การรีวิวต่อไปนี้ ผมจะรีวิวไปตามเนื้อผ้าว่าไปตามหน้างานนะครับ อาจจะไม่ใช่รีวิวพาชมรูปสวนสนุกแต่ละโซนว่ามีอะไรยังไงบ้าง (เห็นหลายกระทู้เอามาลงกันแล้ว แถมหน้าเพจก็มีรูปเยอะอยู่) แต่จะเป็นการแชร์มุมมองของผมและข้อแนะนำสำหรับการไปเที่ยวรวม 10 ข้อ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปดีไม่ไปดี หรือตัดสินใจว่าไปแน่ๆ ล่ะ...แต่ไม่อยากรอเหงก ก็ติดตามกันได้เลยครับ
เอาล่ะ เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ถ้าจะไป Dinosaur Planet แล้วล่ะก็…นี่คือ 10 สิ่งที่คุณ (อาจจะ) อยากรู้...
1. Dinosaur Planet ไม่ใช่สวนสนุก แต่เป็นปาร์คกึ่งๆ ศูนย์การเรียนรู้มากกว่า
- ใครคาดหวังว่าจะได้สนุกสนานสุดเหวี่ยงเหมือนไปดรีมเวิลด์ ยูนิเวอร์แซล หรือสวนสยาม อาจจะมาผิดที่นะครับ เพราะไดโนซอร์แพลนเน็ตจะมีไฮไลต์ที่หุ่นไดโนเสาร์เสมือนจริง ที่ขยับได้และส่งเสียงคำรามได้ (แผ่วๆ) อีกทั้งยังมีส่วนที่ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ต่างๆ ลักษณะไข่ไดโนเสาร์ว่าเป็นพวกกินพืชหรือกินเนื้อ (Dino District Zone) และโชว์ (The Great Volcano Zone) ที่เล่าถึงการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์บางส่วนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
2. เด็กๆ จะปลาบปลื้ม Dinosaur Planet แน่นอน
- จากการประเมินด้วยสายตาผมเองนะครับ ส่วนใหญ่เด็กๆ ดูจะสนุกกับสถานที่แห่งนี้ เพราะมีหุ่นไดเสาร์ตัวใหญ่ให้ชี้ชวนกันดู มีไดโนเสาร์ให้ขี่เล่น (Dino Ride) คือมันก็น่าตื่นตาสำหรับเด็กๆ น่ะครับ ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ไปเดินเอาความรู้เฉยๆ อาจตื่นเต้นกับไดโนเสาร์ที่ดูคล้ายของจริงบ้าง แต่คงไม่เท่าเด็กๆ ยกเว้นว่าคุณจะเป็นคอไดโนเสาร์
3. วัยรุ่นหัวใจเด็กและคนที่ชอบไดโนเสาร์ Dinosaur Planet ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่น่าไป
- เอาคนรักไดโนเสาร์ก่อนละกันครับ ส่วนตัวผมชอบส่วนของร้านขายของที่ระลึก เพราะมีฟิกเกอร์ดีๆ ให้เลือกซื้อพอสมควร
- ส่วนใครที่ชอบกิจกรรมที่มันส์ขึ้นมาหน่อย ก็แนะนำโซน Raptor X-treme เป็นคล้ายๆ ภารกิจให้เราพยายามฝ่าออกไปกรงแร็พเตอร์ออกไปให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีการวิ่งหนีวิ่งเกิดขึ้นแน่นอน (สำหรับสาวๆ ที่นิยมสวมส้นสูงเป็นชีวิตจิตใจ ผมไม่แน่ใจว่าสกิลการทรงตัวอยู่ระดับไหนกันบ้าง แต่วันนั้นผมใส่ผ้าใบไปก็วิ่งสบายอยู่ครับ) ส่วนรายละเอียดไม่ขอพูดถึงมากเดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์จนหมดสนุกไปซะก่อน ผมมองว่าเค้าบิลด์อารมณ์ได้ดีเลยนะ มีสตอรี่ให้เราเชื่อต่างๆ นานาว่าเรามาจุดจุดนี้ได้ยังไง และจะไปต่อยังไง
4. Dinosaur Planet มีมุมโรแมนติกอยู่เหมือนกัน
- ใครที่เบื่อชิงช้าสวรรค์ที่เอเชียทีคแล้ว ก็ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศได้ที่นี่ครับ ถือว่าเป็นการพักเมื่อยไปในตัว คิดว่าถ้าขึ้นตอนช่วงค่ำๆ คงบรรยากาศดี ไม่ร้อนอบอ้าว แต่ค่าขึ้นก็แอบแรงนิดนึง
- ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 200 บาท
- แต่ตอนที่ผมไป เจ้านี่หรือ Dino Eye ดันปิดซ่อมบำรุงพอดี...ก็ชวดไป
***หมายเหตุ
- ในปาร์คมีอยู่แค่ 2 โซน ที่ต้องจ่ายเพิ่ม คือโซนชิงช้าสวรรค์ แล้วก็ที่ขี่ไดโนเสาร์ (ใกล้ๆ กับบ่อขุดซากฟอสซิล) เห็นว่าเสียค่าขึ้นคนละ 100 บาท เอาไว้พวกเด็กๆ เล่นซะมากกว่า ผมก็ไม่ได้ขี่อ่ะครับ ส่วนตัวรู้สึกว่าดูโข่งไปหน่อย แอบเขินเด็กด้วย
5. Dinosaur Planet เป็นปาร์คกลางแจ้ง ฉะนั้น ร้อนแน่นอน
- พื้นที่ส่วนใหญ่ของไดโนซอร์แพลนเน็ตอยู่กลางแจ้ง บวกกับแดดประเทศไทยแล้ว...ก็ไม่ต้องพูดถึงล่ะครับ ร่ม หมวก เสื้อแขนยาว ยาลม ยาดม ยาหม่อง พัด ฯลฯ เตรียมไปให้พร้อม ใครกลัวดำก็อย่าลืมครีมกันแดดด้วย (เดี๋ยวจะหาว่าโม้ ร้อนไม่ร้อน สังเกตหน้าทีเร็กซ์ดูเอาละกันนะครับ หอบแฮ่กเชียว)
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่ร่มๆ ให้คุ้มแดดเลยครับ มีบางโซนที่อยู่ในอาคาร เช่น Dino District >> อันนี้มีแอร์ด้วย แล้วก็โซนขุดซากฟอสซิล อันนั้นก็เป็นโถงสบายๆ ไม่ได้ติดแอร์ แต่ก็หลบแดดได้ดี แต่ถ้าจะหลบแดดจริงจัง แนะนำให้เข้าไปในโซนขายของที่ระลึกเลยครับ มีที่ให้นั่ง มีห้องน้ำให้เข้า แต่ก็ต้องไปลุ้นหน้างานนิดนึงเพราะคนอาจจะเยอะ
6. บ่าย 3 โมงเย็นเป็นต้นไป เป็นช่วงเวลาเที่ยวที่ชิลที่สุด
- จริงๆ แดดบ่าย 3 สำหรับประเทศไทยก็ยังร้อนอยู่นั่นแหละ แต่เนื่องจากโซนแรกที่ทุกคนได้เข้าคือ Dino District ที่จะเป็นโซนอยู่ในอาคาร มีแอร์เย็นฉ่ำ ผมว่าก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร กว่าจะเที่ยวจนถึงโซน Stars of Dino (โซนที่มีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดสมจริงเยอะๆ น่ะครับ) ก็หายร้อนไปมากแล้ว ยังพอมีแดดให้ได้ถ่ายรูปเล่นบ้าง
- ยิ่งใครจะไปเล่น Raptor X-treme ก็สบายละ เพราะโซนนี้คนเล่นเยอะ ต่อแถวยาว พอแดดไม่ร้อนก็ต่อคิวได้ชิลๆ ใครมาช่วงใกล้ๆ เที่ยงหรือบ่าย ยืนนานๆ อาจจะเป็นลมได้
7. ถ้าอยากดู The Great Volcano แนะนำให้มาช่วงเย็น
- The Great Volcano เป็นโชว์แสงสีเกี่ยวกับมหันตภัยและการอยู่รอดของไดโนเสาร์ และเนื่องจากโชว์ต้องใช้การฉายแสงสีไปที่ฉาก ดังนั้น โชว์จึงเริ่มในช่วงที่ตะวันตกดินไปแล้ว โดยจะฉายวันละ 3 รอบ มีรอบ 18.45, 19.30 และ 20.30 ใครไปช่วงกลางวันก็อาจจะพลาดได้
8. โซน 4D Deep World เปิดให้บริการแล้ว!
- ในช่วงเดือนแรก โซน 4D Deep World ยังไม่เปิดให้บริการ แต่ตอนนี้เพิ่งเปิดให้บริการหมาดๆ เลยครับ ตอนแรกหวั่นๆ ว่าจะต้องจ่ายอะไรเพิ่มหรือเปล่า สรุปคือเข้าชมได้เลยไม่เสียตังค์
- ส่วนตัวคิดว่าเป็นโซนหนึ่งที่ห้ามพลาด สตอรี่ที่เล่ามีที่มาที่ไป ทำให้ (เกือบจะ) เชื่อได้ว่าเหตุการณ์ที่เล่า มันกำลังเกิดขึ้นจริง และเนื้อหาค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว พอเข้าไปจะมีแว่น 4 มิติให้สวม คนที่ใส่แว่น (อย่างผม) ไม่ต้องกังวล เพราะสวมครอบทับแว่นจริงได้เลย (แต่อาจจะหนักๆ ตรงสันจมูกหน่อย)
- คนที่พาเด็กไปด้วยแนะนำว่าให้ระวังนิดนึง เด็กที่ขี้กลัว ขี้ตกใจ หรือกลัวความมืด อาจเสียขวัญกับโซนนี้ได้ เพราะด้วยความที่เป็นระบบ 4D (ที่จำลองเหตุการณ์ว่ากำลังเกิดขึ้นจริง) ก็จะมีแรงเขย่า แรงสะเทือน ฉีดน้ำ และเสียงเอฟเฟ็กต์ตูมตาม ที่ผมเจอคือ หนุ่มน้อยสัก 10-11 ขวบ เดินเช็ดน้ำตาออกมาป้อยๆ
ป.ล. ถ้าคิดจะพาเด็กเล็กๆ มาโซนนี้ แนะนำอย่าให้นั่งติดผนังครับ จะตกใจได้ง่าย แต่ถ้าใครอยากสัมผัส 4D แบบเต็มๆ ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นทำเลทองที่ควรจับจองให้ไว
9. คอยเช็คหน้าเพจบ่อยๆ จะมีส่วนลดค่าผ่านประตูมาเรื่อยๆ
- โดยปกติค่าเข้าจะอยู่ที่คนละ 600 บาท เด็ก 400 บาท ซึ่งเอาจริงก็แอบแพงอยู่ ยิ่งใครมีลูกหลานหลายคนก็อาจมีหนาว (แม้จะอากาศจะร้อนตับแตก) ได้ ดังนั้น ผมแนะนำว่าให้คอยเช็คโปรโมชั่นหน้าเพจบ่อยๆ ครับ มันจะมีส่วนลดมาเรื่อยๆ
- เท่าที่ทราบจากหน้าเพจนะครับ โปรโมชั่นที่มีอยู่ตอนนี้ คือ…
● ลูกค้าธนาคารกรุงเทพรับส่วนลด 20-30% >> มีโปรไปถึง 31 ม.ค. ปีหน้า ไปดูรายละเอียดกันเองอีกทีนะครับว่าใครถือบัตรอะไร เพราะผมเองก็ไม่ได้ใช้ธนาคารนี้
● ลูกค้า AIS รับส่วนลด 15% แต่ถ้าเป็นเซเรเนด ลด 25% >> อันนี้ใช้ได้ถึง 30 มิ.ย.
● ลูกค้าบัตร MCard รับส่วนลด 15% >> อันนี้ไม่ทราบว่าใช้ได้ถึงเมื่อไหร่
***แต่ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกของอะไรเลย ตอนนี้จองออนไลน์ผ่านหน้าเว็บ Dinosaur Planet รับส่วนลด 15%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=933839336736748&id=867856026668413
http://www.dinosaurplanet.net/promotion/
10. วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาปาร์คคือ BTS
- มาลงสถานีพร้อมพงษ์ ออกทางออกที่ 6 เดินย้อนมาทางสวนเบญจสิริ ประมาณ 200 เมตรก็ถึงหน้าปาร์คแล้วครับ
- แต่ถ้าใครเอารถมา เอารถไปจอดที่เอ็มโพเรี่ยมได้ครับ แล้วค่อยเดินมา เพราะในปาร์คไม่มีที่จอดรถ ซึ่งต้องเสียค่าจอดรถเองด้วย
ก็ประมาณนี้ล่ะครับ ทั้งหมด 10 ข้อเท็จจริงที่ผมได้ไป Dinosaur Planet มา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจไม่ก็น้อยนะครับ
ป.ล. ขออนุญาตแท็กห้องชานเรือนด้วยนะครับ เพราะเห็นว่าช่วงนี้เด็กๆ ปิดเทอม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนอยากพาลูกมาเที่ยวใกล้ๆ ในกรุงเทพ
[CR] บันทึกนักเดินทาง] 10 ความจริงเกี่ยวกับ Dinosaur Planet: Tips & Tricks สำหรับที่คนกำลังจะไป
เอาล่ะ เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ถ้าจะไป Dinosaur Planet แล้วล่ะก็…นี่คือ 10 สิ่งที่คุณ (อาจจะ) อยากรู้...
1. Dinosaur Planet ไม่ใช่สวนสนุก แต่เป็นปาร์คกึ่งๆ ศูนย์การเรียนรู้มากกว่า
- ใครคาดหวังว่าจะได้สนุกสนานสุดเหวี่ยงเหมือนไปดรีมเวิลด์ ยูนิเวอร์แซล หรือสวนสยาม อาจจะมาผิดที่นะครับ เพราะไดโนซอร์แพลนเน็ตจะมีไฮไลต์ที่หุ่นไดโนเสาร์เสมือนจริง ที่ขยับได้และส่งเสียงคำรามได้ (แผ่วๆ) อีกทั้งยังมีส่วนที่ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ต่างๆ ลักษณะไข่ไดโนเสาร์ว่าเป็นพวกกินพืชหรือกินเนื้อ (Dino District Zone) และโชว์ (The Great Volcano Zone) ที่เล่าถึงการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์บางส่วนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
2. เด็กๆ จะปลาบปลื้ม Dinosaur Planet แน่นอน
- จากการประเมินด้วยสายตาผมเองนะครับ ส่วนใหญ่เด็กๆ ดูจะสนุกกับสถานที่แห่งนี้ เพราะมีหุ่นไดเสาร์ตัวใหญ่ให้ชี้ชวนกันดู มีไดโนเสาร์ให้ขี่เล่น (Dino Ride) คือมันก็น่าตื่นตาสำหรับเด็กๆ น่ะครับ ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ไปเดินเอาความรู้เฉยๆ อาจตื่นเต้นกับไดโนเสาร์ที่ดูคล้ายของจริงบ้าง แต่คงไม่เท่าเด็กๆ ยกเว้นว่าคุณจะเป็นคอไดโนเสาร์
3. วัยรุ่นหัวใจเด็กและคนที่ชอบไดโนเสาร์ Dinosaur Planet ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่น่าไป
- เอาคนรักไดโนเสาร์ก่อนละกันครับ ส่วนตัวผมชอบส่วนของร้านขายของที่ระลึก เพราะมีฟิกเกอร์ดีๆ ให้เลือกซื้อพอสมควร
- ส่วนใครที่ชอบกิจกรรมที่มันส์ขึ้นมาหน่อย ก็แนะนำโซน Raptor X-treme เป็นคล้ายๆ ภารกิจให้เราพยายามฝ่าออกไปกรงแร็พเตอร์ออกไปให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีการวิ่งหนีวิ่งเกิดขึ้นแน่นอน (สำหรับสาวๆ ที่นิยมสวมส้นสูงเป็นชีวิตจิตใจ ผมไม่แน่ใจว่าสกิลการทรงตัวอยู่ระดับไหนกันบ้าง แต่วันนั้นผมใส่ผ้าใบไปก็วิ่งสบายอยู่ครับ) ส่วนรายละเอียดไม่ขอพูดถึงมากเดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์จนหมดสนุกไปซะก่อน ผมมองว่าเค้าบิลด์อารมณ์ได้ดีเลยนะ มีสตอรี่ให้เราเชื่อต่างๆ นานาว่าเรามาจุดจุดนี้ได้ยังไง และจะไปต่อยังไง
4. Dinosaur Planet มีมุมโรแมนติกอยู่เหมือนกัน
- ใครที่เบื่อชิงช้าสวรรค์ที่เอเชียทีคแล้ว ก็ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศได้ที่นี่ครับ ถือว่าเป็นการพักเมื่อยไปในตัว คิดว่าถ้าขึ้นตอนช่วงค่ำๆ คงบรรยากาศดี ไม่ร้อนอบอ้าว แต่ค่าขึ้นก็แอบแรงนิดนึง
- ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 200 บาท
- แต่ตอนที่ผมไป เจ้านี่หรือ Dino Eye ดันปิดซ่อมบำรุงพอดี...ก็ชวดไป
***หมายเหตุ
- ในปาร์คมีอยู่แค่ 2 โซน ที่ต้องจ่ายเพิ่ม คือโซนชิงช้าสวรรค์ แล้วก็ที่ขี่ไดโนเสาร์ (ใกล้ๆ กับบ่อขุดซากฟอสซิล) เห็นว่าเสียค่าขึ้นคนละ 100 บาท เอาไว้พวกเด็กๆ เล่นซะมากกว่า ผมก็ไม่ได้ขี่อ่ะครับ ส่วนตัวรู้สึกว่าดูโข่งไปหน่อย แอบเขินเด็กด้วย
5. Dinosaur Planet เป็นปาร์คกลางแจ้ง ฉะนั้น ร้อนแน่นอน
- พื้นที่ส่วนใหญ่ของไดโนซอร์แพลนเน็ตอยู่กลางแจ้ง บวกกับแดดประเทศไทยแล้ว...ก็ไม่ต้องพูดถึงล่ะครับ ร่ม หมวก เสื้อแขนยาว ยาลม ยาดม ยาหม่อง พัด ฯลฯ เตรียมไปให้พร้อม ใครกลัวดำก็อย่าลืมครีมกันแดดด้วย (เดี๋ยวจะหาว่าโม้ ร้อนไม่ร้อน สังเกตหน้าทีเร็กซ์ดูเอาละกันนะครับ หอบแฮ่กเชียว)
- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่ร่มๆ ให้คุ้มแดดเลยครับ มีบางโซนที่อยู่ในอาคาร เช่น Dino District >> อันนี้มีแอร์ด้วย แล้วก็โซนขุดซากฟอสซิล อันนั้นก็เป็นโถงสบายๆ ไม่ได้ติดแอร์ แต่ก็หลบแดดได้ดี แต่ถ้าจะหลบแดดจริงจัง แนะนำให้เข้าไปในโซนขายของที่ระลึกเลยครับ มีที่ให้นั่ง มีห้องน้ำให้เข้า แต่ก็ต้องไปลุ้นหน้างานนิดนึงเพราะคนอาจจะเยอะ
6. บ่าย 3 โมงเย็นเป็นต้นไป เป็นช่วงเวลาเที่ยวที่ชิลที่สุด
- จริงๆ แดดบ่าย 3 สำหรับประเทศไทยก็ยังร้อนอยู่นั่นแหละ แต่เนื่องจากโซนแรกที่ทุกคนได้เข้าคือ Dino District ที่จะเป็นโซนอยู่ในอาคาร มีแอร์เย็นฉ่ำ ผมว่าก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร กว่าจะเที่ยวจนถึงโซน Stars of Dino (โซนที่มีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดสมจริงเยอะๆ น่ะครับ) ก็หายร้อนไปมากแล้ว ยังพอมีแดดให้ได้ถ่ายรูปเล่นบ้าง
- ยิ่งใครจะไปเล่น Raptor X-treme ก็สบายละ เพราะโซนนี้คนเล่นเยอะ ต่อแถวยาว พอแดดไม่ร้อนก็ต่อคิวได้ชิลๆ ใครมาช่วงใกล้ๆ เที่ยงหรือบ่าย ยืนนานๆ อาจจะเป็นลมได้
7. ถ้าอยากดู The Great Volcano แนะนำให้มาช่วงเย็น
- The Great Volcano เป็นโชว์แสงสีเกี่ยวกับมหันตภัยและการอยู่รอดของไดโนเสาร์ และเนื่องจากโชว์ต้องใช้การฉายแสงสีไปที่ฉาก ดังนั้น โชว์จึงเริ่มในช่วงที่ตะวันตกดินไปแล้ว โดยจะฉายวันละ 3 รอบ มีรอบ 18.45, 19.30 และ 20.30 ใครไปช่วงกลางวันก็อาจจะพลาดได้
8. โซน 4D Deep World เปิดให้บริการแล้ว!
- ในช่วงเดือนแรก โซน 4D Deep World ยังไม่เปิดให้บริการ แต่ตอนนี้เพิ่งเปิดให้บริการหมาดๆ เลยครับ ตอนแรกหวั่นๆ ว่าจะต้องจ่ายอะไรเพิ่มหรือเปล่า สรุปคือเข้าชมได้เลยไม่เสียตังค์
- ส่วนตัวคิดว่าเป็นโซนหนึ่งที่ห้ามพลาด สตอรี่ที่เล่ามีที่มาที่ไป ทำให้ (เกือบจะ) เชื่อได้ว่าเหตุการณ์ที่เล่า มันกำลังเกิดขึ้นจริง และเนื้อหาค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว พอเข้าไปจะมีแว่น 4 มิติให้สวม คนที่ใส่แว่น (อย่างผม) ไม่ต้องกังวล เพราะสวมครอบทับแว่นจริงได้เลย (แต่อาจจะหนักๆ ตรงสันจมูกหน่อย)
- คนที่พาเด็กไปด้วยแนะนำว่าให้ระวังนิดนึง เด็กที่ขี้กลัว ขี้ตกใจ หรือกลัวความมืด อาจเสียขวัญกับโซนนี้ได้ เพราะด้วยความที่เป็นระบบ 4D (ที่จำลองเหตุการณ์ว่ากำลังเกิดขึ้นจริง) ก็จะมีแรงเขย่า แรงสะเทือน ฉีดน้ำ และเสียงเอฟเฟ็กต์ตูมตาม ที่ผมเจอคือ หนุ่มน้อยสัก 10-11 ขวบ เดินเช็ดน้ำตาออกมาป้อยๆ
ป.ล. ถ้าคิดจะพาเด็กเล็กๆ มาโซนนี้ แนะนำอย่าให้นั่งติดผนังครับ จะตกใจได้ง่าย แต่ถ้าใครอยากสัมผัส 4D แบบเต็มๆ ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นทำเลทองที่ควรจับจองให้ไว
9. คอยเช็คหน้าเพจบ่อยๆ จะมีส่วนลดค่าผ่านประตูมาเรื่อยๆ
- โดยปกติค่าเข้าจะอยู่ที่คนละ 600 บาท เด็ก 400 บาท ซึ่งเอาจริงก็แอบแพงอยู่ ยิ่งใครมีลูกหลานหลายคนก็อาจมีหนาว (แม้จะอากาศจะร้อนตับแตก) ได้ ดังนั้น ผมแนะนำว่าให้คอยเช็คโปรโมชั่นหน้าเพจบ่อยๆ ครับ มันจะมีส่วนลดมาเรื่อยๆ
- เท่าที่ทราบจากหน้าเพจนะครับ โปรโมชั่นที่มีอยู่ตอนนี้ คือ…
● ลูกค้าธนาคารกรุงเทพรับส่วนลด 20-30% >> มีโปรไปถึง 31 ม.ค. ปีหน้า ไปดูรายละเอียดกันเองอีกทีนะครับว่าใครถือบัตรอะไร เพราะผมเองก็ไม่ได้ใช้ธนาคารนี้
● ลูกค้า AIS รับส่วนลด 15% แต่ถ้าเป็นเซเรเนด ลด 25% >> อันนี้ใช้ได้ถึง 30 มิ.ย.
● ลูกค้าบัตร MCard รับส่วนลด 15% >> อันนี้ไม่ทราบว่าใช้ได้ถึงเมื่อไหร่
***แต่ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกของอะไรเลย ตอนนี้จองออนไลน์ผ่านหน้าเว็บ Dinosaur Planet รับส่วนลด 15%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10. วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาปาร์คคือ BTS
- มาลงสถานีพร้อมพงษ์ ออกทางออกที่ 6 เดินย้อนมาทางสวนเบญจสิริ ประมาณ 200 เมตรก็ถึงหน้าปาร์คแล้วครับ
- แต่ถ้าใครเอารถมา เอารถไปจอดที่เอ็มโพเรี่ยมได้ครับ แล้วค่อยเดินมา เพราะในปาร์คไม่มีที่จอดรถ ซึ่งต้องเสียค่าจอดรถเองด้วย
ก็ประมาณนี้ล่ะครับ ทั้งหมด 10 ข้อเท็จจริงที่ผมได้ไป Dinosaur Planet มา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจไม่ก็น้อยนะครับ
ป.ล. ขออนุญาตแท็กห้องชานเรือนด้วยนะครับ เพราะเห็นว่าช่วงนี้เด็กๆ ปิดเทอม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนอยากพาลูกมาเที่ยวใกล้ๆ ในกรุงเทพ