สวัสดีค่าชาวพันทิพ (ที่หลงเข้ามาแล้ว 555) คำเตือนคือ กระทู้ยาวและเวิ่นมากกกกกกก
ปกติเราจะซุ่มอ่านกระทู้ท่องเที่ยวของท่านอื่นมาโดยตลอด วันนี้ได้โอกาสตั้งกระทู้แรกขึ้นมาบ้าง
เราไปตะลุยประเทศอังกฤษมาค่ะ (ไปดูบอลมั้ย? เป็นคำถามจากทุกคน ตอบอย่างไวเลย ไม่ไปค่ะ ไม่มีเงินซื้อตั๋ว5555)
มีความตื่นเต้นระดับ 10 นี่เราจะได้ไปท่องโลกกว้างแล้วหรือเนี่ยยยยย
เนื้อหาและข้อมูลอาจไม่แน่นปึ้กนะคะ เราก็อาศัยอ่านเอาตามรีวิวในอินเตอร์เน็ต ผิดพลาดประการใด ขออภัยนะคะ
เป็นทริปที่ไม่มีการไปกินเป็ดย่าง Four Seasons หรือ Duck&Waffle หรือ Burger&Lobster ของดังของเค้าเล้ย
ไม่มีการขึ้นไป London Eye ชมวิว (อะไรที่เสียค่าเข้า เราจะเลี่ยงค่ะ55)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแอบหวังเล็กน้อยถึงปานกลางว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับท่านไหนที่อยากจะไปเที่ยวประเทศอังกฤษ
แบบแบ็คแพ็ค แบบเดินทน แบบกึ่งวางแผนกึ่งแรนด้อม555 แบบที่ผู้หญิงวัยรุ่น(ค่อนไปทางตอนปลาย) 2 คนจะลุยไปได้นะคะ

ถ้ายังไงก็ ขอฝากเอาไว้ด้วยน๊าาาาาา

ทริปนี้เป็นทริปของเรากับพี่ที่ทำงานค่ะ เราไปกันตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 59 และกลับถึงไทยวันที่ 15 เม.ย. 59 เป็นช่วงสงกรานต์พอดี
อากาศช่วงนี้ของประเทศอังกฤษก็เป็นช่วง spring หรือฤดูใบไม้ผลิ เท่าที่ตามดูสภาพอากาศแบบเรียลไทม์
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 - 14 องศาเซลเซียสค่ะ (ฟินนนนเบยยยย)
สายการบิน
ขาไปจะเป็นสายการบิน Lufthansa ออกจากสุวรรณภูมิตอน 5 ทุ่ม และไปต่อเครื่องที่ Frankfurt ค่ะ ไปลง Heathrow นะคะ
ส่วนขากลับ เราบิน Swiss Air ค่ะ ออกจากลอนดอนตอนเที่ยง แวะต่อเครื่องที่ Zurich และถึงไทยเกือบ 10 โมงค่ะ
ราคาตั๋ว : 34,xxx บาทนะคะ (เราไม่ได้จองตอนโปร ราคาเลยแอบแรงค่ะ)
ที่พัก
เราพักที่เดียวค่ะ ที่ Royal Hyde Park Hotel ใกล้กับ Bayswater Tube Station
โดยส่วนตัวเรามองว่าที่นี่คุ้มค่าในระดับหนึ่ง เพราะเดินทางสะดวกมากค่ะ ลากกระเป๋าจาก tube มาแค่นิดเดียว แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย ประหยัดไป 1 มื้อเลย ห้องก็อยู่ได้พอดีๆ 2 คนอ่ะ อาจเล็กไปนิดนึง แต่ความสะอาดยกให้เลย ห้องน้ำก็โอเคด้วย (ลืมถ่ายรูปมาอ่ะ)
Bayswater Tube Station ที่ใกล้กับที่พักค่ะ

เราอยู่ชั้น 3 ภาพนี้คือมองจากหน้าต่างไปฝั่งตรงข้ามค่ะ

จะเห็นว่าห้องก็เล็กพอสมควร555 แต่ใช้สอยดีค่ะ โอเคเบย

ค่าที่พัก : 7 คืน ก็ 623 ปอนด์ เป็นเงินไทยก็ 31,xxx บาทค่ะ (ของเราหาร2นะแจ๊ะ)
การเดินทาง
เราเดินทางโดย Tube เป็นหลักค่ะ มีใช้รถไฟอยู่ตอนออกไป Oxford และเราใช้ oyster card จ่ายค่าเดินทางค่ะ
เพราะสะดวกรวดเร็วที่สุด ตามที่หลายที่แนะนำ หาซื้อได้ตามสถานี Tube ทั่วไปค่ะ ของเราซื้อหลังจากลงเครื่องเลย เพราะจากสนามบินเดินมาตามป้ายที่ชี้มา underground เราก็จะเจอที่ขายค่ะ ก็จะเป็นแบบ pay as you go ก็คือเติมเงินในบัตร เวลาจะใช้ก็แตะบัตร พนักงานแนะนำว่าเราควรซื้อ
แบบ travel card เหมาจ่ายเลย 7 วัน ไม่จำกัดรอบ ในราคา 32.40 ปอนด์ ซึ่งเราแนะนำสุดๆ มันคุ้มจริง
ขึ้น tube กี่รอบก็ได้ ในโซน 1 และ 2 ในเวลา 7 วันค่ะ (ส่วนใหญ่ที่เที่ยวอยู่แค่ใน 2 โซนนี้ แต่ถ้าเราจะออกไปโซนอื่น เราก็แค่เติมเงินในบัตรที่มีตู้เติมที่สถานีเท่านั้นเอ๊ง) อ้อ ในราคา 32.40 ปอนด์นี่ รวมค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์นะคะ ตอนกลับเราเอาบัตรไปคืนก็ได้ 5 ปอนด์มาซื้อขนมกินที่สนามบินก่อนกลับได้สวยๆ
ดอยภาพจาก google มาค่า

ส่วนการติดต่อกับโลกโซเชียลนะคะ เราซื้อซิมจากเว็บนี้ค่ะ
https://www.instasim.com/ เลือกโปรแบบที่ถูกใจตัวเองกันได้เลย
ข้อมูลคร่าวๆ (คร่าวมาก) แค่นี้ก็พอเนอะ555 ถึงเวลาไปตะลุยตารางเที่ยวกันแล้วววว
เราก็ไปที่ๆเค้าฮิตไปกันแหละ หลักๆก็เดินทางโดย tube และเดิน เดิน เดิน เดิน !!
**สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราในทริปนี้ คือ Google Map ค่ะ5555 ยกให้เป็นที่ 1 ในใจเรา มีประโยชน์มากกกก**
วันแรกไปถึงก็เอาของเก็บห้อง ตารางเที่ยวยังไม่มีค่ะ กะชิลก่อน เลยไปร้านกาแฟ ฮ่าาาา
จะว่าไปทริปนี้เหมือนทริปตามล่าร้านกาแฟเลย555 เรากินกาแฟกันเยอะมาก (เยอะกว่ามื้อหลักอีก)
เพราะหาข้อมูลมาเยอะว่าร้านไหนเด็ด จะ (ถ่อสังขาร) ตามไปลองให้ครบ
อย่างร้านแรกนี้ เป็นร้านที่คนอังกฤษแนะนำมาค่ะ เป็นร้าน Soho Grind เค้าว่าเป็นร้านประจำเค้าเลย ก็อยู่ย่าน Soho นะคะ
ส่วนตัวเรา 2 คนนะ กาแฟดียยยยยย์ (คือไม่เปรี้ยวสำหรับเรา555) มันเข้มและหอมกรุ่นดีค่ะ แนะนำๆ
(ลืมถ่ายหน้าร้านมา ดอยภาพ google เช่นเคยยยย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เรามาหาข้อมูลตอนหลังค่ะ แล้วรู้ว่า Grind เนี่ยเป็นเฟรนส์ไชน์กาแฟในลอนดอน มีหลายสาขา ตั้งชื่อตามสถานที่ค่ะ
ใครสนใจ จิ้มลิ้งค์ไปดูได้ค่ะ http://www.grindandco.com/
ความโปรของบาริสต้าหนุ่ม

เราสั่ง flat white

พี่อีกคนสั่งลาเต้เย็นค่ะ แอบชิมไปคือดียยยยย์ เราไม่ต้องบอกเค้าเลยนะว่า less sweet หรืออะไร
มันจะเข้มกาแฟและตามด้วยนม คือมันพอดีอ้ะ

พอออกจาก Soho Grind ก็เดินลัดเลาะตาม Oxford Street มา ไล่ยาวไปจนถึง Piccadilly Circus ค่ะ
ก็เป็นย่านที่วัยรุ่น (งานดี) เยอะมว๊ากกกกก คนทำงานก็เยอะมาก เวลานั้นคือเลิกงานพอดี คึกคักๆ


Eros Statue ที่ Piccadilly Circus ค่ะ


ปิดท้ายวันแรกของวัน ด้วยมื้อแรกในลอนดอนค่ะ ซึ่งก็คืออออออ แซนด์วิช 5555 แบ่งกันกินอีกด้วย
เป็นข้อเสนอสุดคุ้ม ที่ Tesco Express แถวที่พักค่ะ
ก็จะเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปที่ตอนเย็นจะเอาพวกของสดมาลดอ้ะค่ะ จิตวิญญาณชอบของลดของเราก็โลดแล่น จะไม่พลาด
คือนี่ลดแล้วนะ 2 ปอนด์ == แซนด์วิชอะไรชิ้นนึงร้อยบาท

อร่อยดีนะ ชิ้นโตมาก อิ่มเลย แล้วน้ำเปล่าที่ขายนะคะ จะมีเป็นน้ำแร่แล้วก็ sparkling water
จริงๆถ้าใครจะประหยัดก็เปิดน้ำจากก๊อกน้ำดื่มได้เลยนะ เราลองแล้ว รสเหมือนน้ำที่ขายนั่นแหละ
เอาล่ะ มาลงโปรแกรมเที่ยววันแรกกกก
Tower of London - Tower Bridge – Borough Market –
Millennium Bridge - St.Paul’s Cathedral – Kensington Palace (the Orangery) –
Portobello market
ตื่นเช้ามาอย่างสดใส (และหนาวเหน็บแต่ฟิน) วันแรกเราไปนี่ก่อนเลย Tower Bridge
(Tube : Tower Hill Station, District and Circle Line)
เดินออกจาก tube มาจะเจอ Tower of London ก่อนค่ะ (ไม่ได้เข้าข้างในนะคะ เพราะเสียเงิน หุหุ) แค่ถ่ายรูปกรุบกริบพอ

เดินผ่านมาอีกนิดนุงก็จะเป็น Tower Bridge เราถ่ายอะไรมาก็ไม่รู้ เก็บภาพไม่หมดเลย โทษทีนะ5555

ภาพนี้เราถ่ายจากสวน Potter Fields Park ใกล้กับ City Hall นะคะ คือเราเดินข้ามสะพานมาแล้วเลี้ยวขวา
เดินมาอีกหน่อยก็เจอทางเข้าสวน เดินตรงเข้ามาก็เจอความแกรนด์

พอถ่ายรูปกันหนำใจ สถานีต่อไปก็หาอะไรกินที่ Borough Market ค่ะ เดินจาก Tower Bridge มาได้ ไม่ไกลกันมากน๊า
สำหรับเรานะ ตลาดนี้มันคึกคักดีจริง ของคาว ของหวาน เพียบบบ เรียกว่า ละลานตา อ้ะ ไปดูรูปปปป






นี่คือสิ่งที่เรากิน พ่อค้าร้านนี้เรียกแขกน่าดู มีให้ชิมก่อน เราก็ไม่พลาด เห้ยยย อร่อย! จัดไปปป 6 ปอนด์ (แอบแพง แต่หารสอง พอไหว)
แต่มันเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้อ้ะนะ ข้าวเหลืองผัดๆ 555 มีกุ้ง มีไก่ มีหอย อร่อยไปลองงงง

และนี่คืออีกชิ้น Duck Confit ยัดไส้ขนมปัง โฮฮฮฮฮ อร่อยลื๊มมมมมม ราคา 5 ปอนด์ แต่ไส้ทะลักกก

ถึงกินแค่ 2 อย่างแบ่งกัน 2 คน ก็อิ่มอยู่นา
และะะะ ที่ Borough Market นี้ ที่เราตั้งใจมาโดนให้ได้คือร้านกาแฟที่เค้าว่ากันว่าดีแสนดีค่ะ ซึ่งก็คือ Monmouth Coffee นี้เอง
ดูจากคนต่อคิวแล้ว ไม่น่าผิดหวัง อิอิ

ผู้ฝรั่งโค้ทน้ำเงินเข้มนี่ มายืนเป็นแบบให้เราถ่าย(ข้างหลัง)ตั้งนานแน่ะ 555


อ้ะ ถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่ามาโดนแล้วนะ พอเป็นพิธีกรุบกริบ

ที่เห็นแนวหลังคือคิวค่ะ! ล้นยาวออกมานอกร้าน ตอนนั้นก็ช่วงพักเที่ยงพอดีเลย

เราสั่ง flat white มาลอง คหสต. นะ เราว่ากาแฟแอบเปรี้ยว555 พี่อีกคนสั่งลาเต้เย็น ก็ดีนะคะ แต่กาแฟไม่ได้เข้มมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ถ้าเทียบกับ Soho Grind ข้างบน เราให้โซโหเต็มๆเลย
พออิ่มแล้วเราก็เดินย่อยไปที่ St.Paul's Cathedral ค่ะ
จะเห็น Millennium Bridge ก่อน เพื่อเดินข้ามไปถึง St.Paul's Cathedral ค่ะ

มี Tate Modern อยู่ฝั่งตรงข้ามของ St.Paul's Cathedral ค่ะ

ชอบสะพานนี้อ้ะ ตอนนั้นประมาณบ่ายสองได้ มีลอนดอนเนอร์วิ่งออกกำลังกายเต็มเลย เดินๆอยู่ก็ว่าทำไมสะพานโยก555
มีคนวิ่งเยอะมาก (ตอนบ่ายสองเนี่ยนะ)
St. Paul's Cathedral คือสวยมากกกก แต่น่าเสียดาย ท้องฟ้าข้างหลังครึ้มไปหน่อย



ชอบจัง ตรงที่มีต้นซากุระอยู่หน้าโบสถ์พอดี ให้ความรู้สึกละมุนละไมในหัวใจมาก
Dear England, you got us falling in love ~ ทริปหนีร้อนไปหาลมหนาว 1 อาทิตย์กับความอังกฤษที่แสนจะละมุ๊นละมุนหัวใจ ~
ปกติเราจะซุ่มอ่านกระทู้ท่องเที่ยวของท่านอื่นมาโดยตลอด วันนี้ได้โอกาสตั้งกระทู้แรกขึ้นมาบ้าง
เราไปตะลุยประเทศอังกฤษมาค่ะ (ไปดูบอลมั้ย? เป็นคำถามจากทุกคน ตอบอย่างไวเลย ไม่ไปค่ะ ไม่มีเงินซื้อตั๋ว5555)
มีความตื่นเต้นระดับ 10 นี่เราจะได้ไปท่องโลกกว้างแล้วหรือเนี่ยยยยย
เนื้อหาและข้อมูลอาจไม่แน่นปึ้กนะคะ เราก็อาศัยอ่านเอาตามรีวิวในอินเตอร์เน็ต ผิดพลาดประการใด ขออภัยนะคะ
เป็นทริปที่ไม่มีการไปกินเป็ดย่าง Four Seasons หรือ Duck&Waffle หรือ Burger&Lobster ของดังของเค้าเล้ย
ไม่มีการขึ้นไป London Eye ชมวิว (อะไรที่เสียค่าเข้า เราจะเลี่ยงค่ะ55)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแอบหวังเล็กน้อยถึงปานกลางว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับท่านไหนที่อยากจะไปเที่ยวประเทศอังกฤษ
แบบแบ็คแพ็ค แบบเดินทน แบบกึ่งวางแผนกึ่งแรนด้อม555 แบบที่ผู้หญิงวัยรุ่น(ค่อนไปทางตอนปลาย) 2 คนจะลุยไปได้นะคะ
ทริปนี้เป็นทริปของเรากับพี่ที่ทำงานค่ะ เราไปกันตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 59 และกลับถึงไทยวันที่ 15 เม.ย. 59 เป็นช่วงสงกรานต์พอดี
อากาศช่วงนี้ของประเทศอังกฤษก็เป็นช่วง spring หรือฤดูใบไม้ผลิ เท่าที่ตามดูสภาพอากาศแบบเรียลไทม์
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 - 14 องศาเซลเซียสค่ะ (ฟินนนนเบยยยย)
ขาไปจะเป็นสายการบิน Lufthansa ออกจากสุวรรณภูมิตอน 5 ทุ่ม และไปต่อเครื่องที่ Frankfurt ค่ะ ไปลง Heathrow นะคะ
ส่วนขากลับ เราบิน Swiss Air ค่ะ ออกจากลอนดอนตอนเที่ยง แวะต่อเครื่องที่ Zurich และถึงไทยเกือบ 10 โมงค่ะ
ราคาตั๋ว : 34,xxx บาทนะคะ (เราไม่ได้จองตอนโปร ราคาเลยแอบแรงค่ะ)
เราพักที่เดียวค่ะ ที่ Royal Hyde Park Hotel ใกล้กับ Bayswater Tube Station
โดยส่วนตัวเรามองว่าที่นี่คุ้มค่าในระดับหนึ่ง เพราะเดินทางสะดวกมากค่ะ ลากกระเป๋าจาก tube มาแค่นิดเดียว แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย ประหยัดไป 1 มื้อเลย ห้องก็อยู่ได้พอดีๆ 2 คนอ่ะ อาจเล็กไปนิดนึง แต่ความสะอาดยกให้เลย ห้องน้ำก็โอเคด้วย (ลืมถ่ายรูปมาอ่ะ)
Bayswater Tube Station ที่ใกล้กับที่พักค่ะ
เราอยู่ชั้น 3 ภาพนี้คือมองจากหน้าต่างไปฝั่งตรงข้ามค่ะ
จะเห็นว่าห้องก็เล็กพอสมควร555 แต่ใช้สอยดีค่ะ โอเคเบย
ค่าที่พัก : 7 คืน ก็ 623 ปอนด์ เป็นเงินไทยก็ 31,xxx บาทค่ะ (ของเราหาร2นะแจ๊ะ)
เราเดินทางโดย Tube เป็นหลักค่ะ มีใช้รถไฟอยู่ตอนออกไป Oxford และเราใช้ oyster card จ่ายค่าเดินทางค่ะ
เพราะสะดวกรวดเร็วที่สุด ตามที่หลายที่แนะนำ หาซื้อได้ตามสถานี Tube ทั่วไปค่ะ ของเราซื้อหลังจากลงเครื่องเลย เพราะจากสนามบินเดินมาตามป้ายที่ชี้มา underground เราก็จะเจอที่ขายค่ะ ก็จะเป็นแบบ pay as you go ก็คือเติมเงินในบัตร เวลาจะใช้ก็แตะบัตร พนักงานแนะนำว่าเราควรซื้อแบบ travel card เหมาจ่ายเลย 7 วัน ไม่จำกัดรอบ ในราคา 32.40 ปอนด์ ซึ่งเราแนะนำสุดๆ มันคุ้มจริง
ขึ้น tube กี่รอบก็ได้ ในโซน 1 และ 2 ในเวลา 7 วันค่ะ (ส่วนใหญ่ที่เที่ยวอยู่แค่ใน 2 โซนนี้ แต่ถ้าเราจะออกไปโซนอื่น เราก็แค่เติมเงินในบัตรที่มีตู้เติมที่สถานีเท่านั้นเอ๊ง) อ้อ ในราคา 32.40 ปอนด์นี่ รวมค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์นะคะ ตอนกลับเราเอาบัตรไปคืนก็ได้ 5 ปอนด์มาซื้อขนมกินที่สนามบินก่อนกลับได้สวยๆ
ดอยภาพจาก google มาค่า
ส่วนการติดต่อกับโลกโซเชียลนะคะ เราซื้อซิมจากเว็บนี้ค่ะ https://www.instasim.com/ เลือกโปรแบบที่ถูกใจตัวเองกันได้เลย
ข้อมูลคร่าวๆ (คร่าวมาก) แค่นี้ก็พอเนอะ555 ถึงเวลาไปตะลุยตารางเที่ยวกันแล้วววว
เราก็ไปที่ๆเค้าฮิตไปกันแหละ หลักๆก็เดินทางโดย tube และเดิน เดิน เดิน เดิน !!
**สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราในทริปนี้ คือ Google Map ค่ะ5555 ยกให้เป็นที่ 1 ในใจเรา มีประโยชน์มากกกก**
วันแรกไปถึงก็เอาของเก็บห้อง ตารางเที่ยวยังไม่มีค่ะ กะชิลก่อน เลยไปร้านกาแฟ ฮ่าาาา
จะว่าไปทริปนี้เหมือนทริปตามล่าร้านกาแฟเลย555 เรากินกาแฟกันเยอะมาก (เยอะกว่ามื้อหลักอีก)
เพราะหาข้อมูลมาเยอะว่าร้านไหนเด็ด จะ (ถ่อสังขาร) ตามไปลองให้ครบ
อย่างร้านแรกนี้ เป็นร้านที่คนอังกฤษแนะนำมาค่ะ เป็นร้าน Soho Grind เค้าว่าเป็นร้านประจำเค้าเลย ก็อยู่ย่าน Soho นะคะ
ส่วนตัวเรา 2 คนนะ กาแฟดียยยยยย์ (คือไม่เปรี้ยวสำหรับเรา555) มันเข้มและหอมกรุ่นดีค่ะ แนะนำๆ
(ลืมถ่ายหน้าร้านมา ดอยภาพ google เช่นเคยยยย)
ความโปรของบาริสต้าหนุ่ม
มันจะเข้มกาแฟและตามด้วยนม คือมันพอดีอ้ะ
พอออกจาก Soho Grind ก็เดินลัดเลาะตาม Oxford Street มา ไล่ยาวไปจนถึง Piccadilly Circus ค่ะ
ก็เป็นย่านที่วัยรุ่น (งานดี) เยอะมว๊ากกกกก คนทำงานก็เยอะมาก เวลานั้นคือเลิกงานพอดี คึกคักๆ
Eros Statue ที่ Piccadilly Circus ค่ะ
ปิดท้ายวันแรกของวัน ด้วยมื้อแรกในลอนดอนค่ะ ซึ่งก็คืออออออ แซนด์วิช 5555 แบ่งกันกินอีกด้วย
เป็นข้อเสนอสุดคุ้ม ที่ Tesco Express แถวที่พักค่ะ
ก็จะเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปที่ตอนเย็นจะเอาพวกของสดมาลดอ้ะค่ะ จิตวิญญาณชอบของลดของเราก็โลดแล่น จะไม่พลาด
คือนี่ลดแล้วนะ 2 ปอนด์ == แซนด์วิชอะไรชิ้นนึงร้อยบาท
อร่อยดีนะ ชิ้นโตมาก อิ่มเลย แล้วน้ำเปล่าที่ขายนะคะ จะมีเป็นน้ำแร่แล้วก็ sparkling water
จริงๆถ้าใครจะประหยัดก็เปิดน้ำจากก๊อกน้ำดื่มได้เลยนะ เราลองแล้ว รสเหมือนน้ำที่ขายนั่นแหละ
เอาล่ะ มาลงโปรแกรมเที่ยววันแรกกกก
Tower of London - Tower Bridge – Borough Market –
Millennium Bridge - St.Paul’s Cathedral – Kensington Palace (the Orangery) –
Portobello market
ตื่นเช้ามาอย่างสดใส (และหนาวเหน็บแต่ฟิน) วันแรกเราไปนี่ก่อนเลย Tower Bridge
(Tube : Tower Hill Station, District and Circle Line)
เดินออกจาก tube มาจะเจอ Tower of London ก่อนค่ะ (ไม่ได้เข้าข้างในนะคะ เพราะเสียเงิน หุหุ) แค่ถ่ายรูปกรุบกริบพอ
เดินผ่านมาอีกนิดนุงก็จะเป็น Tower Bridge เราถ่ายอะไรมาก็ไม่รู้ เก็บภาพไม่หมดเลย โทษทีนะ5555
ภาพนี้เราถ่ายจากสวน Potter Fields Park ใกล้กับ City Hall นะคะ คือเราเดินข้ามสะพานมาแล้วเลี้ยวขวา
เดินมาอีกหน่อยก็เจอทางเข้าสวน เดินตรงเข้ามาก็เจอความแกรนด์
พอถ่ายรูปกันหนำใจ สถานีต่อไปก็หาอะไรกินที่ Borough Market ค่ะ เดินจาก Tower Bridge มาได้ ไม่ไกลกันมากน๊า
สำหรับเรานะ ตลาดนี้มันคึกคักดีจริง ของคาว ของหวาน เพียบบบ เรียกว่า ละลานตา อ้ะ ไปดูรูปปปป
นี่คือสิ่งที่เรากิน พ่อค้าร้านนี้เรียกแขกน่าดู มีให้ชิมก่อน เราก็ไม่พลาด เห้ยยย อร่อย! จัดไปปป 6 ปอนด์ (แอบแพง แต่หารสอง พอไหว)
แต่มันเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้อ้ะนะ ข้าวเหลืองผัดๆ 555 มีกุ้ง มีไก่ มีหอย อร่อยไปลองงงง
และนี่คืออีกชิ้น Duck Confit ยัดไส้ขนมปัง โฮฮฮฮฮ อร่อยลื๊มมมมมม ราคา 5 ปอนด์ แต่ไส้ทะลักกก
ถึงกินแค่ 2 อย่างแบ่งกัน 2 คน ก็อิ่มอยู่นา
และะะะ ที่ Borough Market นี้ ที่เราตั้งใจมาโดนให้ได้คือร้านกาแฟที่เค้าว่ากันว่าดีแสนดีค่ะ ซึ่งก็คือ Monmouth Coffee นี้เอง
ดูจากคนต่อคิวแล้ว ไม่น่าผิดหวัง อิอิ
ผู้ฝรั่งโค้ทน้ำเงินเข้มนี่ มายืนเป็นแบบให้เราถ่าย(ข้างหลัง)ตั้งนานแน่ะ 555
อ้ะ ถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่ามาโดนแล้วนะ พอเป็นพิธีกรุบกริบ
ที่เห็นแนวหลังคือคิวค่ะ! ล้นยาวออกมานอกร้าน ตอนนั้นก็ช่วงพักเที่ยงพอดีเลย
เราสั่ง flat white มาลอง คหสต. นะ เราว่ากาแฟแอบเปรี้ยว555 พี่อีกคนสั่งลาเต้เย็น ก็ดีนะคะ แต่กาแฟไม่ได้เข้มมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พออิ่มแล้วเราก็เดินย่อยไปที่ St.Paul's Cathedral ค่ะ
จะเห็น Millennium Bridge ก่อน เพื่อเดินข้ามไปถึง St.Paul's Cathedral ค่ะ
มี Tate Modern อยู่ฝั่งตรงข้ามของ St.Paul's Cathedral ค่ะ
ชอบสะพานนี้อ้ะ ตอนนั้นประมาณบ่ายสองได้ มีลอนดอนเนอร์วิ่งออกกำลังกายเต็มเลย เดินๆอยู่ก็ว่าทำไมสะพานโยก555
มีคนวิ่งเยอะมาก (ตอนบ่ายสองเนี่ยนะ)
St. Paul's Cathedral คือสวยมากกกก แต่น่าเสียดาย ท้องฟ้าข้างหลังครึ้มไปหน่อย
ชอบจัง ตรงที่มีต้นซากุระอยู่หน้าโบสถ์พอดี ให้ความรู้สึกละมุนละไมในหัวใจมาก