พอดีได้มีโอกาสมาเรียนโอ๊คแลนด์ได้สามรอบ และได้เรียนรู้สังคมที่นี้
มาเรียน summer high school - 2 เดือน
design course - 4 เดือน
uni - ปัจจุบัน
ใครกำลังจะมาเรียนที่ NZ มาเลยคะคิดว่าดี แต่ถ้าจะมาโอ๊คแลนด์ ลองคิดดูอีกที
1) โรงเรียนภาษาที่โอ๊คแลนด์นักเรียนต่างชาติเยอะมาก ซึ่งแล้วทำไม??? น่าจะแสดงถึง diversity
Diversity(ถ้าจำไม่ได้ผิด) นี้แบ่งเป็น Melting Pot และ Salad Bowl
Melting pot คือ ทุกคนรู้สึกเป็นอันนึงอันเดียว ในแง่ของสังคม
Salad Bowl คือ อยู่รวมกันแต่ ไม่ได้เป็นอันนึงอันเดียวกันคะ และมี Racism
Auckland ณ ปัจจุบันนี้คือ Salad Bowl จากในมุมมองของเรา
โดยเฉพาะเรียนพวกโรงเรียนภาษา โอกาสที่จะฝรั่งจะเข้ามาคุยด้วยน้อยยยมาก นอกจากคุยกับคุณครู
เพราะว่า นักเรียนต่างชาติ ชาติไหนก็คุยกับชาตินั้น พูดภาษาของตัวเองเวลาอยู่ด้วยกัน
จะถามว่า เราก็เข้าไปคุยกับคนจีนคนเกาหลีก็ได้นิ จะได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง
จะบอกได้ว่า Almost impossible จ้าาา
คนจีนอาจจะคุยง่ายด้วยหน่อย แต่ถ้าเราเป็นคนไทยคนเดียวในกลุ่มคนจีน สักพักเดียวเค้าก็คุยเป็นภาษาจีนอีกและ เราจะรู้สึก excluded. คิดในแง่มุมของเรา เราอยู่กับคนไทยเราก็คุยไทย คือ ถ้าสังคมมันไม่บังคับ ยากที่จะคุยเป็นภาษาอังกฤษ อันนี้ก็ไม่ได้ว่าเค้า
อ่าวแล้วเกาหลีหละ??? เหมือนกันจ้า เกาหลีนี้เยอะมาก ร้านอาหารเกาหลีก็เยอะมากและอร่อยด้วย
แต่เกาหลี(internationals) ไม่คบคนนอก คบแต่เกาหลีด้วยกัน ฝรั่งก็ไม่คบ….เท่าที่สังเกตุมา อะก็เรื่องของเค้าเนอะ
ดังนั่นคนไทยก็เลยต้องคบกับคนไทย
จะถามว่างั้นเราเดินเข้าไปคุยกับฝรั่งได้มั้ย….ยากยังไงอะ??? จะเข้าไปเซย์ไฮ บอกอยากคุยด้วยไม่ได้นะ มันไม่ใช่เค้าจะตกใจเอา จะบอกว่างั้นไปคลับอะไรยังงี้ได้ไหม คือ “you don't make friends at the clubs” ถ้าบางคนเก่งจริงอาจจะได้ 5555 แต่เราว่ามันยากอะ โดยเฉพาะฝรั่งไม่ค่อยชอบเค้าหาเอเชีย เพราะเค้านึกว่าเอเชียไม่พูดอังฤษ
2) High school/(แต่ที่นี้ส่วนใหญ่เรียกมอปลายว่า college)
คล้ายๆกันจ้า แต่เรียนมปลายจะเข้าหาฝรั่งง่ายกว่า ฝรั่งก็จะเข้าหาเรามากกว่า เพราะมันมีพวก group projects แต่ ในความจริงแล้ว ซึ่งอันนี้ถามเพื่อนที่เรียน High school ที่นิวมา เค้าบอกว่า
“ในห้องเรียนแบ่งส่วนหั่นครึ่ง ฝรั่งอยู่ฝั่งซ้าย เอเชียนอยู่ฝั่งขวา”
คือจริงๆมันก็ไม่แปลกเพราะ คนส่วนใหญ่ยังไงก็ชอบอยู่กับคนที่มาจาก background ที่คล้ายๆกัน ซึ่งมันก็รู้สึกปลอดภัยและง่ายที่จะคุยด้วย ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร
นร ต่างชาติเยอะ ชอบคุยภาษาของตัวเอง ซึ่งบางทีทำให้ฝรั่งไม่อยากยุ่งด้วย
แต่มันก็มีพวก exceptionals ที่เป็น Kiwi-Asian พวกนี้ก็จะเข้ากับฝรั่งได้ แต่จะนิยมอยู่กับเอเชียนด้วยกันมากกว่า
บางคนมาเรียน High school สามปียังสู้คนที่เรียนประเทศไทยไม่ได้เลย(มันคือความจริง)
เพราะอะไร แทบไม่ได้พูดอังฤกษ นอกจากห้องเรียน หรือในห้องเรียนก็เอาแต่เงียบ กลับบ้านก็ไม่ค่อยได้ออกมา ฮัลโลหรือคุยกับ Host family เกาะกลุ่มอยู่กับคนไทย
จริงๆก็ไม่ใช่คนไทยหรอก Asian internationals ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้
ยกตัวอย่างคนจีนซึ่งเป็นเพื่อนเราตอนไปเรียน summer นอกจากห้องเรียนก็แทบไม่ได้พูดอังฤกษ hang out(เฮฮา) ก็กับคนจีนด้วยกัน แถบยังขออยู่กับคนจีนอีก(ตอนแรกได้อยู่กับฝรั่ง แต่บอกอาหารไม่อร่อย...เอิ่มส์)
เราเลยบอกเค้าไปว่า you are wasting your lifetime opportunity
จบจาก High School ไปเข้ามหาลัยโอกาสที่ได้ Socialize กับเพื่อนในห้องมันน้อยมาก สังคมมหาลัยต่างคนต่างเรียนโดนสะส่วนใหญ่ ห้องนึก 300 ร้อยคน ถามเพื่อนฝรั่งสองคนที่เรียนจบออกมา เค้าบอกส่วนใหญ่ก็ hangout(เฮอา) กับเพื่อน high school สะมากกว่า
บางทีคนจีนยังโดนฝรั่งเขม่นเลยแบบ บอกว่า ที่พูดภาษาจีนนี้ดังเชียว แต่พูดอังกฤษแทบไม่ได้ยิน บางคนหน้าเอเชียๆก็โดน judge ไปด้วย
ดังนั้น แนะนำคะ ถ้าจะมีเรียนภาษา หรือ ส่งลูกมาเรียนไฮสคลู ไปเรียนต่างจังหวัดเลย เอาให้มันบ้านนอกมากๆ ต่างชาติน้อยๆ อย่างงี้ได้ภาษาชัวร์คะ คือสังคมมันจะบีบบังคับให้เราพูดอังฤกษ ถึงแม้มันจะเหงามากๆ และโฮมซิกสุดๆ แต่มันคุ้มคะ เห็นเพื่อนหลายคนที่ภาษาเค้าดี แถมมีสำเนียงคนนิวติดมาด้วย เพราะเค้าไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทย คบแต่กับ Locals.
3) ในเรื่องของคนพื้นเมือง
เมื่อวันก่อน มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนที่เป็น maori(คนพื้นเมืองของที่NZ) เกี่ยวกับการที่เป็น maori
เค้าบอกว่าไม่ชอบนะ เค้าโอเคกับการที่เป็น islanders ซึ่งก็คือคนที่มาจากหมู่เกาะรอบๆ เพราะคนชอบมองว่า Maori ขโมยของและไม่มีเงิน แต่จริงๆจากประสบการณ์ที่เจอมาคนเมารีนิสัยดีนะ
อีกเรื่องนึงคนเรื่อง Attitude คนเอเชียส่วนใหญ่มักจะขี้อาย ไม่ขี้อายก็ไม่อยากยุ่งกับฝรั่ง….คือแบบยู มา เมืองฝรั่งแต่ไม่อยากยุ่งกับฝรั่ง….เข้าใจนะว่าเอเชียเยอะ มันเลยทำให้สังคนกลายเป็น Salad bowl
โดยส่วนตัวแล้ว คณะที่เรียนอยู่ตอนนี้ไม่ค่อยมีต่างชาติ ทั่งห้องมีแต่ Kiwi ซึ่งก็ดีเราก็ hangout กับ Kiwi
จริงๆแล้วมันภาษาอังฤษกเราไม่ต้องดีมากมายอะไร แค่ attitude เราดี เวลาพูด หาเพื่อนไม่ยาก อย่า treat เค้าว่าเป็นฝรั่ง หน้าตาพูดไม่เหมือนเรา treat ให้เป็นเหมือนคนชาติเดียวกัน จริงๆ
แต่หลายๆทีนอกห้องเรียนก็รู้สึกว่า โดน judge ไปด้วยเพราะเราเป็นเอเชีย แบบคนมองเราว่าพูดภาษาอังฤษกไม่ได้ attitude ไม่ดี เซง
…..คนที่นี้เค้าจะมี Mindset ว่า นรต่างชาติเอเชียชอบอยู่เป็นกลุ่ม ไม่คุยอังฤกษ ไม่อยากเข้าหาฝรั่ง และขี้อาย.
4) คนจีนโดนว่ามองว่าทำให้บ้านแพงเพราะ ชอบมาซื้อและขายในราคาสูง นี้เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เกิด racism
เดือนที่ผ่านมีลงข่าวนักเรียนต่างชาติเอเชียโดนทำร้ายแล้วโดนขโมยของไป
เจอมากับตัวเหมือนกัน ใส่กระเป๋าไว้ในกระบะหลังรถเพื่อน รถเพื่อนโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา กระเป๋าก็ไปด้วย
เพื่อนคนจีนที่เป็นนรต่างชาติโดนขโมยขึ้นบ้าน
แต่จริงๆก็แอบเข้าใจคนที่นี้นะ คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Asian immigrant หรือ international student ไม่มีความพยายามในการรวมเข้ากับสังคมที่นี้ จากที่สัมผัสมา
ปล. เพื่อน kiwi เคยถาม ยูอยากพูดภาษาไทยและคบเพื่อนคนไทยมากกว่า หรือ พูดภาษาอังกฤษและหาเพื่อนkiwi เราตอบกลับไปว่า อังฤกษสิ ถ้าอยากอยู่ในสังคมไทย คงไม่มานี้ ยูถามทำไม….
ความจริงของประเทศนิวซีแลนด์ สำหรับคนที่จะมาเรียน
มาเรียน summer high school - 2 เดือน
design course - 4 เดือน
uni - ปัจจุบัน
ใครกำลังจะมาเรียนที่ NZ มาเลยคะคิดว่าดี แต่ถ้าจะมาโอ๊คแลนด์ ลองคิดดูอีกที
1) โรงเรียนภาษาที่โอ๊คแลนด์นักเรียนต่างชาติเยอะมาก ซึ่งแล้วทำไม??? น่าจะแสดงถึง diversity
Diversity(ถ้าจำไม่ได้ผิด) นี้แบ่งเป็น Melting Pot และ Salad Bowl
Melting pot คือ ทุกคนรู้สึกเป็นอันนึงอันเดียว ในแง่ของสังคม
Salad Bowl คือ อยู่รวมกันแต่ ไม่ได้เป็นอันนึงอันเดียวกันคะ และมี Racism
Auckland ณ ปัจจุบันนี้คือ Salad Bowl จากในมุมมองของเรา
โดยเฉพาะเรียนพวกโรงเรียนภาษา โอกาสที่จะฝรั่งจะเข้ามาคุยด้วยน้อยยยมาก นอกจากคุยกับคุณครู
เพราะว่า นักเรียนต่างชาติ ชาติไหนก็คุยกับชาตินั้น พูดภาษาของตัวเองเวลาอยู่ด้วยกัน
จะถามว่า เราก็เข้าไปคุยกับคนจีนคนเกาหลีก็ได้นิ จะได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง
จะบอกได้ว่า Almost impossible จ้าาา
คนจีนอาจจะคุยง่ายด้วยหน่อย แต่ถ้าเราเป็นคนไทยคนเดียวในกลุ่มคนจีน สักพักเดียวเค้าก็คุยเป็นภาษาจีนอีกและ เราจะรู้สึก excluded. คิดในแง่มุมของเรา เราอยู่กับคนไทยเราก็คุยไทย คือ ถ้าสังคมมันไม่บังคับ ยากที่จะคุยเป็นภาษาอังกฤษ อันนี้ก็ไม่ได้ว่าเค้า
อ่าวแล้วเกาหลีหละ??? เหมือนกันจ้า เกาหลีนี้เยอะมาก ร้านอาหารเกาหลีก็เยอะมากและอร่อยด้วย
แต่เกาหลี(internationals) ไม่คบคนนอก คบแต่เกาหลีด้วยกัน ฝรั่งก็ไม่คบ….เท่าที่สังเกตุมา อะก็เรื่องของเค้าเนอะ
ดังนั่นคนไทยก็เลยต้องคบกับคนไทย
จะถามว่างั้นเราเดินเข้าไปคุยกับฝรั่งได้มั้ย….ยากยังไงอะ??? จะเข้าไปเซย์ไฮ บอกอยากคุยด้วยไม่ได้นะ มันไม่ใช่เค้าจะตกใจเอา จะบอกว่างั้นไปคลับอะไรยังงี้ได้ไหม คือ “you don't make friends at the clubs” ถ้าบางคนเก่งจริงอาจจะได้ 5555 แต่เราว่ามันยากอะ โดยเฉพาะฝรั่งไม่ค่อยชอบเค้าหาเอเชีย เพราะเค้านึกว่าเอเชียไม่พูดอังฤษ
2) High school/(แต่ที่นี้ส่วนใหญ่เรียกมอปลายว่า college)
คล้ายๆกันจ้า แต่เรียนมปลายจะเข้าหาฝรั่งง่ายกว่า ฝรั่งก็จะเข้าหาเรามากกว่า เพราะมันมีพวก group projects แต่ ในความจริงแล้ว ซึ่งอันนี้ถามเพื่อนที่เรียน High school ที่นิวมา เค้าบอกว่า
“ในห้องเรียนแบ่งส่วนหั่นครึ่ง ฝรั่งอยู่ฝั่งซ้าย เอเชียนอยู่ฝั่งขวา”
คือจริงๆมันก็ไม่แปลกเพราะ คนส่วนใหญ่ยังไงก็ชอบอยู่กับคนที่มาจาก background ที่คล้ายๆกัน ซึ่งมันก็รู้สึกปลอดภัยและง่ายที่จะคุยด้วย ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร
นร ต่างชาติเยอะ ชอบคุยภาษาของตัวเอง ซึ่งบางทีทำให้ฝรั่งไม่อยากยุ่งด้วย
แต่มันก็มีพวก exceptionals ที่เป็น Kiwi-Asian พวกนี้ก็จะเข้ากับฝรั่งได้ แต่จะนิยมอยู่กับเอเชียนด้วยกันมากกว่า
บางคนมาเรียน High school สามปียังสู้คนที่เรียนประเทศไทยไม่ได้เลย(มันคือความจริง)
เพราะอะไร แทบไม่ได้พูดอังฤกษ นอกจากห้องเรียน หรือในห้องเรียนก็เอาแต่เงียบ กลับบ้านก็ไม่ค่อยได้ออกมา ฮัลโลหรือคุยกับ Host family เกาะกลุ่มอยู่กับคนไทย
จริงๆก็ไม่ใช่คนไทยหรอก Asian internationals ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้
ยกตัวอย่างคนจีนซึ่งเป็นเพื่อนเราตอนไปเรียน summer นอกจากห้องเรียนก็แทบไม่ได้พูดอังฤกษ hang out(เฮฮา) ก็กับคนจีนด้วยกัน แถบยังขออยู่กับคนจีนอีก(ตอนแรกได้อยู่กับฝรั่ง แต่บอกอาหารไม่อร่อย...เอิ่มส์)
เราเลยบอกเค้าไปว่า you are wasting your lifetime opportunity
จบจาก High School ไปเข้ามหาลัยโอกาสที่ได้ Socialize กับเพื่อนในห้องมันน้อยมาก สังคมมหาลัยต่างคนต่างเรียนโดนสะส่วนใหญ่ ห้องนึก 300 ร้อยคน ถามเพื่อนฝรั่งสองคนที่เรียนจบออกมา เค้าบอกส่วนใหญ่ก็ hangout(เฮอา) กับเพื่อน high school สะมากกว่า
บางทีคนจีนยังโดนฝรั่งเขม่นเลยแบบ บอกว่า ที่พูดภาษาจีนนี้ดังเชียว แต่พูดอังกฤษแทบไม่ได้ยิน บางคนหน้าเอเชียๆก็โดน judge ไปด้วย
ดังนั้น แนะนำคะ ถ้าจะมีเรียนภาษา หรือ ส่งลูกมาเรียนไฮสคลู ไปเรียนต่างจังหวัดเลย เอาให้มันบ้านนอกมากๆ ต่างชาติน้อยๆ อย่างงี้ได้ภาษาชัวร์คะ คือสังคมมันจะบีบบังคับให้เราพูดอังฤกษ ถึงแม้มันจะเหงามากๆ และโฮมซิกสุดๆ แต่มันคุ้มคะ เห็นเพื่อนหลายคนที่ภาษาเค้าดี แถมมีสำเนียงคนนิวติดมาด้วย เพราะเค้าไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทย คบแต่กับ Locals.
3) ในเรื่องของคนพื้นเมือง
เมื่อวันก่อน มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนที่เป็น maori(คนพื้นเมืองของที่NZ) เกี่ยวกับการที่เป็น maori
เค้าบอกว่าไม่ชอบนะ เค้าโอเคกับการที่เป็น islanders ซึ่งก็คือคนที่มาจากหมู่เกาะรอบๆ เพราะคนชอบมองว่า Maori ขโมยของและไม่มีเงิน แต่จริงๆจากประสบการณ์ที่เจอมาคนเมารีนิสัยดีนะ
อีกเรื่องนึงคนเรื่อง Attitude คนเอเชียส่วนใหญ่มักจะขี้อาย ไม่ขี้อายก็ไม่อยากยุ่งกับฝรั่ง….คือแบบยู มา เมืองฝรั่งแต่ไม่อยากยุ่งกับฝรั่ง….เข้าใจนะว่าเอเชียเยอะ มันเลยทำให้สังคนกลายเป็น Salad bowl
โดยส่วนตัวแล้ว คณะที่เรียนอยู่ตอนนี้ไม่ค่อยมีต่างชาติ ทั่งห้องมีแต่ Kiwi ซึ่งก็ดีเราก็ hangout กับ Kiwi
จริงๆแล้วมันภาษาอังฤษกเราไม่ต้องดีมากมายอะไร แค่ attitude เราดี เวลาพูด หาเพื่อนไม่ยาก อย่า treat เค้าว่าเป็นฝรั่ง หน้าตาพูดไม่เหมือนเรา treat ให้เป็นเหมือนคนชาติเดียวกัน จริงๆ
แต่หลายๆทีนอกห้องเรียนก็รู้สึกว่า โดน judge ไปด้วยเพราะเราเป็นเอเชีย แบบคนมองเราว่าพูดภาษาอังฤษกไม่ได้ attitude ไม่ดี เซง
…..คนที่นี้เค้าจะมี Mindset ว่า นรต่างชาติเอเชียชอบอยู่เป็นกลุ่ม ไม่คุยอังฤกษ ไม่อยากเข้าหาฝรั่ง และขี้อาย.
4) คนจีนโดนว่ามองว่าทำให้บ้านแพงเพราะ ชอบมาซื้อและขายในราคาสูง นี้เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เกิด racism
เดือนที่ผ่านมีลงข่าวนักเรียนต่างชาติเอเชียโดนทำร้ายแล้วโดนขโมยของไป
เจอมากับตัวเหมือนกัน ใส่กระเป๋าไว้ในกระบะหลังรถเพื่อน รถเพื่อนโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา กระเป๋าก็ไปด้วย
เพื่อนคนจีนที่เป็นนรต่างชาติโดนขโมยขึ้นบ้าน
แต่จริงๆก็แอบเข้าใจคนที่นี้นะ คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Asian immigrant หรือ international student ไม่มีความพยายามในการรวมเข้ากับสังคมที่นี้ จากที่สัมผัสมา
ปล. เพื่อน kiwi เคยถาม ยูอยากพูดภาษาไทยและคบเพื่อนคนไทยมากกว่า หรือ พูดภาษาอังกฤษและหาเพื่อนkiwi เราตอบกลับไปว่า อังฤกษสิ ถ้าอยากอยู่ในสังคมไทย คงไม่มานี้ ยูถามทำไม….