ขอพูดบทสรุปก่อนเลยนะคะ ปัจจุบันเราแต่งงานกับผู้ชายที่เรากำลังจะพูดถึงนี่ล่ะคะ แต่งงานมา 3 ปีแล้วคะ ทุกวันนี้มีความสุขมาก สามีน่ารัก เป็นคนดีมากที่สุดในตอนนี้ ตามใจเอาใจใส่ใจ เป็นห่วงเป็นใยเรามากๆ
ที่เกริ่นมาแบบนี้เพราะในอดีตเราเสียใจมากเกือบตายด้วยซ้ำ ทุกคนที่รู้จีกและรู้เรื่องในตอนนั้นต่างบอกว่าเสือสิ้นลาย หมดฤทธิ์ หน้ามือหลังมือ บลาๆๆ
*****เข้าเรื่องเลยนะคะ******
เหตุเกิตตั้งแต่ต้นปี 2553 จนถึง กลางปี 2554
คนสองคนตกลงคบกันเดือน มีนาคม 53 ด้วยความรักความที่เรามีให้แฟน และเพราะเราเป็นเพื่อนเรียนกันมาก่อน เห็นอีกฝ่ายเจ็บมาเยอะและคิดว่าความรักความซื่อสัตย์ที่เขาไม่เคยได้จากผู้หญิงคนไหนของเขาก่อน แล้วเขาได้จากเราเขาจะไม่ทำให้เราเสียใจ
แต่เปล่าเลยคบกันมีนาคม สิงหาคม 53 เขาเริ่มเปลี่ยนไป อ่ะลืมบอกแฟนเราตอนนั้นเป็นที่ปรึกษาการขาย ขายรถยนต์รายใหญ่ที่ไม่มีการจำหน่ายรถเก๋งในตอนนี้ในประเทศไทย ตอนนั้นเราทำงานเป็น Call center ธนาคารแห่งหนึ่ง
แฟนเราเริ่มเปลี่ยน เริ่มงี่เง่าแต่บอกว่าเรางี่เง่า เริ่มทะเลาะ แต่ยังไม่หนัก มาหนักๆคือช่วงเข้าเดือนตุลาคม ผู้หญิงคนนั้นเป็น CR ที่ทำงานแฟน เราเคยโทหาผู้หญิงเคยคุยจะบอกว่าคุยก็ไม่เชิงเพราะพูดได้ไม่กี่คำหรอก แต่พอวางสายปุป แฟนเราจะโทรมาต่อว่าเราทันที ประมาณว่าก็บอกว่าไม่อะไรไง ทำไมไม่เชื่อใจ (แต่คุณขาคุณไรู้กันดีใช่มั๊ยคะว่าผู้หญิงเราเซ้นแรงคะไม่มีพลาด) หนักเข้าเริ่มโกหก เริ่มแอบไปรับไปส่ง ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.53 เราโคตรสุดยอดความหน้าไม่อาย คือยอมทุกอย่างขออย่างเดียวเราไม่ห่างกันสักพักตามคำขอของผู้ชาย พอเรายอมได้ใจสิคะ (รายละเอียดเยอะมากแต่จะพยายามเอาแต่เนื้อๆ) พ.ย. 53 ถึงขนาดตั้งรหัสเข้าหน้าจอโทรศัพท์ แต่ขอโทษคะ 1 สัปดาห์เรารู้รหัส แต่ทำเป็นไม่รู้ โคตรทนคะ
พอเขาคิดว่าเราไม่รู้เขาก็จะไม่มีลบสายโทรเข้าโทรออก ไม่มีการลบข้อความที่ส่งหากัน สารพัดคะอ่านแล้วน้ำตาไหลแต่ต้องทน (มีเวลาเช็คเต็มที่ไม่เกิน 5 นาทีเวลาแฟนเข้าห้องน้ำ)
จุดพีคคือกลางเดือน ธ.ค. 53 ความโง่ ไร้สมอง ไม่มีสติก็เกิดขึ้น เมื่อกลับมาห้องตอนเที่ยงคืน (เลิกงานเป็น call certer) เจอ จม.น้อยไว้บหมอนออฉัน ประมาณ จม.ลาจากแฟน บอกเหตุผลสารพัด ก่อนอ่านจม. เราไม่ทันสังเกตนะว่าข้าวของแฟนในห้องหายไปเกือบหมด พออ่าน จม. ไปเปิดตู้เสื้อผ้าโอ้วแม่เจ้า ทรุดสิคะ เลิกงานมา ความโง่เข้าครอบ ความรักจากพ่อแม่ไม่เอาใส่หัว คิดควายๆอย่างเดียวต้องตายๆๆๆฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ตอบคำถามต่างๆหลังเลิกกันได้ ฉันรับไม่ได้ ยาทุกขนานที่มีในห้องไม่นับเม็ด ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรบ้าง แต่หลังจากทุกเม็ดลงท้องไป ไม่น่าจะถึงชั่วโมงดี คิดว่าตายแน่ ตัวเย็น หายใจเหนื่อย เข้าไปกอดแฟน เป็นจังหวะแฟนตื่น แต่แฟนกลัวไม่กล้าพาส่ง รพ. แต่ที่ห้องแฟนมียาทางเหนือตัวนึง ชื่อว่าชาลางจืดหรืออะไรสักอย่าง แฟนเอาให้เรากินรู้สึกจะกินชาตัวนี้เยอะมาก แฟนว่ามันล้างสารพิษได้ ตอนนั้นแฟนก็นั่งร้องไห้
ความรู้สึกหลังจากไม่ตายคือเรารักมากหรือโง่มาก เราทนมากหรือเราควายมาก เสียใจนะและสาบานมันจะไม่มีครั้งที่ 2
เช้าหลังคืนกินยาตายแฟนก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนดีอะไรคะ อิฉันเกือบตายแต่นางให้ดูแลตัวเอง สั่งข้าวมากินเอง โชคดีคะที่คนส่งข้าวเราเจอกันบ่อยไม่งั้นอาจได้สามีเพิ่มเพราะดันเป็นลมตอนเปิดประตูรับข้าว (ฤทธิ์ยายังไม่หมด ทรมานมากคะแต่ไม่กล้าไปหาหมอจนข้ามอีกคืนถึงดีขึ้นๆ)
จำกันได้มั๊ยคะ ว่าแฟนทิ้งจม.ลาไว้ แต่พอเกิดเหตุการณ์คืนนั้นแฟนก็ไม่ได้ไปไหนยังอยู่ด้วยกันแต่มาอยู่ห้องเราคะ เพราะพอนางคิดจะทิ้งเรานางก็แจ้งยกเลิกเช่าห้องนางไป เลยได้มาอยู่ห้องเรา (ยอมรับคะเพราะแรดเอง)
รหัสโทรศัพท์ก็ยังล็อคอยู่นะคะ อ่อขอพูดนิดนึงคะ ผู้หญิงคนนั้นบอกไม่คิดอะไรแค่หลอกใช้ แต่ส่งรูปอ้าปากกินไอศกรีมตอนกำลังละลายส่งให้แฟนเราดู คิดเอาคะผู้ชายเห็นแบบนี้จะทนไหวมั๊ย ข้อความอ้อดอ้อนกัน โอ๊ยสารพัดแต่ไม่คิดจะเอาคะ เห้อผู้หญิงบางคนก็ใจดำเหลือเกิน
แฟนเราปลดล็อครหัสตอนเดือน พ.ค. 54 คะ นานมั๊ยคะจาก ธ.ค.ที่โง่คิดสั้น อิฉันก็ยังทน ควายล้วนๆคะไม่เถียงเลย ก็มีเหตุการณ์ให้หงุดหงิดอยู่เรื่อยๆคะ เพราะนอกจาก 1 สัปดาห์ที่รู้รหัสแล้วเรายังรู้ร

สเฟชบุ๊คแฟนด้วยนางฉลาดมากใช้เบอร์ที่ไม่คาดคิดเป็นรหัส แต่เราฉลาดกว่า5555
ฉลาดยังไงไม่รู้นะคะทนเจ็บเป็นปีๆ เห็นความเคลื่อนไหวในเฟชบุ๊ค ทั้งหน้าวอล ทั้งอินบ็อค มาเต็มคะ ผู้หญิงจะคอยพยายามลงรูปแบบให้เราคิดเองว่านางอยู่ไหน วันวาเลนไทน์แฟนเราแรดคะให้ดอกไม้นาง (มาบอกว่าให้ทุกคน) ผู้หญิงก็ถ่ายลง FB ขอบอกขอบใจที่ให้ ไปข้างนอกนั่งคู่แฟนเราก็ทำเป็นถ่ายคนนั่งหลังให้ติดแฟนเรานิดนึงลง คือก็ดูออกนะ แต่เป็นช่วง พ.ค.-มิ.ย. ล่ะ เราก็ถามแฟนเรายอมรับแต่เรื่องงานโอเคไม่ว่า
จุดพีคอีกรอบคือน่าจะ 21 หรือไม่ก็ 24 มิ.ย. 54 วันความอดทนหมด วันนี้เราเก็บเสื้อผ้าแฟนลงกระเป๋า เราไล่เขาไปอยู่ด้วยกัน เพราะที่ผ่านมามันมีเรื่องกวนใจมาตลอด และวันนี้เป็นวันที่เราอ้อนวอนขอร้องอย่าเลยนะ แต่ไม่เป็นผลทุกอย่างเลยต้องจบ แต่วันนี้เป็นวันที่แฟนเรากราบเรา ขอโอกาสเรา วิงวอนขอโทษเรา (บางคนจะบอกว่าโง่นะที่ยอมให้โอกาส แต่ทุกอย่างเพราะรักเขาไง) เราให้โอกาส ไม่มีอะไร ผ่านไปจนเดือนก.ย. เรากับผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าด่ากันเลยในอินบ็อก หลังจากนั้นนางก็ให้เพื่อนนางที่เป็นเพื่อนเราในเฟชบุ๊คเอารูปนางกับแฟนเราที่ถ่ายรูปคู่กันแบบแนบเนื้อพร้อมเขียนบรรยาย และเม้นท์กันสนุกในโพสนาง
เราเลยไปเม้นท์ต่อให้ถ้าอยากมีปัญหาจะเอารูปที่ยิ่งกว่านี้ให้ดูแค่นี่มันจิ๊บๆๆ พอล่ะเนอะ^^
ปล.เมื่อเราผ่านจุดร้ายๆมาได้อะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้
ปล2. ไม่คิดจะสอนใครแต่โกรธแค่ไหนก็อย่าสาปแช่งกันนะคะ เราไม่ได้เอ่ยถึงแต่เราสาปหนักมาก เพราะเราไม่รู้อนาคตหรอก ดูอย่างเราสิสุดท้ายเราก็แต่งงานกันแล้วที่สาปแช่งไปล่ะ หึหึ
#ตอนนี้สามีน่ารักมาก ด่ามาเยอะชมสักหน่อยนะคะ
เขียนวกวนเขียนมั่วต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
พิมพ์ผ่านโทรศัพท์มือถือ^^
มันเป็นเรื่องที่น่าอายแต่อยากแชร์ประสบการณ์^^
ที่เกริ่นมาแบบนี้เพราะในอดีตเราเสียใจมากเกือบตายด้วยซ้ำ ทุกคนที่รู้จีกและรู้เรื่องในตอนนั้นต่างบอกว่าเสือสิ้นลาย หมดฤทธิ์ หน้ามือหลังมือ บลาๆๆ
*****เข้าเรื่องเลยนะคะ******
เหตุเกิตตั้งแต่ต้นปี 2553 จนถึง กลางปี 2554
คนสองคนตกลงคบกันเดือน มีนาคม 53 ด้วยความรักความที่เรามีให้แฟน และเพราะเราเป็นเพื่อนเรียนกันมาก่อน เห็นอีกฝ่ายเจ็บมาเยอะและคิดว่าความรักความซื่อสัตย์ที่เขาไม่เคยได้จากผู้หญิงคนไหนของเขาก่อน แล้วเขาได้จากเราเขาจะไม่ทำให้เราเสียใจ
แต่เปล่าเลยคบกันมีนาคม สิงหาคม 53 เขาเริ่มเปลี่ยนไป อ่ะลืมบอกแฟนเราตอนนั้นเป็นที่ปรึกษาการขาย ขายรถยนต์รายใหญ่ที่ไม่มีการจำหน่ายรถเก๋งในตอนนี้ในประเทศไทย ตอนนั้นเราทำงานเป็น Call center ธนาคารแห่งหนึ่ง
แฟนเราเริ่มเปลี่ยน เริ่มงี่เง่าแต่บอกว่าเรางี่เง่า เริ่มทะเลาะ แต่ยังไม่หนัก มาหนักๆคือช่วงเข้าเดือนตุลาคม ผู้หญิงคนนั้นเป็น CR ที่ทำงานแฟน เราเคยโทหาผู้หญิงเคยคุยจะบอกว่าคุยก็ไม่เชิงเพราะพูดได้ไม่กี่คำหรอก แต่พอวางสายปุป แฟนเราจะโทรมาต่อว่าเราทันที ประมาณว่าก็บอกว่าไม่อะไรไง ทำไมไม่เชื่อใจ (แต่คุณขาคุณไรู้กันดีใช่มั๊ยคะว่าผู้หญิงเราเซ้นแรงคะไม่มีพลาด) หนักเข้าเริ่มโกหก เริ่มแอบไปรับไปส่ง ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.53 เราโคตรสุดยอดความหน้าไม่อาย คือยอมทุกอย่างขออย่างเดียวเราไม่ห่างกันสักพักตามคำขอของผู้ชาย พอเรายอมได้ใจสิคะ (รายละเอียดเยอะมากแต่จะพยายามเอาแต่เนื้อๆ) พ.ย. 53 ถึงขนาดตั้งรหัสเข้าหน้าจอโทรศัพท์ แต่ขอโทษคะ 1 สัปดาห์เรารู้รหัส แต่ทำเป็นไม่รู้ โคตรทนคะ
พอเขาคิดว่าเราไม่รู้เขาก็จะไม่มีลบสายโทรเข้าโทรออก ไม่มีการลบข้อความที่ส่งหากัน สารพัดคะอ่านแล้วน้ำตาไหลแต่ต้องทน (มีเวลาเช็คเต็มที่ไม่เกิน 5 นาทีเวลาแฟนเข้าห้องน้ำ)
จุดพีคคือกลางเดือน ธ.ค. 53 ความโง่ ไร้สมอง ไม่มีสติก็เกิดขึ้น เมื่อกลับมาห้องตอนเที่ยงคืน (เลิกงานเป็น call certer) เจอ จม.น้อยไว้บหมอนออฉัน ประมาณ จม.ลาจากแฟน บอกเหตุผลสารพัด ก่อนอ่านจม. เราไม่ทันสังเกตนะว่าข้าวของแฟนในห้องหายไปเกือบหมด พออ่าน จม. ไปเปิดตู้เสื้อผ้าโอ้วแม่เจ้า ทรุดสิคะ เลิกงานมา ความโง่เข้าครอบ ความรักจากพ่อแม่ไม่เอาใส่หัว คิดควายๆอย่างเดียวต้องตายๆๆๆฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ตอบคำถามต่างๆหลังเลิกกันได้ ฉันรับไม่ได้ ยาทุกขนานที่มีในห้องไม่นับเม็ด ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรบ้าง แต่หลังจากทุกเม็ดลงท้องไป ไม่น่าจะถึงชั่วโมงดี คิดว่าตายแน่ ตัวเย็น หายใจเหนื่อย เข้าไปกอดแฟน เป็นจังหวะแฟนตื่น แต่แฟนกลัวไม่กล้าพาส่ง รพ. แต่ที่ห้องแฟนมียาทางเหนือตัวนึง ชื่อว่าชาลางจืดหรืออะไรสักอย่าง แฟนเอาให้เรากินรู้สึกจะกินชาตัวนี้เยอะมาก แฟนว่ามันล้างสารพิษได้ ตอนนั้นแฟนก็นั่งร้องไห้
ความรู้สึกหลังจากไม่ตายคือเรารักมากหรือโง่มาก เราทนมากหรือเราควายมาก เสียใจนะและสาบานมันจะไม่มีครั้งที่ 2
เช้าหลังคืนกินยาตายแฟนก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนดีอะไรคะ อิฉันเกือบตายแต่นางให้ดูแลตัวเอง สั่งข้าวมากินเอง โชคดีคะที่คนส่งข้าวเราเจอกันบ่อยไม่งั้นอาจได้สามีเพิ่มเพราะดันเป็นลมตอนเปิดประตูรับข้าว (ฤทธิ์ยายังไม่หมด ทรมานมากคะแต่ไม่กล้าไปหาหมอจนข้ามอีกคืนถึงดีขึ้นๆ)
จำกันได้มั๊ยคะ ว่าแฟนทิ้งจม.ลาไว้ แต่พอเกิดเหตุการณ์คืนนั้นแฟนก็ไม่ได้ไปไหนยังอยู่ด้วยกันแต่มาอยู่ห้องเราคะ เพราะพอนางคิดจะทิ้งเรานางก็แจ้งยกเลิกเช่าห้องนางไป เลยได้มาอยู่ห้องเรา (ยอมรับคะเพราะแรดเอง)
รหัสโทรศัพท์ก็ยังล็อคอยู่นะคะ อ่อขอพูดนิดนึงคะ ผู้หญิงคนนั้นบอกไม่คิดอะไรแค่หลอกใช้ แต่ส่งรูปอ้าปากกินไอศกรีมตอนกำลังละลายส่งให้แฟนเราดู คิดเอาคะผู้ชายเห็นแบบนี้จะทนไหวมั๊ย ข้อความอ้อดอ้อนกัน โอ๊ยสารพัดแต่ไม่คิดจะเอาคะ เห้อผู้หญิงบางคนก็ใจดำเหลือเกิน
แฟนเราปลดล็อครหัสตอนเดือน พ.ค. 54 คะ นานมั๊ยคะจาก ธ.ค.ที่โง่คิดสั้น อิฉันก็ยังทน ควายล้วนๆคะไม่เถียงเลย ก็มีเหตุการณ์ให้หงุดหงิดอยู่เรื่อยๆคะ เพราะนอกจาก 1 สัปดาห์ที่รู้รหัสแล้วเรายังรู้ร
ฉลาดยังไงไม่รู้นะคะทนเจ็บเป็นปีๆ เห็นความเคลื่อนไหวในเฟชบุ๊ค ทั้งหน้าวอล ทั้งอินบ็อค มาเต็มคะ ผู้หญิงจะคอยพยายามลงรูปแบบให้เราคิดเองว่านางอยู่ไหน วันวาเลนไทน์แฟนเราแรดคะให้ดอกไม้นาง (มาบอกว่าให้ทุกคน) ผู้หญิงก็ถ่ายลง FB ขอบอกขอบใจที่ให้ ไปข้างนอกนั่งคู่แฟนเราก็ทำเป็นถ่ายคนนั่งหลังให้ติดแฟนเรานิดนึงลง คือก็ดูออกนะ แต่เป็นช่วง พ.ค.-มิ.ย. ล่ะ เราก็ถามแฟนเรายอมรับแต่เรื่องงานโอเคไม่ว่า
จุดพีคอีกรอบคือน่าจะ 21 หรือไม่ก็ 24 มิ.ย. 54 วันความอดทนหมด วันนี้เราเก็บเสื้อผ้าแฟนลงกระเป๋า เราไล่เขาไปอยู่ด้วยกัน เพราะที่ผ่านมามันมีเรื่องกวนใจมาตลอด และวันนี้เป็นวันที่เราอ้อนวอนขอร้องอย่าเลยนะ แต่ไม่เป็นผลทุกอย่างเลยต้องจบ แต่วันนี้เป็นวันที่แฟนเรากราบเรา ขอโอกาสเรา วิงวอนขอโทษเรา (บางคนจะบอกว่าโง่นะที่ยอมให้โอกาส แต่ทุกอย่างเพราะรักเขาไง) เราให้โอกาส ไม่มีอะไร ผ่านไปจนเดือนก.ย. เรากับผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าด่ากันเลยในอินบ็อก หลังจากนั้นนางก็ให้เพื่อนนางที่เป็นเพื่อนเราในเฟชบุ๊คเอารูปนางกับแฟนเราที่ถ่ายรูปคู่กันแบบแนบเนื้อพร้อมเขียนบรรยาย และเม้นท์กันสนุกในโพสนาง
เราเลยไปเม้นท์ต่อให้ถ้าอยากมีปัญหาจะเอารูปที่ยิ่งกว่านี้ให้ดูแค่นี่มันจิ๊บๆๆ พอล่ะเนอะ^^
ปล.เมื่อเราผ่านจุดร้ายๆมาได้อะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้
ปล2. ไม่คิดจะสอนใครแต่โกรธแค่ไหนก็อย่าสาปแช่งกันนะคะ เราไม่ได้เอ่ยถึงแต่เราสาปหนักมาก เพราะเราไม่รู้อนาคตหรอก ดูอย่างเราสิสุดท้ายเราก็แต่งงานกันแล้วที่สาปแช่งไปล่ะ หึหึ
#ตอนนี้สามีน่ารักมาก ด่ามาเยอะชมสักหน่อยนะคะ
เขียนวกวนเขียนมั่วต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
พิมพ์ผ่านโทรศัพท์มือถือ^^