มันคงจะเป็นเรื่องบ้าบอมากเลย ที่หนังเรื่องนึง ที่ทั้งเรื่องอยู่ในตึกๆเดียว สามารถนำเสนอ การเสียดสี ประชดประชัน ชนชั้นวรรณะการเป็นอยู่ของโลกศิวิไลซ์นี้ ได้เจ็บแสบและแสนบ้าคลั่งที่สุด
High Rise ตึกระทึกเสียดฟ้า คือหนังเรื่องนั้น
อาจเรียกได้ว่า เป็นหนังแนวยูโทเปีย รีเบเลี่ยน ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนดูเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะทั้งเรื่อง เต็มไปด้วยการอุปมาอุปไมย แฝงปรัชญา และการตีความเปรียบเปรยที่แสนจะลุ่มลึก มีชั้นเชิงพอตัว แนวประมาณ Snowpiercer แต่เปลี่ยนจากรถไฟเป็นตึกระฟ้า
======
เรื่องราวโดยคร่าว มันเริ่มจาก การที่เปรียบเปรยสังคมเมืองแห่งทุนนิยม เป็น ตึกคอนโดสูงแห่งนึง
ซึ่งแบ่งวรรณะของชนชั้นที่อยู่อาศัย ชั้นบนเป็นที่อยู่ของคนชั้นสูง ฐานะมั่งมี มีงานเลี้ยงสังสรร และเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และไวน์ชั้นเลิศ
ส่วนชั้นล่างๆ คือที่อยู่ของชนชั้นสามัญที่เป็นปถุชนเดินดินธรรมดา แม้แต่ไฟฟ้ายังไม่พอใช้
โรเบิร์ต แลงก์ (ทอม ฮิดเดิลตัน)หมอหนุ่มที่มีความเศร้าจากอดีตติดตัวมา และมีนิสัยแปลกแยก ได้ย้ายเข้ามาอาศัยในชั้นของชนชั้นกลาง และด้วยรูปลักษณ์ที่โคตรเพอร์เฟค ของเขาก็เป็นที่ถูกตาต้องใจของคนในตึกนั้น จนไปเข้าตา โรยัล สถาปนิกเจ้าของตึกผู้ชรา(เจเรมี ไออ้อน) และสามารถเข้าไปคลุกคลีในหมู่คนชั้นสูงได้เป็นผลสำเร็จ เขาได้เห็นความฟุ้งเฟ้อที่เกินพอดีต่างๆนาๆ
และไม่ช้าปัญหามากมายได้ก่อตัวขึ้น โดยมีการเหยียดชั้นวรรณะ เป็นชนวนเหตุ ทำให้ชนชั้นล่างก่อการกบฏ โดยมี ไวลเดอร์ (ลุค อีแวน) พ่อผู้ตกงาน เป็นแกนนำ และเป็นที่มาของสงครามความบ้าคลั่งอีรุงตุงนังในตึกวิปลาศแห่งนี้
======
สิ่งแรกที่ต้องบอกคือ เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือ ที่ ผกก หลายคนแก่งแย่งกันเพื่อจะได้นำมาสร้างขึ้นจอเงิน สุดท้าย เบน วิทลีย์ ก็ได้ไป โดยหนังก็มีความวิปลาศ ฉงนงงงวย ตามสไตล์ป๋า
======
ข้อที่ต้องชมที่สุด คงหนีไม่พ้น "ทอม ฮิดเดิลตัน" หรือที่รู้จักในนามโลกิ นี่อาจเป็นผลงานในเพอร์ฟอร์มานซ์ที่ดีที่สุดของทอมเลย นอกจากจะได้เห็นหุ่นสุดเพอร์เฟคและฉากอีโรติกสุดเรตRแบบเต็มตาแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด คือการแสดง แบบจัดหนักจัดเต็ม ทรงพลัง ตราตรึง
มีทั้งความสุขุมพีรภาพ ความจิต และบ้าคลั่งวิปริตวิปลาศ
======
และที่ต้องชมอีกข้อคืองาน เซตติ้งฉาก และคอสตูม ด้วยฉากหลังของยุค1975 ทุกอย่างทำได้ถึงหมด เสื้อผ้าหน้าผม การตกแต่งภายใน รถยนต์ และพร๊อพประกอบอื่นๆ ทำได้ถึงจริงๆ เราโอเคมากในเรื่องนี้
=======
พูดถึงตรงนี้ก็ชมงานซาวด์ด้วยละกัน บางแทร๊คคือมันเป็นงานชั้นครูได้เลย มันมีความเรโทร และส่งเสริมความคัลต์ของหนังให้สูงส่งมากขึ้น
======
งานภาพ มันคือความลงตัว เหมือนดูงานศิลป์ดีๆ ที่องค์ประกอบที่พอเหมาะพอดีอยู่
======
มาถึงข้อที่ติ ที่เราไม่อยากเรียกข้อติเลย เพราะมันมีคำว่า สร้างจากหนังสือมาค้ำคออยู่ แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้ เราเข้าใจว่าหนังเต็มไปด้วยการเปรียบเปรย ในองค์แรกที่ปูตัวละครและการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างลื่นไหล คือ มีความเข้าใจที่ไม่ต้องคิดไรมาก แต่พอขึ้นองค์สองที่พยายามจะนำเสนอความเสื่อมสลาย เรากับรู้สึกว่าการดำเนินเรื่องค่อนข้างสะเปะสะปะ แน่นอนว่า นำเสนอความบ้าคลั่งวิปลาศของตัวละครได้ดี แต่พูดตรงๆคือ มันควรปรุงให้ออกมากินง่ายกว่านี้หน่อย
======
สรุป คอหนังประเภทหนังตีความ หนังปรัชญาการเมือง สังคม ไปดูกันได้ครับ ต่างคนอาจมีมุมมองและความคิดที่ตกผลึกไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผมถึงหนังเรื่องนี้ใช้ยุค70เป็นฉากหลัง แต่มันเสียดสี ชีวิตคนเราในยุคปัจจุบันนี้ได้เจ็บแสบและมีชั้นเชิง
ให้ 7.0+0.7 สำหรับทอมนัยตาโศกที่โคตรจิต
คำเตือน หนังเต็มไปด้วยความรุนแรง ฉากเรทR แต่ไม่ถึงขนาดโหดร้ายเลือดสาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอฝากเพจของเราเช่นเคยนะครับ มาคุยกันได้ ทุกคำถามเรื่องหนังยินดีตอบ
https://www.facebook.com/tastenung/
[SR] บรรยายความรู้สึก High Rise เหนือคำว่า งง คือบ้าคลั่ง (ไม่สปอยล์)
มันคงจะเป็นเรื่องบ้าบอมากเลย ที่หนังเรื่องนึง ที่ทั้งเรื่องอยู่ในตึกๆเดียว สามารถนำเสนอ การเสียดสี ประชดประชัน ชนชั้นวรรณะการเป็นอยู่ของโลกศิวิไลซ์นี้ ได้เจ็บแสบและแสนบ้าคลั่งที่สุด
High Rise ตึกระทึกเสียดฟ้า คือหนังเรื่องนั้น
อาจเรียกได้ว่า เป็นหนังแนวยูโทเปีย รีเบเลี่ยน ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนดูเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะทั้งเรื่อง เต็มไปด้วยการอุปมาอุปไมย แฝงปรัชญา และการตีความเปรียบเปรยที่แสนจะลุ่มลึก มีชั้นเชิงพอตัว แนวประมาณ Snowpiercer แต่เปลี่ยนจากรถไฟเป็นตึกระฟ้า
======
เรื่องราวโดยคร่าว มันเริ่มจาก การที่เปรียบเปรยสังคมเมืองแห่งทุนนิยม เป็น ตึกคอนโดสูงแห่งนึง
ซึ่งแบ่งวรรณะของชนชั้นที่อยู่อาศัย ชั้นบนเป็นที่อยู่ของคนชั้นสูง ฐานะมั่งมี มีงานเลี้ยงสังสรร และเพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และไวน์ชั้นเลิศ
ส่วนชั้นล่างๆ คือที่อยู่ของชนชั้นสามัญที่เป็นปถุชนเดินดินธรรมดา แม้แต่ไฟฟ้ายังไม่พอใช้
โรเบิร์ต แลงก์ (ทอม ฮิดเดิลตัน)หมอหนุ่มที่มีความเศร้าจากอดีตติดตัวมา และมีนิสัยแปลกแยก ได้ย้ายเข้ามาอาศัยในชั้นของชนชั้นกลาง และด้วยรูปลักษณ์ที่โคตรเพอร์เฟค ของเขาก็เป็นที่ถูกตาต้องใจของคนในตึกนั้น จนไปเข้าตา โรยัล สถาปนิกเจ้าของตึกผู้ชรา(เจเรมี ไออ้อน) และสามารถเข้าไปคลุกคลีในหมู่คนชั้นสูงได้เป็นผลสำเร็จ เขาได้เห็นความฟุ้งเฟ้อที่เกินพอดีต่างๆนาๆ
และไม่ช้าปัญหามากมายได้ก่อตัวขึ้น โดยมีการเหยียดชั้นวรรณะ เป็นชนวนเหตุ ทำให้ชนชั้นล่างก่อการกบฏ โดยมี ไวลเดอร์ (ลุค อีแวน) พ่อผู้ตกงาน เป็นแกนนำ และเป็นที่มาของสงครามความบ้าคลั่งอีรุงตุงนังในตึกวิปลาศแห่งนี้
======
สิ่งแรกที่ต้องบอกคือ เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือ ที่ ผกก หลายคนแก่งแย่งกันเพื่อจะได้นำมาสร้างขึ้นจอเงิน สุดท้าย เบน วิทลีย์ ก็ได้ไป โดยหนังก็มีความวิปลาศ ฉงนงงงวย ตามสไตล์ป๋า
======
ข้อที่ต้องชมที่สุด คงหนีไม่พ้น "ทอม ฮิดเดิลตัน" หรือที่รู้จักในนามโลกิ นี่อาจเป็นผลงานในเพอร์ฟอร์มานซ์ที่ดีที่สุดของทอมเลย นอกจากจะได้เห็นหุ่นสุดเพอร์เฟคและฉากอีโรติกสุดเรตRแบบเต็มตาแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด คือการแสดง แบบจัดหนักจัดเต็ม ทรงพลัง ตราตรึง
มีทั้งความสุขุมพีรภาพ ความจิต และบ้าคลั่งวิปริตวิปลาศ
======
และที่ต้องชมอีกข้อคืองาน เซตติ้งฉาก และคอสตูม ด้วยฉากหลังของยุค1975 ทุกอย่างทำได้ถึงหมด เสื้อผ้าหน้าผม การตกแต่งภายใน รถยนต์ และพร๊อพประกอบอื่นๆ ทำได้ถึงจริงๆ เราโอเคมากในเรื่องนี้
=======
พูดถึงตรงนี้ก็ชมงานซาวด์ด้วยละกัน บางแทร๊คคือมันเป็นงานชั้นครูได้เลย มันมีความเรโทร และส่งเสริมความคัลต์ของหนังให้สูงส่งมากขึ้น
======
งานภาพ มันคือความลงตัว เหมือนดูงานศิลป์ดีๆ ที่องค์ประกอบที่พอเหมาะพอดีอยู่
======
มาถึงข้อที่ติ ที่เราไม่อยากเรียกข้อติเลย เพราะมันมีคำว่า สร้างจากหนังสือมาค้ำคออยู่ แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้ เราเข้าใจว่าหนังเต็มไปด้วยการเปรียบเปรย ในองค์แรกที่ปูตัวละครและการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างลื่นไหล คือ มีความเข้าใจที่ไม่ต้องคิดไรมาก แต่พอขึ้นองค์สองที่พยายามจะนำเสนอความเสื่อมสลาย เรากับรู้สึกว่าการดำเนินเรื่องค่อนข้างสะเปะสะปะ แน่นอนว่า นำเสนอความบ้าคลั่งวิปลาศของตัวละครได้ดี แต่พูดตรงๆคือ มันควรปรุงให้ออกมากินง่ายกว่านี้หน่อย
======
สรุป คอหนังประเภทหนังตีความ หนังปรัชญาการเมือง สังคม ไปดูกันได้ครับ ต่างคนอาจมีมุมมองและความคิดที่ตกผลึกไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผมถึงหนังเรื่องนี้ใช้ยุค70เป็นฉากหลัง แต่มันเสียดสี ชีวิตคนเราในยุคปัจจุบันนี้ได้เจ็บแสบและมีชั้นเชิง
ให้ 7.0+0.7 สำหรับทอมนัยตาโศกที่โคตรจิต
คำเตือน หนังเต็มไปด้วยความรุนแรง ฉากเรทR แต่ไม่ถึงขนาดโหดร้ายเลือดสาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้