ที่บ้านมีกันทั้งหมด 6 คนนะครับ มี พ่อ แม่ ตา ยาย ผม น้อง และแม่บ้านอีก 1 คน ชื่อ ป้าเอียดพ่อผมรับราชการตำรวจ ไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไร และไม่ค่อยอยู่บ้านด้วย พ่อผมจึงจ้างป้าเอียดมาเป็นแม่บ้าน พ่อจะให้เงินค่าขนม ไว้กับแม่บ้านเสมอ(ป้าเอียดคนนี้เป็นคนเลี้ยงผมมาแต่เด็กแล้ว ป้าเอียดเป็นคนซื่อตรงมาก ทุกคนในบ้านไว้วางใจป้าเอียด) ผมกับน้องอยากได้อะไรพอบอกพ่อ พ่อจะให้แต่เงินแล้วก็ให้ แม่หรือป้าเอียดไปซื้อ แม่ผมรับราชการครู แม่กลับบ้านเย็นมากกลับประมาณ 5 -6 โมงทุกวัน อาหารการกินที่บ้านป้าเอียดเป็นคนดูแลหมด บ้านป้าเอียดก็เป็นคนทำความสะอาด คนไปรับไปส่งผมกับน้องที่โรงเรียนก็ป้าเอียดอีกเช่นกัน บางวันอาเดช(น้องของพ่อผม)ที่อยู่บ้านข้างผมก็จะเป็นคนไปรับ ที่บ้านมีรถคันหนึ่งซึ่งเป็นรถที่ไว้สำหรับส่งผมกับน้องไปโรงเรียน เพราะ พ่อก็ต้องไปทำงานก็เอารถไป โรงเรียนแม่ห่างจากบ้าน 12 กิโล แม่ก็ต้องเอารถไป บางอาทิตย์ทั้งพ่อและแม่มีงานกลับบ้านดึก ผมก็ต้องนั่งกันข้าวกัน 5 คน มี ผม น้อง ตา ยาย และป้าเอียด และแบ่งกับข้าวไว้ให้พ่อกับแม่ บางอาทิตย์ผมและน้องแทบไม่ได้เจอพ่อเลย ไปค่อยได้ไปเที่ยวกับครอบครัวสักเท่าไร ช่วงปิดเทอมน้องอยากไปทะเล พ่อจึงจองตั๋วเครื่องบินให้ผมและน้องขึ้นเครื่องบินแค่ 2 คนไปเที่ยวทะเลที่กระบี่ เพราะมีปู่กับย่าและป้าทำรีสอร์ทอยู่ที่นั่น ผมเห็นครอบครัวที่มาพักที่รีสอร์ทของปู่กับย่าส่วนใหญ่ก็มาเป็นครอบครัว กินอาหาร เล่นน้ำ เที่ยวกันพร้อมหน้า
แต่ผมกับน้องมาแค่ 2 คน ผมว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไร เพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา ให้แต่เงินมาแล้วให้ป้าเอียดกับน้าเดชพาไปซื้อ ผมเห็นคนอื่นอยู่กันอย่างพร้อมหน้าผมก็อยากมีแบบเขาบ้าง
ฝากถึงคนอ่านทุกคนนะครับ
จงอย่าใช้วัตถุในการเลี้ยงลูกเลย วัตถุเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ลูกคุณต้องการ แต่เป็นความรักและการมีเวลาให้ที่ลูกคุณเขาต้องการครับ
คิดอย่างไรกับการ "ใช้เงินเลี้ยงลูก"
แต่ผมกับน้องมาแค่ 2 คน ผมว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไร เพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา ให้แต่เงินมาแล้วให้ป้าเอียดกับน้าเดชพาไปซื้อ ผมเห็นคนอื่นอยู่กันอย่างพร้อมหน้าผมก็อยากมีแบบเขาบ้าง
จงอย่าใช้วัตถุในการเลี้ยงลูกเลย วัตถุเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ลูกคุณต้องการ แต่เป็นความรักและการมีเวลาให้ที่ลูกคุณเขาต้องการครับ