เห็นดราม่ากระทู้ล่างๆ... อดไม่ได้จริงๆครับ...
.......................
เพราะเค้าเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ต่างจากผู้เล่น หรือผู้จัดการทีมไงครับ
ผมว่าเค้ามีสิทธิเต็มที่ และคนในเมืองคงรักเค้ามากเลยทีเดียว
เค้าไม่ได้แค่ซื้อสโมสร แล้วโยนเงินให้คนอื่นทำ
แต่เค้ามาด้วยใจ และเป็น vision และวิธีบริหารของเค้า ที่พาทีมมาถึงวันนี้ได้
เค้าปรับปรุงทีมแบบระยะยาว................อย่างงี้
บทสัมภาษณ์ คุณอัยยวัฒน์ a day
"ตอนเข้าไปสโมสรเลสเตอร์แรกๆ เราเห็นว่า ลูกฟุตบอลตกบนสนามอินดอร์แทบไม่เด้ง
เราถามว่าแล้วคุณซ้อมกันยังไง เขาบอกก็ซ้อมกันอย่างนี้ อยู่ไปวันๆ
เราบอกว่ามันไม่ใช่แล้วมั้ง แล้วมันส่งผลถึงนักกีฬา
ที่จริงผมควรจะต้องเอาเงินบางส่วนไปซื้อนักกีฬา แต่ผมตัดเงินซื้อนักกีฬาไปทำสนาม
คุณพ่อก็บอกว่าบ้าหรือเปล่า สตาฟฟ์ทุกคนบอกว่า คุณผิดนะ
ผมบอกว่าไม่ผิดหรอก ปีแรกมันอาจจะยังไม่เห็นผล แต่เชื่อสิว่าเดี๋ยวจะดี
"ผมวางระบบดี สิ่งอำนวยความสะดวกดี นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ
แต่บางคนมองข้าม แล้วถ้าไม่ทำตอนนั้น ตอนนี้ก็คงไม่ทัน
เลสเตอร์จะกลายเป็นทีมพรีเมียร์ลีกที่ไม่พร้อม ก็จะเป็นทีมแบบกลางๆ เล็กๆ
ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร มันตอกย้ำให้เห็นว่าสิ่งที่เราลงทุนลงแรง พยายาม
ไม่ว่าจะอะไร เราทำได้ พิสูจน์ว่ามันไม่ได้เสียอะไรไปเลยกับเวลาที่ลงไป
กับเงินที่ลงไป วันนี้อะไรทุกอย่างคืนมาจนรับไม่ไหวแล้ว"
credit:
https://www.facebook.com/adaymagazine/posts/10154066551505406:0
อ่านบทสัมภาษณ์ของ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ชายสัญชาติไทยผู้อยู่เบื้องหลังความเกรียงไกรของ เลสเตอร์ ซิตี้
แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทีมล่าสุดแบบเต็มอิ่มได้ในคอลัมน์ q&a day | #aday188
..........................................
เค้ามีความหลังฝังใจกับสโมสรแบบนี้......
ความเห็นจากคุณ ราศีสิงห์ สุขสมบูรณ์
ท่านเจ้าสัว : พ่อจะซื้อสโมสรเลสเตอร์
คุณต้อบ : ทำไมถึงซื้อสโมสรนี้ครับพ่อ
ท่านเจ้าสัว : เพราะพ่อเคยพาต้อบมาชมการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกก็คือตอนเลสเตอร์แข่งกับมิดเดิ้ลสโบรซ์
คุณต้อบ : แล้วใครจะมาบริหาร ใครจะมาทำสโมสรครับ?
ท่านเจ้าสัว : ก็ไง
คุณต้อบ : ...........!!!!
คุณต้อบ : จะซื้อสโมสรฟุตบอลทั้งที ทำไมคุณพ่อไม่ซื้อทีมใหญ่ๆ ในพรีเมียร์ลีกล่ะครับ?
ท่านเจ้าสัว : มันไม่ท้าทาย!!!!!!
.............................................................
ความเห็นจากคุณ Raksita Fayol
ตอนที่คุณต๊อบพูดเรื่องนี้ แกขำตลอดอ่ะ เห็นว่าแกรู้จักเลสเตอร์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ สุดยอดเลย
.............................................................
เค้าลงไปคุยกับนักเตะเอง จนเปลี่ยนชีวิตนักเตะได้แบบนี้..............
(แปลจากภาษาอังกฤษ)
คุณอัยยวัฒน์:
วาร์ดี้ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเล่นในระดับลีกสูงสุดได้ด้วยซ้ำ
วันที่เราซื้อเข้ามา เค้ามาขอบคุณเราที่เปลี่ยนชีวิตเค้า
เค้าไม่เคยมีเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน เค้ามาจากระดับล่างสุดสู่ระดับ championship
นั่นทำให้เค้าเริ่มกินเหล้าเมาหัวราน้ำทุกวัน เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเค้าดี
ตอนแรกผมก็ไม่รู้เรื่องนี้ จนมีคนมาเล่าให้ฟังว่า เค้าเมามาซ้อม
ผมเลยไปคุยกับวาร์ดี้ด้วยตัวเอง ผมถามว่า
"คุณอยากจบอาชีพคุณแบบนี้รึ? อยากจะอยู่แค่นี้? ผมจะปล่อยให้สัญญาหมดลง
แล้วปล่อยตัวคุณไป อย่าคาดหวังว่าจะมีเส้นทางอาชีพที่ดีกว่านี้"
เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยได้เงินเยอะแบบนี้มาก่อน เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง
ผมเลยถามว่า "ความฝันของคุณคืออะไร คุณคิดว่าอยากให้ชีวิตคุณเป็นยังไง
คิดให้ดีๆ ว่าคุณอยากทำอะไรให้กับสโมสร เราลงทุนกับคุณไป
คุณคิดว่าคุณควรตอบแทนทำอะไรคืนมาบ้างมั้ย"
หลังจากนั้นเค้าก็เลิกดื่มเหล้า และตั้งหน้าตั้งตาซ้อม เปลี่ยนเป็นคนละคน
เค้าไม่ได้แข็งแรงเท่าทุกวันนี้หรอก แต่เค้าเปลี่ยนไปเร็วมาก
credit goal.com ซึ่งเข้าใจว่ามาจาก a day ไปสัมภาษณ์
http://www.goal.com/en/news/1862/premier-league/2016/05/03/23089942/vardy-used-to-turn-up-to-leicester-city-training-still-drunk
อ่านภาษาอังกฤษที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"Back then, I think he didn’t even have what it took to play in the Premier League. The day we bought him, he came to me and thanked me for changing his life. He had never had this much money so he was over the moon already. He went straight from the bottom to the Championship, which eventually led him to start drinking booze every single day. We had no idea what to do.
"I didn’t know about this until someone told me that he came to train while he was still drunk. So I went talk to him myself, I asked ‘do you wish to end your career like this? Do you want to stay here like this? We’ll let your contract run out, then release you. Don’t expect a better career path’.
"He said he didn’t know what to do with his life. He’d never earned such a large amount of money. So I asked him ‘what’s your dream? How do you think your life should be? Just think carefully about what would you do for the club. I invested in you, do you have to do something in return?’
"After that he simply quit drinking and started working hard in training. His physicality wasn’t as good as it is now. We know he had explosive acceleration, but we simply had no idea he could be this good.
สรุป.... ผมว่าเค้าสำคัญไม่แพ้ผู้เล่นคนไหนๆ สำคัญพอๆกับผู้จัดการทีม
ผมว่า คนในเมืองทุกคนรู้
ผมว่า นักเตะทุกคนรู้ (นักเตะถึงไม่เข้ามาถือถ้วย แม้จะเรียกให้มาถือ ...นักเตะก็ปล่อยให้เจ้าของถือไป เพราะเค้าคงรู้ว่านี่คือความสำเร็จที่ควรให้เครดิตเจ้าของด้วย)
มีแค่คนนอกอย่างพวกเราที่ไม่รู้ และนักพากษ์บางคนที่ไม่รู้ เลยกลายเป็นดราม่าในกระทู้ด้านล่าง
ปล.ผมไม่เคยเชียร์เลสเตอร์ ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
แค่อ่านบทสัมภาษณ์แล้วชื่นชมจนอดไม่ได้ที่จะมาตั้งกระทู้
เลสเตอร์ รับถ้วย... ทำไมคุณวิชัย คุณอัยยวัฒน์ ถึงเดินชูถ้วยรอบสนาม
.......................
เพราะเค้าเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ต่างจากผู้เล่น หรือผู้จัดการทีมไงครับ
ผมว่าเค้ามีสิทธิเต็มที่ และคนในเมืองคงรักเค้ามากเลยทีเดียว
เค้าไม่ได้แค่ซื้อสโมสร แล้วโยนเงินให้คนอื่นทำ
แต่เค้ามาด้วยใจ และเป็น vision และวิธีบริหารของเค้า ที่พาทีมมาถึงวันนี้ได้
เค้าปรับปรุงทีมแบบระยะยาว................อย่างงี้
บทสัมภาษณ์ คุณอัยยวัฒน์ a day
"ตอนเข้าไปสโมสรเลสเตอร์แรกๆ เราเห็นว่า ลูกฟุตบอลตกบนสนามอินดอร์แทบไม่เด้ง
เราถามว่าแล้วคุณซ้อมกันยังไง เขาบอกก็ซ้อมกันอย่างนี้ อยู่ไปวันๆ
เราบอกว่ามันไม่ใช่แล้วมั้ง แล้วมันส่งผลถึงนักกีฬา
ที่จริงผมควรจะต้องเอาเงินบางส่วนไปซื้อนักกีฬา แต่ผมตัดเงินซื้อนักกีฬาไปทำสนาม
คุณพ่อก็บอกว่าบ้าหรือเปล่า สตาฟฟ์ทุกคนบอกว่า คุณผิดนะ
ผมบอกว่าไม่ผิดหรอก ปีแรกมันอาจจะยังไม่เห็นผล แต่เชื่อสิว่าเดี๋ยวจะดี
"ผมวางระบบดี สิ่งอำนวยความสะดวกดี นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ
แต่บางคนมองข้าม แล้วถ้าไม่ทำตอนนั้น ตอนนี้ก็คงไม่ทัน
เลสเตอร์จะกลายเป็นทีมพรีเมียร์ลีกที่ไม่พร้อม ก็จะเป็นทีมแบบกลางๆ เล็กๆ
ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร มันตอกย้ำให้เห็นว่าสิ่งที่เราลงทุนลงแรง พยายาม
ไม่ว่าจะอะไร เราทำได้ พิสูจน์ว่ามันไม่ได้เสียอะไรไปเลยกับเวลาที่ลงไป
กับเงินที่ลงไป วันนี้อะไรทุกอย่างคืนมาจนรับไม่ไหวแล้ว"
credit: https://www.facebook.com/adaymagazine/posts/10154066551505406:0
อ่านบทสัมภาษณ์ของ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ชายสัญชาติไทยผู้อยู่เบื้องหลังความเกรียงไกรของ เลสเตอร์ ซิตี้
แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทีมล่าสุดแบบเต็มอิ่มได้ในคอลัมน์ q&a day | #aday188
..........................................
เค้ามีความหลังฝังใจกับสโมสรแบบนี้......
ความเห็นจากคุณ ราศีสิงห์ สุขสมบูรณ์
ท่านเจ้าสัว : พ่อจะซื้อสโมสรเลสเตอร์
คุณต้อบ : ทำไมถึงซื้อสโมสรนี้ครับพ่อ
ท่านเจ้าสัว : เพราะพ่อเคยพาต้อบมาชมการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกก็คือตอนเลสเตอร์แข่งกับมิดเดิ้ลสโบรซ์
คุณต้อบ : แล้วใครจะมาบริหาร ใครจะมาทำสโมสรครับ?
ท่านเจ้าสัว : ก็ไง
คุณต้อบ : ...........!!!!
คุณต้อบ : จะซื้อสโมสรฟุตบอลทั้งที ทำไมคุณพ่อไม่ซื้อทีมใหญ่ๆ ในพรีเมียร์ลีกล่ะครับ?
ท่านเจ้าสัว : มันไม่ท้าทาย!!!!!!
.............................................................
ความเห็นจากคุณ Raksita Fayol
ตอนที่คุณต๊อบพูดเรื่องนี้ แกขำตลอดอ่ะ เห็นว่าแกรู้จักเลสเตอร์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ สุดยอดเลย
.............................................................
เค้าลงไปคุยกับนักเตะเอง จนเปลี่ยนชีวิตนักเตะได้แบบนี้..............
(แปลจากภาษาอังกฤษ)
คุณอัยยวัฒน์:
วาร์ดี้ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเล่นในระดับลีกสูงสุดได้ด้วยซ้ำ
วันที่เราซื้อเข้ามา เค้ามาขอบคุณเราที่เปลี่ยนชีวิตเค้า
เค้าไม่เคยมีเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน เค้ามาจากระดับล่างสุดสู่ระดับ championship
นั่นทำให้เค้าเริ่มกินเหล้าเมาหัวราน้ำทุกวัน เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเค้าดี
ตอนแรกผมก็ไม่รู้เรื่องนี้ จนมีคนมาเล่าให้ฟังว่า เค้าเมามาซ้อม
ผมเลยไปคุยกับวาร์ดี้ด้วยตัวเอง ผมถามว่า
"คุณอยากจบอาชีพคุณแบบนี้รึ? อยากจะอยู่แค่นี้? ผมจะปล่อยให้สัญญาหมดลง
แล้วปล่อยตัวคุณไป อย่าคาดหวังว่าจะมีเส้นทางอาชีพที่ดีกว่านี้"
เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยได้เงินเยอะแบบนี้มาก่อน เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง
ผมเลยถามว่า "ความฝันของคุณคืออะไร คุณคิดว่าอยากให้ชีวิตคุณเป็นยังไง
คิดให้ดีๆ ว่าคุณอยากทำอะไรให้กับสโมสร เราลงทุนกับคุณไป
คุณคิดว่าคุณควรตอบแทนทำอะไรคืนมาบ้างมั้ย"
หลังจากนั้นเค้าก็เลิกดื่มเหล้า และตั้งหน้าตั้งตาซ้อม เปลี่ยนเป็นคนละคน
เค้าไม่ได้แข็งแรงเท่าทุกวันนี้หรอก แต่เค้าเปลี่ยนไปเร็วมาก
credit goal.com ซึ่งเข้าใจว่ามาจาก a day ไปสัมภาษณ์
http://www.goal.com/en/news/1862/premier-league/2016/05/03/23089942/vardy-used-to-turn-up-to-leicester-city-training-still-drunk
อ่านภาษาอังกฤษที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป.... ผมว่าเค้าสำคัญไม่แพ้ผู้เล่นคนไหนๆ สำคัญพอๆกับผู้จัดการทีม
ผมว่า คนในเมืองทุกคนรู้
ผมว่า นักเตะทุกคนรู้ (นักเตะถึงไม่เข้ามาถือถ้วย แม้จะเรียกให้มาถือ ...นักเตะก็ปล่อยให้เจ้าของถือไป เพราะเค้าคงรู้ว่านี่คือความสำเร็จที่ควรให้เครดิตเจ้าของด้วย)
มีแค่คนนอกอย่างพวกเราที่ไม่รู้ และนักพากษ์บางคนที่ไม่รู้ เลยกลายเป็นดราม่าในกระทู้ด้านล่าง
ปล.ผมไม่เคยเชียร์เลสเตอร์ ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
แค่อ่านบทสัมภาษณ์แล้วชื่นชมจนอดไม่ได้ที่จะมาตั้งกระทู้