คัดลอกมาจาก ตั้งวงก๊งบอลไทย
“สมัยผมไปเล่นที่เดนมาร์ก ตอนนั้นฟุตบอลบ้านเรายังไม่เป็นอาชีพ ค่าจ้างได้กันแค่หลักพัน นักเตะก็เลยต้องดิ้นรนหาโอกาสไปเล่นต่างประเทศ ตอนนั้นผมเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น และบาดเจ็บต้องผ่าเข่าพักไปนาน 6 เดือน ก่อนกลับมาเล่นให้ราชประชา จังหวะที่รับใข้ทีมชาติแล้วโค้ชของทีม เฟเดริกเซาธ์ ในลีกดิวิชั่น 2 ของเดนมาร์ก สนใจติดต่อให้ไปเล่น ผมใช้เวลา 2 ปีอยู่กับทีมนี้ ก่อนที่จะถูกดึงไปอยู่กับทีม วีบอร์ก ซึ่งสมัยนั้นเป็นทีมระดับซูเปอร์ลีกา ลีกสูงสุด และอยู่รวมทั้งหมด 4 ปี ตอนนั้นผมได้ค่าเหนื่อยอยู่ที่ประมาณแสนบาทไทย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ถือว่าสูงมาก”
“ผมสนับสนุนเลยว่าต้องไป การได้ไปเล่นในลีกที่สูงกว่า หากมีโอกาสต้องคว้าเอาไว้ การเป็นนักฟุตบอล ผมเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตทุกคนต้องการพิสูจน์ตัวเอง แต่มันอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาทำให้ปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะไทยลีกเป็นอาชีพแล้ว มีค่าตอบแทนที่อาจจะสูงกว่าการไปเล่นเมืองนอก แต่สิ่งที่แทนกันไม่ได้คือความภาคภูมิใจ และประสบการณ์ชีวิตที่หาที่เมืองไทยไม่ได้”
“ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า มาตรฐานฟุตบอลไทย ต่างชาติยังประเมินต่ำ การที่จะให้เขายอมรับฝีเท้าไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าอยากพิสูจน์ตัวเองต้องยอมรับให้ได้กับการมีค่าจ้างที่ต่ำลง อาจจะเริ่มต้นจากลีกล่างไปก่อนซักปีสองปี วันใดที่คุณพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเล่นได้ ก็จะมีทีมใหญ่ๆ มาติดต่อเอง มันต้องค่อยเป็นค่อยไป”
“เด็กรุ่นนี้ที่ผมมองว่าน่าลองไปดูก็มี ธีราทร เพราะเขาเล่นทางด้านข้าง เป็นบอล 180 องศา เล่นแบบตัวติดเส้นจะง่ายกว่าพวกที่เล่นตรงกลางที่ภาษาบอลเรียกว่าบอล 360 องศา ซึ่งต้องเจอการเข้าปะทะ และรับมือกับสปีดบอลจากทุกทาง”
“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องถามตัวเองก่อนว่า เป้าหมายของการเล่นฟุตบอลคืออะไร ถ้าคิดว่าอยู่ในไทยสบายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนก็อยู่แบบนั้นไป แต่ถ้าเกิดคิดอยากหาความท้าทายใหม่ๆ ขึ้นมา ก็ต้องลองดูสักตั้ง ถ้าประสบความสำเร็จ เขาจะกลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่และถูกกล่าวขานไปนอกเหนือจากประเทศไทยด้วย”
“สมัยนี้ผู้ปกครองพยายามผลักดันให้ลูกเล่นฟุตบอล แต่ส่วนใหญ่ก็จบลงแค่เพื่อให้ได้ทุนเข้าเรียน บางคนฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว เด็กๆ ก็ขาดการดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง พอมีรายได้ที่ดี อยู่สบายแล้วก็ไม่อยากไปไหนอีก พี่คิดว่าเราน่าจะใช้วิธีอย่างที่หลายๆ ประเทศทำ คือส่งเด็กไปฝังตัวที่ทีมใหญ่ๆ ที่เก่งเรื่องการพัฒนาเยาวชนจริงๆ อย่างที่ฮอลแลนด์ พวกทีม อาแจ็กซ์, พีเอสวี อะไรพวกนี้ จะได้ประโยชน์มาก”
“ลองสังเกตสิ เด็กที่ประสบความสำเร็จ มักจะมาจากครอบครัวที่ฐานะยากจน ต้องปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนเตะบอลเพื่อให้มีชีวิตรอด พวกประเทศแถบแอฟริกาจึงมีนักเตะไปฝึกที่ฮอลแลนด์จนเก่งเยอะมาก เด็กไทยเราเองก็เช่นกัน หากเริ่มต้นด้วยความกระหายที่จะเก่งขึ้น เพื่อปากท้องของครอบครัวและไปให้ไกลที่สุด ต้องส่งไปเล่นต่างประเทศตั้งแต่เล็ก เพราะระดับมาตรฐานของที่นั่นสูงกว่าเมืองไทยหลายช่วงตัวนัก”
ยาวหน่อยแต่น่าสนใจ โค้ชป้ำพูดถึงการค้าแข้งต่างแดน
“สมัยผมไปเล่นที่เดนมาร์ก ตอนนั้นฟุตบอลบ้านเรายังไม่เป็นอาชีพ ค่าจ้างได้กันแค่หลักพัน นักเตะก็เลยต้องดิ้นรนหาโอกาสไปเล่นต่างประเทศ ตอนนั้นผมเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น และบาดเจ็บต้องผ่าเข่าพักไปนาน 6 เดือน ก่อนกลับมาเล่นให้ราชประชา จังหวะที่รับใข้ทีมชาติแล้วโค้ชของทีม เฟเดริกเซาธ์ ในลีกดิวิชั่น 2 ของเดนมาร์ก สนใจติดต่อให้ไปเล่น ผมใช้เวลา 2 ปีอยู่กับทีมนี้ ก่อนที่จะถูกดึงไปอยู่กับทีม วีบอร์ก ซึ่งสมัยนั้นเป็นทีมระดับซูเปอร์ลีกา ลีกสูงสุด และอยู่รวมทั้งหมด 4 ปี ตอนนั้นผมได้ค่าเหนื่อยอยู่ที่ประมาณแสนบาทไทย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ถือว่าสูงมาก”
“ผมสนับสนุนเลยว่าต้องไป การได้ไปเล่นในลีกที่สูงกว่า หากมีโอกาสต้องคว้าเอาไว้ การเป็นนักฟุตบอล ผมเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตทุกคนต้องการพิสูจน์ตัวเอง แต่มันอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาทำให้ปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะไทยลีกเป็นอาชีพแล้ว มีค่าตอบแทนที่อาจจะสูงกว่าการไปเล่นเมืองนอก แต่สิ่งที่แทนกันไม่ได้คือความภาคภูมิใจ และประสบการณ์ชีวิตที่หาที่เมืองไทยไม่ได้”
“ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า มาตรฐานฟุตบอลไทย ต่างชาติยังประเมินต่ำ การที่จะให้เขายอมรับฝีเท้าไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าอยากพิสูจน์ตัวเองต้องยอมรับให้ได้กับการมีค่าจ้างที่ต่ำลง อาจจะเริ่มต้นจากลีกล่างไปก่อนซักปีสองปี วันใดที่คุณพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเล่นได้ ก็จะมีทีมใหญ่ๆ มาติดต่อเอง มันต้องค่อยเป็นค่อยไป”
“เด็กรุ่นนี้ที่ผมมองว่าน่าลองไปดูก็มี ธีราทร เพราะเขาเล่นทางด้านข้าง เป็นบอล 180 องศา เล่นแบบตัวติดเส้นจะง่ายกว่าพวกที่เล่นตรงกลางที่ภาษาบอลเรียกว่าบอล 360 องศา ซึ่งต้องเจอการเข้าปะทะ และรับมือกับสปีดบอลจากทุกทาง”
“สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องถามตัวเองก่อนว่า เป้าหมายของการเล่นฟุตบอลคืออะไร ถ้าคิดว่าอยู่ในไทยสบายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนก็อยู่แบบนั้นไป แต่ถ้าเกิดคิดอยากหาความท้าทายใหม่ๆ ขึ้นมา ก็ต้องลองดูสักตั้ง ถ้าประสบความสำเร็จ เขาจะกลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่และถูกกล่าวขานไปนอกเหนือจากประเทศไทยด้วย”
“สมัยนี้ผู้ปกครองพยายามผลักดันให้ลูกเล่นฟุตบอล แต่ส่วนใหญ่ก็จบลงแค่เพื่อให้ได้ทุนเข้าเรียน บางคนฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว เด็กๆ ก็ขาดการดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยตัวเอง พอมีรายได้ที่ดี อยู่สบายแล้วก็ไม่อยากไปไหนอีก พี่คิดว่าเราน่าจะใช้วิธีอย่างที่หลายๆ ประเทศทำ คือส่งเด็กไปฝังตัวที่ทีมใหญ่ๆ ที่เก่งเรื่องการพัฒนาเยาวชนจริงๆ อย่างที่ฮอลแลนด์ พวกทีม อาแจ็กซ์, พีเอสวี อะไรพวกนี้ จะได้ประโยชน์มาก”
“ลองสังเกตสิ เด็กที่ประสบความสำเร็จ มักจะมาจากครอบครัวที่ฐานะยากจน ต้องปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนเตะบอลเพื่อให้มีชีวิตรอด พวกประเทศแถบแอฟริกาจึงมีนักเตะไปฝึกที่ฮอลแลนด์จนเก่งเยอะมาก เด็กไทยเราเองก็เช่นกัน หากเริ่มต้นด้วยความกระหายที่จะเก่งขึ้น เพื่อปากท้องของครอบครัวและไปให้ไกลที่สุด ต้องส่งไปเล่นต่างประเทศตั้งแต่เล็ก เพราะระดับมาตรฐานของที่นั่นสูงกว่าเมืองไทยหลายช่วงตัวนัก”