สวัสดีครับ เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสคุยกับคนๆนึงในอินทราแกรม ซึ่งผมชอบรูปที่เค้าถ่ายมาก เราคุยกันได้สักพักผมได้สัญญากับเธอเอาไว้ ว่าจะถ่ายภาพดาวมาให้เธอได้ดู แต่ผมก็ทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเธอหวังว่าเธอจะเข้ามาดู มันทำให้คนอย่างผมซึ่งปกติแล้วเสา อาทิตย์ จะหมกตัวอยู่แต่ในห้อง เล่น คอม อ่านหนังสือ เริ่มออกเดินทางถ่ายรูปไปยังที่ต่างๆ เพื่อเอาให้เธอได้ดู ผมรู้สึกนะว่าเธอชอบมากถึงเเม้ว่าจะเป็นเพียงแค่อักษรที่พิมพ์ผ่านไลน์มา มันก็ทำให้ผมหัวใจพองโตได้เเต่เพ้อไปคนเดียว ฮ่าๆๆ
.....เข้าเรื่องดีกว่าครับ ทริปนี้เริ่มเกิดขึ้นด้วยน้องที่ผมรู้จักซึ่งทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ได้ชักชวนให้ไปถ่ายรูปด้วยกัน เป้าหมายคือ แก่งก้อ อุทยานแห่งชาติแม่ปิงผมตอบตกลงอย่างไม่รีรอเพราะมันตรงกับวันหยุดยาว 5 วันในต้นเดือน พ.ค.59 ทริปนี้ไปกันสิบกว่าคนครับมีกำหนดน่าจะสามวันสองคืน แต่ผมคงอยู่แค่คืนเดียวเพราะมีแผนที่จะกลับบ้านที่น่าน และขึ้นไปถ่ายดาวที่ดอยเสมอดาวมาให้เธอคนนั้นได้ดูด้วย
.....ผมออกเดินทางจากเชียงรายไปยังเชียงใหม่เพื่อไปพบกับน้องและจะเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่างชาติแม่ปิง อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 160 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ
.......พวกเราเดินทางมาถึงกันประมาณ สามโมงกว่าๆ และเดินลงไปสำรวจมุมที่จะถ่ายดาวคืนนี้กัน "แก่งก้อ" เป็นชื่อเรียกของแก่งหิน จุดหนึ่งใน 32 แก่งหินของแม่น้ำปิง ก่อนการสร้างเขื่อนภูมิพล ซึ่งในสมัยก่อนแม่น้ำปิงถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักระหว่างผู้คนในภาคกลางและ ภาคเหนือใน จังหวัด ลำพูน เชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นเวิ้งน้ำขนาดใหญ่ ที่เกิดจาก ลำห้วยแม่ก้อไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิง โดยมีระดับน้ำที่สูงขึ้นมาจากเดิมมากหลังจากการ สร้างเขื่อน แก่งก้อมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แก่งก้อยังเป็นจุด ครึ่งทางของการสัญจรทางน้ำระหว่างเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำของอุทยานแห่งชาติ -แม่ปิง ซึ่งรองรับการทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น การนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งในช่วงนี้น้ำได้ลดระดับไปมากจนทำให้เห็นพื้นดินโผล่ขึ้นมา สามารถเดินเล่นได้

ตอนเย็นก่ะเดินหามุมถ่ายรูปเล่นๆกัน ช่วงเย็นเริ่มมีเมฆมากและได้ยินข่าวว่าในตัวเมืองเชียงใหม่เกิดฝนตกหนัก พวกเราแต่ละคนได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆและพาวนาให้คืนนี้ฝนไม่ตก เพราะเดินทางมาเเสนไกล

สภาพอากาศในตอนเย็น ลมแรง และเมฆมาก แต่ก็น่าจะเป็นผลดีครับ เพราะลมเเรงๆจะได้พัดเมฆให้ผ่านบริเวณนี้ไปเร็วๆ หันไปมองแต่ละคนก่ะได้แต่ก้มจ้องมือถือเพื่อเช็คสภาพอากาศกัน ส่วนตัวผมใช้ภาพถ่ายดาวเทียวจากกรมอุตุฯครับ
http://www.satda.tmd.go.th/ มีรายงานมาเป็นชั่วโมง แต่จะเสียอยู่อย่างบางวันหลังจาก หนึ่งทุ่มแล้วมันจะไม่อัปเดท จะอัปเดทอีกทีก่ะช่วงเช้าๆ

ช่วงเย็นก็เดินหามุมและถ่ายเเสงเย็นกันครับ แต่ก่ะต้องผิดหวังกันอยู่พอสมควร เนื่องจากมีภูเขาเป็นฉากบังแสง ทำให้เก็บภาพกันได้ไม่มากเท่าไหร่ ก็เลยหันมาจัดเตรียมอาหารการกินกัน เมนูก็ง่ายๆครับ ไข่ทอด หมูทอด ไก่ทอด ผัดผักบุ้ง แต่ใช้เวลาทำไปสองชั่วโมงกว่าๆ เนื่องจากสภาพอากาศและอุปกรณ์
และแล้วก็ไดเวลาถ่ายดาวและล่าทางช้างเผือก ช่วงที่ผมไปทางช้างเผือกจะขึ้นประมาณ 5 ทุ่ม ก่อนหน้านั้นก็เดินหามุมกันเนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่เเละมืดมาก จึงทำให้เดินกันยากลำบากกันหน่อย ช่วงหัวค่ำก็เริ่มถ่ายดาวหมุนกัน สำหรับผมน่ะหรอ....พยายามถ่ายอยู่ครับ แต่หาดาวเหนือไม่เจอ 555 ท้องฟ้ามันค่อนข้างมีเมฆและควันบางๆการโฟกัสดาวสำหรับมือใหม่อย่างผมน่ะหรอ ลืมไปได้เลย ยากมาก.... รอถ่ายทางช้างเผือกเอาละกัน

รูปแรกในค่ำคืนนี้ อุปกรณืมีแค่ D800 24-70 mm. ตั้งค่าการถ่ายอยู่ราวๆนี้ F 2.8 iso 3200 30s. vb.3500

เป็นคืนที่มืดครับ แต่ก็มีเเสงไฟจากในตัวอำเภอลี้ และไฟป่ารบกวน ดูรูปต่อเลยละกันครับ

2 รูปนี้ที่ 24 mm.

รูปนี้ที่ 50 mm. ใจกลางทางช้างเผือก ไม่ค่อยชัดนะครับ ขออภัยมือใหม่หัดถ่าย 5555

รูปที่ อุทยานแห่งชาติแม่ปิงก็มีประมาณนี้แหละครับ สรุปวันนี้ไม่ได้นอนทั้งคืน เดินไปร่วมๆ 10 กม. แต่ก็สนุกดีครับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ พี่ๆ อยู่ด้วยกันละสนุกมีความสุขจนลืมความเหนื่อยไปเลยครับ
วันต่อมาผมได้ร่ำลากลุ่มนี้ออกมาก่อนด้วยจะต้องกลับบ้านที่น่าน ขับรถออกมาจากเชียงใหม่ถึงน่าน ก็ราวๆ บ่าย 3 โมงเกือบ 4 โมง รีบชาร์จเเบตกล้องก่ะว่าจะงีบหลับสักหน่อย พยายามหลับแต่หลับไม่ลง พอ 2 ทุ่มกว่าๆ ขับรถออกจากตัวเมืองน่านมุ่งสู่ดอยเสมอดาว ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. ด้วยเป็นวันหยุดยาว ผมหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปนอนบนนั้นมั่งไม่มากก่ะน้อย
พอไปถึงที่ดอนเสมอดาวประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ปรากฎว่าไม่มีคนเลย..... หลอนสิครับ ต้องอยู่คนเดียว มืดก็มืดต้องทำใจกล้าเดินขึ้นไปถ่ายคนเดียว ท่านที่เคยไปคงจะรู้นะครับว่าบรรยายกาศมันเป็นยังไง รอบข้างมืดไปหมด เสียงอะไรแปลกๆมาทีนี่ต้องรีบหันไปดู ว่าเล้วมาดูรูปกันดีกว่าครับ

แรงบันดาลใจสำหรับรูปที่ดอยเสมอดาวนี่หรอครับ ผมได้เห็นรูปของคุณหัสชัย บุญเนือง บนนิตยสาร อสท. ไม่แน่ใจว่าเดือนไหนนะครับ ของปี 58
ทำให้ผมอยากจะถ่ายได้แบบพี่เค้ามั่ง อยากจะมาหลายทีละครับแต่ก็มีอะไรมาขัดขวางซะทุกที งานนี้เลยไม่ได้ฟิคอะไรไว้มาก อยากมาก็ขับรถมาเลยง่ายดี
ด้วยความที่กลัวและคิดมุมไม่ออก เลยได้มาไม่กี่รูปอ่ะครับ ความจริงก็อยากจะอยู่นานๆ แต่ก่ะเเพ้ความกลัวหนีกลับลงมาซะก่อน

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ละกันครับ สำหรับดอยเสมอดาวต้องมาซ้ำเเน่นอนครับ เพราะรู้สึกว่าได้รูปมาน้อยมาก หวังว่าคงเร็วๆนี้แหละครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
มีข้อสงสัยอะไรก็แอดเฟสบุคมาสอบถามได้นะครับ ยินดีตอบทุกข้อสงสัย
https://www.facebook.com/pong.chanapai
: : : : : M Y_M I L L K Y_W A Y : : : : :จากอุทยานแห่งชาติแม่ปิงสู่ดอยเสมอดาว
.....เข้าเรื่องดีกว่าครับ ทริปนี้เริ่มเกิดขึ้นด้วยน้องที่ผมรู้จักซึ่งทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ได้ชักชวนให้ไปถ่ายรูปด้วยกัน เป้าหมายคือ แก่งก้อ อุทยานแห่งชาติแม่ปิงผมตอบตกลงอย่างไม่รีรอเพราะมันตรงกับวันหยุดยาว 5 วันในต้นเดือน พ.ค.59 ทริปนี้ไปกันสิบกว่าคนครับมีกำหนดน่าจะสามวันสองคืน แต่ผมคงอยู่แค่คืนเดียวเพราะมีแผนที่จะกลับบ้านที่น่าน และขึ้นไปถ่ายดาวที่ดอยเสมอดาวมาให้เธอคนนั้นได้ดูด้วย
.....ผมออกเดินทางจากเชียงรายไปยังเชียงใหม่เพื่อไปพบกับน้องและจะเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่างชาติแม่ปิง อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 160 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ
.......พวกเราเดินทางมาถึงกันประมาณ สามโมงกว่าๆ และเดินลงไปสำรวจมุมที่จะถ่ายดาวคืนนี้กัน "แก่งก้อ" เป็นชื่อเรียกของแก่งหิน จุดหนึ่งใน 32 แก่งหินของแม่น้ำปิง ก่อนการสร้างเขื่อนภูมิพล ซึ่งในสมัยก่อนแม่น้ำปิงถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักระหว่างผู้คนในภาคกลางและ ภาคเหนือใน จังหวัด ลำพูน เชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นเวิ้งน้ำขนาดใหญ่ ที่เกิดจาก ลำห้วยแม่ก้อไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิง โดยมีระดับน้ำที่สูงขึ้นมาจากเดิมมากหลังจากการ สร้างเขื่อน แก่งก้อมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แก่งก้อยังเป็นจุด ครึ่งทางของการสัญจรทางน้ำระหว่างเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันแก่งก้อกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำของอุทยานแห่งชาติ -แม่ปิง ซึ่งรองรับการทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น การนั่งเรือชมทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งในช่วงนี้น้ำได้ลดระดับไปมากจนทำให้เห็นพื้นดินโผล่ขึ้นมา สามารถเดินเล่นได้
ตอนเย็นก่ะเดินหามุมถ่ายรูปเล่นๆกัน ช่วงเย็นเริ่มมีเมฆมากและได้ยินข่าวว่าในตัวเมืองเชียงใหม่เกิดฝนตกหนัก พวกเราแต่ละคนได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆและพาวนาให้คืนนี้ฝนไม่ตก เพราะเดินทางมาเเสนไกล
สภาพอากาศในตอนเย็น ลมแรง และเมฆมาก แต่ก็น่าจะเป็นผลดีครับ เพราะลมเเรงๆจะได้พัดเมฆให้ผ่านบริเวณนี้ไปเร็วๆ หันไปมองแต่ละคนก่ะได้แต่ก้มจ้องมือถือเพื่อเช็คสภาพอากาศกัน ส่วนตัวผมใช้ภาพถ่ายดาวเทียวจากกรมอุตุฯครับ http://www.satda.tmd.go.th/ มีรายงานมาเป็นชั่วโมง แต่จะเสียอยู่อย่างบางวันหลังจาก หนึ่งทุ่มแล้วมันจะไม่อัปเดท จะอัปเดทอีกทีก่ะช่วงเช้าๆ
ช่วงเย็นก็เดินหามุมและถ่ายเเสงเย็นกันครับ แต่ก่ะต้องผิดหวังกันอยู่พอสมควร เนื่องจากมีภูเขาเป็นฉากบังแสง ทำให้เก็บภาพกันได้ไม่มากเท่าไหร่ ก็เลยหันมาจัดเตรียมอาหารการกินกัน เมนูก็ง่ายๆครับ ไข่ทอด หมูทอด ไก่ทอด ผัดผักบุ้ง แต่ใช้เวลาทำไปสองชั่วโมงกว่าๆ เนื่องจากสภาพอากาศและอุปกรณ์
และแล้วก็ไดเวลาถ่ายดาวและล่าทางช้างเผือก ช่วงที่ผมไปทางช้างเผือกจะขึ้นประมาณ 5 ทุ่ม ก่อนหน้านั้นก็เดินหามุมกันเนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่เเละมืดมาก จึงทำให้เดินกันยากลำบากกันหน่อย ช่วงหัวค่ำก็เริ่มถ่ายดาวหมุนกัน สำหรับผมน่ะหรอ....พยายามถ่ายอยู่ครับ แต่หาดาวเหนือไม่เจอ 555 ท้องฟ้ามันค่อนข้างมีเมฆและควันบางๆการโฟกัสดาวสำหรับมือใหม่อย่างผมน่ะหรอ ลืมไปได้เลย ยากมาก.... รอถ่ายทางช้างเผือกเอาละกัน
รูปแรกในค่ำคืนนี้ อุปกรณืมีแค่ D800 24-70 mm. ตั้งค่าการถ่ายอยู่ราวๆนี้ F 2.8 iso 3200 30s. vb.3500
เป็นคืนที่มืดครับ แต่ก็มีเเสงไฟจากในตัวอำเภอลี้ และไฟป่ารบกวน ดูรูปต่อเลยละกันครับ
2 รูปนี้ที่ 24 mm.
รูปนี้ที่ 50 mm. ใจกลางทางช้างเผือก ไม่ค่อยชัดนะครับ ขออภัยมือใหม่หัดถ่าย 5555
รูปที่ อุทยานแห่งชาติแม่ปิงก็มีประมาณนี้แหละครับ สรุปวันนี้ไม่ได้นอนทั้งคืน เดินไปร่วมๆ 10 กม. แต่ก็สนุกดีครับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ พี่ๆ อยู่ด้วยกันละสนุกมีความสุขจนลืมความเหนื่อยไปเลยครับ
วันต่อมาผมได้ร่ำลากลุ่มนี้ออกมาก่อนด้วยจะต้องกลับบ้านที่น่าน ขับรถออกมาจากเชียงใหม่ถึงน่าน ก็ราวๆ บ่าย 3 โมงเกือบ 4 โมง รีบชาร์จเเบตกล้องก่ะว่าจะงีบหลับสักหน่อย พยายามหลับแต่หลับไม่ลง พอ 2 ทุ่มกว่าๆ ขับรถออกจากตัวเมืองน่านมุ่งสู่ดอยเสมอดาว ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กม. ด้วยเป็นวันหยุดยาว ผมหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปนอนบนนั้นมั่งไม่มากก่ะน้อย
พอไปถึงที่ดอนเสมอดาวประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ปรากฎว่าไม่มีคนเลย..... หลอนสิครับ ต้องอยู่คนเดียว มืดก็มืดต้องทำใจกล้าเดินขึ้นไปถ่ายคนเดียว ท่านที่เคยไปคงจะรู้นะครับว่าบรรยายกาศมันเป็นยังไง รอบข้างมืดไปหมด เสียงอะไรแปลกๆมาทีนี่ต้องรีบหันไปดู ว่าเล้วมาดูรูปกันดีกว่าครับ
แรงบันดาลใจสำหรับรูปที่ดอยเสมอดาวนี่หรอครับ ผมได้เห็นรูปของคุณหัสชัย บุญเนือง บนนิตยสาร อสท. ไม่แน่ใจว่าเดือนไหนนะครับ ของปี 58
ทำให้ผมอยากจะถ่ายได้แบบพี่เค้ามั่ง อยากจะมาหลายทีละครับแต่ก็มีอะไรมาขัดขวางซะทุกที งานนี้เลยไม่ได้ฟิคอะไรไว้มาก อยากมาก็ขับรถมาเลยง่ายดี
ด้วยความที่กลัวและคิดมุมไม่ออก เลยได้มาไม่กี่รูปอ่ะครับ ความจริงก็อยากจะอยู่นานๆ แต่ก่ะเเพ้ความกลัวหนีกลับลงมาซะก่อน
ปิดท้ายด้วยรูปนี้ละกันครับ สำหรับดอยเสมอดาวต้องมาซ้ำเเน่นอนครับ เพราะรู้สึกว่าได้รูปมาน้อยมาก หวังว่าคงเร็วๆนี้แหละครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
มีข้อสงสัยอะไรก็แอดเฟสบุคมาสอบถามได้นะครับ ยินดีตอบทุกข้อสงสัย
https://www.facebook.com/pong.chanapai