เราเรียกมันว่า "ความรัก"

สวัดดีคะ เราชื่อ เพียวนะคะ(กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยคะอันใหนหยาบก็ขออภัยด้วยคะ) เราเป็นคนธรรมดาคนนึง ที่หน้าตาแย่มาก จนคิดว่า คงไม่มีแฟนกับเค้าแน่ๆ จมูกบานๆ ดั้งหัก ปากใหญ่ แก้มตอบ บ้านก็ไม่รวย ตอนนั้น เราโดนเพื่อนล้อทุกวัน จิตตกถึงขนาดว่า วันนึงกลับมาบ้านนั่งร้องให้ ท้อแท้ในชีวิต รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่น่าเกิดมาเลย(เศร้าเนอะ) T_T
แต่เราก็มีความรักเข้ามาบ้างนะ ดีไม่ดีปะปนกันไป แต่ก็เรียกว่าแฟนได้ไม่เต็มปากเท่าไร จนเราได้รู้จักไอ้เจ้าโปแกรมนี้แหละ ใช่มันคือ MSN ตอนนั้นจะเล่นได้คือต้องไปร้านคอม เพราะเด็กสมัยนั้นใครมีคอมนี่คือรวยมาก ก็เล่นไปเรื่อย แชทไปเรื่อย ตอนนั้นมีคนโทรคุยด้วยเป็น 10 คนเลยแหละ
เล่นไปซักพัก ได้เจอ ผู้ชายคนนึง เราก็ทักไปว่า
เพียว ทำอะไรอยู่อะ
ผู้ชาย อยู่เฉยๆไม่มีอะไรทำ
เพียว ว่างๆไม่โทรหาเราละ
ผู้ชาย ไม่มีเบอร์
เพียว 082--------- (แรดเนอะอ่อยสุดๆ)
ปรากฎนางโทรมาจ๊าาาาาา และแล้วเราก็คุยๆกัน เราจึงได้รู้จักกัน เค้าชือว่า "ก๊อฟ" (ตอนเห็นรูปนี้ครั้งแรกแบบทำมัยหน้าเหมือนคนขับสิบล้อเลยวะไม่หล่อเลย)
คุยกันได้ 2-3 เดือนไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ไม่รุด้วยซ้ำว่า เค้าหน้าตาเป็นงัย จนขอร้องให้เค้าส่งรูปมาให้ดู คือรูปนี้แหละ นางหล่อมากกกกกกกกก แอบตกใจ เราก็คุยกันมาเรื่อย โดยไม่เคยเจอกัน จนเกือบปี เราจึง คุยกันว่า ปีใหม่ เราจะไปเที่ยว กระบี่ด้วยกันนะ น่าตื่นเต้นเนอะ *-*
และแล้ว วินาทีระทึกก็มาถึง การเจอกันครั้งแรก เราไปหาเค้าที่ กทม ตอนนั้นนั่งรอเค้าร้านข้าวหน้าปากซอย แล้วเค้าก็เดินมารับ นาทีแรกที่เห็น!!!!!!!!!!ตัวสูงมากกกกกกก ขาวมากกกกกกกกกกกก หล่อมากกกกกกกกกก ตะลึงแบบพูดอะไรไม่ออก ทำมัยหล่อขนาดนี้วะ คืนนี้จะเสียตัวให้ คนหล่อๆแบบนี้หรอเนี่ย เป็นไปได้งัยวะ ดีใจชิพหาย 55555
รูปคู่ รูปแรก อร๊ายยยยยยยยย
ก็นะ สุดท้ายเราก็ไปเที่ยวกระบี่ด้วยกัน ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่ ได้เดินจับมือบนชายหาดกับ คนที่เรารัก ตอนพระอาทิตตก ฝันชัดๆ หน้าอย่างกูเนี่ยนะจะมีโอกาศแบบนั้น #18+ (คืนนั้นเสียตัวไป 5 ครั้งได้) 5555555
หลังจากกลับจากกระบี่ ก็คิดว่า เค้าคงไม่โทรมาแล้วแหละ เพราะเค้าคงไม่พลาดอีก 555 ปรากฎ เค้าก็โทรมาจ้าาา ก็คุยกันเหมือนเดิม ก็มีโอกาศได้ไปหาเค้าอีกครั้ง ไปเที่ยวจตุจักด้วยกัน แต่ด้วยปัญหาระยะทางก็ไม่ค่อยได้เจอกันคุยกันทางโทรศัพอย่างเดียว ช่วงนั้นร้องให้บ่อยมาก เพราะเค้าเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด คุยกันเป็น ชม เค้าพูดแค่ อืมๆๆๆ ถามอะไรก็ไม่ตอบ(ตอนนั้นเร่แก้ปัญหาด้วยการสร้างเกมส์ๆหนึ่งขึ้นมาคือ ถ้าใครพูดคำว่าเปล่าคนๆนั้นค้องร้องเพลงหมี(มันเป็นเพลงตลกๆเพลงนึง)ซึ่งก็ช่วยอก้ปัญหาการถามอะไรแล้วไม่ตอบของเค้าไปได้เยอะ^ω^ฉลาดมะ555) เราก็เวินเว้อ เซ้าซี จนเค้าโมโหทุกรอบ แถมไม่ค่อยเจอกัน ความสัมพันก็แย่ๆลงๆทุกวัน
(ได้โปรดอย่าโพกัสที่หน้าเข้าใจว่ามันแย่ 555)
และแล้ววันสำคัญอีกวันก็มาถึง วันที่เค้ามาบ้าน สำคัญยังงัย คือ บ้านเราจน เป็นบ้านพักข้าราชการเก่าๆ (เรื่องของเรื่องค่อแอ๊บว่าบ้านรวยไว้เยอะ55)เค้าอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ และ อีกอย่าง พ่อแม่เราซีเรียจเรื่อง ผช ที่มาบ้านมากกกกก(แฟนเก่าเคยพ่อเคยปาเตาถ่านที่ไฟลุกๆออกมานอกบ้านตรงไกล้ๆที่คุยกัน 0_o )จริงๆพ่อดุมากขนาดเพื่อนๆยังกลัวเลย (แต่ปัจจุบันแม่เดินมาบอกว่า"เพียวแม่ไม่ให้ใครเข้ามาที่บ้านอีกแล้วนะนอกจากกอฟ ส่วนพ่อ ก็ไปคุยกับป้าข้างบ้าน บอกว่าเค้ายอมรับกอฟแค่คนเดียวคนอื่นไม่เอา -0-อวสารหมดสิทธ์มีผัวใหม่สินะ)
แต่ก็ผ่านมาด้วยดีนะ พ่อไม่ว่า(หรือจริงๆก็ด่ามั้งไม่เคยถาม) หลังจากนั้นเค้าก็มาเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงนั้นเค้าทำอะไรในห้อง เพราะทีวีก็ไม่มี คอมก็ไม่มี โทรศัพก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยุคนั้นถ่ายรูปได้นี่ก็เจ๋งสุดแล้ว ตอนนั้นว่างๆเราเลยไปสิงสถิตอยู่ร้านเกมส์กัน ตอนนั้นเค้าก็ยังเป็นเจ้าชายน้ำแข็งอยู่นะ ไม่ค่อยพูด ไม่ชอบให้โดนตัว แกล้งก็ไม่ได้ ตอนนั้นเราก็ยังนอยๆ เสียใจแอบร้องให้คนเดียวบ่อยๆ ทำอะไรเค้าก็โมโหไม่ถูกใจเค้าสักที เฮ้อออออออออออ
แต่ด้วยความที่เราสองคนชอบอะไรคล้ายๆกัน ชอบเล่นเกมส์ เทคโนโลยี มุมมองต่อเรื่องรอบตัว ฟังเพลงสากล เหมือนกัน ทำให้เราสองคนเริ่มสนิดกันเพิ่มขึ้น และด้วยความที่เค้าไม่ใช่คนกินเหล้า เจ้าชู้ เราก็โอเคปรับตัวเข้าหาเค้าเลิกจู้จี้ พยายามเข้าใจเค้า(#ฝากสักนิดสำหรับสาวๆ รู้มั้ยว่าผช เค้าจะไม่ชอบ และรำคาญมากกกกกเวลาเราไปเซ้าซี้จู้จี้จุกจิกเค้า เราแก้ปัญหาด้วการตีสนิดกับเพื่อนเค้าแล้วถามเพื่อนเค้าเอา และ กฏการบอกทุกครังว่าไปใหน และบอกทุกครั้งเช่นกันเมื่อถึงบ้านแล้ว )
(ขอนอกเรื่องหน่อย) ปรกติเราไม่เคยคิดจะศัยกรรมอะไรเลย จนคบไปซักพักเริ่มคิดว่า แฟนเราก็หล่อ เราอยากให้เค้าภูมิใจที่มีเราเป็นแฟน อยากให้เค้าไม่อายเวลาเดินจับมือเรา อยากให้เค้าอวดเพื่อนๆเค้าได้ว่าแฟนเราสวยตอนนั้นเลยตัดสินใจว่า เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราต้องศัยกรรมแล้วแหละ(รูปนี้ ฉีดฟิวเลอร์ที่แก้ม กับขมับ ซึ่งก็ยัง ยิ้มอยู่ดี 555 แต่อยากจะบอกว่าตอนแรก ยิ้มกว่านี้ ย้อนไปดูรูปที่ 8 คือผอมจนแก้มเว้าเป็นร่องไปเลย)
แทแด้นนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!
และแล้วก็ได้หน้าแบบนี้มา หลังจาก ทำหน้าฝาก จมูก เติมปลายจมูกหยดน้ำ โหนกแก้ม คาง ส่วยไม่มากแต่พึงพอใจมาก เพราะชีวิตเปลี่ยนไปเลย หางานง่ายขึ้น จากเกิดมาไม่มีคนชมเลย ก็มีคนชม จากเคยจีบเค้า ก้อกลายเป็นมีคนเข้ามาจีบ จากลงรูปคนไลท์ไม่ถึง 20 ก็กลายเป็นมีคนไลท์ เป็นร้อย เป็นพัน หืมมมมของเค้าดีจริงๆ
เอาไปอีกรูป รูปนี้เป็นรูปที่พึ่งทำมาวันแรกๆ แก้มป่องมาก ตอนนี้สวยสุดแล้วจริงๆ
หลังจากนั้น เราก็คบกันเรื่อยมา เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น ทำให้รู้ว่าชีวิตคู่นี่แบบ จะคิดว่ากูไม่เปลียน กูเป็นของกูแบบนี้ รับได้ก้อคบ รับไม่ได้ก้อไม่ต้องคบ ไม่ใช่นะ คนสองคน ถูกเลี้ยงมาคนละแบบ มาจากคนละสังคม มันต้องปรับกันมาเรื่อยๆจนมาเจอเส้นกลางๆแล้วเดินไปด้วยกัน อะไรยอมได้ก็ยอม แต่ก็ไม่ใช่ว่ายอมจนเราไม่เหลือค่าอะไรเลย
ช่วงต่อไปคือช่วงสามีเป
กระเป๋าที่นางเอามาให้
นาฟิกาที่นางเอามาให้
ของขวัญวันเกิดที่แพงที่สุดที่นางซื้อให้ และแพงที่สุดตั้งแต่เกิดมา เหตุเกิดจากไปเดินห้าง แล้วไปดมน้ำหอมกลิ่นนี้ แล้วชอบมากกกกกกกกกก พูดแล้วพูดอีกว่าอยากได้ แต่แพง 3 พันกว่าบาท ปรากฎ นางไปซื้อให้วันเกิดจ้า (น่ารักจัง)
สุดท้าย รถคันแรก
เดียวๆๆๆๆ อย่าได้ตกใจไปอันนี้ซื้อเอง แต่นางเลือกให้ทำเรื่องให้ ไปซื้อให้ และ ช่วยจ่าย ค่ารถทุกๆเดือน รถเราเป็นเดกผช ชื่อเฉาก๊วย 555 ไม่เบลอป้ายทะเบียนด้วย (อย่าตามมาปล่อยยางรถชั้นนะ)ต้องบอกก่อนว่าจริงๆฐานะไม่ค่อยดี แต่ที่ตัดสินใจซื้อรถเพราะ มีครั้งนึงขับรถมอเตอร์ไซกลับบ้านด้วยกัน แล้วฝนตกแรงมากขับไปต่อไม่ได้ ก็ไปหลบฝนกันที่เพิงขายไก่ย่างที่สังกะสีผุๆพังๆ ด้วยความที่เค้าเป็นคนผอม ก็จะหนาวง่าย ตอนนั้นเค้ายืนตัวสั่น เราก้อสั่น เราได้แต่กอดเค้าไว้แล้วลูบตัวเค้าให้เค้าอุ่นขึ้น ตอนนั้นเลยตัดสินใจซื้อรถทันทีเลยคะ
ทุกอย่างดูมีความสุขไปหมด ใช่มั้ย อืมก็ใช่ แต่ชีวิต มีหรอมันจะไม่มีปัญหา ไม่มีอุปสรรค?
(ขออนุญาติเจ้าของรูปนะคะ)ผู้ชายคนนี้ เข้ามาในวันที่ เรารู้สึกว่า มันสุดทางไปต่อแล้ว มันอิ่มตัว เหมือนชีวิตคู่มันราบเรียบ มันไม่มีอะไรหวานๆ มันไม่มีอะไรให้รู้จักกันต่อไปแล้ว เค้าเข้ามาทำให้เราชุ่มฉ่ำหัวใจ ด้วยคำพูดหวานๆมากมายที่เราไม่ค่อยได้สัมผัสจากกอฟ (สาวๆอย่าเชื่อความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองนะ มันเป็นอะไรทีผิดมากกกขอเตื่อนและถ้ามันได้เกิดมันไม่มีวันจบหรอก เพราะคุณได้ทำลายความเชื่อใจออกไปแล้ว)

เราไปเที่ยวด้วยกัน เราสนิดกันมากขึ้น จนเราคิดว่าเราควรจะเลือกเค้ามากกว่ากอฟ ตอนนั้นหน้ามืดตามัว ไม่ได้สนใจความรู้สึกของกอฟเลยด้วยซ้ำว่าเค้าจะรู้สึกยังงัย เพราะเค้าไม่เคยแสดงความรู้สึกอะไรด้วยความที่เค้าเป็นคนเย็นชามากๆ ก็เลยไม่ได้สนใจ บอกกอฟไปว่าเป็นแค่เพื่อน(แต่ก็ยอมรับว่าเค้าเปนคนดีนะ เปนสุภาษบุรุษมากไม่ล่วงเกินอะไรเราเลย)
จนถึงวันที่รู้สึกผิดที่สุดในชีวิต วันนั้นจำได้ว่าอยู่ดีๆเค้าก้อเงียบๆไป แล้วเค้าก็เข้ามากอด มาหนุนตัก ? มาอ้อน เข้ามากอดเราแน่นๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
เค้ารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว

กอฟไม่เคยอัพเสตัสอะไรเลย นี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นโพสจากเฟสบุ๊กของกอฟ ตอนนั้น ตัดสินใจได้ทันที เค้าเองก็เปิดใจคุยทุกอย่าง เค้าบอกว่าเพือ่นเค้าก็ถามว่า ผช คนนั้นเป็นใคร เค้าตอบไปว่าเป็นเพื่อนของเพียว(เพราะตอนำปเที่ยวก็ขอเค้าไปบอกว่าไปกับเพื่อน)ทั้งๆที่เค้ารู้อยู่เต็มอกว่าไม่ใช่เพือน ตอนนั้นรู้เลยว่าควรทำอะไร ก็เลิกกับ ผช คนนี้ทันที แต่ด้วยความที่ เราค่อนข้างสนิดกันระดับหนึงเลยอยู่ในพาสความเป็นเป็นเพื่อนกันไป ก็คุยในฐานะเพื่อน (ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีนะสาวๆ ตัดควรตัด ไม่งั้นมันจะเป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น)
หลังจากนั้น แฮ๊ปปิ้ มากกกกกกกกกกกกก กำแพงทุกอย่างหายไปหมดเลย กอฟกลายเป็น ผู้ชายที่เข้าถึงง่ายขึ้น ขี้เล่นมากขึ้น รูปนี้คือ เราไป ดรีมเวิลด้วยกันครั้งแรก
ลอยกระทงด้วยกันครั้งแรก
สงกรานด้วยกันครั้งแรก

ชีวิตดิ๊ดี โครตมีความสุข แตj!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มรสุมรอบ 2 กำลังคืบคลานเข้ามา
นางเข้าเรียนมหาลัย นางได้เจอสังคมใหม่ คนรู้จักใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ และแน่นอน ชะนีอื่นไม่ใช่กู!!!!!!!!

(รูปมันดูตลกนะ แต่จริงๆไม่ตลกเลย) ตอนนั้นนั่งๆอยู่ก้อน้ำตาใหล มันมีเรื่องเข้ามามากมาย เป็นครั้งแรกที่มีปัญหาเรื่อง ผญ มันแบบฟุ้งซ่านไปหมด จนเราคุยกันเปิดใจ

ตายละทำมัยมันยาวจัง เดียวมาต่อนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่