สวัสดีค่ะ วันนี้ป้าจะมารีวิวการเดินทางไปเที่ยวแบบสะเปะสะปะ ที่เกาะเล็กๆของชวาตะวันออก อินโดนีเซีย
ไม่สวยอย่างที่คิด แต่ก็นะ มาแล้วนี่ ชอบผู้คนที่นี่มากกว่า มาอินโดนีเซียคนเดียวหลายครั้ง รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่เดินทางมาประเทศนี้
เหมือนทุกครั้งก็มาด้วยหางแดง การเดินทางมาสุราบายาง่ายขึ้นเมื่อมีเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยมาสุราบายา 4 ชั่วโมงบนเครื่อง ก็ยังดีกว่าเมื่อ
ปีก่อนโน้นที่ไม่มีเที่ยวบินตรงมาสุราบายา ตอนนั้นบินด้วยการูด้า ทารุณมากกับการเดินทางที่ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง รวมทั้งการรอต่อเครื่องด้วย
ถ้าจำไม่ผิด จับเครื่องมาถึงสุราบายาประมาณ3ทุ่มกว่าๆ จากนั้นก็นั่งรถรับจ้างเหมือนรถซูบารุบ้านเราไปลงที่ท่ารถบัส
จับรถบัสต่อไปคาริมุน จาวา ถึงคาริมุนจาวา7 โมงเช้า ลงรถที่ท่ารถ และต่อรถเมล์ไปอีกประมาณ10กิโล (มั้ง)
ถึงท่าเรือเงียบมาก ไม่มีคนเลย ได้ความว่าวันนี้ไม่มีเรือออก เวรล่ะสิ ทำงัยอ่ะ และก็ได้ความว่ามีเรือออกพรุ่งนี้ นั่นก็หมายความว่าเราต้องหาที่พักที่นี่
แล้วป้าก็ได้ที่พักใกล้ๆแถวนั้น ชื่อที่พักจำไม่ได้แล้ว แต่ว่าชื่อตลกมากเป็นภาษาอังกฤษ
ที่พักน่ารักดีค่ะ ห้องเล็กๆ ในห้องมีแต่ห้องอาบน้ำ ห้องส้วมจะอยู่ด้านนอก ได้ความว่าเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

ชั้นบนของที่พักก็จะเป้นที่นั่งเล่น เห็นทะเลอยู่ตรงหน้า

ชอบอันนี้

สวนสาธารณะด้านหน้าที่พัก จะมีผู้คนมาเที่ยวเล่นกัน

มอเตอร์ไซด์ของเด็ก ให้เช่าขี่เล่น (ย้ำเด็กจริงๆค่ะ)

พิพิธภัณฑ์เต่าทะเล แต่ไม่เปิดให้เข้าชม อุต๊ะ ยังงัยกันล่ะ!!!

ป้าเดินเที่ยวแถวนั้นสักพักก็เข้าที่พัก นอนละ เตรียมเดินทางในวันรุ่งขึ้น หลังอาหารเช้าป้าก็ออกจากที่พักและไปรอขึ้นเรือ
วันนี้ผู้คนคลาคล่ำ เยอะไปหมด นักท่องเที่ยวก็เยอะ ที่นี่ไม่มีตารางเวลาว่าวันไหนออกเรือ หรือไม่ออก วัดดวงกันจริงๆ
สิ่งนึงที่เห็นตลอดเวลาที่มาอินโดนีเซียคือเรื่องของการทิ้งขยะไม่เลือกที่ กินตรงไหน ทิ้งตรงนั้น ขายตรงไหน ก็ทิ้งตรงนั้น ทั้วทุกที่จึงมีแต่ขยะ
เรือมีสองแบบคือเรือธรรมดา กับเรือด่วน ป้าเลือกแบบธรรมดาเพราะถูกหน่อย

แต่ แม่เจ้า นั่งอยู่บนเรืออีก 5 ชั่วโมง โอ้ววว อะรัยกันเนี่ย จากนั่งกลายเป้นนอนแล้ว ไม่ไหวละ

ถึงละ คาริมุน จาวา

ป้าใช้เวลอยู่ที่นี่2คืน แล้วก็เดินทางกลับเพราะร้อนมาก ที่พักก็เป็นพัดลมแถมยังเปิดปิดเป็นเวลา ทะเลไม่สวยเหมือนบ้านเรา ก็ว่ากันไป
ป้าเดินทางกลับมาที่ท่าเรือเช่นเดิม ขากลับกับการเดินทางอันยาวนานเช่นเดิม (นี่ฉันมาทำรัยเนี่ย)
กลับมาที่สุราบายา แล้วก็จับรถบัสไปอีกเมืองนึง บนรถบัสนี่สนุกสนานค่ะ มีของขึ้นมาขายตลอดเวลา ซองทำบุญก็มี ของขายเค้าจะส่งมาให้เราเลยแล้วก็เดินส่งไปเรื่อยๆจนถึงท้ายรถ แล้วก็เดินกลับมาเก็บใครซื้อก็จ่ายตัง ไม่ซื้อเค้าก็เอาของคืนไป เป็นอย่างนี้มาตลอดทาง มีดนตรีขึ้นมาบรรเลงด้วย แล้วก็เดินเก็บตัง ให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เป็นรัย
ในรถบัส

ป้าไปเมืองตากอากาศอีกเมืองนึง พอลงรถริมทาง ก็จะมีมอเตอร์ไซด์มารอถามว่าขึ้นเขามั้ย ก็ต่อรองราคากันไป ส่วนมากราคาจะตายตัว เพราะระยะทางไกลพอควร ทางขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ รถเยอะมาก เหมือนมีงานอะรัยสักอย่าง รถส่งป้าที่ที่พัก เป็นที่พักแบบง่ายๆคืนละ 500กว่าบาท อากาศที่นี่เย็นจนต้องเอาเสื้อแขนยาวมาใส่ ห้องพักไม่มีพัดลม ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น โห!!! โหด น้ำเย็นเฉียบ เพราะเป้นน้ำมาจากภูเขา กว่าจะอาบได้จ้องกับขันอยู่นาน

ตลาดแถวที่พัก

ป้ากลับมาที่สุราบายาในวันรุ่งขึ้น รถบัสประจำทางระหว่างเมือง

ต้องปิดหน้ากันยังงี้อ่ะค่ะ เพราะท่านสูบบุหรี่กันทั่วรถ หายใจไม่ออก เด็กๆก็นั่งดมกันไป

ถึงสุราบายา ป้าก็มาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ยาสูบ เข้าฟรีค่ะ ได้มาเจอน้องๆนักเรียนที่มาเที่ยวที่นี่ เลยถ่ายรูปด้วยกันซะหน่อย

อันนี้เป็นรูปสมัยเก่า

ลองไปเที่ยวห้างบ้านเค้ามั่ง

ทริปนี้ก็เป็นแบบทุลักทุเล สนุกไปอีกแบบค่ะ ขอบคุณมากมายค่ะที่ติดตาม
แบกเป้เที่ยว Kalimun Jawa เกาะเล็กๆในชวาตะวันออก
ไม่สวยอย่างที่คิด แต่ก็นะ มาแล้วนี่ ชอบผู้คนที่นี่มากกว่า มาอินโดนีเซียคนเดียวหลายครั้ง รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่เดินทางมาประเทศนี้
เหมือนทุกครั้งก็มาด้วยหางแดง การเดินทางมาสุราบายาง่ายขึ้นเมื่อมีเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยมาสุราบายา 4 ชั่วโมงบนเครื่อง ก็ยังดีกว่าเมื่อ
ปีก่อนโน้นที่ไม่มีเที่ยวบินตรงมาสุราบายา ตอนนั้นบินด้วยการูด้า ทารุณมากกับการเดินทางที่ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง รวมทั้งการรอต่อเครื่องด้วย
ถ้าจำไม่ผิด จับเครื่องมาถึงสุราบายาประมาณ3ทุ่มกว่าๆ จากนั้นก็นั่งรถรับจ้างเหมือนรถซูบารุบ้านเราไปลงที่ท่ารถบัส
จับรถบัสต่อไปคาริมุน จาวา ถึงคาริมุนจาวา7 โมงเช้า ลงรถที่ท่ารถ และต่อรถเมล์ไปอีกประมาณ10กิโล (มั้ง)
ถึงท่าเรือเงียบมาก ไม่มีคนเลย ได้ความว่าวันนี้ไม่มีเรือออก เวรล่ะสิ ทำงัยอ่ะ และก็ได้ความว่ามีเรือออกพรุ่งนี้ นั่นก็หมายความว่าเราต้องหาที่พักที่นี่
แล้วป้าก็ได้ที่พักใกล้ๆแถวนั้น ชื่อที่พักจำไม่ได้แล้ว แต่ว่าชื่อตลกมากเป็นภาษาอังกฤษ
ที่พักน่ารักดีค่ะ ห้องเล็กๆ ในห้องมีแต่ห้องอาบน้ำ ห้องส้วมจะอยู่ด้านนอก ได้ความว่าเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์
ชั้นบนของที่พักก็จะเป้นที่นั่งเล่น เห็นทะเลอยู่ตรงหน้า
ชอบอันนี้
สวนสาธารณะด้านหน้าที่พัก จะมีผู้คนมาเที่ยวเล่นกัน
มอเตอร์ไซด์ของเด็ก ให้เช่าขี่เล่น (ย้ำเด็กจริงๆค่ะ)
พิพิธภัณฑ์เต่าทะเล แต่ไม่เปิดให้เข้าชม อุต๊ะ ยังงัยกันล่ะ!!!
ป้าเดินเที่ยวแถวนั้นสักพักก็เข้าที่พัก นอนละ เตรียมเดินทางในวันรุ่งขึ้น หลังอาหารเช้าป้าก็ออกจากที่พักและไปรอขึ้นเรือ
วันนี้ผู้คนคลาคล่ำ เยอะไปหมด นักท่องเที่ยวก็เยอะ ที่นี่ไม่มีตารางเวลาว่าวันไหนออกเรือ หรือไม่ออก วัดดวงกันจริงๆ
สิ่งนึงที่เห็นตลอดเวลาที่มาอินโดนีเซียคือเรื่องของการทิ้งขยะไม่เลือกที่ กินตรงไหน ทิ้งตรงนั้น ขายตรงไหน ก็ทิ้งตรงนั้น ทั้วทุกที่จึงมีแต่ขยะ
เรือมีสองแบบคือเรือธรรมดา กับเรือด่วน ป้าเลือกแบบธรรมดาเพราะถูกหน่อย
แต่ แม่เจ้า นั่งอยู่บนเรืออีก 5 ชั่วโมง โอ้ววว อะรัยกันเนี่ย จากนั่งกลายเป้นนอนแล้ว ไม่ไหวละ
ถึงละ คาริมุน จาวา
ป้าใช้เวลอยู่ที่นี่2คืน แล้วก็เดินทางกลับเพราะร้อนมาก ที่พักก็เป็นพัดลมแถมยังเปิดปิดเป็นเวลา ทะเลไม่สวยเหมือนบ้านเรา ก็ว่ากันไป
ป้าเดินทางกลับมาที่ท่าเรือเช่นเดิม ขากลับกับการเดินทางอันยาวนานเช่นเดิม (นี่ฉันมาทำรัยเนี่ย)
กลับมาที่สุราบายา แล้วก็จับรถบัสไปอีกเมืองนึง บนรถบัสนี่สนุกสนานค่ะ มีของขึ้นมาขายตลอดเวลา ซองทำบุญก็มี ของขายเค้าจะส่งมาให้เราเลยแล้วก็เดินส่งไปเรื่อยๆจนถึงท้ายรถ แล้วก็เดินกลับมาเก็บใครซื้อก็จ่ายตัง ไม่ซื้อเค้าก็เอาของคืนไป เป็นอย่างนี้มาตลอดทาง มีดนตรีขึ้นมาบรรเลงด้วย แล้วก็เดินเก็บตัง ให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เป็นรัย
ในรถบัส
ป้าไปเมืองตากอากาศอีกเมืองนึง พอลงรถริมทาง ก็จะมีมอเตอร์ไซด์มารอถามว่าขึ้นเขามั้ย ก็ต่อรองราคากันไป ส่วนมากราคาจะตายตัว เพราะระยะทางไกลพอควร ทางขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ รถเยอะมาก เหมือนมีงานอะรัยสักอย่าง รถส่งป้าที่ที่พัก เป็นที่พักแบบง่ายๆคืนละ 500กว่าบาท อากาศที่นี่เย็นจนต้องเอาเสื้อแขนยาวมาใส่ ห้องพักไม่มีพัดลม ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น โห!!! โหด น้ำเย็นเฉียบ เพราะเป้นน้ำมาจากภูเขา กว่าจะอาบได้จ้องกับขันอยู่นาน
ตลาดแถวที่พัก
ป้ากลับมาที่สุราบายาในวันรุ่งขึ้น รถบัสประจำทางระหว่างเมือง
ต้องปิดหน้ากันยังงี้อ่ะค่ะ เพราะท่านสูบบุหรี่กันทั่วรถ หายใจไม่ออก เด็กๆก็นั่งดมกันไป
ถึงสุราบายา ป้าก็มาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ยาสูบ เข้าฟรีค่ะ ได้มาเจอน้องๆนักเรียนที่มาเที่ยวที่นี่ เลยถ่ายรูปด้วยกันซะหน่อย
อันนี้เป็นรูปสมัยเก่า
ลองไปเที่ยวห้างบ้านเค้ามั่ง
ทริปนี้ก็เป็นแบบทุลักทุเล สนุกไปอีกแบบค่ะ ขอบคุณมากมายค่ะที่ติดตาม