สวัสดีชาวโซเชียลแคม เอ้ย สวัสดีชาวพันทิพย์ทุกคนนะคร้าบบ
หลังจากที่หายไปนานมาก เนื่องจากต้องทำงาน เลยไม่ได้ไปธุดงที่ไหนเลย แต่ก็นะ เมื่อว่างงาน (ไม่ได้ตกงานนะ วันหยุดๆ) ผมก็ไม่รอช้า ออกธุดงทันที
จริงแล้ว สังขละ เป็นสถานที่ที่อยากไปมานานมากแล้ว ก่อนที่จะไปปางอุ๋งเสียอีก แต่เนื่องด้วยอะไรหลายๆอยาก ทำให้ยังไม่ได้ไปสักที พอว่างคราวนี้ เลยไม่พลาดแน่นอน
การเดินทางของผมในครั้งนี้ ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟไปมากกว่ารถตู้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่า มันฟรี 555 คำเดียวเลย ก่อนอื่นก็หาข้อมูล จนรู้ว่า ต้นสายอยู่ที่สถานี ธนบุรี นี้นี่เอง
หลังจากได้ตั๋วมา (ต่อคิวยาวนะ) ขนาดไปวันธรรมดาแล้ว ก็ไม่รอช้า หาไรกินดีวะ บังเอิญ พี่เขามานั่งข้างๆ เห้ย ลูกชิ้น จะรอเรอะ ซื้อเลยทันที
เห้ยอ อร่อยว่ะ แต่แบบ อิ่มละ ตั้งใจว่าจะช่วยพี่เขาซื้อให้หมด แต่ไม่ไหวจริงๆ กินอิ่มเรียบร้อยก็นั่งรอรถกันต่อไป รถไฟออกจากสถานีธนบุรี
เห้ยย มาแล้วโว้ยย เวลาตามตารางก็ 7.50 น. แต่จริงๆแล้ว ออกประมาณ 8.10 ได้ เรทนิดหน่อย ไม่เปนไรๆ
พอขึ้นไปก็เอากระเป๋าวางแอ๊คก่อนเลย ถ่ายรูปดิ่ ก่อนจะมีคนมานั่ง 555 นี่แหละฮะ กระเป๋าประจำกายผม
พอคนเริ่มเยอะ ผมก็เอากระเป๋าไว้ด้านบน สัพักก็มีคุณลุงคนนึงแกก็มานั่ง ตอนแรกก็ยิ้มให้ ยังไม่กล้าทักเท่าไหร่ พอรถไฟออกด้วยความที่ว่าว่าง ก็เลยทักแแกไป ถามแกว่าไปลงไหน แกก็บอกเกือบสุดทางแหละ อีกนาน สักพัก ก็มีคนมาขายของบนรถไฟ เดินผ่านมาก็เอ้า ลุง หวัดดี ผ่านมาคนที่สอง ลุง หวัดดีค่ะ ผ่านมาคนที่สาม ลุง หวัดดี ไปเที่ยวไหนมา ผมนี่ถึงกะงง นี่กูเจอคนดังของการรถไฟใช่ไหม 555 ผมเลยถามแกว่า ลุงนั่งรถไฟมานานแล้วหรอ ลุงแกก็บอกว่า ลุงมาเที่ยวกรุงเทพบ่อย เขร้ ผมเจอเจ้าพ่อ slow life แกบอกว่างๆ ลุงก็นั่งรถไฟมากรุงเทพเล่น อ่ออ อย่างนี้นี่เอง พอจบบทสนทนาผมก็นั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อย หันมาอีกที ลุงหนีผมไปแล้วว TT
ใครนั่งรถไฟสายนี้ เคยเหนลุงแกบ้างไหม 555
รถไฟก็เดินทางตามรางไปเรื่อยๆ ผมก็ตื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะหลับสะมากกว่า 555 ก็เลยมีวิวข้างทางนิดหน่อยเอง จริงๆก็ รูปเดียวแหละ 5555
ตื่นมาอีกที เอ้า สะพานข้ามแม่น้ำแควแล้วนี่หว่า หยิบกล้องแทบไม่ทัน จริงๆก็เคยมาแล้วนะ แต่ถ่ายสะหน่อย ถือว่าเป็นวิวข้างทางละกัน 555
พอถ่ายเสดก็สังเกต เอ้า ลุงหายไปไหน แต่ก็คิดว่าสงสัยลงแล้ว เลยนอนต่อทันใด ได้ยินเสียงเรียกอีกทีกู ไอหนุ่ม ถึงสายมรณะแล้วๆ ผมตื่นมาก็เจอลุง ลุงแกปลุกฮะ โชคดีไป เอ้า ถ่ายยยย
เป็นการถ่ายที่ทุลักทุเลมากคับ เนื่องจากคนเยอะ ต่างคนก็ยื่นแขนออกมาเพื่อที่จะถ่ายรูป บวกกับมีโอกาสถ่ายแค่บนรถไฟเท่านั้น เพราะรถไฟจอดแป๊บเดียวเอง วิ่งลงไปเดินถ่ายตามรางไม่ทัน เลยต้องปล่อยไปตามน้ำ ไว้คราวหน้า จะนั่งมาลงแค่น้ำตก ละเดินถ่ายให้สมใจอยากไปเลย
หลังจากถ่ายเสด ก็กลับมานั่ง เนื่องจากทิ้งของไว้ เลยกลัวหาย นั่งไปได้สักพัก เอาอีกละ ลมเย็น หลับก็ได้วะ 555 ตื่นมาอีกทีลุงแกหายไปไหนแล้วไม่รุ ใกล้จะถึงสถานีน้ำตกแล้ว สงสัยแกคงลงไปละล่ะ
พอถึงสถานีน้ำตก ประมาณบ่ายเกือบครึ่งได้ เนื่องจากรถมันเลท ผมเลยรีบไปขึ้นรถสองแถวเพื่อไปยังถนนใหญ่หน้าทางขึ้นน้ำตก ค่ารถ 20 บาท ก็ถือว่าไม่แพงนะ เพราะถ้าเดินมา ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ยอมแลกดีกว่า พอถึงหน้าน้ำตก ผมก็รอรถเพื่อจะนั่งต่อไปสังขละ ก็ถามแม่ค้าแถวนั้นว่ามีรถกี่โมง แม่ค้าก็บอกรถมีเรื่อยๆแหละ มีทั้งรถตู้ รถเม ผมตั้งใจไว้ละ ว่าจะนั่งรถเมให้ได้ รอไปก็เกือบจะบ่ายสองละ รถตู้มา แต่ด้วยความที่ว่าตั้งใจไว้แล้ว เลยไม่ขึ้น แล้วก็รอด้วยความหวังว่า คันต่อไปขอเป็นรถเมนะ เพราะกลัวไปถึงมืด ที่พงที่พักก็ยังไม่มี กลัวหาไม่ทัน ผ่านไปสัก 15 นาทีได้ เห้ยยย

มาละเว้ยยย รีบบขึ้นเลยคับ สรุป ยืนจ่ะ อะเคร ยืนก่อนก็ได้ แต่ก็ยืนได้ไม่นาน ก็ได้นั่ง เลยถ่ายรูปไว้สักใบละกัน
คนก็มีขึ้นตลอดทาง แต่ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นระยะสั้นๆ นั่งไปแบบ ลมเย็น สบาย วิวข้างทางสวย ชิ๊ลชิล แต่ถ่ายมาใบเดียว 555 เลือกที่จะเสพบรรยากาศดีกว่า
นั่งรถมาเป็นเวลานาน รถก็จอดที่ท่าอะไรไม่รุ ผมจำชื่อไม่ได้ กระเป๋ารถเมบอก พักรถแป๊บนะค้าบ ลงไปหาข้าวกิน ขนมกินก่อนได้ นึกในใจ กูว่าไม่แป๊บละล่ะ ลงปุ๊บก็ได้ถ่ายรูปรถเมสักทีเพราะก่อนขึ้นรีบ 555
ถ่ายเสด รอไรล่ะคับ กินข้าว เพราะหิวมากกก บวกกับนั่งรถเมื่อย ปวดตูดมากบอกเลย ทำให้เพลีย หิวโซเลยทีนี้ พอกินเสดดูเวลา นั่นไง แป๊บเดียว ครึ่งชั่วโมงจ่ะ อะเคร แป๊บเดียว
หลังจากพักรถ กินอิ่ม ก็เริ่มเดินทางกันต่อ ผมสังเกตได้ว่า มี ผญ คนนึงที่เจออยุบนรถไฟ นั่งมาคันเดียวกะผม แล้วก็เพิ่งสังเกตว่า เห้ย มาคนเดียว ตอนนั้นนึก โหดจังวะ แบกเป้ใบเบ้อเร่อเลย
พอขึ้นรถก็กินลมชมวิวไปเรื่อย จนถึงสังขละ ก็ปาไป หกโมงเยนนิดๆได้ ผมเลยรีบนั่งวินจากท่ารถเม บอกพี่ว่า พาผมหาที่พักหน่อย ผมยังไม่มีที่พักเลย พี่วินก็พามานี่เลย P เกสเฮ้า ผมจะบอกว่า มากะดวงจริงๆ เหลือห้องสุดท้าย เปนห้องพัดลมที่อยู่ในตัวบ้าน ห้องน้ำรวม คืนละ 300 บาท เท่านั้น ผมก็รีบเลยคับ เอา! จะได้ไม่เสียเวลา พอเก็บของเสร็จผมก็เช่ารถมอไซ คันละ 300 จากที่พัก แต่ยังไม่ได้ออกไปไหน ถ่ายวิวจากที่พักก่อนดีกว่า
ผมว่าวิวจากที่พัก ก็สวยใช่เล่นนะ ต้องขออภัยไว้ก่อนเลยว่า รูปในที่พัก ไม่มีเลยฮะ ลืม 555 พอถ่ายรูปเสร็จ ก็ตัดสินใจ นั่งชิลพักก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยออกละกัน ระหว่างนั่งกินข้าวจิบเบียร์เย็นๆ ก็ได้ถามเรื่องค่าเช่าเรือเพื่อจะไปดูวัดใต้น้ำ จุดประสงค์หลักที่มาสังขละเลยหล่ะ วัดใต้น้ำเนี่ย ผมสายธรรมะ คับ ก็ได้คำตอบว่า ถ้าเหมาจากที่พักไปเลย 600 บาท แต่น้องมาคนเดียวพี่ว่าน้องไปหาจอยแถวสะพานมอญดีกว่า ถูกกว่า ผมเลยตัดสินใจ งั้นเด่วรอไปถามแถวสะพานมอญแล้วกัน
ตื่นเช้ามา ก็ขี่มอไซไปสะพานมอญเลย ไปถึงก็ถามหาเรือ พี่เขาบอกว่า ถ้าเหมาเที่ยวละ 400 บาท น้องรอจอยเขาก็ได้นะ ถูกกว่า เด่วพี่โทรตาม ไปเดินเล่นก่อนก็ได้ ก็เลย โอเคคับ เดินเล่นจ่ะ ถ่ายรูปไปเรื่อย
ถ่ายรูปเล่นได้ไม่ถึง 20 นาที พี่ก็โทรมาบอกว่า น้องมีคนมาขอจอยละนะ พี่เขาไป 2 คน เขาออก 300 น้องออก 100 นึง เอาไหม (เห้ยร้อยเดียวเองรึ) จะรอไรล่ะคับ รีบวิ่งเลย กลัวเขาเปลี่ยนใจ 555
อันนี้คือผู้ใจบุญที่ช่วยสมทบทุนในการออกเรือครั้งนี้ ถ่ายได้แต่ข้างหลังครับ 55 พี่เขามากะแฟน 2 คน นึกในใจ 100 แลกกับความทรมานใจ เห็นคนมาเป็นคู่ๆ เห้อออ
เอ้า Go!
ระหว่างทาง ก็จะมีมัคคุเทศน์น้อย อธิบายตลอดทาง น้องเขาบอกว่า วัดที่จมน้ำ มีอยู่ด้วยกัน 3 วัด ผมจำไม่ได้หรอกว่าชื่ออะไรบ้าง แต่น้องเขาบอกว่าตอนนี้น้ำน้อย จะมีวัดเดียว ที่จมน้ำ ส่วนอีก 2 วัด จะเห็นเป็นเกาะ ก่อนไปบอกตรงๆว่า คิดอยู่เหมือนกันว่าน้ำจะท่วมวัดให้เห็นไหม สรุป มีว่ะ โชคดีไป
อันนี้วัดแรกครับ ดูขลังดี
ต่อมาเป็นวัดที่ 2 วัดนี้จะอยู่สูงที่สุดครับ
และวัดสุดท้าย วัดนี้จะอยู่บนเกาะครับ ข้างในโบสถ์ มีบาตรอยู่กลางโบสถ์เลย รู้สึกขลังดีครับ
พอจบวัดสุดท้าย ก็นั่งเรือกลับกันเลยครับ ถึงฝั่งละ
และนี่คือคนขับเรือ และมัคคุเทศน์น้อยของผม 555
พอถึงฝั่งก็ประมาณ 10 โมงกว่าๆ ไปไหนต่อดี เคยเห็นในรีวิว pantip อันนึงครับ เขาไปพม่ามา ผมเลยไม่รอช้า ขี่มอไซต์ไปด่านเจดีย์สามองค์เลย ระยะทางจากสะพานมอญไป ก็ 24 กม. ไว้เด่วมาต่อนะครับ พรุ่งนี้จะพาไปทัวร์ตะเข็บชายแดนพม่า 5555
[SR] วันหยุด สุดที่ " สังขละ "
สวัสดีชาวโซเชียลแคม เอ้ย สวัสดีชาวพันทิพย์ทุกคนนะคร้าบบ
หลังจากที่หายไปนานมาก เนื่องจากต้องทำงาน เลยไม่ได้ไปธุดงที่ไหนเลย แต่ก็นะ เมื่อว่างงาน (ไม่ได้ตกงานนะ วันหยุดๆ) ผมก็ไม่รอช้า ออกธุดงทันที
จริงแล้ว สังขละ เป็นสถานที่ที่อยากไปมานานมากแล้ว ก่อนที่จะไปปางอุ๋งเสียอีก แต่เนื่องด้วยอะไรหลายๆอยาก ทำให้ยังไม่ได้ไปสักที พอว่างคราวนี้ เลยไม่พลาดแน่นอน
การเดินทางของผมในครั้งนี้ ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟไปมากกว่ารถตู้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่า มันฟรี 555 คำเดียวเลย ก่อนอื่นก็หาข้อมูล จนรู้ว่า ต้นสายอยู่ที่สถานี ธนบุรี นี้นี่เอง
หลังจากได้ตั๋วมา (ต่อคิวยาวนะ) ขนาดไปวันธรรมดาแล้ว ก็ไม่รอช้า หาไรกินดีวะ บังเอิญ พี่เขามานั่งข้างๆ เห้ย ลูกชิ้น จะรอเรอะ ซื้อเลยทันที
เห้ยอ อร่อยว่ะ แต่แบบ อิ่มละ ตั้งใจว่าจะช่วยพี่เขาซื้อให้หมด แต่ไม่ไหวจริงๆ กินอิ่มเรียบร้อยก็นั่งรอรถกันต่อไป รถไฟออกจากสถานีธนบุรี
เห้ยย มาแล้วโว้ยย เวลาตามตารางก็ 7.50 น. แต่จริงๆแล้ว ออกประมาณ 8.10 ได้ เรทนิดหน่อย ไม่เปนไรๆ
พอขึ้นไปก็เอากระเป๋าวางแอ๊คก่อนเลย ถ่ายรูปดิ่ ก่อนจะมีคนมานั่ง 555 นี่แหละฮะ กระเป๋าประจำกายผม
พอคนเริ่มเยอะ ผมก็เอากระเป๋าไว้ด้านบน สัพักก็มีคุณลุงคนนึงแกก็มานั่ง ตอนแรกก็ยิ้มให้ ยังไม่กล้าทักเท่าไหร่ พอรถไฟออกด้วยความที่ว่าว่าง ก็เลยทักแแกไป ถามแกว่าไปลงไหน แกก็บอกเกือบสุดทางแหละ อีกนาน สักพัก ก็มีคนมาขายของบนรถไฟ เดินผ่านมาก็เอ้า ลุง หวัดดี ผ่านมาคนที่สอง ลุง หวัดดีค่ะ ผ่านมาคนที่สาม ลุง หวัดดี ไปเที่ยวไหนมา ผมนี่ถึงกะงง นี่กูเจอคนดังของการรถไฟใช่ไหม 555 ผมเลยถามแกว่า ลุงนั่งรถไฟมานานแล้วหรอ ลุงแกก็บอกว่า ลุงมาเที่ยวกรุงเทพบ่อย เขร้ ผมเจอเจ้าพ่อ slow life แกบอกว่างๆ ลุงก็นั่งรถไฟมากรุงเทพเล่น อ่ออ อย่างนี้นี่เอง พอจบบทสนทนาผมก็นั่งมองวิวทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อย หันมาอีกที ลุงหนีผมไปแล้วว TT
ใครนั่งรถไฟสายนี้ เคยเหนลุงแกบ้างไหม 555
รถไฟก็เดินทางตามรางไปเรื่อยๆ ผมก็ตื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะหลับสะมากกว่า 555 ก็เลยมีวิวข้างทางนิดหน่อยเอง จริงๆก็ รูปเดียวแหละ 5555
ตื่นมาอีกที เอ้า สะพานข้ามแม่น้ำแควแล้วนี่หว่า หยิบกล้องแทบไม่ทัน จริงๆก็เคยมาแล้วนะ แต่ถ่ายสะหน่อย ถือว่าเป็นวิวข้างทางละกัน 555
พอถ่ายเสดก็สังเกต เอ้า ลุงหายไปไหน แต่ก็คิดว่าสงสัยลงแล้ว เลยนอนต่อทันใด ได้ยินเสียงเรียกอีกทีกู ไอหนุ่ม ถึงสายมรณะแล้วๆ ผมตื่นมาก็เจอลุง ลุงแกปลุกฮะ โชคดีไป เอ้า ถ่ายยยย
เป็นการถ่ายที่ทุลักทุเลมากคับ เนื่องจากคนเยอะ ต่างคนก็ยื่นแขนออกมาเพื่อที่จะถ่ายรูป บวกกับมีโอกาสถ่ายแค่บนรถไฟเท่านั้น เพราะรถไฟจอดแป๊บเดียวเอง วิ่งลงไปเดินถ่ายตามรางไม่ทัน เลยต้องปล่อยไปตามน้ำ ไว้คราวหน้า จะนั่งมาลงแค่น้ำตก ละเดินถ่ายให้สมใจอยากไปเลย
หลังจากถ่ายเสด ก็กลับมานั่ง เนื่องจากทิ้งของไว้ เลยกลัวหาย นั่งไปได้สักพัก เอาอีกละ ลมเย็น หลับก็ได้วะ 555 ตื่นมาอีกทีลุงแกหายไปไหนแล้วไม่รุ ใกล้จะถึงสถานีน้ำตกแล้ว สงสัยแกคงลงไปละล่ะ
พอถึงสถานีน้ำตก ประมาณบ่ายเกือบครึ่งได้ เนื่องจากรถมันเลท ผมเลยรีบไปขึ้นรถสองแถวเพื่อไปยังถนนใหญ่หน้าทางขึ้นน้ำตก ค่ารถ 20 บาท ก็ถือว่าไม่แพงนะ เพราะถ้าเดินมา ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ยอมแลกดีกว่า พอถึงหน้าน้ำตก ผมก็รอรถเพื่อจะนั่งต่อไปสังขละ ก็ถามแม่ค้าแถวนั้นว่ามีรถกี่โมง แม่ค้าก็บอกรถมีเรื่อยๆแหละ มีทั้งรถตู้ รถเม ผมตั้งใจไว้ละ ว่าจะนั่งรถเมให้ได้ รอไปก็เกือบจะบ่ายสองละ รถตู้มา แต่ด้วยความที่ว่าตั้งใจไว้แล้ว เลยไม่ขึ้น แล้วก็รอด้วยความหวังว่า คันต่อไปขอเป็นรถเมนะ เพราะกลัวไปถึงมืด ที่พงที่พักก็ยังไม่มี กลัวหาไม่ทัน ผ่านไปสัก 15 นาทีได้ เห้ยยย
คนก็มีขึ้นตลอดทาง แต่ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นระยะสั้นๆ นั่งไปแบบ ลมเย็น สบาย วิวข้างทางสวย ชิ๊ลชิล แต่ถ่ายมาใบเดียว 555 เลือกที่จะเสพบรรยากาศดีกว่า
นั่งรถมาเป็นเวลานาน รถก็จอดที่ท่าอะไรไม่รุ ผมจำชื่อไม่ได้ กระเป๋ารถเมบอก พักรถแป๊บนะค้าบ ลงไปหาข้าวกิน ขนมกินก่อนได้ นึกในใจ กูว่าไม่แป๊บละล่ะ ลงปุ๊บก็ได้ถ่ายรูปรถเมสักทีเพราะก่อนขึ้นรีบ 555
ถ่ายเสด รอไรล่ะคับ กินข้าว เพราะหิวมากกก บวกกับนั่งรถเมื่อย ปวดตูดมากบอกเลย ทำให้เพลีย หิวโซเลยทีนี้ พอกินเสดดูเวลา นั่นไง แป๊บเดียว ครึ่งชั่วโมงจ่ะ อะเคร แป๊บเดียว
หลังจากพักรถ กินอิ่ม ก็เริ่มเดินทางกันต่อ ผมสังเกตได้ว่า มี ผญ คนนึงที่เจออยุบนรถไฟ นั่งมาคันเดียวกะผม แล้วก็เพิ่งสังเกตว่า เห้ย มาคนเดียว ตอนนั้นนึก โหดจังวะ แบกเป้ใบเบ้อเร่อเลย
พอขึ้นรถก็กินลมชมวิวไปเรื่อย จนถึงสังขละ ก็ปาไป หกโมงเยนนิดๆได้ ผมเลยรีบนั่งวินจากท่ารถเม บอกพี่ว่า พาผมหาที่พักหน่อย ผมยังไม่มีที่พักเลย พี่วินก็พามานี่เลย P เกสเฮ้า ผมจะบอกว่า มากะดวงจริงๆ เหลือห้องสุดท้าย เปนห้องพัดลมที่อยู่ในตัวบ้าน ห้องน้ำรวม คืนละ 300 บาท เท่านั้น ผมก็รีบเลยคับ เอา! จะได้ไม่เสียเวลา พอเก็บของเสร็จผมก็เช่ารถมอไซ คันละ 300 จากที่พัก แต่ยังไม่ได้ออกไปไหน ถ่ายวิวจากที่พักก่อนดีกว่า
ผมว่าวิวจากที่พัก ก็สวยใช่เล่นนะ ต้องขออภัยไว้ก่อนเลยว่า รูปในที่พัก ไม่มีเลยฮะ ลืม 555 พอถ่ายรูปเสร็จ ก็ตัดสินใจ นั่งชิลพักก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยออกละกัน ระหว่างนั่งกินข้าวจิบเบียร์เย็นๆ ก็ได้ถามเรื่องค่าเช่าเรือเพื่อจะไปดูวัดใต้น้ำ จุดประสงค์หลักที่มาสังขละเลยหล่ะ วัดใต้น้ำเนี่ย ผมสายธรรมะ คับ ก็ได้คำตอบว่า ถ้าเหมาจากที่พักไปเลย 600 บาท แต่น้องมาคนเดียวพี่ว่าน้องไปหาจอยแถวสะพานมอญดีกว่า ถูกกว่า ผมเลยตัดสินใจ งั้นเด่วรอไปถามแถวสะพานมอญแล้วกัน
ตื่นเช้ามา ก็ขี่มอไซไปสะพานมอญเลย ไปถึงก็ถามหาเรือ พี่เขาบอกว่า ถ้าเหมาเที่ยวละ 400 บาท น้องรอจอยเขาก็ได้นะ ถูกกว่า เด่วพี่โทรตาม ไปเดินเล่นก่อนก็ได้ ก็เลย โอเคคับ เดินเล่นจ่ะ ถ่ายรูปไปเรื่อย
ถ่ายรูปเล่นได้ไม่ถึง 20 นาที พี่ก็โทรมาบอกว่า น้องมีคนมาขอจอยละนะ พี่เขาไป 2 คน เขาออก 300 น้องออก 100 นึง เอาไหม (เห้ยร้อยเดียวเองรึ) จะรอไรล่ะคับ รีบวิ่งเลย กลัวเขาเปลี่ยนใจ 555
อันนี้คือผู้ใจบุญที่ช่วยสมทบทุนในการออกเรือครั้งนี้ ถ่ายได้แต่ข้างหลังครับ 55 พี่เขามากะแฟน 2 คน นึกในใจ 100 แลกกับความทรมานใจ เห็นคนมาเป็นคู่ๆ เห้อออ
เอ้า Go!
ระหว่างทาง ก็จะมีมัคคุเทศน์น้อย อธิบายตลอดทาง น้องเขาบอกว่า วัดที่จมน้ำ มีอยู่ด้วยกัน 3 วัด ผมจำไม่ได้หรอกว่าชื่ออะไรบ้าง แต่น้องเขาบอกว่าตอนนี้น้ำน้อย จะมีวัดเดียว ที่จมน้ำ ส่วนอีก 2 วัด จะเห็นเป็นเกาะ ก่อนไปบอกตรงๆว่า คิดอยู่เหมือนกันว่าน้ำจะท่วมวัดให้เห็นไหม สรุป มีว่ะ โชคดีไป
อันนี้วัดแรกครับ ดูขลังดี
ต่อมาเป็นวัดที่ 2 วัดนี้จะอยู่สูงที่สุดครับ
และวัดสุดท้าย วัดนี้จะอยู่บนเกาะครับ ข้างในโบสถ์ มีบาตรอยู่กลางโบสถ์เลย รู้สึกขลังดีครับ
พอจบวัดสุดท้าย ก็นั่งเรือกลับกันเลยครับ ถึงฝั่งละ
และนี่คือคนขับเรือ และมัคคุเทศน์น้อยของผม 555
พอถึงฝั่งก็ประมาณ 10 โมงกว่าๆ ไปไหนต่อดี เคยเห็นในรีวิว pantip อันนึงครับ เขาไปพม่ามา ผมเลยไม่รอช้า ขี่มอไซต์ไปด่านเจดีย์สามองค์เลย ระยะทางจากสะพานมอญไป ก็ 24 กม. ไว้เด่วมาต่อนะครับ พรุ่งนี้จะพาไปทัวร์ตะเข็บชายแดนพม่า 5555