คือก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนนะว่าชื่อเราจะใช้นามสมมุตินะ เพื่อไม่เป็นการพาดพิงถึงบุคคลที่สามจนเกินไป เข้าเรื่องเลยแล้วกันเรื่องนี้เกิดตั้งแต่เราอยู่ม.3ค่ะ ตอนนี้เราอยู่ม.6แล้ว แล้วรุ่พี่คนนั้นก็จบไปแล้วด้วย แต่เราก็ยังรักรุ่นพี่คนนั้นอยู่นะคะ เมื่อก่อนพี่เค้าไม่ใช่คนดังอะไรค่ะเป็นธรรมดาทั่วไปเลยไม่ได้โดเด่นอะไรเลย เรียกได้ว่าถานันดรที่ไร้ตัวตนนี่แหละค่ะ พี่เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะค่ะ เพราะว่าเค้าเรียนโรงเรียนนี้ตั้งแต่ม.ต้น แล้วต่อม.ปลายที่เดิมกันสะส่วนใหญ่ เลิทเทิส ชื่อพี่เค้าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ส่วนเราชื่อน้ำ ก่อนที่เราจะมาชอบพี่เค้าได้เราเคยทะเลาะกันมาก่อนค่ะ แบบเกลียดขี้หน้าเลย เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนม.2 เราไปเล่นวอลเลย์บอลกับเพื่อนเราที่สนาม แล้วพี่เค้ามาขอเล่นด้วยแล้วโกงเราค่ะ เพื่อนเราไม่พอใจก็เลยพลานทะเลาะกันไปด้วยถึงกับด่าพ่อกันเลย แต่พี่คนที่เราชอบเค้ากลับไม่ว่าอะไรเลย ยืนมองเพื่อนทะเลาะกับเพื่อนเรา55555 (นี่ไม่คิดจะห้ามเลยช้ะ) หลังจากนั้นก็จบไปไม่มีอะไรค่ะ เจอหน้ากันบ้างเวลาเดินเรียนเปลี่ยนคาบ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย พอเราขึ้นม.3 โรงอสหารที่โรงเรียเค้าจะแบ่งโซนระดับชั้นค่ะ นั่งได้โซนละ2 ม. แต่พี่เค้สชอบมานั่งโซนของม.3 ค่ะ เราเลยมีโอกาสได้นั่งโต๊ะข้างกันตลอด ตอนเช้าพี่เค้ากับเพื่อนฝาแฝดตัวแสบ. จะชอบไปนั่งลอกการบ้านผู้หญิงทุกวัน ส่วนกลุ่มเราก็จะไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหารทุกวัน จนมันเป็นปกติไปแล้วอ่าที่เราเดินเข้าโรงอาหารมาจะต้องเห็นกลุ่มพี่เค้า
ความรักมันเริ่มต้นจากวันนึงค่ะ พี่เค้าก็มานั่งที่โรงอาหารเหมือนเดิมเลยแต่วันนี้มันแปลกตรงพี่เค้าไม่ได้มาลอกการบ้านค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้กินข้าวเข้าเพราะไม่หิวจริงๆ เราเลยนั่งฟุ่บหน้าลงกับโต๊ะแล้วหันไปทางพี่เค้า พอเรามองไปก็เห็นพี่เค้านั่งท่าเดียวกันกับเราแล้วหันหน้ามาทางนี้ ตอนนั้นพี่เค้าหลับตาอยู่ค่ะ ใส่หูฟังด้วย เราก็มองพี่เค้าสักพัก แล้วก็เผลอคิดว่าพี่เค้าก็น่ารักดีนะ ตัวสูง ผิวขาว พูดน้อยนิ่งๆแบบที่เราชอบเลย เรามองข้ามพี่เค้าไปได้ไงน้าาา แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นค่ะ พี่เค้าลืมตาขึ้นมามอง นั่นแหละครั้งแรกที่เราได้สบตากันบอกเลยว่าตอนนั้นใจสั่นมากค่ะ มือสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ก็ยังมองตากันอยู่นะคะ พี่เค้าก็ไม่ยอมหลบตาด้วย สักพักเราเลยคัดสินใจหันหน้าหนี แล้วอมยิ้มอยู่คนเดียวนั่นแหละค่ะจุดเริ่มต้นของการแอบรัก. เราเริ่มโรงเรียนไวขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นหน้าพี่เค้านานๆ เริ่มสังเกตุว่าพี่เค้าชอบกินอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มาโรงเรียนกี่โมง กลับบ้านทางไหน เรียนอะไรบ้างวันๆนึง เพื่อนพี่เค้าชื่ออะไรบ้าง รู้แม่กระทั่งเบอร์รองเท้า(เกินไปป้ะ5555. ไม่หรอกใครที่เคยแอบชอบจะรู้ว่าทำได้ทุกอย่างจริงๆ) เอาเป็นว่าสืบทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่เค้า แล้วเราก็รู้ว่าพี่เค้ากลับบ้านทางเดียวกันกับเรา รู้ว่าเรียนคาบสุดท้ายห้องไหน เรานั่งรอกลับบ้านพร้อมพี่เค้าทุกวันเลยค่ะ โชคดีหน่อยมีเพื่อนอีคนรอเป็นเพื่อน นางชื่อเฟิร์นค่ะ. นางก็แอบชอบหนึ่งในแฝดของพี่เค้าเหมือนกัน แต่จะไม่บอกนะว่าใคร ทีอรกนางก็ไม่ยอมรับ แต่สักพักนางก็บอกเราเป็นเพื่อนกันมาคั้งแต่ป.1ค่ะ เลยสนิทกันหน่อย เนี่ยคู่หูรอผู้ชายเลย55555555. ตอนเย็นเราขะมารอกลับบ้านพร้อมพี่เค้าทุกวันเลย เราเลิก 3โมง10ค่ะ พี่เค้าเลิก 4โมง10 แค่กว่าพี่เค้าจะเล่นกัน หาอะไรกินกันก็ 5 โมงครึ่งค่ะ กว่าพี่เค้าจะเดินมาป้ายรถเมย์กัน. เราต้องรอแบบนี้ทุกวันอย่างน้อยก็2 ชั่งโมงค่ะหลังๆเพื่อนในกลุ่มเริ่มกลับบ้านเย็นเราก็เลยไม่เหงากันแล้ว ในขณะที่รอพี่เค้าเรียนเราก็ไปนั่งดูนักบอลซ้อม 55555 นักบอลหุ่นล่ำๆ ตัวสูง เหงื่อท่วมตัว เวลาวิ่งผ่านทีนี่ เซ็กซี่ขยี้ใจมากอ่ะ (เริ่มหื่นละ) ข้ามไปแล้วกันเรื่องนี้เข้าเนื้อเลย วันนึงค่ะฝนตก มันเป็นความทรงจำที่ฟินมากอ่า ติดรถอยู่ป้ายรถเมย์เดียวกัน ถึงจะไม่สองค่อสองก็ตาม วันนั้นฝนตกหนักมากค่ะทีแรกเราถอดใจล้ะพี่เค้าคงไม่ออกมาง่ายๆแน่เลย เกือบตัดสินใจจะขึ้นรถกลับก่อนละ แต่พอหันกับหลังไปดู ครั้งสุดท้ายเราเห็นกลุ่มพี่เค้าวิ่งผ่านฝนมา. ตัวนี่เปียกเลย ตอนนั้นใจเต้นแรงมากอ่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอื้อไปหมดเลยบอกความรู้สึกไปถูกเลย ป้ายรถเมล์มีเรากับเฟิร์นแค่2คนค่ะ แล้วป้ายรถเมล์ก็ใหญ่พอสมควร พี่เค้าเลยยืนห่างหน่อย แต่สักพักฝนเริ่มตกหนักขึ้นค่ะ โชคร้ายหน่อยฝนดันมาสาดฝั่งที่เรานั่ง ตอนนั้นจะขยับหนีฝนก็อายเบาๆ แบบกลัวพี่เค้าขำ แต่เหมือนพี่เค้าจะรู้อ่า พี่เค้ายืนเบียดเพื่อนให้แบบขยับไปประมานว่าให้น้องเขาขยับเข้าร่มประมาณนี้เลย เราเลยกล้าๆขยับเข้าไป คือจะบอกว่าพวกพี่เค้าไม่นั่งสักคนเลยค่ะทั้งๆที่ป้ายว่างมาก. จะนั่งก็ได้ พอเราขยับเข้าไปอันนี้ไม่รู้ว่าคิดเองรึเปล่านะ พี่เค้าเหมือนขยับมายืนบังฝนสาดให้เลย คือตอนนั้นเราใกล้กันมาจริงๆค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่ได้นั่งแล้ว ใจนี่เต้นแรงแบบจะตายตรงให้ให้ได้ หน้านี่แบบร้อนผ่าวเลยอ่ะ ยิ่งตอนที่ได้กลิ่นหอมๆจากตัวพี่เค้านะ แทบจะหยุดหายใจเลยจริงๆนะ มันเป็นอะไรที่ฟินมากอ่า เหตุการวันนั้นทำให้เราตัดสินใจล้ะว่าเราจะเดินหน้าจีบพี่เค้าอย่างจริงจัง กบับบ้านมาเราก็ทักเฟสพี่เค้าไปเลยจ้า รอนานมากอ่ากว่าพี่เค้าจะตอบ ช่วงแรกๆก็แบบทักบ่อยหน่อย2 วันทักทีพี่เค้าก็ถามกลับเป็นบางอย่าง แต่สักอาทิตย์เริ่มไม่ทักละ เพราะพี่เค้าถามคำตอบคำคิดว่าคงไม่อยากคุยด้วยเลยเลิกทักไป เราเลยมาคุยกับเพิ่อนว่าเอาไงดี เราต้องมีตัวตนในสายตาพี่เค้าให้ได้. เราเลยไปนั่งกินร้านที่พี่เค้ากินทุกวันเลยจ้า ไปเมาท์กับป้าคนขายบ้างเพราะป้าคนขายสนิทกับพวกพี่เค้ามากเพราะลูก ป้าก็เหมือนเล่าเรื่องเราให้พี่เค้าฟัง แล้วก็คงเล่าเรื่องเราให้พี่เค้าฟังด้วยเพราะดูพี่เค้าเริ่มสนใจเรามากขึ้นเริ่มมอง เพื่อนพร่เค้าเริ่มล้อพี่เค้า แซวเราด้วย ^^ ในที่สุดวันวาเลนไทน์ก็มาถึง นั่นเป็นเป็นที่ตั่งใจจะบอกรักพี่เค้าเลย แต่ทุกอย่างมันไม่เป็นไปย่างที่คาดเลย พี่เค้าไม่มาโรงอาหารแบบทุกวัน แม่แต่เพื่อนดลุ่มสนิทพี่เค้าก็ไม่มา เราว่าวันนี้คงไม่เจอพี่เค้าเลยให้ช็อกโกแลตกับรุ่นพี่คนนึง เราสนิทกันค่ะพี่เค้าชอบมานั่งร้องเพลงโต๊ะตรงข้ามทุกวันพี่เค้าเล่นดนตรีเก่งมากอ่า แบบชอบมากอ่า แต่เหมือนนั่นจะเป็นความผิด

เลยพี่เค้าดันเดินมาเห็นพอดี แบบหลังจากนั้นพี่เค้าก็เดินออกจากโรงอาหารไปเลย เราเดินผ่านตอนเลิกแถวพี่เค้านี่ทำแบบเราไม่มีคัวตนเลย วันนั้นคาบแรกเราเรียนคอมเราก็รีบส่องเฟสพี่เค้าเลยค่ะ ปรากฏว่าพี่เค้าบล็อกเฟสเรา โหตอนนั้นน้ำตาคลอเลย

เอ้ยอย่างพลาดอ่า เรานี่แบบไม่ยิ้มทั้งวันอ่า. ไม่อยากทำอะไรอีกเลย หลังจากวันนั้นพี่เค้าก็ไม่มานั่งที่โรงอาหารอีกเลย หลบหน้า แบบไม่เจอเลยอ่าจนเราท้อเลย แบบบอกคัวเองล้ะตัดใจ ช่วงม.3 ไม่ค่อยมีอะไรมาก จะหนักหน่อยก็ตอนม.4. ตอนนี้นี่แบบทั้งเจ็บทั้งจุกเลย. แต่มันเป็นการจากกันที่ดีจริงๆ (มีต่อ)
ประสบการณ์แอบรักรุ่นพี่
ความรักมันเริ่มต้นจากวันนึงค่ะ พี่เค้าก็มานั่งที่โรงอาหารเหมือนเดิมเลยแต่วันนี้มันแปลกตรงพี่เค้าไม่ได้มาลอกการบ้านค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้กินข้าวเข้าเพราะไม่หิวจริงๆ เราเลยนั่งฟุ่บหน้าลงกับโต๊ะแล้วหันไปทางพี่เค้า พอเรามองไปก็เห็นพี่เค้านั่งท่าเดียวกันกับเราแล้วหันหน้ามาทางนี้ ตอนนั้นพี่เค้าหลับตาอยู่ค่ะ ใส่หูฟังด้วย เราก็มองพี่เค้าสักพัก แล้วก็เผลอคิดว่าพี่เค้าก็น่ารักดีนะ ตัวสูง ผิวขาว พูดน้อยนิ่งๆแบบที่เราชอบเลย เรามองข้ามพี่เค้าไปได้ไงน้าาา แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นค่ะ พี่เค้าลืมตาขึ้นมามอง นั่นแหละครั้งแรกที่เราได้สบตากันบอกเลยว่าตอนนั้นใจสั่นมากค่ะ มือสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยแต่ก็ยังมองตากันอยู่นะคะ พี่เค้าก็ไม่ยอมหลบตาด้วย สักพักเราเลยคัดสินใจหันหน้าหนี แล้วอมยิ้มอยู่คนเดียวนั่นแหละค่ะจุดเริ่มต้นของการแอบรัก. เราเริ่มโรงเรียนไวขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นหน้าพี่เค้านานๆ เริ่มสังเกตุว่าพี่เค้าชอบกินอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มาโรงเรียนกี่โมง กลับบ้านทางไหน เรียนอะไรบ้างวันๆนึง เพื่อนพี่เค้าชื่ออะไรบ้าง รู้แม่กระทั่งเบอร์รองเท้า(เกินไปป้ะ5555. ไม่หรอกใครที่เคยแอบชอบจะรู้ว่าทำได้ทุกอย่างจริงๆ) เอาเป็นว่าสืบทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่เค้า แล้วเราก็รู้ว่าพี่เค้ากลับบ้านทางเดียวกันกับเรา รู้ว่าเรียนคาบสุดท้ายห้องไหน เรานั่งรอกลับบ้านพร้อมพี่เค้าทุกวันเลยค่ะ โชคดีหน่อยมีเพื่อนอีคนรอเป็นเพื่อน นางชื่อเฟิร์นค่ะ. นางก็แอบชอบหนึ่งในแฝดของพี่เค้าเหมือนกัน แต่จะไม่บอกนะว่าใคร ทีอรกนางก็ไม่ยอมรับ แต่สักพักนางก็บอกเราเป็นเพื่อนกันมาคั้งแต่ป.1ค่ะ เลยสนิทกันหน่อย เนี่ยคู่หูรอผู้ชายเลย55555555. ตอนเย็นเราขะมารอกลับบ้านพร้อมพี่เค้าทุกวันเลย เราเลิก 3โมง10ค่ะ พี่เค้าเลิก 4โมง10 แค่กว่าพี่เค้าจะเล่นกัน หาอะไรกินกันก็ 5 โมงครึ่งค่ะ กว่าพี่เค้าจะเดินมาป้ายรถเมย์กัน. เราต้องรอแบบนี้ทุกวันอย่างน้อยก็2 ชั่งโมงค่ะหลังๆเพื่อนในกลุ่มเริ่มกลับบ้านเย็นเราก็เลยไม่เหงากันแล้ว ในขณะที่รอพี่เค้าเรียนเราก็ไปนั่งดูนักบอลซ้อม 55555 นักบอลหุ่นล่ำๆ ตัวสูง เหงื่อท่วมตัว เวลาวิ่งผ่านทีนี่ เซ็กซี่ขยี้ใจมากอ่ะ (เริ่มหื่นละ) ข้ามไปแล้วกันเรื่องนี้เข้าเนื้อเลย วันนึงค่ะฝนตก มันเป็นความทรงจำที่ฟินมากอ่า ติดรถอยู่ป้ายรถเมย์เดียวกัน ถึงจะไม่สองค่อสองก็ตาม วันนั้นฝนตกหนักมากค่ะทีแรกเราถอดใจล้ะพี่เค้าคงไม่ออกมาง่ายๆแน่เลย เกือบตัดสินใจจะขึ้นรถกลับก่อนละ แต่พอหันกับหลังไปดู ครั้งสุดท้ายเราเห็นกลุ่มพี่เค้าวิ่งผ่านฝนมา. ตัวนี่เปียกเลย ตอนนั้นใจเต้นแรงมากอ่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอื้อไปหมดเลยบอกความรู้สึกไปถูกเลย ป้ายรถเมล์มีเรากับเฟิร์นแค่2คนค่ะ แล้วป้ายรถเมล์ก็ใหญ่พอสมควร พี่เค้าเลยยืนห่างหน่อย แต่สักพักฝนเริ่มตกหนักขึ้นค่ะ โชคร้ายหน่อยฝนดันมาสาดฝั่งที่เรานั่ง ตอนนั้นจะขยับหนีฝนก็อายเบาๆ แบบกลัวพี่เค้าขำ แต่เหมือนพี่เค้าจะรู้อ่า พี่เค้ายืนเบียดเพื่อนให้แบบขยับไปประมานว่าให้น้องเขาขยับเข้าร่มประมาณนี้เลย เราเลยกล้าๆขยับเข้าไป คือจะบอกว่าพวกพี่เค้าไม่นั่งสักคนเลยค่ะทั้งๆที่ป้ายว่างมาก. จะนั่งก็ได้ พอเราขยับเข้าไปอันนี้ไม่รู้ว่าคิดเองรึเปล่านะ พี่เค้าเหมือนขยับมายืนบังฝนสาดให้เลย คือตอนนั้นเราใกล้กันมาจริงๆค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่ได้นั่งแล้ว ใจนี่เต้นแรงแบบจะตายตรงให้ให้ได้ หน้านี่แบบร้อนผ่าวเลยอ่ะ ยิ่งตอนที่ได้กลิ่นหอมๆจากตัวพี่เค้านะ แทบจะหยุดหายใจเลยจริงๆนะ มันเป็นอะไรที่ฟินมากอ่า เหตุการวันนั้นทำให้เราตัดสินใจล้ะว่าเราจะเดินหน้าจีบพี่เค้าอย่างจริงจัง กบับบ้านมาเราก็ทักเฟสพี่เค้าไปเลยจ้า รอนานมากอ่ากว่าพี่เค้าจะตอบ ช่วงแรกๆก็แบบทักบ่อยหน่อย2 วันทักทีพี่เค้าก็ถามกลับเป็นบางอย่าง แต่สักอาทิตย์เริ่มไม่ทักละ เพราะพี่เค้าถามคำตอบคำคิดว่าคงไม่อยากคุยด้วยเลยเลิกทักไป เราเลยมาคุยกับเพิ่อนว่าเอาไงดี เราต้องมีตัวตนในสายตาพี่เค้าให้ได้. เราเลยไปนั่งกินร้านที่พี่เค้ากินทุกวันเลยจ้า ไปเมาท์กับป้าคนขายบ้างเพราะป้าคนขายสนิทกับพวกพี่เค้ามากเพราะลูก ป้าก็เหมือนเล่าเรื่องเราให้พี่เค้าฟัง แล้วก็คงเล่าเรื่องเราให้พี่เค้าฟังด้วยเพราะดูพี่เค้าเริ่มสนใจเรามากขึ้นเริ่มมอง เพื่อนพร่เค้าเริ่มล้อพี่เค้า แซวเราด้วย ^^ ในที่สุดวันวาเลนไทน์ก็มาถึง นั่นเป็นเป็นที่ตั่งใจจะบอกรักพี่เค้าเลย แต่ทุกอย่างมันไม่เป็นไปย่างที่คาดเลย พี่เค้าไม่มาโรงอาหารแบบทุกวัน แม่แต่เพื่อนดลุ่มสนิทพี่เค้าก็ไม่มา เราว่าวันนี้คงไม่เจอพี่เค้าเลยให้ช็อกโกแลตกับรุ่นพี่คนนึง เราสนิทกันค่ะพี่เค้าชอบมานั่งร้องเพลงโต๊ะตรงข้ามทุกวันพี่เค้าเล่นดนตรีเก่งมากอ่า แบบชอบมากอ่า แต่เหมือนนั่นจะเป็นความผิด