สวัสดีครับ ผมได้มีโอกาสหยุดไปงาน (หนีงาน) ไปไต้หวันเป็นเวลา 8 วันด้วยงบ 28,500 เยอะว่าคนอื่น แหะ ๆ
โดยงานนี้ไปคนเดียวครับ แต่ก็จะบอกว่าเที่ยวคนเดียวเลยไม่ก็ไม่ซะทีเดียว
เนื่องจากมีเพื่อนเพิ่งได้ย้ายไปทำงานที่นั้นไม่กี่เดือน คอยช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง
**แค่ไปแก้ไขนิดเดียวข้อความหายหมด T_T
แค่จะมาเตือนครับว่าใบเสร็จมีค่าอย่าทิ้งเป็น lottory ให้เกือบไปทิ้งในกล่องบริจาค
ถือว่าเราได้บริจาคให้กล่องนั้น ๆ ครับ ได้ใบเสร็จมาเก็บไว้แล้วไปทิ้งในกล่องบริจาคนะครับ
มาเริ่มกันเลยครับ ก่อนอื่นก็จองตั๋วซึ่งงานนี้ผมจองตั๋วของ V-AIR ด้วยราคา 4822 บาท
ก็เลยเอาวะ ไปเที่ยวไต้หวันก็ได้ เดี๋ยวเพื่อนย้ายไปทำงานที่นั่นแล้วบินไปหาหน่อย แล้วเห็นเขากำลังฮิต ไป ๆ
จากนั้นผมก็หาข้อมูลและเตรียมตัวจากนั้นก็ไปทำ VISA 1500 บาท ทำไม่นานครับ แต่รอคิวนานแล้วต้องไป 2
วันครึ่งเช้ากับครึ่งบ่าย เอกสารน่าจะมีคนรีวิวหลายคนแล้วข้ามไปแล้วกันครับ
มาถึงวันที่เดินทางก็เตรียมตัวไปดอนเมืองแต่เช้าขึ้นเครื่อง 10.30 ถึง 15.15 เวลาไต้หวัน Immigration
ที่นี่กรอกออนไลน์ได้นะครับไม่ต้องไปเขียนบนเครื่องเหมือนประเทศอื่น ๆ
ตอนไปมีน้องคนไทยน่าจะเคยไปต่างประเทศครั้งแรกไม่กรอกเอกสารไป (ของพี่กรอกแล้วในเวปเลยไม่เขียนนะครับ)
ต้องเอาใบมาเขียนตรงด่านตรวจคนเข้าเมือง (ถ้าไม่ใช่แบบผมคิดต้องขออภัยน้อง ๆ ไว้นะครับ
มาถึงไต้หวันแล้วซื้อซิมเถอะครับ หรือเช่าไวไฟก็ได้อะไร ๆ จะได้ง่าย
และควรทำตั้งแต่อยู่สนามบิน เนื่องจากพนักงานจะพูดภาษาอังกฤษได้
ออกไปข้างนอกการสื่อสารน่าจะเป็นไปได้ยากหน่อย ดังนั้นซื้อเถอะครับส่วนจะซื้อเจ้าไหนนั้นก็เลือกโปรเอาครับ
แต่ละเจ้าโปรไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับการใช้งาน ส่วนผมเลือกโปร 10 วันโทรได้ 100 เนตไม่จำกัด
ทีนี่การโทรศัพท์คิดเป็นวินาที (จะแพงไปไหนคิดเป็นวิ คุยเป็นวิ) เอกสารที่ต้องใช้จะมี passport กับ ID card นะครับ
หลังจากผ่านตม.มาได้รับกระเป๋า ก็ลงไปซื้อบัส 1819 เข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 125NT
โดยเดินไปตามป้ายที่บอกว่า bus station ส่วนช่องไหนไม่ต้องถามเลยเพราะแถวจะยาวมากแต่ก็เร็วมากเช่นกันออกทุก 10 นาที
หลังจากไปถึงไทเปแล้วจะมี suttle bus ฟรีไป XIMEN ซึ่งผมไปไม่ถูกเลยนั่ง
MRT แล้วกันจากสถานี TAIPAE MAIN STATION แล้วก็ได้รู้ว่าสถานีมันกว้างมากครับ
หลงครับหลงบอกเลย จากนั้นก็ไปหาสายสีน้ำเงินเพื่อจะไป ximen เนื่องจากที่พักอยู่ที่ ximen
ที่นี่ไม่มีตู้ขาย easy card อัตโนมัติเหมือนในรีวิว แล้วไงละ T_T ซวยละไปซื้อยังไงดี
เลยตัดสินใจเดินไปถาม information ได้ความว่าที่นี่มี counter easy card ซึ่งไปซื้อได้ที่นั่นเลย
โดยจะบังคับ 500 NT มัดจำ 100 และเติมเงิน 400 เมื่อได้บัตรมาก็ไปที่สถานี
ไปถามน้องแว่นคนข้างหน้าเพื่อความแน่ใจว่าไม่ขึ้นผิด ก็ถามว่าไป This train go to ซีเหมิน right?
น้องแว่นทำหน้างง ผมก็ ซีเมิน ซีเหมิน ไล่คำไปเรื่อย ๆ จนน้องเขาเปิด map แล้วชี้ว่าตรงนี้ใช่ป่ะ
ผมก็พยักหน้า (หมดแล้วความมั่นใจในภาษาของผม T_T) น้องเขาตอบกลับด้วยการพยักหน้า
ก็โอเคถูกละ ผมนัดเพื่อนไว้ 6 โมง แต่ขณะนี้ 6 โมงแล้วยังไม่ออกจาก main station เลย T_T เราไปเลทแน่ เราขอโทษ
เมื่อขึ้นรถไฟแล้วก็ไปสายสีน้ำเงินตรงไป ximen ทางออก 4 กว่าจะไปถึงโรงแรมซึ่งโรงแรมไม่ป้ายบอกจ้า
ว่าถึงแล้วโรงแรม ต้องเดินเข้าไปในตึกถึงจะเห็นว่านี่คือโรงแรม หลงไปอีกครึ่งชม. เดินวนหน้ารร.สี่ห้ารอบ
วันนี้ผมจองเป็น hostel ขอประหยัดหน่อยเลยจอง space inn ไว้สามวัน 1800 NT
ห้องที่นี่จะแบ่งเป็นห้องละ 8 เตียงเป็นเตรียงสองชั้นมีม่านกั้นไป แต่ไม่มีสิ่งของอะไรเลย
ผ้าเช็ดตัว รองเท้าเตะ ทุกอย่างต้องซื้อ/เช่า เนื่องจากเป็นห้องน้ำรวมและต้องใช้รองเท้าเตะตอนเข้าห้อง
เลยจำเป็นต้องไปซื้อ 80 NT ไม่รู้โชคดีหรืออะไรคนที่นอนเตียงข้างบนผมกรนทุกวันเลยตลอด 3 วัน - -“

แต่ด้วยความเหนื่อยก็หลับได้ในแต่ละวัน มีบางคนทนไม่ได้ลากกระเป๋าออกไปเลยจ้า
Hotel นอนกันหลายคนถ้าใครคิดจะมานอนต้องทำใจแล้วนะครับว่าต้องเจออะไรแบบนี้
นอกเรื่องมาเยอะต่อนะครับ วันแรกหลังจากเกริ่นนำไปเยอะมาก
วันที่ 1 ไม่มีอะไรมากไปดูวิวกลางคืนที่ Xiangshan ซึ่งวิธีการเดินทางก็ไป MRT
สายสีแดงไปสุดสาย วิธีขึ้น MRT ของที่นี่คือให้ดูสีและปลายสาย เช็คก่อนขึ้นนะ
ผมขึ้นผิดบ่อยมาก เนื่องจากรถไฟไม่มีเสียงเตือน หรือเสียงเตือนมันเบา หรือเราไม่ได้ยินเอง
แต่บอกเลยว่าผมลงผิดป้ายบ่อยมากกกก ดูให้ดีก่อนนะครับ ว่าเราจะไปทีไหนสีอะไร
แล้วดูว่าสุดท้ายที่ ซึ่งที่นี่ผมนัดกับเพื่อนไว้เนื่องจากที่ทำงานเขาอยู่แถวนั้นเลยบอกว่าจะไปเป็นเพื่อน
การขึ้นเขา Xiangshan นั้นไม่ยากเดินสบาย ๆ แต่ชันหน่อยและวิวกลางคืนสวย แต่แนะนำควรไปก่อนพระอาทิตย์ตก
โดนเพื่อนบ่นว่ากว่าจะมาและเอารูปที่เพื่อนของเพื่อนที่มาตอนเย็นให้ดูรูปตอนเย็นมีหมดสวยมากกกกกกกก แต่อด = =”
เราขอโทษษษษษษษษ

หลังจากนั้นเพื่อนก็ชวนไปตลาดใกล้ ๆ ซึ่งหลังจากลงเขามาก็หารถเมลล์แล้วไปตลาดโดยเพื่อนแนะนำว่า
google map มีประโยชน์มากให้ใช้ประโยชน์จาก google map ซึ่งจะบอกเราว่ารถเมล์สายไหนจะไปที่นั้น
รถเมลล์ที่นี่ไม่จอดถ้าไม่โบก หรือถ้าไม่กดก็ไม่จอดให้ลงนะจ๊ะ แล้วป้ายก็ไม่ได้จอดสุ่มสี่สุ่มห้า
อย่างถ้าป้ายมี 3 ป้ายต้องดูก่อนนะว่ารถเมลล์สายที่จะขึ้นจอดที่ป้ายนั้นหรือเปล่า
และวิธีการใช้บัตรจะมีแตะตอนขึ้นกับแตะตอนลง ซึ่งถามคนขับได้เลยครับโดยวิธีถามก็โชว์บัตรคร๊าบ
ถ้าเขาพยักหน้าก็แตะโลดดดดด สิ่งที่ไปกินก็มี ชามุก ก่อนเลยไหน ๆ ก็มาไต้หวันแล้ว เห็นเจ้านี้คนเยอะ
คนขายพูดภาษาอังกฤษรัวมากฟังไม่ทัน เพื่อนเราฟังทันกลับมาแปลให้เราอีก
(ภาษาอังกฤษเราแย่มากเลยใช่ไหม ฮรือออออ) คนที่นี่ไม่ชอบกินน้ำแข็งครับ
ดังนั้นการซื้อชามุกที่ไต้หวันเขาจะถามเราว่าหวานระดับไหน น้ำแข็งเยอะไหม
และมีบางร้านต้องเพิ่มมุกเองนะ ไม่มีในราคาที่ติดไว้(อันนี้พลาดสั่งแต่น้ำพอได้มา ไม่มีมุก T_T เสียใจ)

หลังจากกินเสร็จก็เดินหาของกินต่อซึ่งตอนแรกลักษณะของตลาดจะมีของตรงกลาง แต่อยู่ ๆ
ร้านตรงกลางทุกร้านเก็บหนีหมดเลยจ้า ถึงกับตกใจ เพื่อนบอกไม่ต้องตกใจอันนี้ยังน้อยนะ
ไป ximen จะยิ่งกว่านี้ เงิบเลยเรา คือจริง ๆ แล้วเทศกิจมาต้องหนี เหมือนการขายของตามฟุตบาทบ้านเราเลย
ยกหนีด้วย 555+ หลังจากการอลม่านกับพ่อค้าแม่ค้ายกของหนีเทศกิจ
(อันนี้เพื่อนเราบอกตำรวจนะ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเทศกิจหรือตำรวจแน่เพราะไม่เห็นใครจะใส่เครื่องแบบอะไรเลย)
เดินไปเดินมาก็มาถึงของกินแป้งเหมือนโรตีทอดในน้ำมันแล้วมีไข่ดาวโปะอยู่ เลยซื้อมาอันนึงก็โอนะแต่อมน้ำมันมาก
เดินผ่านไปอีกเจอร้านขายเป็นเหมือนซาลาเปาแต่เป็นแป้งห่อผักกับหมูแล้วเอาไปทอด
(ที่นี่ขายอะไรกันเยอะ จะเอาแค่ชิมไม่ได้ นี่คือขนาดเล็กสุดต้อง 10 ชิ้น)
ผมว่ารสมันไม่ถูกปากเท่าไหร่ สุดท้ายจะออกจากตลาดละ

เพื่อนบอกต้องลองอันนี้ ข้าวเหนียวใส่กรอก อันนี้สีขาวเป็นข้าวเหนียว
สีแดงเป็นไส้กรอกซึ่งสั่งแยกให้เขาปรุงรสหรือสั่งรวมได้ (สั่งรวมกันอร่อยกว่า มันฟินจริง ๆ )

หมดวันแรกแยกย้ายกันกลับที่พัก
[CR] [CR] รีวิวตามใจ ไปไต้หวัน 8 วัน คนเดียว?
โดยงานนี้ไปคนเดียวครับ แต่ก็จะบอกว่าเที่ยวคนเดียวเลยไม่ก็ไม่ซะทีเดียว
เนื่องจากมีเพื่อนเพิ่งได้ย้ายไปทำงานที่นั้นไม่กี่เดือน คอยช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง
**แค่ไปแก้ไขนิดเดียวข้อความหายหมด T_T
แค่จะมาเตือนครับว่าใบเสร็จมีค่าอย่าทิ้งเป็น lottory ให้เกือบไปทิ้งในกล่องบริจาค
ถือว่าเราได้บริจาคให้กล่องนั้น ๆ ครับ ได้ใบเสร็จมาเก็บไว้แล้วไปทิ้งในกล่องบริจาคนะครับ
มาเริ่มกันเลยครับ ก่อนอื่นก็จองตั๋วซึ่งงานนี้ผมจองตั๋วของ V-AIR ด้วยราคา 4822 บาท
ก็เลยเอาวะ ไปเที่ยวไต้หวันก็ได้ เดี๋ยวเพื่อนย้ายไปทำงานที่นั่นแล้วบินไปหาหน่อย แล้วเห็นเขากำลังฮิต ไป ๆ
จากนั้นผมก็หาข้อมูลและเตรียมตัวจากนั้นก็ไปทำ VISA 1500 บาท ทำไม่นานครับ แต่รอคิวนานแล้วต้องไป 2
วันครึ่งเช้ากับครึ่งบ่าย เอกสารน่าจะมีคนรีวิวหลายคนแล้วข้ามไปแล้วกันครับ
มาถึงวันที่เดินทางก็เตรียมตัวไปดอนเมืองแต่เช้าขึ้นเครื่อง 10.30 ถึง 15.15 เวลาไต้หวัน Immigration
ที่นี่กรอกออนไลน์ได้นะครับไม่ต้องไปเขียนบนเครื่องเหมือนประเทศอื่น ๆ
ตอนไปมีน้องคนไทยน่าจะเคยไปต่างประเทศครั้งแรกไม่กรอกเอกสารไป (ของพี่กรอกแล้วในเวปเลยไม่เขียนนะครับ)
ต้องเอาใบมาเขียนตรงด่านตรวจคนเข้าเมือง (ถ้าไม่ใช่แบบผมคิดต้องขออภัยน้อง ๆ ไว้นะครับ
มาถึงไต้หวันแล้วซื้อซิมเถอะครับ หรือเช่าไวไฟก็ได้อะไร ๆ จะได้ง่าย
และควรทำตั้งแต่อยู่สนามบิน เนื่องจากพนักงานจะพูดภาษาอังกฤษได้
ออกไปข้างนอกการสื่อสารน่าจะเป็นไปได้ยากหน่อย ดังนั้นซื้อเถอะครับส่วนจะซื้อเจ้าไหนนั้นก็เลือกโปรเอาครับ
แต่ละเจ้าโปรไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับการใช้งาน ส่วนผมเลือกโปร 10 วันโทรได้ 100 เนตไม่จำกัด
ทีนี่การโทรศัพท์คิดเป็นวินาที (จะแพงไปไหนคิดเป็นวิ คุยเป็นวิ) เอกสารที่ต้องใช้จะมี passport กับ ID card นะครับ
หลังจากผ่านตม.มาได้รับกระเป๋า ก็ลงไปซื้อบัส 1819 เข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 125NT
โดยเดินไปตามป้ายที่บอกว่า bus station ส่วนช่องไหนไม่ต้องถามเลยเพราะแถวจะยาวมากแต่ก็เร็วมากเช่นกันออกทุก 10 นาที
หลังจากไปถึงไทเปแล้วจะมี suttle bus ฟรีไป XIMEN ซึ่งผมไปไม่ถูกเลยนั่ง
MRT แล้วกันจากสถานี TAIPAE MAIN STATION แล้วก็ได้รู้ว่าสถานีมันกว้างมากครับ
หลงครับหลงบอกเลย จากนั้นก็ไปหาสายสีน้ำเงินเพื่อจะไป ximen เนื่องจากที่พักอยู่ที่ ximen
ที่นี่ไม่มีตู้ขาย easy card อัตโนมัติเหมือนในรีวิว แล้วไงละ T_T ซวยละไปซื้อยังไงดี
เลยตัดสินใจเดินไปถาม information ได้ความว่าที่นี่มี counter easy card ซึ่งไปซื้อได้ที่นั่นเลย
โดยจะบังคับ 500 NT มัดจำ 100 และเติมเงิน 400 เมื่อได้บัตรมาก็ไปที่สถานี
ไปถามน้องแว่นคนข้างหน้าเพื่อความแน่ใจว่าไม่ขึ้นผิด ก็ถามว่าไป This train go to ซีเหมิน right?
น้องแว่นทำหน้างง ผมก็ ซีเมิน ซีเหมิน ไล่คำไปเรื่อย ๆ จนน้องเขาเปิด map แล้วชี้ว่าตรงนี้ใช่ป่ะ
ผมก็พยักหน้า (หมดแล้วความมั่นใจในภาษาของผม T_T) น้องเขาตอบกลับด้วยการพยักหน้า
ก็โอเคถูกละ ผมนัดเพื่อนไว้ 6 โมง แต่ขณะนี้ 6 โมงแล้วยังไม่ออกจาก main station เลย T_T เราไปเลทแน่ เราขอโทษ
เมื่อขึ้นรถไฟแล้วก็ไปสายสีน้ำเงินตรงไป ximen ทางออก 4 กว่าจะไปถึงโรงแรมซึ่งโรงแรมไม่ป้ายบอกจ้า
ว่าถึงแล้วโรงแรม ต้องเดินเข้าไปในตึกถึงจะเห็นว่านี่คือโรงแรม หลงไปอีกครึ่งชม. เดินวนหน้ารร.สี่ห้ารอบ
วันนี้ผมจองเป็น hostel ขอประหยัดหน่อยเลยจอง space inn ไว้สามวัน 1800 NT
ห้องที่นี่จะแบ่งเป็นห้องละ 8 เตียงเป็นเตรียงสองชั้นมีม่านกั้นไป แต่ไม่มีสิ่งของอะไรเลย
ผ้าเช็ดตัว รองเท้าเตะ ทุกอย่างต้องซื้อ/เช่า เนื่องจากเป็นห้องน้ำรวมและต้องใช้รองเท้าเตะตอนเข้าห้อง
เลยจำเป็นต้องไปซื้อ 80 NT ไม่รู้โชคดีหรืออะไรคนที่นอนเตียงข้างบนผมกรนทุกวันเลยตลอด 3 วัน - -“
แต่ด้วยความเหนื่อยก็หลับได้ในแต่ละวัน มีบางคนทนไม่ได้ลากกระเป๋าออกไปเลยจ้า
Hotel นอนกันหลายคนถ้าใครคิดจะมานอนต้องทำใจแล้วนะครับว่าต้องเจออะไรแบบนี้
นอกเรื่องมาเยอะต่อนะครับ วันแรกหลังจากเกริ่นนำไปเยอะมาก
วันที่ 1 ไม่มีอะไรมากไปดูวิวกลางคืนที่ Xiangshan ซึ่งวิธีการเดินทางก็ไป MRT
สายสีแดงไปสุดสาย วิธีขึ้น MRT ของที่นี่คือให้ดูสีและปลายสาย เช็คก่อนขึ้นนะ
ผมขึ้นผิดบ่อยมาก เนื่องจากรถไฟไม่มีเสียงเตือน หรือเสียงเตือนมันเบา หรือเราไม่ได้ยินเอง
แต่บอกเลยว่าผมลงผิดป้ายบ่อยมากกกก ดูให้ดีก่อนนะครับ ว่าเราจะไปทีไหนสีอะไร
แล้วดูว่าสุดท้ายที่ ซึ่งที่นี่ผมนัดกับเพื่อนไว้เนื่องจากที่ทำงานเขาอยู่แถวนั้นเลยบอกว่าจะไปเป็นเพื่อน
การขึ้นเขา Xiangshan นั้นไม่ยากเดินสบาย ๆ แต่ชันหน่อยและวิวกลางคืนสวย แต่แนะนำควรไปก่อนพระอาทิตย์ตก
โดนเพื่อนบ่นว่ากว่าจะมาและเอารูปที่เพื่อนของเพื่อนที่มาตอนเย็นให้ดูรูปตอนเย็นมีหมดสวยมากกกกกกกก แต่อด = =”
เราขอโทษษษษษษษษ
หลังจากนั้นเพื่อนก็ชวนไปตลาดใกล้ ๆ ซึ่งหลังจากลงเขามาก็หารถเมลล์แล้วไปตลาดโดยเพื่อนแนะนำว่า
google map มีประโยชน์มากให้ใช้ประโยชน์จาก google map ซึ่งจะบอกเราว่ารถเมล์สายไหนจะไปที่นั้น
รถเมลล์ที่นี่ไม่จอดถ้าไม่โบก หรือถ้าไม่กดก็ไม่จอดให้ลงนะจ๊ะ แล้วป้ายก็ไม่ได้จอดสุ่มสี่สุ่มห้า
อย่างถ้าป้ายมี 3 ป้ายต้องดูก่อนนะว่ารถเมลล์สายที่จะขึ้นจอดที่ป้ายนั้นหรือเปล่า
และวิธีการใช้บัตรจะมีแตะตอนขึ้นกับแตะตอนลง ซึ่งถามคนขับได้เลยครับโดยวิธีถามก็โชว์บัตรคร๊าบ
ถ้าเขาพยักหน้าก็แตะโลดดดดด สิ่งที่ไปกินก็มี ชามุก ก่อนเลยไหน ๆ ก็มาไต้หวันแล้ว เห็นเจ้านี้คนเยอะ
คนขายพูดภาษาอังกฤษรัวมากฟังไม่ทัน เพื่อนเราฟังทันกลับมาแปลให้เราอีก
(ภาษาอังกฤษเราแย่มากเลยใช่ไหม ฮรือออออ) คนที่นี่ไม่ชอบกินน้ำแข็งครับ
ดังนั้นการซื้อชามุกที่ไต้หวันเขาจะถามเราว่าหวานระดับไหน น้ำแข็งเยอะไหม
และมีบางร้านต้องเพิ่มมุกเองนะ ไม่มีในราคาที่ติดไว้(อันนี้พลาดสั่งแต่น้ำพอได้มา ไม่มีมุก T_T เสียใจ)
หลังจากกินเสร็จก็เดินหาของกินต่อซึ่งตอนแรกลักษณะของตลาดจะมีของตรงกลาง แต่อยู่ ๆ
ร้านตรงกลางทุกร้านเก็บหนีหมดเลยจ้า ถึงกับตกใจ เพื่อนบอกไม่ต้องตกใจอันนี้ยังน้อยนะ
ไป ximen จะยิ่งกว่านี้ เงิบเลยเรา คือจริง ๆ แล้วเทศกิจมาต้องหนี เหมือนการขายของตามฟุตบาทบ้านเราเลย
ยกหนีด้วย 555+ หลังจากการอลม่านกับพ่อค้าแม่ค้ายกของหนีเทศกิจ
(อันนี้เพื่อนเราบอกตำรวจนะ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเทศกิจหรือตำรวจแน่เพราะไม่เห็นใครจะใส่เครื่องแบบอะไรเลย)
เดินไปเดินมาก็มาถึงของกินแป้งเหมือนโรตีทอดในน้ำมันแล้วมีไข่ดาวโปะอยู่ เลยซื้อมาอันนึงก็โอนะแต่อมน้ำมันมาก
เดินผ่านไปอีกเจอร้านขายเป็นเหมือนซาลาเปาแต่เป็นแป้งห่อผักกับหมูแล้วเอาไปทอด
(ที่นี่ขายอะไรกันเยอะ จะเอาแค่ชิมไม่ได้ นี่คือขนาดเล็กสุดต้อง 10 ชิ้น)
ผมว่ารสมันไม่ถูกปากเท่าไหร่ สุดท้ายจะออกจากตลาดละ
เพื่อนบอกต้องลองอันนี้ ข้าวเหนียวใส่กรอก อันนี้สีขาวเป็นข้าวเหนียว
สีแดงเป็นไส้กรอกซึ่งสั่งแยกให้เขาปรุงรสหรือสั่งรวมได้ (สั่งรวมกันอร่อยกว่า มันฟินจริง ๆ )
หมดวันแรกแยกย้ายกันกลับที่พัก