ลิ๊งค์ตอนก่อนๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/profile/535295
บทที่ 12
จวนผู้ว่าราชการจังหวัด
สิบนาฬิกา
เสียงประตูเปิดออกแผ่วเบา บรรณทราบว่าใครกำลังเดินเข้ามา เขาเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร กัณดิษฐ์เคลื่อนกายมาหยุดเท้าที่เบื้องหน้าโต๊ะทำงาน ใบหน้าคมคายแลดูอ่อนเพลียผสมเคร่งเครียด เมื่อคืนคงถูกวรภพสอบสวนอยู่หลายชั่วโมง วรภพปล่อยให้มาเข้าพบเขาได้บรรณก็แน่ใจว่ากัณดิษฐ์ต้องไม่ใช่ตัวอันตราย
ที่จริง บรรณตระหนักดีว่ากัณดิษฐ์ไม่ใช่ตัวอันตรายอยู่แล้ว
“นั่งก่อนสิ” ผู้อาวุโสผายมือไปยังเก้าอี้ด้านตรงข้าม นายตำรวจหนุ่มทรุดกายนั่งตามคำเชิญเงียบๆ ลักษณะท่าทางของกัณดิษฐ์ถอดแบบผู้เป็นพ่อมาทุกกระเบียด เงียบขรึม พูดน้อย แต่เอาจริงเอาจังและซื่อสัตย์
“ผมต้องขอโทษที่ทำงานไม่ได้เรื่องครับ ท่านผู้ว่า” ชายหนุ่มนั่งแผ่นหลังตั้งตรง ค้อมศีรษะลงด้วยน้ำหนักแห่งความรู้สึกผิด “ผมพิจารณาตัวเองมาแล้วครับ”
จากนั้น ซองสีขาวซองหนึ่งก็ถูกล้วงออกจากอกเสื้อมาวางบนโต๊ะ ไม่ต้องเหลือบตามองสักนิดบรรณก็ทราบว่านั่นคือจดหมายขอย้ายหน่วยงาน ขณะนี้ทีมสืบสวนพิเศษทำงานขึ้นตรงอยู่กับเขา หากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดภายในทีม ต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งเขาและวรภพพร้อมกันเสียก่อน
บรรณลุกขึ้นยืน สีหน้าปรอดโปร่งใจ เขาเลื่อนซองบนโต๊ะกลับไป “ลุงไม่ต้องการหรอก เจ้ากัน”
ถ้อยคำเป็นกันเองของผู้อาวุโสทำให้ใบหน้าของกัณดิษฐ์แปรเปลี่ยนเล็กน้อย ที่ผ่านมาบรรณเลือกที่จะแสร้งทำเป็นจดจำลูกชายของอดีตเพื่อนสนิทคนนี้ไม่ได้ ด้วยตระหนักชัดแก่ใจว่าชายหนุ่มไม่สะดวกใจต่อการถูกจำได้ บรรณไม่ทราบว่าอติเทพพูดคุยถึงเขากับบุตรชายไว้อย่างไร แต่อย่างน้อยมันคงไม่ใช่เรื่องดี
“ลุงรู้ว่าแกไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ถึงลุงจะอธิบายว่าทุกอย่างที่พ่อแกบอกมามันไม่ใช่ความจริง แกก็คงไม่เชื่อ ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ ลุงยังอยากให้แกทำงานต่อไป เพราะตอนนี้ลุงสามารถไว้ใจแกได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แกอาจจะเกลียดลุง แต่แกคงไม่ได้เกลียดน้องหรอกใช่มั้ย”
ขณะที่พูด ท่านผู้ว่าก็ก้าวเท้าออกมาจากหลังโต๊ะทำงานมาวางมือแตะไหล่นายตำรวจหนุ่ม
กัณดิษฐ์เงยหน้าขึ้นมองตรงไปข้างหน้า ไม่ตอบรับคำใด รออีกอึดใจใหญ่ บรรณยกมือขึ้นจากไหล่ของเขาและเดินไปหยุดยืนดูรูปภาพที่แขวนบนผนังห้อง รูปภาพวันเข้ารับตำแหน่ง รูปภาพการพบปะบุคคลสำคัญ รูปภาพการรับมอบใบประกาศเกียรติคุณต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่ผู้มากอำนาจอยากได้ใคร่มี การนับหน้าถือตา ความเคารพนบนอบ หากได้ลิ้มรสแล้วก็ยากลืมเลือน มันเป็นเสมือนยาเสพติดชนิดหนึ่ง
บรรณกล่าวต่อ “แกก็คงพอเดาได้ กว่าที่ลุงจะก้าวมายืนอยู่จุดนี้มันไม่ง่าย ลุงยอมรับว่าในอดีตมือของลุงเปื้อนเลือดมามาก กว่าจะกรุยทางสร้างฐานอำนาจของตัวเองได้ เรื่องสกปรกทั้งหลาย ทั้งลุง ทั้งพ่อแก เคยทำมาหมดไม่ใช่ไม่เคย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า คนที่วางแผนชักใยอยู่เบื้องหลังพวกเราแท้จริงนั้นคือใคร”
เป็นครั้งแรก กัณดิษฐ์เหลียวหน้าไปยังชายผู้สูงวัย และถาม “คุณลุงตั้งใจจะบอกอะไรผมกันแน่”
“ลุงอยากจะบอกว่าในอดีต มัน เป็นคนสั่งให้เราทำเรื่องเลวร้ายทั้งหมด” บรรณหันหน้ากลับมา ใบหน้าที่สงบเยือกเย็นพลันแสดงอารมณ์ของความเจ็บปวดใจ “มันที่ใช้หน้ากากของความเป็นเพื่อนกำจุดอ่อนของเราไว้ และบังคับให้ลุงกับพ่อแกทำตามคำสั่ง ไม่เช่นนั้นต่อให้ผูกคอตายก็หนีปัญหาไม่ได้”
“มัน เป็นใครครับ” นายตำรวจหนุ่มถาม
บรรณแค่นยิ้ม “มันก็คือสารวัตรโฆสน ปิศาจร้ายในคราบของเทวดา!”
กัณดิษฐ์ชะงักกึก ก่อนลุกขึ้นยืนด้วยความตระหนก “งั้นคุณลุงก็เป็นคนสั่งฆ่าเขาจริงๆ”
“ลุงก็หวังว่าลุงจะทำอย่างนั้น” ผู้ว่าราชการจังหวัดหันหน้ากลับไปจ้องมองรูปภาพของตนเอง “แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่”
“ถ้าอย่างนั้น ใครสั่งล่ะครับ”
“เรื่องนั้นลุงเองก็สงสัยมาตลอด” บรรณ เกียรติจงเจริญส่ายศีรษะ “มันอาจเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ไปตลอดกาล แต่ข้อผิดพลาดของคนที่วางแผนนี้ก็คือเขาปล่อยให้ทายาททั้งสองคนของโฆสนรอดชีวิต นั่นทำให้ครอบครัวของลุงต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเลย”
กัณดิษฐ์นิ่งคิด ไตร่ตรองคำพูดที่ได้ยินโดยละเอียด
ผู้อาวุโสหันขวับ เดินกลับมาจับแขนของนายตำรวจหนุ่มอีกครั้ง “ไม่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการแก้แค้นครั้งนี้จะเป็นใคร แต่ก็คงเป็นคนที่มีอำนาจน่ากลัวไม่ใช่น้อย กัน ถือว่าเห็นแก่ลุง แกจะช่วยรับปากได้มั้ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แกจะคอยดูแลน้องอย่างสุดความสามารถ?”
กัณดิษฐ์ก้มหน้ามองพื้น ผ่านกระบวนการคิดไม่กี่วินาที ก็ผงกศีรษะอย่างไม่ลังเล “ครับ ผมจะไม่ปล่อยให้นานาตกอยู่ในอันตรายอีก”
คำสัญญานี้เองทำให้บรรณเหยียดยิ้มออกมาได้ “ขอบใจมาก ลุงฝากน้องด้วยนะ”
สิบห้านาทีต่อมา รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของบรรณแม้ว่ากัณดิษฐ์จะออกจากห้องไปแล้ว บรรณรู้สึกอารมณ์ดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เนื่องจากแผนของเขาเป็นไปด้วยดี
แผนที่จะตลบหลังใหญ่ คชสาร
และสองทายาทของโฆสน ผู้แฝงตัวกลับมาเพื่อแก้แค้นเขา!
เกมรักกิเลนไฟ บทที่ 12
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิบนาฬิกา
เสียงประตูเปิดออกแผ่วเบา บรรณทราบว่าใครกำลังเดินเข้ามา เขาเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร กัณดิษฐ์เคลื่อนกายมาหยุดเท้าที่เบื้องหน้าโต๊ะทำงาน ใบหน้าคมคายแลดูอ่อนเพลียผสมเคร่งเครียด เมื่อคืนคงถูกวรภพสอบสวนอยู่หลายชั่วโมง วรภพปล่อยให้มาเข้าพบเขาได้บรรณก็แน่ใจว่ากัณดิษฐ์ต้องไม่ใช่ตัวอันตราย
ที่จริง บรรณตระหนักดีว่ากัณดิษฐ์ไม่ใช่ตัวอันตรายอยู่แล้ว
“นั่งก่อนสิ” ผู้อาวุโสผายมือไปยังเก้าอี้ด้านตรงข้าม นายตำรวจหนุ่มทรุดกายนั่งตามคำเชิญเงียบๆ ลักษณะท่าทางของกัณดิษฐ์ถอดแบบผู้เป็นพ่อมาทุกกระเบียด เงียบขรึม พูดน้อย แต่เอาจริงเอาจังและซื่อสัตย์
“ผมต้องขอโทษที่ทำงานไม่ได้เรื่องครับ ท่านผู้ว่า” ชายหนุ่มนั่งแผ่นหลังตั้งตรง ค้อมศีรษะลงด้วยน้ำหนักแห่งความรู้สึกผิด “ผมพิจารณาตัวเองมาแล้วครับ”
จากนั้น ซองสีขาวซองหนึ่งก็ถูกล้วงออกจากอกเสื้อมาวางบนโต๊ะ ไม่ต้องเหลือบตามองสักนิดบรรณก็ทราบว่านั่นคือจดหมายขอย้ายหน่วยงาน ขณะนี้ทีมสืบสวนพิเศษทำงานขึ้นตรงอยู่กับเขา หากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดภายในทีม ต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งเขาและวรภพพร้อมกันเสียก่อน
บรรณลุกขึ้นยืน สีหน้าปรอดโปร่งใจ เขาเลื่อนซองบนโต๊ะกลับไป “ลุงไม่ต้องการหรอก เจ้ากัน”
ถ้อยคำเป็นกันเองของผู้อาวุโสทำให้ใบหน้าของกัณดิษฐ์แปรเปลี่ยนเล็กน้อย ที่ผ่านมาบรรณเลือกที่จะแสร้งทำเป็นจดจำลูกชายของอดีตเพื่อนสนิทคนนี้ไม่ได้ ด้วยตระหนักชัดแก่ใจว่าชายหนุ่มไม่สะดวกใจต่อการถูกจำได้ บรรณไม่ทราบว่าอติเทพพูดคุยถึงเขากับบุตรชายไว้อย่างไร แต่อย่างน้อยมันคงไม่ใช่เรื่องดี
“ลุงรู้ว่าแกไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ถึงลุงจะอธิบายว่าทุกอย่างที่พ่อแกบอกมามันไม่ใช่ความจริง แกก็คงไม่เชื่อ ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ ลุงยังอยากให้แกทำงานต่อไป เพราะตอนนี้ลุงสามารถไว้ใจแกได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แกอาจจะเกลียดลุง แต่แกคงไม่ได้เกลียดน้องหรอกใช่มั้ย”
ขณะที่พูด ท่านผู้ว่าก็ก้าวเท้าออกมาจากหลังโต๊ะทำงานมาวางมือแตะไหล่นายตำรวจหนุ่ม
กัณดิษฐ์เงยหน้าขึ้นมองตรงไปข้างหน้า ไม่ตอบรับคำใด รออีกอึดใจใหญ่ บรรณยกมือขึ้นจากไหล่ของเขาและเดินไปหยุดยืนดูรูปภาพที่แขวนบนผนังห้อง รูปภาพวันเข้ารับตำแหน่ง รูปภาพการพบปะบุคคลสำคัญ รูปภาพการรับมอบใบประกาศเกียรติคุณต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่ผู้มากอำนาจอยากได้ใคร่มี การนับหน้าถือตา ความเคารพนบนอบ หากได้ลิ้มรสแล้วก็ยากลืมเลือน มันเป็นเสมือนยาเสพติดชนิดหนึ่ง
บรรณกล่าวต่อ “แกก็คงพอเดาได้ กว่าที่ลุงจะก้าวมายืนอยู่จุดนี้มันไม่ง่าย ลุงยอมรับว่าในอดีตมือของลุงเปื้อนเลือดมามาก กว่าจะกรุยทางสร้างฐานอำนาจของตัวเองได้ เรื่องสกปรกทั้งหลาย ทั้งลุง ทั้งพ่อแก เคยทำมาหมดไม่ใช่ไม่เคย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า คนที่วางแผนชักใยอยู่เบื้องหลังพวกเราแท้จริงนั้นคือใคร”
เป็นครั้งแรก กัณดิษฐ์เหลียวหน้าไปยังชายผู้สูงวัย และถาม “คุณลุงตั้งใจจะบอกอะไรผมกันแน่”
“ลุงอยากจะบอกว่าในอดีต มัน เป็นคนสั่งให้เราทำเรื่องเลวร้ายทั้งหมด” บรรณหันหน้ากลับมา ใบหน้าที่สงบเยือกเย็นพลันแสดงอารมณ์ของความเจ็บปวดใจ “มันที่ใช้หน้ากากของความเป็นเพื่อนกำจุดอ่อนของเราไว้ และบังคับให้ลุงกับพ่อแกทำตามคำสั่ง ไม่เช่นนั้นต่อให้ผูกคอตายก็หนีปัญหาไม่ได้”
“มัน เป็นใครครับ” นายตำรวจหนุ่มถาม
บรรณแค่นยิ้ม “มันก็คือสารวัตรโฆสน ปิศาจร้ายในคราบของเทวดา!”
กัณดิษฐ์ชะงักกึก ก่อนลุกขึ้นยืนด้วยความตระหนก “งั้นคุณลุงก็เป็นคนสั่งฆ่าเขาจริงๆ”
“ลุงก็หวังว่าลุงจะทำอย่างนั้น” ผู้ว่าราชการจังหวัดหันหน้ากลับไปจ้องมองรูปภาพของตนเอง “แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่”
“ถ้าอย่างนั้น ใครสั่งล่ะครับ”
“เรื่องนั้นลุงเองก็สงสัยมาตลอด” บรรณ เกียรติจงเจริญส่ายศีรษะ “มันอาจเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ไปตลอดกาล แต่ข้อผิดพลาดของคนที่วางแผนนี้ก็คือเขาปล่อยให้ทายาททั้งสองคนของโฆสนรอดชีวิต นั่นทำให้ครอบครัวของลุงต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเลย”
กัณดิษฐ์นิ่งคิด ไตร่ตรองคำพูดที่ได้ยินโดยละเอียด
ผู้อาวุโสหันขวับ เดินกลับมาจับแขนของนายตำรวจหนุ่มอีกครั้ง “ไม่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการแก้แค้นครั้งนี้จะเป็นใคร แต่ก็คงเป็นคนที่มีอำนาจน่ากลัวไม่ใช่น้อย กัน ถือว่าเห็นแก่ลุง แกจะช่วยรับปากได้มั้ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แกจะคอยดูแลน้องอย่างสุดความสามารถ?”
กัณดิษฐ์ก้มหน้ามองพื้น ผ่านกระบวนการคิดไม่กี่วินาที ก็ผงกศีรษะอย่างไม่ลังเล “ครับ ผมจะไม่ปล่อยให้นานาตกอยู่ในอันตรายอีก”
คำสัญญานี้เองทำให้บรรณเหยียดยิ้มออกมาได้ “ขอบใจมาก ลุงฝากน้องด้วยนะ”
สิบห้านาทีต่อมา รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของบรรณแม้ว่ากัณดิษฐ์จะออกจากห้องไปแล้ว บรรณรู้สึกอารมณ์ดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เนื่องจากแผนของเขาเป็นไปด้วยดี
แผนที่จะตลบหลังใหญ่ คชสาร
และสองทายาทของโฆสน ผู้แฝงตัวกลับมาเพื่อแก้แค้นเขา!