“Georgetown, capital of Penang Island in Malaysia”
การเดินทางไปเกาะปีนังของผม เริ่มต้นด้วยการนั่งอ่านกระทู้พันทิพของหลายๆท่าน ซึ่งผมขออนุญาติเรียกบุคคลเหล่านั้นว่ารุ่นพี่ละกันนะครับ ^^ หลายๆ กระทู้รุ่นพี่ได้เขียนเอาไว้ดีมากๆ ผมนั่งอ่านไปจิตนการตามไป และอยากจะตามไปแกะรอยของรุ่นพี่หลายๆท่าน และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ผมตัดสินใจออกเดินทางตามรอยเท้าของรุ่นพี่ไป
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง

ตรวจสอบหนังสือเดินทาง(passport) ในมือก่อนครับว่ามีวันหมดอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน ในช่วงเวลาที่เราเดินทางรึเปล่า ถ้าเหลือไม่ถึงจะเข้าประเทศเค้าไม่ได้นะครับคุณ

แลกเงินไปด้วยนะครับ ที่ปีนังใช้เงินสกุล "ริงกิต" ครับ

เตรียม adapter แปลงไฟไปด้วยนะครับ เพราะที่นั่นรูปลั๊กไม่เหมือนที่บ้านเรานะครับ

ต้องจองที่พักด้วยนะครับ ไม่งั้นเราจะไม่มีที่นอนนะ ผมจองที่พักผ่านเว็บไซต์ครับ โดยให้เลือกจุดหมายปลายทางไปที่ “จอร์จทาวน์, ปีนัง, มาเลเซีย” ส่วนโรงแรมที่ผมจองมีชื่อว่า Apollo inn ครับ

การเดินทาง ซึ่งการไปปีนังนั้นสามารถเดินทางได้หลายทางแล้วแต่เราจะเลือก แต่สำหรับผมเลือกเดินทางด้วยรถไฟ และไปลงที่สถานีหาดใหญ่ และต่อรถตู้ของบริษัท K.S.T. travel ที่เลือกเดินทางแบบนี้เพราะ รถตู้ที่ K.S.T. travel สามารถไปส่งเราถึงโรงแรม และไปรับเรากลับถึงหน้าโรงแรมได้เลยครับ
สำหรับวิธีการจองตั๋วรถไฟนะครับสามารถโทรจองได้เลยครับที่หมายเลข 0-2220-4444
ผมขอแนะนำให้เดินทางด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 35 ครับ ขบวนนี้จะออกจากกรุงเทพเวลา 14.45 น. และจะไปถึงหาดใหญ่เวลา 06.35 น. เพื่อรถเสียเวลาด้วยครับ แนะนำให้จองไป-กลับเลยครับคุณ
สำหรับราคาตั๋วก็ตามนี้เลยครับ

จองรถไฟแล้วต่อไปก็มาจองรถตู้ครับ
วิธีจองรถตู้ของบริษัท K.S.T. travel ให้เข้าไปตามเว็บนี้เลยครับ
http://www.ksttravelthailand.com
**อย่าลืมเช็ครายชื่อโรงแรมที่รถตู้สามารถไปส่งเราได้ก่อนนะครับ ว่ามีโรงแรมที่เราจะจองรึป่าว แต่เท่าที่เห็นก็มีแทบจะทุกโรงแรมในจอร์จทาวน์นะครับ แต่ก็เช็คดีๆ เพื่อความชัว แนะนำให้จองไป-กลับเลยครับ ราคาไปกลับจะอยู่ที่ 750 บาทครับ แต่ถ้าช่วงเทศการราคาจะอยู่ที่ 850 บาทครับ
"เอาละครับ!! เมื่อเตรียมทุกอย่างครบแล้วเราก็เริ่มเดินทางกันครับ"

จุดเริ่มต้นของผมอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงครับ มาถึงก่อนเวลารถออกเกือบๆชั่วโมง อ้อ!! ลืมบอกไปว่าผมไปกับเพื่อนอีก 1 คนครับ ไม่ได้ไปคนเดียว และเราก็นัดกันไว้ที่นี่
รถไฟจอดรออยู่แล้วครับที่ชานชาลาที่ 5 เราสามารถขึ้นไปนั่งบนรถได้เลย เพื่อรอเวลารถออก
เมื่อนาฬิกาบอกเวลา 14.45 รถก็เคลื่อนขบวนออกจากกรุงเทพ รถไฟออกตรงเวลานะครับ
บนรถแอร์ค่อนข้างเย็นนะครับ พอตกดึกถึงกับหนาวเลยทีเดียว โชคดีที่ผมใส่กางเกงขายาวมา นั่งรถไปเรื่อยๆครับชมวิวระหว่างทางบ้าง คุยเล่นกับเพื่อนบ้าง เพลินดีครับ
เวลาประมาณ 5 โมงเย็นรถไฟก็เข้าจอดเทียบชานชาลาที่สถานีจังหวัดราชบุรี เป็นสถานีที่ทุกคนรอคอยครับ เพราะเมื่อรถจอดสนิทเมื่อไหร่จะมีพ่อค้า แม่ค้า ขึ้นมาขายก๋วยเตี๋ยปลากล่องละ 10 บาท ต้องซื้อนะครับเพราะว่ารุ่นพี่ที่เขียนรีวิวไว้หลายท่านบอกว่าอร่อย เฉพาะฉนั้นเราต้องลองครับ และผมก็จัดมา 2 กล่องครับ
พอถ่ายภาพเสร็จยังไม่ทันได้กินเลยครับหกซะงั้น

แต่ไม่เป็นไรครับผมซื้อมา 2 กล่อง รสชาติก็อร่อยตามคำบอกเล่าครับ แฮร่ๆ
เดินทางไปเรื่อยๆฟ้าก็เริ่มมืดเราก็เริ่มง่วง เราสามารถบอกให้พี่เจ้าหน้าที่ประจำตู้รถไฟที่เรานั่ง ให้มาปูที่นอนให้เราได้ จากที่นั่งเมื่อสักครู่ก็จะกลายเป็นที่นอนแบบนี้ครับ ที่นอนนุ่น หลับสบาย แต่แอร์เย็นไปหน่อย ถึงขั้นนอนคุมโปงเลยทีเดียว
เพียงแค่ชั่วข้ามคืนที่เราหลับไป ตื่นมาอีกทีรถไฟก็ใกล้จะถึงหาดใหญ่แล้วครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนเพลินจนเลยสถานีนะครับ เพราะพี่เจ้าหน้าที่เค้าจะถามเราไว้ตั่งแต่ขึ้นรถแล้วครับว่าเราจะลงที่ไหน พอใกล้ถึงเค้าจะมาปลุกครับ
รถไฟเข้าจอดเทียบที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 06.50 น. ช้ากว่ากำหนดแค่ 15 นาที ถือว่าโอเคครับ ผมและเพื่อเดินแบกกระเป๋าออกจากสถานี จุดหมายต่อไปคือ ไปขึ้นรถตู้ที่ บริษัท K.S.T. travel ซึ่งจองรถไว้รอบ 09.30 น. เหลือเวลาอีกเยอะครับไม่ต้องรีบ
ที่หาดใหญ่เช้านี้ค่อนข้างเงียบ สงสัยจะมาถึงเช้าไปหน่อยร้านอาหารก็เลยยังไม่เปิด
จากสถานีรถไฟเดินไป บริษัท K.S.T. travel ไม่ไกลครับ เดินตาม Map ไปใกล้ๆเอง
แต่ผมกับเพื่อนก็ยังอุส่าเดินเลยไปหลายแยกอยู่ต้องเดินกลับมาอย่าง งงๆ

ที่หน้าบริษัท K.S.T. travel ให้สังเกตดีๆนะครับ จะมีป้ายห้อยอยู่ด้านหน้าครับ
ผมกับเพื่อนก็ฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อนครับ แล้วหาข้าวเช้าทานที่หาดใหญ่
เดินไปเลื่อยๆก็เจอร้านอาหารครับ เมนูเช้านี้คือ บะกุ๊ดเต๋ ราคา 90 บาท
ทานเสร็จก็เกือบได้เวลารถออกละครับ ก็เดินกลับไปขึ้นรถที่ K.S.T. travel พอไปถึงรถตู้ก็จอดรอเราแล้ว
เมื่อพร้อมแล้วรถก็ออกเดินทางพาเราไปยังเกาะปีนัง

ประมาณ 1 ชม.30 นาที รถก็มาถึงด่านสะเดา ตรงนี้เราต้องทำเรื่องออกนอกประเทศครับ ไม่มีอะไรยุ่งยากใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ
แล้วก็มาต่อขาเข้าประเทศมาเลเซียครับ ใช้เวลาไม่นานเหมือนกัน
ระหว่างรอผู้โดยสารท่านอื่นๆที่มารถคันเดียวกับเรา ก็หาอะไรท่านเล่นสะหน่อย
นี้ครับ ไมโลกระป๋อง ราคา 28 บาท (ตรงนี้เราสามารถใช้ได้ทั้งเงินไทย และเงินมาเลเซีย) รสชาติแบบ เอิ่ม!!!!

ชงเองยังอร่อยกว่า ไอ้เราก็หลงดีใจ นึกว่าจะอร่อยเหมือนไมโลรถโรงเรียน
เมื่อผู้โดยสารทุกคนครบแล้วก็ขึ้นรถเดินทางต่อครับ จุดหมายต่อไปก็คือ เมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย จากตรงนี้ไปก็ใช้เวลาประมาณอีก 3 ชั่วโมงครับ
นั่งรถไปเลื่อยๆก็เจอป้ายบอกทาง อีก 380 กม.จะถึงกัวลาลัมเปอร์ละครับ แต่เราไม่ได้ไปที่นั่นครับ เราไปจอร์จทาวน์
ใกล้ถึงจอร์จทาวน์ละครับ เริ่มเห็นป้ายบอกทางละ
รถกำลังพาเราแล่นไปบนสะพานปีนังเพื่อข้ามทะเลไปยังเกาะปีนัง สะพานมีความยาว 13.5 กม. ใช้เวลาข้านสะพานไปยังเกาะปีนังค่อนข้างนานพอสมควร สะพานปีนังจะเชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังและเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ที่สำคัญคือสะพานนี้เป็นหนึ่งในสะพานที่ติดอันดับห้าของสะพานที่ยาวที่สุดในโลกด้วยนะครับ
เมื่อเข้าใกล้เกาะปีนังเรื่อยๆเราจะได้เห็นวิว อาคาร บ้านเรือน และภูเขาหลายลูกสลับไปมา เกาะปีนังค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลยครับ
ใช้เวลาไม่นานรถก็พามาส่งถึงหน้าโรงแรม Apollo inn
เช็คอินเรียบร้อยก็แบกเป้เข้าห้องพักครับ
สำรวจห้องน้ำเล็กน้อย
ชั้นบนสุดของโรงแรมมี Rooftop เล็กๆ ด้วยครับ
วิวที่มองจาก Rooftop ของโรงแรม
หลังจากสำรวจโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
เราก็เอา adapter แปลงไฟที่เตรียมมาเสียบเข้าไปแล้วต่อปลั๊กพ่วงไว้ใช้ครับ
ตรงนี้เป็นพิกัดของโรงแรมที่ผมอยู่ โรงแรมตั้งอยู่ใกล้ตึก Komtar ครับ แค่เดินออกไปหน้าปากซอยก็ถึงแล้ว ตึก Komtar เป็นศูนย์รวมของรถเมล์ทุกสาย และมีห้างสรรพสินค้า และแถวๆนั้นมี supermarket 24 ชม. อยู่ด้วยครับ
เดี๊ยวผมมาเล่าต่อนะครับ หลังจากนี้ไปจะเป็นการตามแกะรอยสถานที่ต่างๆแล้ว

ฝากติดตามด้วยนะครับ
[CR] แบกเป้ขึ้นรถไฟ แกะรอยเกาะปีนัง เกาะสวรรค์ของเหล่าฮิปสเตอร์
การเดินทางไปเกาะปีนังของผม เริ่มต้นด้วยการนั่งอ่านกระทู้พันทิพของหลายๆท่าน ซึ่งผมขออนุญาติเรียกบุคคลเหล่านั้นว่ารุ่นพี่ละกันนะครับ ^^ หลายๆ กระทู้รุ่นพี่ได้เขียนเอาไว้ดีมากๆ ผมนั่งอ่านไปจิตนการตามไป และอยากจะตามไปแกะรอยของรุ่นพี่หลายๆท่าน และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ผมตัดสินใจออกเดินทางตามรอยเท้าของรุ่นพี่ไป
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
สำหรับวิธีการจองตั๋วรถไฟนะครับสามารถโทรจองได้เลยครับที่หมายเลข 0-2220-4444
ผมขอแนะนำให้เดินทางด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 35 ครับ ขบวนนี้จะออกจากกรุงเทพเวลา 14.45 น. และจะไปถึงหาดใหญ่เวลา 06.35 น. เพื่อรถเสียเวลาด้วยครับ แนะนำให้จองไป-กลับเลยครับคุณ
วิธีจองรถตู้ของบริษัท K.S.T. travel ให้เข้าไปตามเว็บนี้เลยครับ http://www.ksttravelthailand.com
**อย่าลืมเช็ครายชื่อโรงแรมที่รถตู้สามารถไปส่งเราได้ก่อนนะครับ ว่ามีโรงแรมที่เราจะจองรึป่าว แต่เท่าที่เห็นก็มีแทบจะทุกโรงแรมในจอร์จทาวน์นะครับ แต่ก็เช็คดีๆ เพื่อความชัว แนะนำให้จองไป-กลับเลยครับ ราคาไปกลับจะอยู่ที่ 750 บาทครับ แต่ถ้าช่วงเทศการราคาจะอยู่ที่ 850 บาทครับ
"เอาละครับ!! เมื่อเตรียมทุกอย่างครบแล้วเราก็เริ่มเดินทางกันครับ"
จุดเริ่มต้นของผมอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงครับ มาถึงก่อนเวลารถออกเกือบๆชั่วโมง อ้อ!! ลืมบอกไปว่าผมไปกับเพื่อนอีก 1 คนครับ ไม่ได้ไปคนเดียว และเราก็นัดกันไว้ที่นี่
บนรถแอร์ค่อนข้างเย็นนะครับ พอตกดึกถึงกับหนาวเลยทีเดียว โชคดีที่ผมใส่กางเกงขายาวมา นั่งรถไปเรื่อยๆครับชมวิวระหว่างทางบ้าง คุยเล่นกับเพื่อนบ้าง เพลินดีครับ
เวลาประมาณ 5 โมงเย็นรถไฟก็เข้าจอดเทียบชานชาลาที่สถานีจังหวัดราชบุรี เป็นสถานีที่ทุกคนรอคอยครับ เพราะเมื่อรถจอดสนิทเมื่อไหร่จะมีพ่อค้า แม่ค้า ขึ้นมาขายก๋วยเตี๋ยปลากล่องละ 10 บาท ต้องซื้อนะครับเพราะว่ารุ่นพี่ที่เขียนรีวิวไว้หลายท่านบอกว่าอร่อย เฉพาะฉนั้นเราต้องลองครับ และผมก็จัดมา 2 กล่องครับ
พอถ่ายภาพเสร็จยังไม่ทันได้กินเลยครับหกซะงั้น
เดินทางไปเรื่อยๆฟ้าก็เริ่มมืดเราก็เริ่มง่วง เราสามารถบอกให้พี่เจ้าหน้าที่ประจำตู้รถไฟที่เรานั่ง ให้มาปูที่นอนให้เราได้ จากที่นั่งเมื่อสักครู่ก็จะกลายเป็นที่นอนแบบนี้ครับ ที่นอนนุ่น หลับสบาย แต่แอร์เย็นไปหน่อย ถึงขั้นนอนคุมโปงเลยทีเดียว
เพียงแค่ชั่วข้ามคืนที่เราหลับไป ตื่นมาอีกทีรถไฟก็ใกล้จะถึงหาดใหญ่แล้วครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนเพลินจนเลยสถานีนะครับ เพราะพี่เจ้าหน้าที่เค้าจะถามเราไว้ตั่งแต่ขึ้นรถแล้วครับว่าเราจะลงที่ไหน พอใกล้ถึงเค้าจะมาปลุกครับ
รถไฟเข้าจอดเทียบที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 06.50 น. ช้ากว่ากำหนดแค่ 15 นาที ถือว่าโอเคครับ ผมและเพื่อเดินแบกกระเป๋าออกจากสถานี จุดหมายต่อไปคือ ไปขึ้นรถตู้ที่ บริษัท K.S.T. travel ซึ่งจองรถไว้รอบ 09.30 น. เหลือเวลาอีกเยอะครับไม่ต้องรีบ
แต่ผมกับเพื่อนก็ยังอุส่าเดินเลยไปหลายแยกอยู่ต้องเดินกลับมาอย่าง งงๆ
เดินไปเลื่อยๆก็เจอร้านอาหารครับ เมนูเช้านี้คือ บะกุ๊ดเต๋ ราคา 90 บาท
ประมาณ 1 ชม.30 นาที รถก็มาถึงด่านสะเดา ตรงนี้เราต้องทำเรื่องออกนอกประเทศครับ ไม่มีอะไรยุ่งยากใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ
นี้ครับ ไมโลกระป๋อง ราคา 28 บาท (ตรงนี้เราสามารถใช้ได้ทั้งเงินไทย และเงินมาเลเซีย) รสชาติแบบ เอิ่ม!!!!
เมื่อผู้โดยสารทุกคนครบแล้วก็ขึ้นรถเดินทางต่อครับ จุดหมายต่อไปก็คือ เมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย จากตรงนี้ไปก็ใช้เวลาประมาณอีก 3 ชั่วโมงครับ
นั่งรถไปเลื่อยๆก็เจอป้ายบอกทาง อีก 380 กม.จะถึงกัวลาลัมเปอร์ละครับ แต่เราไม่ได้ไปที่นั่นครับ เราไปจอร์จทาวน์
รถกำลังพาเราแล่นไปบนสะพานปีนังเพื่อข้ามทะเลไปยังเกาะปีนัง สะพานมีความยาว 13.5 กม. ใช้เวลาข้านสะพานไปยังเกาะปีนังค่อนข้างนานพอสมควร สะพานปีนังจะเชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังและเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ที่สำคัญคือสะพานนี้เป็นหนึ่งในสะพานที่ติดอันดับห้าของสะพานที่ยาวที่สุดในโลกด้วยนะครับ
เมื่อเข้าใกล้เกาะปีนังเรื่อยๆเราจะได้เห็นวิว อาคาร บ้านเรือน และภูเขาหลายลูกสลับไปมา เกาะปีนังค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลยครับ
เราก็เอา adapter แปลงไฟที่เตรียมมาเสียบเข้าไปแล้วต่อปลั๊กพ่วงไว้ใช้ครับ
ตรงนี้เป็นพิกัดของโรงแรมที่ผมอยู่ โรงแรมตั้งอยู่ใกล้ตึก Komtar ครับ แค่เดินออกไปหน้าปากซอยก็ถึงแล้ว ตึก Komtar เป็นศูนย์รวมของรถเมล์ทุกสาย และมีห้างสรรพสินค้า และแถวๆนั้นมี supermarket 24 ชม. อยู่ด้วยครับ
เดี๊ยวผมมาเล่าต่อนะครับ หลังจากนี้ไปจะเป็นการตามแกะรอยสถานที่ต่างๆแล้ว