เธอชอบทะเล ไปเที่ยวทะเลกับผมมาก็หลายที่ แต่เธอไม่เคยมาเที่ยวทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันเลย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมและเธอ
ที่ได้มาเที่ยว จ.ภูเก็ต จากอานิสงค์โปรโมชั่นของสายการบินไทยแอร์เอเชีย บินไป – กลับในราคาที่ไม่แรงมากนัก
โดยผมทำการจองไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี ก่อนจองผมรู้แค่ว่า จ.ภูเก็ตทะเลสวย มีโรงแรมชื่อดังอยู่หลายที่และมีแหลมพรหมเทพ
จากนั้นผมก็เริ่มหาข้อมูลที่เที่ยว ที่ทาน ที่พัก จากห้องบลู ฯ นี่แหละ ว่าจ.ภูเก็ตมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
นั่นคือจุดเริ่มต้นเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้
*** ขอออกตัวก่อนว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งนี้ ผมจ่ายเองทั้งหมด ยกเว้นค่าที่พัก
ที่โรงแรมเพียงแต่ลดราคาให้ผมลงครึ่งนึง และค่าทัวร์วันเดย์ทริป ลดให้ 400 บ. * 2 คน = 800 บ. เท่านั้นนะครับ ***

เช้าวันนี้ผมและเธอตื่นนอนกันตั้งแต่ 4.30 น. รีบอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านตอน 5.30 น. เพื่อมาขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง
ตอน 8.00 น. แง แง หนูยังง่วงอยู่เลยค่ะ

เราเดินทางไปกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ขึ้นเครื่องที่ประตู 51 ซึ่งผมเข้าใจว่าหลังจากที่ Pier นี้ถูกปิดมานานหลายปี
ก็น่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อม ๆ กันกับที่สนามบินดอนเมืองเปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เพราะทุกอย่างถูกปรับปรุงใหม่หมดเลย

ที่ประตู 51 นี้เอง จะมีร้านขายของและจุดนั่งรอเครื่องบินของอินเด็กซ์ ให้ได้ใช้บริการกันด้วย บรรยากาศดี
เมื่อแรกผมก็ไม่กล้าเข้าไปนั่ง เพราะคิดว่าเค้ามีไว้ขายตั้งโชว์ แต่ไม่ใช่นะครับ

ผมเองมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองหลายครั้งแล้ว ก็เพิ่งจะได้ใช้ประตู 51 เป็นครั้งแรกนี่แหละ

มีมุมให้คุณหนูตัวน้อยไว้นั่งเล่นแก้เบื่อระหว่างรอเครื่องบินด้วย

Attention please. Thai airasia Flight FD3037 now bording a gate no.51 !!! a gate no.51 !!! Thank you.
เสียงพนักงานสวยสาวประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เราต้องรีบไปต่อแถวแล้วล่ะ

นั่งชมวิวอยู่เพลิน ๆ นักบินก็เปิดสปีด เบรก เป็นสัญญาณบอกว่าอีกเดี๋ยวคงลดระดับลงจอดแล้ว

นักบินทำ Approach ไปหาสนามบินและร่อนลงตามแผนการบินที่วางไว้

จากนั้นเราไปรับรถที่ผมได้เช่าไว้กับบริษัทบั๊ดเจ็ด โชคดีได้อัพเกรดรถจากอีโค่คาร์ ที่ผมจองมาในครั้งแรก
เป็นซิตี้คาร์ ชื่อรุ่นซิตี้ซะด้วยสิ พร้อมประกันชั้น 1 และผมซื้อประกันรถหายเพิ่มอีกวันละ 54 บ.

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากรับรถแล้ว เราก็รีบบึ่งเจ้าฮอนด้า ซิตี้มายังร้านหมี่ฮกเกี๊ยนและปอเปี๊ยะ ลกเที้ยน ทันที
เพราะตั้งแต่เช้าเราสองคนยังไม่ได้ทานอะไรเลย

อยากสั่งอะไรก็เลือกเอาจากเมนูที่พนักงานเสิร์ฟพูดแล้วผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนำมาให้ได้เลยนะครับ

ปอเปี๊ยะที่เธอลองสั่งมา โดยแป้งที่เค้านำมาห่อนั้นมีลักษณะเหมือนแป้งที่เราเอามาห่อทานโรตีสายไหมน่ะครับ
แปลกดีไม่เคยทานปอเปี๊ยะแบบนี้ รสชาติอร่อยดีเหมือนกันแต่เผ็ดนิดนึง

ต่อมาเป็นหมี่ฮ๊กเกี๊ยนต้มยำ ใส่ไข่ต้ม อันนี้ขอแนะนำเลย อร่อยครับ

ชามละ 50 บ. อาจจะแพงนิด แต่ไม่เป็นไร นาน ๆ มาที และเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย

อิ่มแล้ว มีแรงเดินทางต่อไปยังโรงแรมแล้วล่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม คาลิม่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต

มาถึงปุ๊บคุณพนักงานก็นำน้ำใบเตยใส่แก้วเก๋ ๆ ทรงกระบอกเย็นชื่นใจมาให้ทาน พร้อมผ้าเย็นสำหรับไว้เช็ดหน้า

อร่อยดี อยากจะขอเพิ่มแต่เกรงใจคุณน้องพนักงาน

โรงแรม Kalima Resort & Spa Phuket ตั้งอยู่ที่หาดกะหลิม ไม่ห่างกันนักจากหาดป่าตอง

ตัวโรงแรมออกแบบสไตล์ไทยคอนเทมโพรารี่ คือร่วมสมัยไม่ไทยหรือไม่โมเดิร์นจนเกินไปนัก
และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่ (ภาคใต้) จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย

ล๊อบบี้ของที่นี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นแบบโอเพ่นแอร์ สูง โปร่ง

แต่ในยามฤดูร้อนตอนเที่ยงก็รู้สึกจะอบอ้าวไปนิดนะครับ

เช้า ๆ ก่อน 8.00 น. นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวออกทะเลแบบ วัน เดย์ ทริป ก็จะมานั่งรอทัวร์มารับ

นั่งรอห้องพักอยู่เกือบชั่วโมง คุณน้องพนักงานก็นำคีย์การ์ดมาให้ ได้ขึ้นห้องแล้วจ้า

ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบ ดีลักซ์ ซีวิว

ตัวโรงแรมไม่ติดทะเล แต่สามารถชมวิวทะเล ได้จากภายในห้องพักเลย

สำหรับคนรักทะเล วิวนี้ก็คงพอทดแทนชายหาดส่วนตัวได้นะครับ

ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบครัน สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้แม้กระทั่งเข็ม - ด้าย

มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ฮูหยินของผมเธอชอบใจใหญ่ ดูเธอจะโปรดปรานไม่น้อย เพราะหล่อนแช่ตัวทุกคืนก่อนนอน

และนี่ เรน ชาวเวอร์ ของโปรดของผม เดี๋ยวคืนนี้จะยืนอาบให้สมใจ

ต่อมา ผมจะพามาชมห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซ ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของที่นี่

ตั้งอยู่ชั้นที่ 6 ของโรงแรม มีลานกว้าง ๆ ด้านหน้าห้องอาหารสามารถจัดกิจกรรม จัดเลี้ยงต่าง ๆ ได้

เปิดให้บริการทั้งวันเป็นแบบ ออลเดย์ ไดน์นิ่ง

รวมถึงอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ก็จะใช้ห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซนี่แหละ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น.

นั่งทานอาหารเช้าไป ชมวิวทะเล วิวภูเขาไป ช่วยเจริญอาหารดีนะครับ

อาหารเช้าก็มีให้เลือกทานหลายชนิด ไส้กรอกหมู ไก่ แฮม ข้าวผัด ขนมปังนานาชนิด

คอนเฟล็กและซีเรียลต่าง ๆ ผสมนมที่ผมชอบทาน

มีมุมก๋วยเตี๋ยวด้วย มาเป็นรถเข็นเลยได้บรรยากาศดี ผมลองสั่งเส้นเล็กน้ำ เนื้อเปื่อยมาทานก็อร่อยดีไม่ผิดหวัง

และยังเราสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากลานกว้าง ๆ หน้าห้องอาหารแห่งนี้อีกด้วย

มื้อเย็น ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมที่ไหน ลองขึ้นมาทานอาหารที่นี่นะครับ

โดยทางโรงแรมจัดบุฟเฟ่ต์อาหารชนิดต่าง ๆ สับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน เช่น อินเตอร์เนชั่นแนล ดินเนอร์
หรือพิซซ่า บุฟเฟ่ต์ และอาหารไทย บุฟเฟ่ต์ สนนราคาราคาท่านละ 690 บ.
แถมไวน์ 1 แก้ว ส่วนคุณหนูตัวน้อยคิดครึ่งราคา แต่เปลี่ยนจากไวน์เป็นซอฟท์ดริ้งแทน

บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ นั่งทานอาหารชมวิวทะเลหาดป่าตองพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกกับครอบครัว
หรือใครมากัน 2 คนเป็นคู่รักก็ดูจะโรแมนติกไม่น้อย

ต่อมาผมจะพาไปชมสระว่ายน้ำของที่นี่กันครับ ชื่อว่า ทรีโอ้ พูลบาร์

ทรีโอ้ พูลบาร์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาด้านหน้าชั้นที่ 2 ชองตัวโรงแรม

ด้วยความที่อยู่บนเชิงเขานี่เองทำให้เราสามารถมองเห็นทะเลหาดป่าตองและหาดกะหลิมได้เต็ม ๆ ตา

ทั้งวันไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็จะเห็นแขกที่มาพักมาใช้บริการกันตลอด ถึงแดดจะร้อนแต่คุณฝรั่งคู่นี้ก็ยังสู้ไม่ถอย

ก็ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายน้ำและชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าไปพร้อมกัน

ว่ายน้ำกันเพลิน ๆ หากใครหิวขึ้นมาก็สามารถสั่งอาหารเบา ๆ ทานเล่นรองท้องจากบาร์ริมสระน้ำได้เลย

วิวโรงแรมยามเย็นเห็นแล้วสบายใจจังครับ

เช้าวันนี้ผมและเธอจองทัวร์ วันเดย์ทริป ไปดำน้ำ เที่ยวเกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะไข่ กับทางภูเก็ต สกายทัวร์
เราสองคนต้องรีบทานอาหารเช้า เพราะรถตู้จะมารับตอน 7.45 น.

ก่อนลงเรือ จะมีพี่ไกด์มาบรรยายสรุปถึงการเดินทางและความปลอดภัยของเราในวันนี้

จากนั้นก็จะแบ่งนักท่องเที่ยวลงเรือตามสีของสติ๊กเกอร์ที่แปะกับเสื้อ โดยผมและเธอเป็นเพียงคนไทย 2 คนในทริปนี้

นั่งเรือมาได้พักใหญ่ พี่ไกด์ก็แจกหน้ากากสน็อกเกิล พร้อมอธิบายวิธีใช้ และบอกว่าเราจะจอดเรือตรงนี้
เพื่อให้ดำน้ำดูปลา ดูปะการังเป็นเวลา 30 นาที

ฮูหยินของผมเธอว่ายน้ำไม่เป็นก็ได้คุณพี่ทีมงานใจดี เอาห่วงยางมาให้เกาะพร้อมว่ายน้ำลากห่วงยางให้

นี่ไง โฉมหน้าคุณพี่ใจดี
[CR][SR] + + + ตามผมมา ผมจะพาไปเที่ยวทะเลภูเก็ต พักโรงแรม Kalima Resort & Spa + + +
ที่ได้มาเที่ยว จ.ภูเก็ต จากอานิสงค์โปรโมชั่นของสายการบินไทยแอร์เอเชีย บินไป – กลับในราคาที่ไม่แรงมากนัก
โดยผมทำการจองไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี ก่อนจองผมรู้แค่ว่า จ.ภูเก็ตทะเลสวย มีโรงแรมชื่อดังอยู่หลายที่และมีแหลมพรหมเทพ
จากนั้นผมก็เริ่มหาข้อมูลที่เที่ยว ที่ทาน ที่พัก จากห้องบลู ฯ นี่แหละ ว่าจ.ภูเก็ตมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
นั่นคือจุดเริ่มต้นเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้
*** ขอออกตัวก่อนว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งนี้ ผมจ่ายเองทั้งหมด ยกเว้นค่าที่พัก
ที่โรงแรมเพียงแต่ลดราคาให้ผมลงครึ่งนึง และค่าทัวร์วันเดย์ทริป ลดให้ 400 บ. * 2 คน = 800 บ. เท่านั้นนะครับ ***
เช้าวันนี้ผมและเธอตื่นนอนกันตั้งแต่ 4.30 น. รีบอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านตอน 5.30 น. เพื่อมาขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง
ตอน 8.00 น. แง แง หนูยังง่วงอยู่เลยค่ะ
เราเดินทางไปกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ขึ้นเครื่องที่ประตู 51 ซึ่งผมเข้าใจว่าหลังจากที่ Pier นี้ถูกปิดมานานหลายปี
ก็น่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อม ๆ กันกับที่สนามบินดอนเมืองเปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เพราะทุกอย่างถูกปรับปรุงใหม่หมดเลย
ที่ประตู 51 นี้เอง จะมีร้านขายของและจุดนั่งรอเครื่องบินของอินเด็กซ์ ให้ได้ใช้บริการกันด้วย บรรยากาศดี
เมื่อแรกผมก็ไม่กล้าเข้าไปนั่ง เพราะคิดว่าเค้ามีไว้ขายตั้งโชว์ แต่ไม่ใช่นะครับ
ผมเองมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองหลายครั้งแล้ว ก็เพิ่งจะได้ใช้ประตู 51 เป็นครั้งแรกนี่แหละ
มีมุมให้คุณหนูตัวน้อยไว้นั่งเล่นแก้เบื่อระหว่างรอเครื่องบินด้วย
Attention please. Thai airasia Flight FD3037 now bording a gate no.51 !!! a gate no.51 !!! Thank you.
เสียงพนักงานสวยสาวประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เราต้องรีบไปต่อแถวแล้วล่ะ
นั่งชมวิวอยู่เพลิน ๆ นักบินก็เปิดสปีด เบรก เป็นสัญญาณบอกว่าอีกเดี๋ยวคงลดระดับลงจอดแล้ว
นักบินทำ Approach ไปหาสนามบินและร่อนลงตามแผนการบินที่วางไว้
จากนั้นเราไปรับรถที่ผมได้เช่าไว้กับบริษัทบั๊ดเจ็ด โชคดีได้อัพเกรดรถจากอีโค่คาร์ ที่ผมจองมาในครั้งแรก
เป็นซิตี้คาร์ ชื่อรุ่นซิตี้ซะด้วยสิ พร้อมประกันชั้น 1 และผมซื้อประกันรถหายเพิ่มอีกวันละ 54 บ.
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากรับรถแล้ว เราก็รีบบึ่งเจ้าฮอนด้า ซิตี้มายังร้านหมี่ฮกเกี๊ยนและปอเปี๊ยะ ลกเที้ยน ทันที
เพราะตั้งแต่เช้าเราสองคนยังไม่ได้ทานอะไรเลย
อยากสั่งอะไรก็เลือกเอาจากเมนูที่พนักงานเสิร์ฟพูดแล้วผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนำมาให้ได้เลยนะครับ
ปอเปี๊ยะที่เธอลองสั่งมา โดยแป้งที่เค้านำมาห่อนั้นมีลักษณะเหมือนแป้งที่เราเอามาห่อทานโรตีสายไหมน่ะครับ
แปลกดีไม่เคยทานปอเปี๊ยะแบบนี้ รสชาติอร่อยดีเหมือนกันแต่เผ็ดนิดนึง
ต่อมาเป็นหมี่ฮ๊กเกี๊ยนต้มยำ ใส่ไข่ต้ม อันนี้ขอแนะนำเลย อร่อยครับ
ชามละ 50 บ. อาจจะแพงนิด แต่ไม่เป็นไร นาน ๆ มาที และเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย
อิ่มแล้ว มีแรงเดินทางต่อไปยังโรงแรมแล้วล่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม คาลิม่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต
มาถึงปุ๊บคุณพนักงานก็นำน้ำใบเตยใส่แก้วเก๋ ๆ ทรงกระบอกเย็นชื่นใจมาให้ทาน พร้อมผ้าเย็นสำหรับไว้เช็ดหน้า
อร่อยดี อยากจะขอเพิ่มแต่เกรงใจคุณน้องพนักงาน
โรงแรม Kalima Resort & Spa Phuket ตั้งอยู่ที่หาดกะหลิม ไม่ห่างกันนักจากหาดป่าตอง
ตัวโรงแรมออกแบบสไตล์ไทยคอนเทมโพรารี่ คือร่วมสมัยไม่ไทยหรือไม่โมเดิร์นจนเกินไปนัก
และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่ (ภาคใต้) จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย
ล๊อบบี้ของที่นี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นแบบโอเพ่นแอร์ สูง โปร่ง
แต่ในยามฤดูร้อนตอนเที่ยงก็รู้สึกจะอบอ้าวไปนิดนะครับ
เช้า ๆ ก่อน 8.00 น. นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวออกทะเลแบบ วัน เดย์ ทริป ก็จะมานั่งรอทัวร์มารับ
นั่งรอห้องพักอยู่เกือบชั่วโมง คุณน้องพนักงานก็นำคีย์การ์ดมาให้ ได้ขึ้นห้องแล้วจ้า
ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบ ดีลักซ์ ซีวิว
ตัวโรงแรมไม่ติดทะเล แต่สามารถชมวิวทะเล ได้จากภายในห้องพักเลย
สำหรับคนรักทะเล วิวนี้ก็คงพอทดแทนชายหาดส่วนตัวได้นะครับ
ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบครัน สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้แม้กระทั่งเข็ม - ด้าย
มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ฮูหยินของผมเธอชอบใจใหญ่ ดูเธอจะโปรดปรานไม่น้อย เพราะหล่อนแช่ตัวทุกคืนก่อนนอน
และนี่ เรน ชาวเวอร์ ของโปรดของผม เดี๋ยวคืนนี้จะยืนอาบให้สมใจ
ต่อมา ผมจะพามาชมห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซ ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของที่นี่
ตั้งอยู่ชั้นที่ 6 ของโรงแรม มีลานกว้าง ๆ ด้านหน้าห้องอาหารสามารถจัดกิจกรรม จัดเลี้ยงต่าง ๆ ได้
เปิดให้บริการทั้งวันเป็นแบบ ออลเดย์ ไดน์นิ่ง
รวมถึงอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ก็จะใช้ห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซนี่แหละ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น.
นั่งทานอาหารเช้าไป ชมวิวทะเล วิวภูเขาไป ช่วยเจริญอาหารดีนะครับ
อาหารเช้าก็มีให้เลือกทานหลายชนิด ไส้กรอกหมู ไก่ แฮม ข้าวผัด ขนมปังนานาชนิด
คอนเฟล็กและซีเรียลต่าง ๆ ผสมนมที่ผมชอบทาน
มีมุมก๋วยเตี๋ยวด้วย มาเป็นรถเข็นเลยได้บรรยากาศดี ผมลองสั่งเส้นเล็กน้ำ เนื้อเปื่อยมาทานก็อร่อยดีไม่ผิดหวัง
และยังเราสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากลานกว้าง ๆ หน้าห้องอาหารแห่งนี้อีกด้วย
มื้อเย็น ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมที่ไหน ลองขึ้นมาทานอาหารที่นี่นะครับ
โดยทางโรงแรมจัดบุฟเฟ่ต์อาหารชนิดต่าง ๆ สับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน เช่น อินเตอร์เนชั่นแนล ดินเนอร์
หรือพิซซ่า บุฟเฟ่ต์ และอาหารไทย บุฟเฟ่ต์ สนนราคาราคาท่านละ 690 บ.
แถมไวน์ 1 แก้ว ส่วนคุณหนูตัวน้อยคิดครึ่งราคา แต่เปลี่ยนจากไวน์เป็นซอฟท์ดริ้งแทน
บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ นั่งทานอาหารชมวิวทะเลหาดป่าตองพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกกับครอบครัว
หรือใครมากัน 2 คนเป็นคู่รักก็ดูจะโรแมนติกไม่น้อย
ต่อมาผมจะพาไปชมสระว่ายน้ำของที่นี่กันครับ ชื่อว่า ทรีโอ้ พูลบาร์
ทรีโอ้ พูลบาร์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาด้านหน้าชั้นที่ 2 ชองตัวโรงแรม
ด้วยความที่อยู่บนเชิงเขานี่เองทำให้เราสามารถมองเห็นทะเลหาดป่าตองและหาดกะหลิมได้เต็ม ๆ ตา
ทั้งวันไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็จะเห็นแขกที่มาพักมาใช้บริการกันตลอด ถึงแดดจะร้อนแต่คุณฝรั่งคู่นี้ก็ยังสู้ไม่ถอย
ก็ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายน้ำและชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าไปพร้อมกัน
ว่ายน้ำกันเพลิน ๆ หากใครหิวขึ้นมาก็สามารถสั่งอาหารเบา ๆ ทานเล่นรองท้องจากบาร์ริมสระน้ำได้เลย
วิวโรงแรมยามเย็นเห็นแล้วสบายใจจังครับ
เช้าวันนี้ผมและเธอจองทัวร์ วันเดย์ทริป ไปดำน้ำ เที่ยวเกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะไข่ กับทางภูเก็ต สกายทัวร์
เราสองคนต้องรีบทานอาหารเช้า เพราะรถตู้จะมารับตอน 7.45 น.
ก่อนลงเรือ จะมีพี่ไกด์มาบรรยายสรุปถึงการเดินทางและความปลอดภัยของเราในวันนี้
จากนั้นก็จะแบ่งนักท่องเที่ยวลงเรือตามสีของสติ๊กเกอร์ที่แปะกับเสื้อ โดยผมและเธอเป็นเพียงคนไทย 2 คนในทริปนี้
นั่งเรือมาได้พักใหญ่ พี่ไกด์ก็แจกหน้ากากสน็อกเกิล พร้อมอธิบายวิธีใช้ และบอกว่าเราจะจอดเรือตรงนี้
เพื่อให้ดำน้ำดูปลา ดูปะการังเป็นเวลา 30 นาที
ฮูหยินของผมเธอว่ายน้ำไม่เป็นก็ได้คุณพี่ทีมงานใจดี เอาห่วงยางมาให้เกาะพร้อมว่ายน้ำลากห่วงยางให้
นี่ไง โฉมหน้าคุณพี่ใจดี
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว