันคืออะไร ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเลยบอกไปว่าสวนสนุกไฮเทค ก็เลยพากันตาลุกวาวเป็นประกายกันใหญ่เลย

เรามาถึง Central world ประมาณ 10 โมงกว่าๆ จุดที่ตั้งของสวนสนุกก็หาได้ไม่ยากเพราะมีป้ายบอกทาง และสติ๊กเกอร์ตามพื้นที่พาเรามาถึงทางเข้าได้อย่างรวดเร็ว








ข้างหน้าสังเกตง่ายๆ มีลานสเก็ตน้ำแข็งอยู่ ส่วนหน้างานก็มีบู๊ธผู้สนับสนุน ที่เขาบอกว่าใช้เป็นส่วนลดได้ด้วย

พอเราเข้าซื้อบัตร พนักงานก็แจ้งว่า งานแบ่งออกเป็น 2 รอบ มีเช้ากับบ่าย พนักงานก็แจ้งว่ารอบเช้าที่เราเข้านี้จะหมดเวลาเข้าตอนบ่าย 2 โดยพนักงานแจ้งว่าข้างในห้ามนำอาหารขนมและของกินเข้าไป ถ้ามีให้ฝากไว้ที่เค้าเตอร์ขายบัตร หลังจากบอกกฎระเบียบเรียบร้อยก็พาเด็กๆ เดินเข้าในส่วนแรก ซึ่งต้องบอกว่าภายในงานออกแบบมาให้เป็นงานเหมือนแสงสีเสียง ที่จะต้องแสดงบนพื้นที่จัดแสดงที่มืด โดยภายในงานนั้นมืดเอามากๆ เลยครับ แต่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะตลอดทุกโซนนั้นจะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำ และบอกทางในทุกจุดอย่างพร้อมเพียงเลย เข้ามาสู่จุดแรก ปรับม่านตาให้ชินกับความมืดเราเดินมายังห้องแรก








มหัศจรรย์เมืองดอกไม้ โดยในห้องจะมีการฉายภาพดอกไม้ตั้งแต่เริ่มผลิบานจนแห้งโรย ทั้งนี้เด็กๆ จะได้รับการเรียนรู้ว่า มนุษย์เรานั้นสามารถส่งผลกับธรรมชาติได้อย่างไร ด้วยการเอามือไปแตะที่ดอกไม้ มันก็จะฟุ้งกระจายทำให้พื้นที่มืดๆ สว่างไสวในพริบตา และพนักงานย้ำกับผมและเด็กๆอีกครั้งว่า ไม่อนุญาตให้วิ่งเล่นซน และ เอามือทุบผนังนะครับแค่แตะเบาๆพอ (เหมือนรู้ว่าลูกผมเป็นเด็กซนเลยห้ามไว้ก่อน ฮ่าๆ) แล้วเด็กๆ ก็ไม่รอช้าเอามือไปแตะกำแพงที่กำลังแสดงผลอยู่ยิ่งสนุกใหญ่เมื่อพากันเอามือลูบๆ ไปเป็นทางยาวแล้วกลีบดอกไม้ก็เริ่มปลิวออกไปเป็นวงกว้าง เหมือนห้องนี้เป็นจุดเริ่มต้นเสียมากกว่า เพราะไม่ได้มีอะไรให้ได้เล่นมากนัก ไม่นานเราก็เดินออกมายังพื้นที่ต่อไปตามคำแนะนำของพนักงานที่ยืนอยู่มืดๆ ตามมุมต่างๆ ทีแรกก็แอบตกใจเหมือนกัน


อันนี้ดูไม่เหมือนโซนนักเพราะฉายอยู่ริมทางเดินเป็นงานที่มีชื่อว่า อารยธรรมที่ยั่งยืน เป็นเนื้อหาออกแนวงานศิลป์แบบญี่ปุ่น ที่น่าจะเล่าประมาณว่าเหมือนกับกำแพงวัดของบ้านเราบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นานาของประเทศญี่ปุ่น เด็กๆ ยืนดูกันอยู่ได้ไม่นานนัก น่าจะเป็นเพราะเป็นเด็กเลยอาจจะไม่เข้าใจความหมาย เลยเดินต่อไปดูในโซนถัดไปอย่างรวดเร็ว อ่อลืมบอกไปว่าตรงนี้ห้ามจับนะมันเป็นเหมือนภาพบนจอไม่ได้ฉายจากเครื่องแล้วเล่นเป็นอินเตอร์แอคทีฟเหมือนห้องแรกครับ


จุดนี้เราเดินมายังเป็นพื้นขาวๆ พนักงานบอกเราให้หยุดดูก่อนเพราะภาพกำลังจะแสดงให้ดู ผมและลูกจึงหยุดยืนดูกัน ตรงนี้มีชื่อว่า อมตะ พนักงานบอกเราว่าจริงๆ ภาพมันไม่ได้ขยับแต่พิคเซลในภาพต่างหากที่เคลื่อนไหวหลักการเดียวกับทีวี โดยภาพก็แสดงรูปสัตว์แบบง่ายๆ กับต้นไม้และธรรมชาติ ดูจนจบเหล่าสัตว์ทั้งหลายในภาพก็หันมาดูเราแทน (จอนี้ก็ห้ามจับเช่นกันครับ)

พอยืนได้สักพักลูกสาวก็ถามว่าไม่มีอะไรให้จับเล่นอีกแล้วเหรอ ผมก็ตอบไปว่ามี ให้ลูกใจเย็นๆ
ก่อนที่เราจะเดินเข้ามาสู่จุดต่อมาคือ




ภาพทะเล 100 ปี ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอะไรยังไงบ้าง
นั่งดูกันเงียบๆ จากพื้นดินสู่ทะเล ผมก็พยายามอธิบายความเป็นทะเลให้เด็กๆ ฟัง แต่ก็เหมือนว่าใจของพวกเขาจดจ่อกับสิ่งที่ภาพน้ำซัดสาดตรงหน้ามากกว่า โซนนี้ก็ไม่ได้เป็นอินเตอร์แอคทีฟเช่นกันครับ มีแค่เบาะใหญ่ๆข้างในเป็นเม็ดโฟมให้นั่งๆนอนๆดูทะเล


เข้ามาจุดที่เป็นจอฉายสามมิติที่กว้างมากๆ พนักงานแนะนำกับเราว่านี่คือภาพงานอนิเมชั่นชื่อว่า โฉบเฉี่ยว และมีการวิ่งไปมาของเส้นสายที่เหมือนมีนกบินไปตามที่ต่างๆ ที่มีเพลงประกอบด้วย จากความพลิ้วไหวค่อยๆ เร็วและรุนแรงขึ้นตามจังหวะของเพลง เรานั่งดูจนจบไปสองรอบ ที่สองรอบก็เพราะ เราไม่รู้ว่ามันวนลูปไปแล้ว ผมและเด็กๆดูกันเพลินเลยทีเดียวครับ




พอเดินพ้นมาได้ไม่ไกล ณ จุดนี้เป็นพื้นที่ที่เรียกได้ว่ามันคือสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟของจริง เพราะทุกจุดเชื่อมโยงถึงกัน แต่ดูไม่วุ่นวาย เพราะเป็นห้องกว้างใหญ่ๆ ผมเห็นคนมากมายกว่าทุกพื้นที่โดยเฉพาะเด็กๆ เมื่อเห็นแบบนี้ เด็กๆ ดูท่าจะดีใจมากวิ่งไปเล่นลูกบอลที่มีแสงเปล่งออกอมาจากภายในกันอย่างสนุกสนาน โดยลูกบอลจะเปลี่ยนสีตามการแตะสัมผัสทั้งยังเข้ากับเสียงเพลงด้วย ถือเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งหู ตา และมือให้สร้างจินตนาการได้ดี (พนักงานเค้าว่างั้น) โซนนี้ชื่อ บอลยักษ์มหัศจรรย์




เส้นทางในฝัน ตรงนี้เป็นพื้นที่สร้างเมืองบนกระดานและทำเป็นภาพสามมิติไปขึ้นบนจอ ที่เล่นได้หลายๆ คนพร้อมกัน ลึกๆ แล้วก็เป็นการดีที่เล่นได้หลายๆ คนเพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เด็กๆ รู้จักยอมรับความคิดของผู้อื่นดีครับ (ถึงแม้จะมีแย่งกันเล่นบ้างก็ตามที)








หรรษาใต้มหาสมุทร เป็นจุดที่เหมือนไว้นั่งพักเหนื่อยของเด็กๆ หลังจากวิ่งเล่นบอลยักษ์กันมาแล้ว โดยมีกระดาษรูปร่างปลาให้ระบายสีและนำไปสแกน เพื่อพปลาเข้าไปสู่หน้าจอ โดยยังเล่นและให้อาหารปลาในตู้ได้ด้วยนะ โดยเอามือไปแตะที่ตัวปลาบนจอได้เลยครับ ตรงจุดนี้แนะนำให้ระบายสีให้เข้มๆหน่อยนึงนะครับ ถ้าหากระบายจางจะมองไม่เห็นสีบนจอครับ




โลกของมนุษย์จิ๋ว จุดนี้เด็กๆสนุกมากเลยครับได้เล่นกับตัวมนุษย์จิ๋วบนโต๊ะที่สามารถเดินหรือกระโดดตามวัตถุที่วางเอาไว้เพื่อสร้างฝน หรือเหตุการณ์ต่างๆในโลกของมนุษย์จิ๋ว ผมคิดว่าจุดนี้เป็นจุดที่สร้างเสริมจินตนาการของเด็กๆได้ดีมากเลยทีเดียวครับ




อักษรแปลงร่าง เป็นภาพตัวอักษรญี่ปุ่น หล่นลงมาจากด้านบน และมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นตามตัวอักษร เช่น แตะแล้วจะมีวัวหรือสัตว์อื่นๆออกมา บางอันแตะแล้วก็จะมีลำแสงเป็นเส้นๆพุ่งออกมาอย่างสวยงาม




ก้าวกระโดด โซนนี้เป็นโซนออกแรงอีกจุดหนึ่งครับ จะแบ่งเป็นสองจุดคือจุดที่วางแผ่นเหยียบเป็นทางเดินบนจอเล็กๆ แล้วส่งไปที่จุดวิ่งครับ คือเด็กๆสามารถออกแบบทางวิ่งที่ตัวเองต้องการได้ เมื่อออกแบบเสร็จแล้วก็ส่งไปที่ลานวิ่ง แล้วก็เริ่มวิ่งกันได้เลยครับ ไม่ได้มีคะแนนการวิ่งให้แต่จะมีสีแสดงเมื่อเหยียบบนทางวิ่งและ มีสีแดงขึ้นเมื่อเหยียบไม่โดนทางวิ่งครับ








เมืองของเรา จุดสุดท้ายนี้คล้ายๆ กับจุดหรรษาใต้สมุทร คือระบายสีบนยานพาหนะ บ้านและตึก แล้วแสกน ไปขึ้นบนจอ ที่มีเมืองและมีรถยนต์วิ่งไปตามถนน และเมื่อมีสิ่งก่อสร้างเป็นจำนวนมากจะมีปีศาจออกมาเดินทำลายสิ่งก่อสร้างและยานพาหนะบนจอด้วยตลกดีครับ


สรุปรีวิวครับ
ความสนุก น่าสนใจ (มองจากมุมผู้ใหญ่) : 8/10
อยากให้มีโซนที่เป็นศิลปะมากกว่านี้ครับ เช่น โซนโฉบเฉี่ยว ผมนี่ดูเพลินเลยทีเดียว

ความสนุก น่าสนใจ (มองจากมุมเด็ก) : 10/10
เด็กๆบอกว่าสนุกมาก คุยกันไม่หยุดตั้งแต่ออกมาจากสวนสนุกจนถึงบ้านเลยครับ

ความคุ้มค่า : 8/10
ราคา 350 บาทสำหรับการเรียนรู้อะไรที่แปลกใหม่อย่างนี้ถือว่าคุ้มค่าครับ และยังสามารถใช้ส่วนลดจากบัตรวันการ์ดได้ 10% ก็ถือว่าโอเคเลยครับ (แต่ผมใช้ส่วนลดจากสินค้าของผู้สนับสนุนของเค้า ซึ่งลดถูกกว่าบัตรวันการ์ด)

ปล. จริงๆถ่ายภาพมาเยอะมากเลยครับแต่ใช้ได้จริงค่อนข้างน้อยเพราะข้างในมืดมากผมใช้กล้องมือถือถ่าย และข้างในเค้างดใช้แฟลชนะครับ
ชื่อสินค้า:   Teamlab Islands
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่