ชาน เวอร์ชั่นอัพเกรด ตอนนี้กลายเป็นมิดฟิลด์ห้องเครื่องคนสำคัญของลิเวอร์พูลไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับ ชาน ทำไมถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้แบบนี้ วันนี้ผมจะมาลองวิแคระแกะเกากันดู ปัจจัยหลัก ๆเกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้
1. History ประวัติส่วนตัว ภูมิหลังของ ชาน ดีกรีเด็กอะคาดิมี่ของบาเยิร์น ซึ่งต้องเจ๋งจริงถึงจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรระดับโลกแบบนั้นได้ ถึงแม้จะไม่สามารถขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้ แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะไปหาความท้าทายกับสโมสรอื่น และลิเวอร์พูลก็ถือเป็นทีมที่พร้อมมอบโอกาสนั้นให้เขา
2. Skills ชาน เป็นนักเตะที่มีของเยอะ ดูได้จากตอนที่ BR ยังคุมทีม ซึ่งเขาก็มักจะแสดงออกมาให้เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซีดานรีเทิร์น การสับขาหลอก ตกส้นแบบเหนือชั้น จึงมักจะได้รับฉายา แมสซี่ ชาน อยู่บ่อย ๆ บางทีก็กลายเป็น แมสซี่ ชง เพราะไปเสียบอลเนื่องจากการตัดสินใจไม่ค่อยดี เช่น เผลอจ่ายบอลให้คู่แข่งบ้าง หรือ โดนฉกบอลจากเท้าบ้าง นั่นคือที่มาที่ไป ในยุคที่ BR ยังคุมทีมอยู่ แต่ตอนนั้นผมเชื่อว่ามีบางคนมองเห็นแววความสามารถเหล่านั้น ที่ถ้าสามารถปรับใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา ไม่ใช้พร่ำเพรื่อ เขาก็สามารถที่จะกลายเป็นนักเตะระดับท็อปได้ ทักษะที่ติดตัวอยู่แล้ว passing, dribbling, creative, crossing, tackling, marking, heading, first touch ยังสามารถอัพเกรดเลเวลเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งตอนนี้บทบาทเขา คือ DMC ที่สามารถเล่นได้ทั้ง Holding Midfielder และ Box-to-Box
3. Body Strenght ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับมิดฟิลด์ตัวรับ ชาน มีรูปร่างสูงใหญ่และหนา ทำให้จังหวะเบียดบังบอล แย่งโหม่ง ชิงเหลี่ยมบอลกลางสนามทำได้ดี เหมาะสำหรับกองกลางห้องเครื่องอย่างแท้จริง ซึ่งถ้าเรากวาดสายตามองไปที่มิดฟิลด์คนอื่น ๆอย่าง อันเลน หรือ ลูคัส ที่มักจะเสียเปรียบทางด้านรูปร่าง หรือ เสียบอลกลางสนามอยู่บ่อยครั้ง การได้ ชาน ในเวอร์ชันอัพเกรด ทำให้กลางค่อนข้างแน่นปึก เก็บกวาด กินเรียบ ถ้ามีสัก 2 คนในสนามจะเป็นอะไรที่ perfect เอามาก ๆ
4. Klopp กุนซือ normal one ชาวเยอรมัน เป็นคนฟิกบทบาทสำคัญ จากนักเตะสารพัดตำแหน่งในสมัย BR ที่มักจะโยกให้ไปเล่น CR, CL, MC มั่วไปหมด ในขณะที่นักเตะยังเป็นดาวรุ่ง มีความสามารถ มีของอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะใช้ยังไงให้เหมาะสมกับตำแหน่งของตัวเอง ซึ่ง BR เองก็รู้แต่ไม่มีความสามารถที่จะดึงศักยภาพเหล่านั้นของนักเตะออกมาได้ ก็ไม่แปลกอะไรที่ BR ดึงนักเตะดี ๆเข้ามามากมายแต่มาเสียคนที่ลิเวอร์พูล Klopp มีส่วนสำคัญในการแนะนำและมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้ Emre Can ด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ทั้งที่ชานเองนั้นก็มีสกิลพอที่จะมิดฟิลด์ตัวรุกได้เช่นเดียวกัน แต่นั่นให้เป็นประโยชน์เมื่อทีมต้องเปิดเกมรุก มิติการอ่านเกม การสร้างสรรค์เกม จ่ายบอลทีเด็ดทีขาด มีส่วนสำคัญมาก ชาน จึงเป็นมากกว่าแค่ตัวรับคอยตัดเกม อย่างที่ลูคัส เป็นมาตลอด
แถมอีกนิดส์.....
5. Key Player in Next Season ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า เอมเร่ ชาน จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจหลักในแดนกลางของทีมได้หรือไม่ แต่ถึงกระนั้นฟอร์มตอนนี้ของ เอ็มเร่ ชาน ก็ได้รับคำชื่นชมจากเดอะค๊อปอย่างท่วมท้น ถึงขนาดเรียกร้องให้หายจากอาการบาดเจ็บเพื่อมาช่วยทีมในนัดตัดเชือกกับ บียารีอัล ซึ่งเขาก็กลับมาและไม่ทำให้แฟน ๆผิดหวัง
วิเคราะห์ฟอร์ม Emre Can
1. History ประวัติส่วนตัว ภูมิหลังของ ชาน ดีกรีเด็กอะคาดิมี่ของบาเยิร์น ซึ่งต้องเจ๋งจริงถึงจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรระดับโลกแบบนั้นได้ ถึงแม้จะไม่สามารถขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้ แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะไปหาความท้าทายกับสโมสรอื่น และลิเวอร์พูลก็ถือเป็นทีมที่พร้อมมอบโอกาสนั้นให้เขา
2. Skills ชาน เป็นนักเตะที่มีของเยอะ ดูได้จากตอนที่ BR ยังคุมทีม ซึ่งเขาก็มักจะแสดงออกมาให้เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นซีดานรีเทิร์น การสับขาหลอก ตกส้นแบบเหนือชั้น จึงมักจะได้รับฉายา แมสซี่ ชาน อยู่บ่อย ๆ บางทีก็กลายเป็น แมสซี่ ชง เพราะไปเสียบอลเนื่องจากการตัดสินใจไม่ค่อยดี เช่น เผลอจ่ายบอลให้คู่แข่งบ้าง หรือ โดนฉกบอลจากเท้าบ้าง นั่นคือที่มาที่ไป ในยุคที่ BR ยังคุมทีมอยู่ แต่ตอนนั้นผมเชื่อว่ามีบางคนมองเห็นแววความสามารถเหล่านั้น ที่ถ้าสามารถปรับใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา ไม่ใช้พร่ำเพรื่อ เขาก็สามารถที่จะกลายเป็นนักเตะระดับท็อปได้ ทักษะที่ติดตัวอยู่แล้ว passing, dribbling, creative, crossing, tackling, marking, heading, first touch ยังสามารถอัพเกรดเลเวลเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งตอนนี้บทบาทเขา คือ DMC ที่สามารถเล่นได้ทั้ง Holding Midfielder และ Box-to-Box
3. Body Strenght ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับมิดฟิลด์ตัวรับ ชาน มีรูปร่างสูงใหญ่และหนา ทำให้จังหวะเบียดบังบอล แย่งโหม่ง ชิงเหลี่ยมบอลกลางสนามทำได้ดี เหมาะสำหรับกองกลางห้องเครื่องอย่างแท้จริง ซึ่งถ้าเรากวาดสายตามองไปที่มิดฟิลด์คนอื่น ๆอย่าง อันเลน หรือ ลูคัส ที่มักจะเสียเปรียบทางด้านรูปร่าง หรือ เสียบอลกลางสนามอยู่บ่อยครั้ง การได้ ชาน ในเวอร์ชันอัพเกรด ทำให้กลางค่อนข้างแน่นปึก เก็บกวาด กินเรียบ ถ้ามีสัก 2 คนในสนามจะเป็นอะไรที่ perfect เอามาก ๆ
4. Klopp กุนซือ normal one ชาวเยอรมัน เป็นคนฟิกบทบาทสำคัญ จากนักเตะสารพัดตำแหน่งในสมัย BR ที่มักจะโยกให้ไปเล่น CR, CL, MC มั่วไปหมด ในขณะที่นักเตะยังเป็นดาวรุ่ง มีความสามารถ มีของอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะใช้ยังไงให้เหมาะสมกับตำแหน่งของตัวเอง ซึ่ง BR เองก็รู้แต่ไม่มีความสามารถที่จะดึงศักยภาพเหล่านั้นของนักเตะออกมาได้ ก็ไม่แปลกอะไรที่ BR ดึงนักเตะดี ๆเข้ามามากมายแต่มาเสียคนที่ลิเวอร์พูล Klopp มีส่วนสำคัญในการแนะนำและมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้ Emre Can ด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ทั้งที่ชานเองนั้นก็มีสกิลพอที่จะมิดฟิลด์ตัวรุกได้เช่นเดียวกัน แต่นั่นให้เป็นประโยชน์เมื่อทีมต้องเปิดเกมรุก มิติการอ่านเกม การสร้างสรรค์เกม จ่ายบอลทีเด็ดทีขาด มีส่วนสำคัญมาก ชาน จึงเป็นมากกว่าแค่ตัวรับคอยตัดเกม อย่างที่ลูคัส เป็นมาตลอด
แถมอีกนิดส์.....
5. Key Player in Next Season ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า เอมเร่ ชาน จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจหลักในแดนกลางของทีมได้หรือไม่ แต่ถึงกระนั้นฟอร์มตอนนี้ของ เอ็มเร่ ชาน ก็ได้รับคำชื่นชมจากเดอะค๊อปอย่างท่วมท้น ถึงขนาดเรียกร้องให้หายจากอาการบาดเจ็บเพื่อมาช่วยทีมในนัดตัดเชือกกับ บียารีอัล ซึ่งเขาก็กลับมาและไม่ทำให้แฟน ๆผิดหวัง