ฮอยอัน..ฉันรักเธอ และเธอและเธอ.. เว้ ดานัง


อันเนื่องมาจากสงกรานต์ที่ผ่านมา  มีอันต้องเปลี่ยนแพลนกระทันหัน จากที่วางแผนจะเที่ยวในเมืองไทย แต่โดนสมาชิกเท(รึเบี้ยว ในภาษาวัยสะรุ่น) ต้องหาที่เที่ยวสุดด่วน  ด่วนแค่ไหนน่ะเหรอ ก็แค่จองเย็นวันนี้ ละพรุ่งนี้กระโดดขึ้นรถไปเที่ยวเลยน่ะสิ  รีบเสิร์ชในเน็ต โทร&ไลน์ถามหลายเจ้า พวกทัวร์ขึ้นเครื่องเต็มไปถึงไหนๆแล้ว มีเพียงทริปนี้ที่เดินทางทางรถยังว่าง นาทีนั้นไม่คิดอะไรมาก รีบโอนเงินจองทันที
จริงๆทริปเว้ ดานัง ฮอยอันนี้ เราเคยไปมาเมื่อหลายๆๆๆปีมาแล้ว แต่หยุดหลายวันมาก จะอยู่บ้านเฉยๆรึก็เบื่อ ครั้นจะเที่ยวเมืองไทย ที่พักดีๆที่หมายตาส่วนใหญ่ก็เต็ม หรือไม่ก็อัพราคาขึ้นไปแพงลิบลิ่ว ถึงไปแล้วก็ลองไปดูอีกที ดูซิว่าเมืองที่เราหลงรักอย่าง ฮอยอัน จะเปลี่ยนไปทางไหน ยังไงบ้าง
เราเดินทางทริปนี้โดยรถบัส การเดินทางที่เพื่อนหลายๆคนพอชวนก็ขอบายทันที เพราะทนนั่งรถนานๆไม่ไหว แต่เราชอบมากกก เมื่อยน่ะเมื่อยแน่ แต่ก็ได้อะไรดีๆระหว่างทาง ชนิดทัวร์ขึ้นเครื่องไม่มีวันได้เห็นภาพแบบนี้  เค้านัดขึ้นรถช่วงเย็นๆแถวปั๊ม ปตท.วิภาวดี โชคดีที่ได้นั่งชั้นล่าง รถไม่โอนเอนชวนวิงเวียนมาก มีโต๊ะให้วางของ แถมมีที่ชาร์ตมือถือพร้อมอีกตะหาก ดี๊ดี


การเดินทางโดยทางรถ รถจะจอดแวะปั๊มทุก 3-4 ชม.เพื่อให้ลูกทัวร์เข้าห้องน้ำและแวะซื้ออะไรกินระหว่างทาง ทุกปั๊มรถแน่นขนัด เพราะเป็นวันที่คนส่วนใหญ่ยังทะยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ  หลับๆตื่นๆจนมาถึงมุกดาหารในตอนเช้า
ที่มุกดาหาร รถจะแวะให้ล้างหน้า แปรงฟัน และทานอาหารเช้ากันที่  ครัวมุกดา  ซึ่งสำหรับนักเดินทางมือใหม่ ไม่เคยเดินทางแบบนี้  ขอแนะนำให้แยกอุปกรณ์ล้างหน้า แปรงฟันต่างๆออกมาในกระเป๋าเล็กที่ถือกับตัว เพราะจะช่วยประหยัดเวลา ทำให้เราทำธุระเสร็จเร็วๆ แล้วก็จะได้มาชิลกับอาหารเช้าเร็วกว่าคนอื่นๆ ไม่ต้องไปเสียเวลารอกระเป๋า เปิดกระเป๋าเดินทาง

ใครที่รักสะอาด อยากจะชำระล้างทั้งตัว(ไม่แค่ล้างหน้า แปรงฟัน) ที่นี่เค้าก็มีห้องอาบน้ำบริการ  แต่เราต้องจ่ายเพิ่มให้ทางร้านประมาณ 50 บาท
หน้าตาอาหารเช้า ที่ครัวมุกดา

อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ร้านใหญ่โต กว้างขวาง และเตรียมการรับลูกค้าทัวร์ได้ดี น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับหลายๆร้านในจังหวัดที่เคยผ่านทาง


อิ่มหนำสำราญก็เดินทางต่อมาที่ด่านไทย ชายแดนมุกดาหาร  ซึ่งเสียเวลาที่ด่านนี้ยาวนานมากกกกก ยืนรอเข้าแถวแบบนี้นานเป็นชั่วโมงๆ ช่วงเทศกาลคนมาเที่ยวเยอะก็จริง แต่อดเปรียบเทียบกับด่านลาว เวียดนามไม่ได้  เพราะไม่ต้องคอยนานเท่าด่านไทยเลย (นักท่องเที่ยวก็เยอะพอๆกันเลย และเค้าก็ไม่ได้ตรวจแบบหละหลวมด้วย ทำไมกันหน๊อ)

ที่ด่านชายแดน รถบัสจากไทยเราเข้าไม่ได้  ต้องเปลี่ยนรถเป็นรถบัสจากทางลาว และรับไกด์ลาวขึ้นมาด้วย แม้ว่าเราจะไม่ได้แวะเที่ยวลาวอะไรเลย แต่ก็ต้องใช้ไกด์ของประเทศนั้นๆในระหว่างที่เดินทางในประเทศนั้น เป็นกฏทางการท่องเที่ยว สาวใส่เสื้อแดงหน้าตาจิ้มลิ้มที่เห็นคือ ไกด์ลาว ระหว่างทางนางปล่อยมุกแพรวพราว เรียกเสียงฮาได้ตลอดทางทีเดียว

ไกด์ลาวจะลงตรงด่านชายแดนเวียดนาม  ผลัดมือกับไกด์เวียดนาม
12-13 ชั่วโมงจาก กทม.ถึงชายแดนไทย  เสียเวลาตรงด่านต่างๆรวมแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง (คิดซะว่านั่งรอขึ้นเครื่องนิ อิอิ) นั่งรถเข้าลาว ต่อด้วยเวียดนามอีกประมาณ 7-8 ชั่วโมง (แต่ก็เพลินๆดีนะ หลับๆตื่นๆชมวิวไปเรื่อยๆ) และแล้วก็มาถึงเมืองเว้

สัญลักษณ์ว่ามาถึง ตัวเมือง แล้ว ไม่ว่าเมืองไหนๆในเวียดนาม คือชุมนุมมอเตอร์ไซด์ รองลงไปคือจักรยาน  รถเก๋งมีน้อยมาก

เพราะเสียเวลาที่ด่าน(โดยเฉพาะด่านไทย)มากไปหน่อย  มาถึงเว้ก็เกือบจะค่ำแล้ว ทัวร์เลยยกโปรแกรมอุโมงค์วินม็อกไปเป็นวันกลับ แวะเข้าโรงแรมให้เก็บข้าวของและล้างหน้าล้างตาก่อน และพาออกมาท่องลำน้ำหอม
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้  เมื่อมาเมืองเว้  คือการล่องเรือมังกร ที่เค้าบอกว่าในอดีตมีเพียงฮ่องเต้และข้าราชบริพารเท่านั้นที่จะนั่งเรือมังกรล่องลำน้ำได้แบบนี้ คนธรรมดาไม่ได้แม้แต่จะคิด




ลำน้ำหอมตอนกลางคืนประดับประดาไฟสวยงาม มีเพลงจากวงดนตรีโบราณ และสาวงามร้องขับกล่อม  ได้บรรยากาศดีจริงๆ (เสียดายที่สภาพร่างกายบักโกรกจากการเดินทางไปหน่อย ถ้ามาแบบตัวหอมๆ ชิลๆ ต้องฟินกว่านี้มากๆๆๆ) ปิดท้ายด้วยการลอยกระทงร่วมกัน ได้บรรยากาศเข้าไปอี๊ก  ลอยกระทงวันสงกรานต์ 5555

คืนแรกที่เว้ พักที่ Duy Tan Hotel (ประมาณ 3 ดาว)  วันแรกเหนื่อยกับการเดินทางมากๆ ไลน์คุยกับเพื่อนๆ อัพรูปลงเฟซเสร็จแล้ว(ไวไฟที่เวียดนามโหลดรูปเร็วใช้ได้)  ก็รีบนอนเอาแรงโลด

หน้าตาอาหารมื้อเช้า มื้อแรกที่เวียดนาม  เฝอรสดี ซุปดีมากกกก แม้จะเป็นแค่เฝอในโรงแรม


แต่อาหารเวียดนามจะไม่ค่อยเหมือนแบบที่เรากินอร่อยๆบ้านเรา น้ำจิ้มรสจืดจางมากกกก ออกหวานๆอย่างเดียว ไม่เปรี้ยวหวานครบเครื่องแบบของเรา เลยซัดเฝอไปทดแทนซะ 2 ชาม

หลังอาหารเช้าก็ออกเดินทางไป  พระราชวังต้องห้าม Dai Noi Palace
หนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก มาถึงเมืองเว้แล้วไม่ควรพลาด ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมให้ได้



พระราชวังไดโน้ย สร้างในรัชสมัยพระเจ้ายาลอง ในปี พ.ศ. 2348 แต่มาแล้วเสร็จในสมัยจักรพรรดิ์ มินหม่าง  ใน พ.ศ. 2375 รวมระยะเวลาก่อสร้างถึง 27 ปี สถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง จำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุง ปักกิ่งประเทศจีน การก่อสร้างพระตำหนักต่างๆรวมถึงกำแพงรอบพระราชวังทั้งหมด ได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยทางเรือ พื้นที่ภายในมีความอลังการ ยิ่งใหญ่และต้องใช้ระยะเวลาในการเข้าเดินชมพอสมควร



ตำหนักไทฮวา เป็นท้องพระโรงขนาดใหญ่ที่สวยงาม  เป็นตำหนักที่กษัตริย์จะเสด็จประทับเมื่อมีการเข้าเฝ้าของราชวงศ์หรือขุนนาง ในสมัยนั้น  และ กษัตริย์ทั้ง 13 พระองค์ของราชวงศ์เหงียนจะทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ตำหนักไทฮวาแห่งนี้  นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ยืนประกาศสละราชสมบัติหรือสละบัลลังก์ขององค์กษัตริย์ บ๋าวด่าย  กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เหงียน ถือเป็นวันสิ้นสุดการปกครองระบอบกษัตริย์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2488
มีท้องพระโรงจำลอง ให้นักท่องเที่ยวแต่งตัวเป็นฮ่องเต้ หรือฮองเฮามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

กระถางธูปใหญ่มว๊ากกก  ขนาดหลายคนโอบ




ชื่นชมความอลังการของพระราชวังต้องห้ามแล้ว  เราก็เดินทางต่อมาที่วัดเทียนมู่
ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม ทำเลที่ตั้งสงบ สวยงามมาก


ความสำคัญของวัดนี้คือเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางวัดคือ  เจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นถือเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า



และวัดนี้ยังมีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์และการเมืองของเวียตนาม เมื่อพระภิกษุทิกกวางหยุก เจ้าอาวาสของวัดเทียนมู่ได้ใช้รถออสตินสีฟ้าคันเล็กเป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่ กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบัน ในช่วงสายของวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2506 เพื่อประท้วงการบังคับให้ประชาชนไปนับถือศาสนาคริสต์และการฉ้อราษฎร์บังหลวง ของรัฐบาลโงดินห์เดียมที่เป็นคาทอลิก รวมทั้งใช้ความรุนแรงขัดขวางการฉลองวันวิสาขบูชาของประชาชนในประเทศ  ปัจจุบันรถออสตินสีฟ้าคันนั้นได้ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ภายในวัดแห่งนี้

วันที่ไปโชคดี มีพิธีกรรมทางศาสนาพอดี


เดี๋ยวไปเที่ยวดานังต่อ อีกแป๊บบบเดียว เดี๋ยวมานะจ๊ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่